ในเวลานี้ มีสาวสวยผมยาวสีดำสนิทและมีรูปลักษณ์ที่ดูอ่อนหวาน ได้เดินเข้ามาอย่างช้าๆ

และเธอสวมชุดจั๊มสูทกระโปรงสีขาว ทำให้รู้ถึงสัดส่วนของรูปร่างที่สมบูรณ์แบบของเธอ

ในความประทับใจแรกของหลินฟาน รูปร่างของผู้จัดการ ฮั่น มีความคล้ายกับเธอคนนั้นมาก

แต่อย่างไรก็ตาม หน้าตาของเธอคนนั้นดูเหมือนจะดีกว่าผู้จัดการฮั่นเล็กน้อย

บางที คงมีเพียงอาจารย์หูเทียนเท่านั้นที่สามารถเปรียบเทียบกับเธอได้

หลินฟาน เปิดใช้ดวงตาแห่งความจริงและเริ่มทำการสังเกต

【คะแนนรูปร่างหน้าตา: 97】

【คะแนนความชอบ: 50】

มีคะแนนถึง 97! น้องกว่าอาจารย์หูเทียนเพียงแค่คะแนนเดียว

ไม่ต้องสงสัยเลยว่านี่เป็นสุดยอดสาวงามอีกคนหนึ่ง

สุภาพบุรุษหลายคนจากสวนถิงเฟิง ได้สังเกตเห็นเธอทันทีหลังจากที่ได้เดินเข้ามา

และพวกเขาอดใจเอาไว้ไม่ไหวจึงได้เดินไปหาสาวสวยในชุดจั้มสูท

ในหมู่ของพวกเขานั้น…ก็มีหลิวหยูหาง ที่เพิ่งเดินไปหาสาวบิกินี่พร้อมกับไวน์แดงอยู่ด้วย

ในไม่ช้าหลังจากที่ได้เดินเข้ามา สาวงามก็ถูกห้อมล้อมไปด้วยกลุ่มผู้ชายจำนวนมาก

เมื่อได้เห็นสิ่งนี้ หลินฟานก็ถึงกับส่ายหัวเล็กน้อย

แม้ว่าผู้หญิงคนนั้นจะสวยมากแค่ใหน แต่ก็ไม่ควรทำตัวให้เหมือนกับสุนัข พวกคุณไม่ควรจะทำแบบนี้

หลินฟานเหลือบมองไปรอบๆห้องโถงและเขาก็เห็นว่ามีเปียโนสีขาว ที่ตั้งอยู่ไม่ไกลนัก

ยืนอยู่เฉยๆมันก็ค่อนข้างจะน่าเบื่อ

ดังนั้น หลินฟานจึงเดินไปที่เปียโนและนั่งลง

เขามองไปรอบ ๆ และสูดลมหายใจก่อนที่จะวางนิ้วที่เรียวยาวลงบนปุ่มเปียโน

ทันใดนั้น เสียงที่ฉับไวและคมชัดก็ดังขี้น

สาวงามขี้เล่นทั้งหลาย หยุดพูดคุยและหันมองไปด้านข้าง

รวมทั้งสาวในชุดบิกินี่ที่กำลังว่ายน้ำอยู่อย่างมีความสุข ก็ยังต้องขึ้นมาจากสระน้ำเพื่อฟังเสียงบรรเลงของเปียโนที่ดังขึ้น

แม้แต่คนสวยในชุดจั๊มสูทที่อยู่ห่างออกไปก็ยังหันมามองในทิศทางของเสียงเปียโน

ทุกสายตาจับจ้องอยู่ที่หลินฟานกับเสียงของเปียโน!

ในสายตาของพวกเขา หลินฟานเป็นเหมือนกับผีเสื้อที่เปล่งประกายด้วยแสงจ้าในสวนดอกไม้

พวกเขา… หลงไหลในเสียงบรรเลง

หลังจากจบเพลงก็มีเสียงปรบมือดังขึ้นในทันที

“เพราะจังเลย!”

