มหาวิทยาลัยเจียงเป่ย หอพักห้อง 104

ขณะที่หลินฟานเดินเข้ามา ซงหยี่, หม่าจงและเจิ้งจินเป่าต่างก็รีบเข้ามาหาหลินฟานในทันที

“พี่ฟาน อาจารย์เทียนเถียนขอให้พี่ไปที่ห้องพักครูเพื่อหารือเกี่ยวกับปัญหาคณิตศาสตร์อีกแล้วหรอ?” ซงหยี่ถาม

ทุกครั้งที่พูดถึงเรื่องนี้ ดวงตาของทั้งสามคนก็มักจะเปลี่ยนเป็นสีแดง

น่าอิจฉาเหลือเกิน!

ได้อยู่กับอาจารย์เทียนเถียนสองต่อสองเป็นเวลาหลายชั่วโมงติดต่อกัน!

มันคงน่ายินดีมากแน่ๆเลย !

หลินฟานตอบ”ไม่ใช่ อาจารย์เทียนเถียน ขอให้ฉันไปที่อาคารฝึกอบรมเพื่อเข้าร่วมการฝึกอบรมการแข่งขันแบบจำลองทางคณิตศาสตร์ต่างหาก”

“ยังมีการฝึกอบรมสำหรับการแข่งขันการสร้างแบบจำลองทางคณิตศาสตร์?”

ซงหยี่, หม่าจง และ เจิ้งจินเป่า ต่างก็แสดงความสงสัยออกมา

เห็นได้ชัดเลยว่าไม่มีใครได้รับการแจ้งอะไรแบบนี้เลย

เจิ้งจินเป่าถามว่า “หรือว่าอาจารย์เทียนเถียนเป็นคนคอยสอนนายอย่างงั้นหรอ”

ทันทีที่คำพูดนี้ออกมา ดวงตาของทั้งสามคนก็ได้เปลี่ยนเป็นสีแดงอีกครั้ง

หลินฟานพูด “เป็นศาสตราจารย์ที่ชื่อจางหยงต่างหาก”

ซงหยี่,หม่าจงและเจิ้งจินเป่า พยักหน้าอย่างดีใจ การแสดงออกของพวกเขาค่อยๆกลับมาเป็นปกติ

การฝึกไม่สำคัญหรอก สิ่งสำคัญคือครูเทียนเถียน!

ซงหยี่เห็นว่าหลินฟานดูเหมือนจะกำลังจัดกระเป๋าเดินทาง เขาจึงถามออกไปว่า “หลินฟาน นายกำลังจะไปที่อื่นงั้นหรอ?”

“ใช่แล้ว ฉันมีเรื่องด่วนนิดหน่อยน่ะ เลยจำเป็นต้องรีบไปที่เมืองหลวง” หลินฟานกล่าว

ซงหยี่พูด “งั้นก็ระวังตัวด้วยล่ะ”

หลินฟานพยักหน้าและก้าวออกไปจากห้อง

เขาเดินออกไปได้ไม่ถึงไหน โทรศัพท์มือถือในกระเป๋าของเขาก็ได้ดังขึ้น

มันเป็นสายเรียกเข้าจากหลิวหยูหาง

“พี่หลิน ผมมีข่าวดีมาบอก ผมพบที่อยู่ของโสมอายุกว่าร้อยปีแล้ว!” ทันทีที่เขากดรับโทรศัพท์ เสียงที่ตื่นเต้นของหลิวหยูหางก็ดังขึ้น

ท่าทางของหลินฟานได้เปลี่ยนไปเล็กน้อยและพูดว่า “ใช่การประมูลที่โรงแรมปักกิ่งซินเยว่หรือเปล่า”

“หือ? พี่หลินรู้อยู่แล้ว?” หลิวหยูหางถามด้วยความประหลาดใจ

หลังจากที่หลินฟานได้ยินคำพูดของหลิวหยูหาง เขาก็แสดงหน้าตาที่เต็มเปี่ยมไปด้วยความสุขออกมา

ในความเป็นจริง เมื่อเซี่ยปิงและเซี่ยเสว่ ค้นหาข่าวการประมูลทางอินเทอร์เน็ต หลินฟานเองก็ยังไม่แน่ใจว่ามีโสมร้อยปีจริงหรือไม่

แต่ตราบใดที่ยังมีความหวัง เขาก็จะไปเยือนที่เมืองหลวงเพื่อยืนยัน

แต่หลังจากได้รับข่าวนี้จากปากของหลิวหยูหาง หลินฟานก็เข้าใจในทันทีว่ามีโสมร้อยปีอยู่ที่เมืองหลวง!

