เชียนอ้าวเซี่ยกล่าวด้วยความน้อยเนื้อต่ำใจ “เสี่ยวซีซีเจ้าต้องเชื่อข้า ข้าไม่ใช่คนที่ชอบไม้ป่าเดียวกันเด็ดขาด ข้าชอบเพียงเจ้าคนเดียว”
สำหรับคำกล่าวของเชียนอ้าวเซี่ย มู่เฉียนซีคิดว่าเขาโกหก หากนางเชื่อเขา นางอาจจะกลายเป็นคนโง่งมเอาได้
“ผู้นำเหอ สำหรับวันนี้ข้าต้องขอบคุณมาก” มู่เฉียนซีไม่สนใจเชียนอ้าวเซี่ย นางหันไปกล่าวกับผู้นำเหอที่อยู่ใกล้ ๆ
“เหอะ ๆ ๆ หากใจบริสุทธิ์ก็ไม่จำเป็นต้องอธิบาย เช่นนั้นข้าไม่รบกวนแล้ว อ้อ แล้วเรื่องราชวงศ์อิ๋นเหยียน ให้ข้าจัดการหรือไม่ ?”
องค์หญิงที่หยิ่งผยองเป็นคนกลับกลอกผู้นี้ ไม่มีใครคาดคิดว่าจะกล้าใส่ร้ายป้ายสีว่าที่ฮูหยินของนายน้อยน่าหลานอวี้
เชียนอ้าวเซี่ยยิ้มพลางกล่าวว่า “เรื่องนี้เจ้าวางใจเถอะ ข้าจะเอาเรื่องคนที่คิดร้ายกับเสี่ยวซีซี พวกมันต้องชดใช้แน่”
เชียนอ้าวเซี่ยคิดจะลงมือเช่นนี้ทำให้ผู้นำเหอตกใจเล็กน้อย
“ในเมื่อคุณชายเซี่ยคิดจะลงมือด้วยตัวเอง เช่นนั้นข้าก็คงไม่อยู่ให้ขายหน้า”
หากเปรียบเทียบเรื่องความโหดร้าย คุณชายเซี่ยนั้นโหดร้ายป่าเถื่อนกว่านายน้อยของเขามากนัก เวลานี้เขาเริ่มรู้สึกสงสารองค์หญิงรองขึ้นมาเสียแล้ว ล่วงเกินใครไม่ล่วงเกิน มาล่วงเกินคนผู้นี้
มู่เฉียนซี “เรื่องนี้เจ้าไม่จำเป็นต้องทำอะไรทั้งสิ้น ข้านั้นจัดการโดยลำพังได้”
“เสี่ยวซีซี หากเจ้าใช้ยาพิษฆ่านางให้ตายตกไป มันจะไม่ดูง่ายเกินไปสำหรับนางรึ ? เรื่องนี้เจ้ามอบให้เป็นหน้าที่ของข้าดีกว่า เจ้าวางใจได้ …เพียงแต่ เสี่ยวซีซีเอายาพิษให้ข้าสักหน่อยได้หรือไม่ เวลานี้เจ้าคงจะมีอยู่ใช่ไหม ?” เชียนอ้าวเซี่ยเข้าไปกระซิบข้างหูมู่เฉียนซี
มู่เฉียนซีตกใจเล็กน้อย จากนั้นก็ยื่นขวดยาขวดหนึ่งให้เขา “อืม อย่างไรเจ้าอย่าปล่อยให้ตนเองถูกราชสำนักจับตัวไปได้ล่ะ”
“เพียงแค่แคว้นอิ๋นเหยียนแคว้นเล็ก ๆ เช่นนี้ทำอะไรข้าไม่ได้หรอก เสี่ยวซีซีวางใจได้เลย” กล่าวจบเชียนอ้าวเซี่ยก็ออกไปจัดการทันที
“นายท่าน ข้าทำให้นายท่านลำบากแล้ว” ทันทีที่มู่เฉียนซีเดินเข้ามาด้านในของห้อง เสี่ยวชีก็เอ่ยปากกล่าวขอโทษ
มู่เฉียนซี “คนเหล่านั้นต่างหากที่ทำให้เป็นเช่นนี้ ข้าไม่โทษเจ้าหรอก ข้าคัดรายชื่ออย่างละเอียดถี่ถ้วนกว่าเดิม หลังจากนี้ภารกิจของเจ้าในภายภาคหน้าจะอันตรายมากขึ้น”
“ขอรับ” เสี่ยวชีพยักหน้า สำหรับเรื่องอันตรายหรือไม่อันตรายนั้นเขามิได้สนใจ ในฐานะที่เขาเป็นนักฆ่ามือฉมัง จึงจำต้องทุ่มเทแรงกายแรงใจทำให้ดีที่สุดเพื่อให้ภารกิจสำเร็จไม่ว่าภารกิจนั้นจะอันตรายมากเพียงใดก็ตาม