“เล่นเก่งมาก!”

สาวสวยในชุดจั๊มสูท ได้เดินตรงไปหาหลินฟาน

เธอยิ้มและพูด “นี่เป็นครั้งแรกที่ฉันได้ยินคนที่เล่นเพลง “ความฝันของความรัก” ได้เพราะมากขนาดนี้”

หลินฟานไม่คิดว่าเธอจะเข้ามาคุยกับเขา เขาจึงรู้สึกแปลกใจอยู่พักหนึ่งแล้วพูดว่า “ขอบคุณครับ”

“เราดื่มกันไหม?” จากนั้นสาวงามในชุดจั๊มสูทได้ยื่นไวน์แดงในมือให้กับหลินฟาน

หลินฟานไม่ตอบแต่อย่างใด แต่เขาได้หยิบไวน์แดงจากมือของเธอและทำการสัมผัสสาวสวยในชุดจั๊มสูทเบาๆ

แล้วจากนั้นเขาก็ค่อย ๆ เทไวน์แดงเข้าปากของเขา

“มีทั้งความนุ่มละมุนและความหวาน แต่ยังคงรักษากลิ่นหอมของไวน์เอาไว้ได้อย่างดี ทำให้กลิ่มหอมของไวน์แดงยังคงค้างอยู่ในลำคอ จัดว่าเป็นไวน์ชั้นดีทีเดียว” หลินฟานแสดงความคิดเห็น

“นี่คุณรู้เรื่องไวน์ด้วยหรอ” หญิงงามในชุดจั๊มสูทพูดด้วยตาที่เป็นประกาย

แม้ว่าท่าทางการดื่มของหลินฟานจะดูเรียบง่าย

แต่เขาดูมีความชำนาญอย่างมาก เหมือนกับว่าผ่านการฝึกฝนการดื่มไวน์มานับครั้งไม่ถ้วน มันช่างเหมือนกับกลุ่มเมฆและแม่น้ำที่ไหลผ่านอย่างเป็นอิสระ

บวกกับความคิดเห็นที่แสดงออกมาของเขาราวกับว่าเขาเป็นเจ้าของไวน์แก้วนี้เอง

ทักษะยอดนักดื่ม!

“ก็พอรู้นิดหน่อย” หลินฟานพูด

หายากมากคนที่จะสุภาพและเจียมเนื้อเจียมตัวอย่างนี้!

เธอรู้สึกว่า หลินฟานดูน่าค้นหามากยิ่งขึ้น และเธอก็อดไม่ได้ที่จะทำความรู้จักกับหลินฟานต่อ…

คนสวยทุกคนที่เคยคุยกับผู้ชายในงานนี้มาก่อนก็ไม่มีความคิดที่จะคุยต่อกับพวกเขาอีกต่อไป

พวกเธอได้มองไปที่หลินฟาน

พวกเขากำลังตั้งตารอตอนที่สาวสวยในชุดจั๊มสูทถอยออกมาจากหลินฟาน จากนั้นพวกเขาก็จะมีโอกาสในการเข้าไปคุยกับหลินฟาน

แต่อย่างไรก็ตาม…

ความคาดหวังของพวกเธอก็ไร้ประโยชน์

เพราะท้ายที่สุด หลินฟาน ก็ได้เดินไปยังห้องส่วนตัวของสวนถิงเฟิง พร้อมกับแขนของเขาที่กำลังโอบเอวเรียวยาวของสาวสวยในชุดจั๊มสูท

คืนนี้ทั้งคืน หลินฟานกับสาวสวยในชุดจั๊มสูทไม่ได้นอนกันเลย

…………

วันถัดไป

เมื่อหลินฟานลืมตาขึ้น เขาก็พบว่าตัวเองได้อยู่ในห้องส่วนตัวนี้คนเดียว

หลินฟาน เหลือบมองแผ่นกระดาษสีขาวที่หายไปและกองธนบัตรสีแดงบนโต๊ะ เขากระพริบตาและพึมพำ “อะไร…อะไรเนี่ย”

หลินฟานส่ายหัวเล็กน้อยก่อนจะลุกขึ้นมาแต่งตัว

“ติ๊ง!”