หลินฟานพูด “ใช่ ฉันเพิ่งรู้ข่าวเมื่อไม่นานมานี้ ตอนนี้ฉันกำลังจะไปที่เมืองหลวง”

“โอ้ ผมไม่ได้ไปเมืองหลวงมาซักพักแล้ว พี่ไปกับผมไหม” หลิวหยูหาง กล่าว

“ถ้างั้นก็ดีเลย” หลินฟานกล่าว

หลินฟานไม่ทราบว่าการประมูลของโรงแรมซินเยว่ ต้องมีคำเชิญหรืออะไร รึป่าว

แต่ถ้าเขาไปพร้อมกับหลิวหยูหาง มันคงช่วยแก้ไขปัญหาต่างๆได้มาก

“โอเคครับ งั้นเจอกันที่สนามบินนะพี่!” หลิวหยูหางพูด

เมืองเจียงเป่ย เป็นเมืองใหญ่ในภาคกลางของจีน สนามบินของที่นี่นั้นสวยมาก ถึงแม้ตอนกลางคืนมันจะค่อนข้างแออัดและมีเสียงดังก็ตาม

หลิวหยูหาง สวมเสื้อสีเทาและแว่นตากรอบใหญ่ เขายืนอยู่ไม่ไกลและได้กวักมือเรียก “พี่หลิน ผมอยู่ตรงนี้!”

หลินฟานเหลือบดูนาฬิกาของเขาและพูดว่า “ใกล้ถึงเวลาขึ้นเครื่องกันแล้ว”

“วาเชอรอง คอนสแตนติน ตูร์เดล! พี่หลิน ผมไม่คิดว่าพี่จะมีนาฬิกาเรือนนี้!” หลิวหยูหางพูดอย่างตื่นเต้น

หลินฟานพูด”มันก็แค่นาฬิกา สำหรับตระกูลอย่างนายคงไม่ใช่เรื่องใหญ่หรอกน่า”

หลิวหยูหางยิ้มอย่างขมขื่นและพูด “เงินของตระกูลที่ได้รับจากบริษัท ถูกควบคุมโดยพ่อของผม เขาแค่ให้เงินค่าขนมแก่ผมทุกเดือนเท่านั้นเอง”

“เพื่อซื้อลัมโบร์กินี่ ผมแทบจะไม่ใช้เงินเลยเกือบหนึ่งปี ถ้าผมต้องการซื้อวาเชอรอน คอนสแตนติน ตูร์เดล แบบพี่ผมคงต้องประหยัดการใช้เงินแบบเดิมอีกหนึ่งปี!”

หลิวหยูหาง ถอนหายใจและพูดว่า: “พ่อแม่ของพี่น่าจะใจดีมากแน่ๆเลย! พวกท่านซื้อลัมโบร์กินี่ และ วาเชอรอง คอนสแตนติน ตูร์เดล ให้พี่ซึ่งทั้งสองอย่างนี้มันไม่ธรรมดาเลย”

หลังจากหยุดไปชั่วครู่ เขาก็พูดขึ้น “ยังไงก็เถอะ พี่หลิน ช่วยบอกผมหน่อยได้ไหมว่าครอบครัวของพี่อยู่แถวไหน บางทีเราสองตระกูลอาจจะร่วมมือกันในธุรกิจบางอย่างในอนาคตกันได้”

ในมุมมองของหลิวหยูหาง หลินฟานมีของราคาแพงอย่างนาฬิกา วาเชอรอง คอนสแตนติน ตูร์เดล ไม่ต้องสงสัยเลยว่าเขามีทรัพยากรทางการเงินที่สูงส่งถึงเพียงใด

นอกจากนี้หลินฟานและซ่งเจียซิน ยังสนิทสนมกันมากด้วยแถมครอบครัวก็ไม่น่าจะธรรมดา

หากความสัมพันธ์ระหว่างครอบครัวของเขากับครอบครัวของหลินฟานสามารถใกล้ชิดกันมากขึ้น มันคงจะเป็นเรื่องที่ดีมาก

หลินฟานตระหนักถึงความคิดของหลิวหยูหาง หลังจากคิดเล็กน้อยเขาก็พูดออกไปตามความจริง “ครอบครัวของฉันเปิดร้านขายเสื้อผ้าเล็ก ๆ ในชิงซี ฉันเกรงว่าจะไม่มีธุรกิจอะไรที่สามารถทำร่วมกับครอบครัวของนายได้หรอก”

หลิวหยูหางไม่เชื่อว่ามันจะเป็นเพียงร้านขายเสื้อผ้าเล็กๆ

เขาคิดแค่ว่า หลินฟานเป็นคนอ่อนน้อมถ่อมตนเท่านั้น

ในเวลานี้ หลิวหยูหางกำลังคิดถึงบริษัทเสื้อผ้าขนาดใหญ่ในชิงซีอยู่ในใจ แต่เขาก็ยังนึกไม่ออก