…
วันถัดมา ยามรุ่งอรุณ
ทั่วทั้งแคว้นอิ๋นเหยียนเกิดเรื่องอื้อฉาวขึ้น มีข่าวลือหนาหูที่กล่าวกันว่าองค์หญิงรองกับฉีอ๋องมีความสัมพันธ์บางอย่างต่อกัน ทั้งสองสมคบคิดก่อกบฏ ทั้งหลักฐานที่แสดงว่าทั้งสองกระทำความผิดยังถูกโยนลงตรงหน้าฮ่องเต้อิ๋น และการจับกุมตัวก็กำลังดำเนินการอยู่ในขณะนี้
ฮ่องเต้อิ๋นโกรธจนใบหน้าหม่นคล้ำ “เจ้ามันบุตรสารเลว!”
ด้วยช่องทางข่าวสารที่น่ากลัวเช่นนี้ ทำให้ทุกผู้คนต่างพากันฉงนสงสัยว่าจะเป็นฝีมือของหอเชียนอิน แต่ฉีอ๋องก็ไม่ได้ไปล่วงเกินคนของหอเชียนอินแต่อย่างใดด้วยเพราะเขาอยู่ในคุก
ฉีอ๋องจ้องอิ๋นซวงซวงตาเขม็ง “เจ้า… เจ้าไปล่วงเกินคนของหอเชียนอินใช่หรือไม่ ?”
อิ๋นซวงซวงกล่าวอย่างกล้ำกลืน “ท่านพี่ฉีอ๋อง ข้าเปล่านะเจ้าคะ แม้แต่ใบหน้าคนของหอเชียนอินข้าก็ไม่เคยพบเห็น แล้วจะไปล่วงเกินพวกเขาได้อย่างไรกันเจ้าคะ คนที่ข้าล่วงเกินในเวลานี้มีเพียงคนเดียวเท่านั้นนั่นก็คือมู่เฉียนซี…”
อิ๋นซวงซวงหวาดกลัวเป็นอย่างมาก นางสั่นเทิ้มไปทั้งร่างอย่างไม่อาจควบคุมได้
เป็นไปไม่ได้! นาง…
เวลานี้จะกล่าวอะไรก็ไร้ประโยชน์แล้ว นอกจากจะเสื่อมเสียเกียรติ เสื่อมเสียศักดิ์ศรี สิ่งที่กำลังรออยู่ข้างหน้านั่นก็คือโทษประหาร กระทำความผิดอย่างมหันต์เช่นนี้ ไม่ว่าใครก็ไม่อาจช่วยพวกเขาได้
“เสี่ยวซีซีเป็นอย่างไรบ้าง ผลออกมาเช่นนี้เจ้าพอใจหรือไม่ ?” หลังจากที่เชียนอ้าวเซี่ยจัดการทุกอย่างเรียบร้อยแล้ว เขาก็รีบมาหามู่เฉียนซีหวังจะได้รับคำชมจากนาง
มู่เฉียนซีพยักหน้า “อืม เจ้าจัดการได้อย่างสะอาดเรียบร้อยมาก ถอนทั้งรากทั้งโคนเพื่อเลี่ยงปัญหาในภายภาคหน้า”
เชียนอ้าวเซี่ย “ข้าบอกเจ้าแล้วว่าต่อให้ข้าไม่มีพลังวิญญาณที่แข็งแกร่งอย่างใคร ๆ ข้าก็ดูแลเสี่ยวซีซีได้ เสี่ยวซีซีเจ้าให้ข้าอยู่กับเจ้าเถอะ ข้าจะรับผิดชอบดูแลเจ้า หาเงินทองเลี้ยงครอบครัว ส่วนเจ้ามีหน้าที่รักข้าก็พอแล้ว”
เชียนอ้าวเซี่ยผู้อ่อนแอไร้กระดูกคิดจะขยับเข้าใกล้มู่เฉียนซี ทว่าผลที่ตามมานั้นคือ…
— ปัง! —
เช่นเคย… เชียนอ้าวเซี่ยถูกมู่เฉียนซีเตะอย่างไร้ความปรานี
“หากไม่มีข่าวคนของหุบเขาหมอเทวดามารายงานข้า เจ้าก็ห้ามมาวุ่นวายกับข้า”
“เสี่ยวซีซี ดอกบัวหิมะที่นอกเมืองบานแล้ว มันสวยงามยิ่งนัก เราไปชมดอกไม้นอกเมืองด้วยกันเถอะ” เชียนอ้าวเซี่ยกล่าวโดยไม่สนใจอาการฟึดฟัดของมู่เฉียนซี
“ข้าไม่สนใจ”
“เสี่ยวซีซี เช่นนั้นเราไปดูทะเลสาบกัน แล้วคุยเรื่องความรักของเราสองคนดีหรือไม่ ?”