ในเวลานี้ โทรศัพท์มือถือของ หลินฟานก็สั่นขึ้นเล็กน้อย

ข้อความสองข้อความได้ปรากฏขึ้นบนหน้าจอของเขา

“ยอดเงินเข้าบัญชี 710,300 หยวน ณ เวลา 00:00 น.”

“ยอดเงินเข้าบัญชี 65 ล้านหยวน ณ เวลา 10:10 น.”

สำหรับข้อความแรกที่แจ้งเตือน หลินฟาน ไม่ได้รู้สึกตกใจแต่อย่างใด

เพราะทุกเช้าที่เขาตื่นขึ้นมา เขาจะได้รับเงินประมาณ 700,000 หยวนอยู่แล้ว

แต่ข้อความที่สองนี่มันอะไรกัน !

65 ล้านหยวน?

“กริ๊ง!”

ขณะที่หลินฟานกำลังสับสนอยู่ โทรศัพท์มือถือของเขาก็ดังขึ้นมาอย่างรวดเร็ว

หลินฟาน จึงหันไปมองโทรศัพท์ที่มีคนโทรเข้ามา ก็ปรากฏว่าเป็นหวางจงเต๋อ ผู้จัดการทรัพย์สินของอาคารเฉียนคุน

หลังจากเห็นว่าเป็นสายของหวางจงเต๋อ หลินฟานก็เดาได้ทันทีว่าคนที่ส่งเงินมา 65 ล้านหยวนก็คือเขา

“คุณหลิน สวัสดี ผมคือเสี่ยวหวางจากอาคารเฉียนคุนนะครับ ผมรบกวนเวลาพักผ่อนของคุณหรือเปล่า” หวังจงเต๋อพูดอย่างระมัดระวัง

เพื่อไม่ให้มีพนักงานบริษัทของอาคารเฉียนคุน รู้ว่าหวางจงเต๋อเรียกตัวเองว่าเสี่ยวหวางกับคนอื่น! เขาจึงพูดเสียงเบาๆ และระมัดระวังตัวเป็นอย่างมาก

หลินฟานพูดว่า “ไม่รบกวนหรอก ฉันตื่นมาสักพักแล้วเหมือนกัน นายมีอะไรงั้นหรอ?”

หวางจงเต๋อรีบพูด: “สำหรับเรื่องนั้น เมื่อวานนี้ตามคำขอของคุณ ผมได้ทำการเก็บค่าเช่าของบริษัททั้งหมดในอาคารเฉียนคุนในปีหน้ามาเรียบแล้ว รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 65 ล้านหยวน”

“ตอนแรก ผมต้องการจะส่งเงินจำนวนนี้ให้คุณตั้งแต่เมื่อวาน แต่เหมือนระบบธนาคารจะมีปัญหา จึงต้องทำการโอนในวันถัดไป ว่าแต่คุณหลิน คุณได้ข้อความแจ้งเตือนแล้วหรือยัง”

หลินฟานกล่าวว่า “นายทำได้ดีมาก ฉันได้รับแล้วเรียบร้อย”

“ขอบคุณคุณหลินสำหรับคำชมครับ มันคือสิ่งที่ผมควรทำอยู่แล้ว” หวางจงเต๋อพูดอย่างมีความสุข “งั้นถ้าไม่มีปัญหาอะไรแล้ว ผมคงจะไม่รบกวนคุณหลินต่อ เชิญพักผ่อนให้สบายนะครับ”