หลิวหยูหาง “เรื่องนั้นเอาไว้ก่อน! บางทีเราอาจจะได้ร่วมมือกันในบางโครงการสักวันหนึ่ง”

หลินฟานยิ้มและไม่ได้อธิบายอะไรเพิ่มเติ่ม

ทั้งสองกำลังเดินและพูดคุยกัน ก่อนจะตรงไปที่ห้องรับรอง VIP ของสนามบิน และขึ้นเครื่องบินชั้นเฟิร์สคลาส

เครื่องบิน บินไปอย่างราบรื่นและใช้เวลากว่าสองชั่วโมงก่อนจะมาถึงเมืองหลวง

ทั้งสองเดินออกจากสนามบินและตรงไปยัง Mercedes-Benz S500 ที่รออยู่ไม่ไกล

บริษัทยาตระกูลหลิวสาขาที่ใหญ่ที่สุดจัดตั้งอยู่ในปักกิ่ง และ Mercedes-Benz S500 คันนี้ก็เป็นรถยนต์ของบริษัท

หลินฟาน นั่งอยู่ใน Mercedes-Benz S500 ที่เงียบสงบ เขามองดูตึกสูงมากมายที่อยู่ห่างออกไป และบ้านเรือนที่เต็มไปด้วยผู้คนก่อนจะพยักหน้าเล็กน้อย

เขาได้ยกย่องอยู่ในใจ: สมแล้วที่เป็นเมืองศูนย์กลางของเศรษฐกิจภายในประเทศและศูนย์กลางของวัฒนธรรมต่างๆ

ในตอนนั้นเอง หลิวหยูหางวางโทรศัพท์ของเขาและยิ้มอย่างตื่นเต้น: “พี่หลิน พวกเรามาได้ถูกเวลาจริงๆเลย! วันนี้มีกิจกรรมที่สวนถิงเฟิง! ตอนนี้เองก็ยังไม่ดึกเท่าไหร่ พี่จะไปดูด้วยกันไหม?”

หลินฟานเองก็อยากจะใช้ชีวิตในวัยนี้ให้คุ้มค่า และถือเป็นการพักผ่อนจากการหาเห็ดหลินจือและโสมร้อยปี

นอกจากนี้ ในตอนกลางคืนเขาก็คงไม่มีอะไรทำเหมือนเดิม ไปเล่นสนุกหน่อยก็คงจะไม่เป็นไร

หลินฟานจึงพยักหน้าและพูด “ตกลง”

“ไม่มีอะไรให้กังวลเลยพี่หลิน เผลอๆพี่อาจจะติดใจก็ได้นะ!” หลิวหยูหางยิ้ม

สวนถิงเฟิง เป็นวิลล่าขนาดใหญ่ที่มีรูปร่างเหมือนพระราชวังใกล้กับวงแหวนที่สามของเมืองหลวง

ในเวลานี้ เฟอร์รารี ปอร์เช่ เบนท์ลีย์ และรถยนต์หรูหราคันอื่นๆ ได้จอดอย่างเรียบร้อยอยู่ที่หน้าประตู

ล็อบบี้ของสวนถิงเฟิงนั้นกว้างขวางมาก มีพื้นที่ปาตี้บาร์บีคิวขนาดใหญ่ ซาซิมิชั้นดี ฟัวกราส์ และอาหารอื่น ๆ อีกมากมาย

ทุกคนที่นี่แต่งกายด้วยเสื้อผ้าแบรนด์เนม และมีสาวงามในชุดบิกินี่ที่ต่างพากันเดินไปมารอบๆสระว่ายน้ำที่มีการควบคุมอุณหภูมิอยู่ตรงกลาง พวกเธอกำลังสนุกและหัวเราะอย่างมีชีวิตชีวา

หลิวหยูหางกระซิบ “พี่หลินฟาน พี่ถูกใจสาวคนใหนหรอ?”

“ไม่” หลินฟานส่ายหัว

หลิวหยูหางพูด “ไม่มีเลยหรอ? พี่หลิน สายตาของพี่สูงส่งพอๆกับผมเลย!”

หลังจากที่หลิวหยูหางกล่าวเช่นนี้ เขาก็บังเอิญเห็นหญิงสาวสวยในชุดบิกินี่ที่มีรูปร่างน่าหลงไหล ทันใดนั้นดวงตาของหลิวหยูหางก็เป็นประกายทันทีก่อนจะพูดว่า “พี่สนุกกับงานไปก่อนนะ ผมคงต้องขอตัวก่อน”

หลังจากที่หลิวหยูหางพูดจบ เขาก็จัดระเบียบเสื้อผ้าของเขาให้เรียนร้อยก่อนจะหยิบไวน์แดงหนึ่งแก้วขึ้นมา แล้วเดินไปหาสาวบิกินี่คนนั้น