“เจ้าไสหัวไปได้แล้ว!” มู่เฉียนซีตะคอกเสียงดัง
นางจะตีเขาทว่าเขาเอียงตัวหลบได้พลันรีบกล่าวว่า “เสี่ยวซีซี สำนักย่อยของสำนักอวิ๋นเยียนค้นพบสมุนไพรวิญญาณระดับปฐพีชนิดหนึ่งอยู่ในหุบเขาแห่งหนึ่งในแคว้นอิ๋นเหยียน ท่านเจ้าสำนักกับเหล่าผู้อาวุโสกำลังจะเดินทางไปที่นั่น เจ้าคิดว่าพวกเราควรไปจัดการพวกนั้นให้เรียบทีเดียวเลยดีไหม ?”
“ผู้คนต่างก็แก่งแย่งกัน ไม่รู้ว่ามันมีดีอะไร…”
“มันเป็นผลวิญญาณมหาจักรพรรดิ เป็นสมุนไพรวิญญาณที่สามารถทะลวงพลังเข้าขั้นมหาจักรพรรดิได้ พวกเขาต้องการจะส่งไปให้กับสำนักใหญ่ของสำนักอวิ๋นเยียนเพื่อเอาความดีความชอบ”
การกระจายข่าวของหอเชียนอินนี้ ช่างน่ากลัวดีแท้
มู่เฉียนซีกล่าวถาม “ข่าวลือเรื่องผลวิญญาณมหาจักรพรรดินี้ เจ้าเผยแพร่ออกไปหรือยัง ?”
เชียนอ้าวเซี่ยยิ้ม “อืม ข่าวนี้ถูกขายให้กับทางราชสำนักแล้ว อีกทั้งสำนักนิกายแห่งแคว้นอิ๋นเหยียนสองสำนัก สำนักเจินอู่กับสำนักเฟยชิงก็ด้วย ครั้งนี้ได้เงินทองมาไม่น้อยเลย” รอยยิ้มเจ้าเล่ห์นั้นของเชียนอ้าวเซี่ยดูเหมือนน่าหลานอวี้เป็นอย่างมาก
มู่เฉียนซีกล่าวถาม “เจ้าขายข่าวอย่างทะนงองอาจเช่นนี้ เจ้าไม่กลัวว่าจะเป็นการรุกรานคนของสำนักอวิ๋นเยียนเอาหรอกรึ ?”