หลังจากหลินฟาน ได้รับเงิน 65 ล้านหยวนมาแล้ว มุมปากของเขาก็ได้กระตุกขึ้นเล้กน้อย

ตอนนี้เงินของหลินฟานมีถึง 81 ล้านหยวนแล้ว

และในเวลานี้ หลิวหยูหางก็กำลังรออยู่ที่ชั้นล่างของสวนถิงเฟิง

แต่หลังจากที่เขาเห็นหลินฟาน เขาก็ร้องโหยหวนออกมา “พี่หลิน พี่ได้ทำร้ายพวกเราทุกคนในงานเมื่อวานนี้”

“พวกเรา?” หลินฟาน งงงวย

“พี่ไม่รู้หรอ ว่าเมื่อวานพี่ได้ดึงดูดสาวงามทั้งหมดไปจากพวกเรา แทบไม่เหลือผู้หญิงคนไหนเลย! รวมถึงของผมด้วย!” หลิวหยูหางอุทาน

เขาพูดไปด้วยดวงตาที่ส่องแสงสีแดงเล็กน้อย

เขามีความคับข้องใจอยู่เต็มอก

มันง่ายเหรอที่เขาจะหาเวลามาที่สวนถิงเฟิง?

หลินฟานไอเบาๆ “ยังไงก็ตามการประมูลของโรงแรมซินเยว่เริ่มเมื่อไหร่?”

หลิวหยูหางเหลือบมองดูเวลาแล้วพูดว่า “เวลา 12:30 น. นี่ก็ใกล้จะถึงเวลาแล้ว”

หลินฟานพยักหน้าและพูดว่า “โอเค งั้นเราไปกันเถอะ”

โรงแรมซินเยว่ ตั้งอยู่บนถนนวงแหวนรอบที่สองของปักกิ่ง

ผนังด้านนอกทั้งหมดของโรงแรมทำจากหินอ่อนเรียงซ้อนกันซึ่งดูทันสมัยมาก

การตกแต่งภายในโรงแรม บางส่วนเป็นแบบจีนโดยมีเสาหยกแกะสลัก โคมแขวน และกลิ่นหอมของไม้จันทน์ ซึ่งทำให้ผู้คนรู้สึกสงบและผ่อนคลาย

หลังจากที่หลิวหยูหางพูดชื่อของบริษัทยาตระกูลหลิว พวกเขาจึงได้ไปที่ห้องบนชั้นสามทันที

ห้องไม่ใหญ่ แต่มีโต๊ะและเก้าอี้ไม้ทำมาจากมะฮอกกานีชั้นดีและมึความหรูหรา

หลังจากที่หลิวหยูหางและหลินฟานเข้าไปในห้อง พนักงานเสิร์ฟที่มีรูปร่างดีก็เดินเข้ามาด้วยรอยยิ้ม

พนักงานเสิร์ฟยื่นเมนูที่หุ้มด้วยหนังและพูดว่า “คุณต้องการอะไรไหม”

หลิวหยูหางดันเมนูตรงหน้าหลินฟานก่อนพูดว่า “ชาและอาหารที่นี่อร่อยมาก พี่หลิน ดูซิว่าพี่อยากจะกินอะไรไหม”

หลินฟานมองไปที่เมนูและพูดว่า “ชาหลงจิ่งหนึ่งหม้อ, กุ้งเข็มขัดหยก, ผักสี่ฤดู, มดปีนต้นไม้, ซุปไก่ชิงเฟิง เป็ดย่างและขนมหลากสี”

หลินฟานเพียงแค่สั่งชาหนึ่งหม้อ อาหารห้าจาน และของว่างอีกจาน

แต่นี่คือโรงแรมซินเยว่ แม้แต่ผักสี่ฤดูที่ถูกที่สุดก็มีราคา 300 หยวนต่อจาน ในขณะที่อาหารอื่นๆ…รวมถึงหลงจิ่งและอื่นๆ ทั้งหมดมีราคาอย่างละมากกว่า 1,000 หยวน

การบริโภคอาหารมื้อนี้เกือบ 20,000 หยวนแล้ว

แน่นอนว่านี่เป็นเงินเพียงเล็กน้อยสำหรับหลินฟานและหลิวหยูหาง