สำนักอวิ๋นเยียนเป็นสำนักนิกายระดับหนึ่งในเซี่ยโจว ถึงแม้ว่าหอเชียนอินจะมีอำนาจและช่องทางในการขายข่าวมากมาย แต่ในเรื่องความแข็งแกร่งนั้นไม่อาจเทียบกับสำนักอวิ๋นเยียนได้เลย
เชียนอ้าวเซี่ยยิ้มอย่างมีเสน่ห์ “เสี่ยวซีซี ข้ากำลังขอความร่วมมือเจ้าอยู่ ก่อนหน้านี้ข้าไม่เคยยืนฝั่งใด จากนี้ก็ขอให้เสี่ยวซีซีรักข้ามากหน่อยก็แล้วกัน”
มู่เฉียนซีกล่าวด้วยท่าทีนิ่งสงบ “เจ้าหมายความว่าอย่างไรก็กล่าวมาให้ชัดเจน”
“ตอนที่ข้ารู้ว่าข้ามีชีวิตอยู่ได้อีกครึ่งปี ข้าก็ตัดสินใจแล้วว่าจะทำลายสำนักอวิ๋นเยียนให้จงได้ ถึงแม้ว่าเสี่ยวซีซีจะยื้อชีวิตให้ข้าอยู่ต่ออีกสามปี แต่แผนนี้ของข้าก็ยังคงเดิม” เชียนอ้าวเซี่ยกล่าวเสียงขรึม
มู่เฉียนซีรู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย “เป้าหมายนี้ของเจ้าเหมือนกับข้า ภายในเวลาครึ่งปีนี้ ข้าจะทำลายสำนักอวิ๋นเยียนให้สูญไปจากเซี่ยโจว ข้าจะกำราบให้สิ้นซากไป”
“ข้ากับเสี่ยวซีซีมีใจสื่อถึงกัน คิดทำการใดก็สอดคล้องต้องกัน ยอดเยี่ยม!” เชียนอ้าวเซี่ยกล่าวด้วยความตื่นเต้น เขายื่นมือเรียวอย่างไร้ที่ติของเขาออกไปก่อนจะกล่าวต่ออีกว่า “เสี่ยวซีซี ในเมื่อเรามีเป้าหมายเดียวกัน เช่นนั้นเรามาร่วมมือกันดีหรือไม่ ?”
“ข้ามีเงิน มียาวิญญาณ แต่ข้าไม่มียอดฝีมือผู้เก่งกาจ เจ้าแน่ใจหรือไม่ล่ะว่าต้องการร่วมมือกับข้า ?”
การฆ่าสังหารใครบางคนในสำนักอวิ๋นเยียนนั้นไม่ใช่เรื่องยาก ทว่าการจะกำจัดสำนักนิกายที่แข็งแกร่งมายาวนานนับพันปีให้สิ้นซากด้วยมือของตนเองโดยลำพังนั้นเกรงว่าคงทำไม่ได้ง่าย ๆ เช่นนั้นแล้วการมีพันธมิตรที่แข็งแกร่งนับว่าไม่เลว
เชียนอ้าวเซี่ย “ข้าขาดเงิน ขาดยาวิญญาณพอดี เสี่ยวซีซี… เรามาเติมเต็มซึ่งกันและกันเช่นนี้ ช่างสมบูรณ์แบบดีแท้”
มู่เฉียนซีมองใบหน้างดงามไร้ที่ติของบุรุษตรงหน้า นางกล่าวอย่างแผ่วเบาว่า “เงื่อนไขนี้ของเจ้าทำให้ข้าสนใจมากจริง ๆ”
เชียนอ้าวเซี่ย “ต่อให้ข้าตายก็จะไม่มีวันหักหลังเสี่ยวซีซีเป็นอันขาด เสี่ยวซีซีจะเชื่อใจข้าหรือไม่ ?”
มู่เฉียนซี “แน่นอนว่าข้าไม่อาจเชื่อได้ทั้งหมด แต่เวลานี้สามารถร่วมมือกันทำลายสำนักย่อยในแคว้นอิ๋นเยียนด้วยกันได้ การร่วมมือต้องค่อย ๆ เป็นไปทีละก้าวเพื่อสร้างความเชื่อใจและไว้เนื้อเชื่อใจซึ่งกันและกันมากขึ้น เจ้าว่าใช่หรือไม่ ?”
“เป็นเช่นนั้นแน่นอน”
— ปัง! —
หลังจากที่เจรจากันเรียบร้อยแล้ว ไม่ว่าเชียนอ้าวเซี่ยจะหน้าด้านหน้าทนสักเพียงใด ท้ายที่สุดเขาก็ถูกมู่เฉียนซีไล่ออกไปอย่างไร้ความปรานีเฉกเช่นเดิม
“หากพวกสำนักย่อยเดินทางเจ้าค่อยมาบอกข้า แล้วระหว่างนี้ห้ามเจ้ามายุ่งวุ่นวายกับข้า มิเช่นนั้นข้าจะทำให้เจ้าลงจากเตียงไม่ได้สามวัน”
.
.
.