หลังจากตรวจเอกซเรย์หยวนแล้วหมอหวังก็ทําการตรวจเลือดของหยวน และสิ่งอื่นๆอีกสองสามอย่าง
เมื่อผลตรวจออกมาและไม่มีอะไรผิดปกติหมอหวังก็บอกว่า
“โอเคฉันตรวจสุขภาพคุณเรียบร้อยแล้วนายน้อย ร่างกายของคุณแข็งแรงเหมือนปกติและ เลือดของคุณก็ไม่มีอะไรผิดปกติ แต่จริงๆแล้วคุณสุขภาพดีขึ้นทุกครั้งที่เจอหมอ”
“นายน้อยมีคําถามอะไรจะถามหมอมั้ย ก่อนหมอจะไป”
“อืม….หมอหวัง…ฉัน….อาการของฉันเกิดจากความเจ็บป่วยบางอย่างที่ไม่ทราบสาเหตุและตรวจไม่พบจริงๆหรือ” จู่ๆหยวนก็ถามขึ้น
หากน้ำค้างโปร่งแสงไร้มลทินและเลือดฟินิกซ์ของเฟิงยู่เชียงส่งผลกระทบต่อเขาในชีวิตจริง เหตุใดเลือดฟีนิกซ์จึงไม่รักษาสภาพของเขาในเมื่อมันควรจะรักษาความเจ็บป่วยและการบาดเจ็บได้ทั้งหมด? ทําไมเขายังพิการ?
หมอหวังส่ายหัวด้วยทําทางเคร่งขรึม หลังจากเงียบไปครู่หนึ่งเขาก็พูดว่า
” ฉันเคยบอกคุณไปหลายครั้งแล้วนายน้อย แต่เราไม่พบสิ่งผิดปกติกับร่างกายของคุณ เลือดกระดูกของคุณ กล้ามเนื้อของคุณ สิ่งใดก็ตามที่สามารถทดสอบได้ เราได้ทดสอบไปแล้วและหลายครั้งด้วย อย่างไรก็ตามผลลัพธ์ที่ยังคงเหมือนเดิมเสมอ คุณมีสุขภาพแข็งแรงสมบูรณ์ ”
“จากที่กล่าวไปแล้วไม่มีทางที่คนที่มีสุขภาพแข็งแรงจะสูญเสียความสามารถในการเคลื่อนไหวของร่างกาย และการมองเห็นไปในทันที ดังนั้นเราจึงสรุปได้ว่ามันเป็นโรคใหม่ที่สามารถหลีกเลี่ยงการตรวจจับของเทคโนโลยีปัจจุบันของเราได้ ฉันขอโทษจริงๆที่ฉันไม่สามารถช่วยคุณได้มากกว่านี้นายน้อย ฉันยังรู้สึกละอายใจจริงๆที่จะเรียกตัวเองว่าเป็นหมอ เมื่อใดก็ตามที่ฉันอยู่ต่อหน้าคุณ ” หมอหวังถอนหายใจ
“ไม่จําเป็นต้องรู้สึกผิดหมอหวัง ฉันเข้าใจว่ามีบางสิ่งในโลกนี้ที่ไม่สามารถแก้ไขได้ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น และฉันก็เป็นเพียงหนึ่งในสิ่งนั้น” หยวนพูดกับเขาพร้อมกับยิ้มใบหน้า
“นายน้อย…คุณใจดีเกินไปจริงๆ” หมอหวังพูดด้วยความรู้สึกอยากจะร้องไห้
“ทําไมสวรรค์จึงลงโทษนายน้อยตัวยวิธีนี้? ทําไมเขาถึงสมควรมีชีวิตแบบนี้? นี่มันโหดร้ายเกินไป แม้ว่าสวรรค์จะอิจฉาในความสามารถของนายน้อยก็ตาม” หมอหวังถอนหายใจ
ต่อมาเหม่ยซิ่วพาหมอหวังออกไปข้างนอกก่อนจะกลับไปที่ห้องของเขา
“นายต้องการอะไรไหมคะ?” เหม่ยซิ่วถามเขาในภายหลัง
“เอ่อ…เธอช่วยใส่เสื้อผ้ากลับให้ฉันหน่อยได้ไหม” หยวนกล่าว
“โอ้ใช่แล้ว ฉันเกือบลืมไปแล้ว!” เหม่ยซิ่วรีบไปสวมเสื้อผ้าของเขา เพราะเธอไม่ต้องการรับผิด ชอบหากหยวนเป็นหวัดเพราะเรื่องนี้
“ตอนนี้ฉันกําลังจะไปเล่นเกม” หยวนพูดกับเธอหลังจากนั้น
“ฉันเข้าใจแล้วนายน้อย ถ้าอย่างนั้นฉันจะไปที่โรงเรียนเพื่อรับใช้คุณหนูเดี๋ยวนี้” เหม่ย ซิ่วกล่าว
“ขอให้สนุกนะ…” หยวนพูด
“สนุก..? เหม่ยซิ่วคิดกับตัวเอง ในขณะที่เธอพบว่าการช่วยหรูสนุกหรอ ไม่มีอะไรสนุกเลย ในการไปโรงเรียนซึ่งเธอต้องทําตัวเหมือนนักเรียนและคนรับใช้ในเวลาเดียวกัน
แม้ว่าเหม่ยซิ่วจะเป็นสาวใช้ แต่เธอก็ยังเป็นนักเรียนในเวลาเดียวกัน และเนื่องจากหยูรู เธอจึงต้องเข้าเรียนในโรงเรียนที่มีชื่อเสียงเช่นเดียวกับหยูรู และเนื่องจากมีเพียงนักเรียนที่ร่ำรวยและมีชื่อเสียงเท่านั้นที่ไปโรงเรียนนั้น จึงเป็นเรื่องปกติที่เห็นนักเรียนเหล่านี้พาคนรับใช้ไปโรงเรียนพร้อมกับพวกเขา
เหม่ยซิ่วออกจากห้องและปิดไฟในขณะที่หยวนกลับไปที่เกม
หลังจากกลับไปที่ห้องของเขาในเกม หยวนก็นั่งบนเตียงและพูดออกมาดังๆ
“เสี่ยวฮัว เฟิงเฟิง ข้ามีคําถามเจ้าช่วยออกมาสักครู่ได้ไหม”
วินาทีต่อมาเสี่ยวฮัวที่ออกมาจากสร้อยคอของเขาในขณะที่ เฟิงยู่เซียงโผล่ออกมาจากอก
“มีอะไรเหรอนายน้อย” เฟิงยู่เซียงถามเขา
“อืม…ก็แบบนี้”
หยวนบอกพวกเขาเกี่ยวกับสภาพของเขาในโลกแห่งความเป็นจริงโดยไม่ได้บอกว่าเป็นเขา
“ว้าวนี่ฟังดูน่ากลัวมาก” เฟิงยู่เซียงสายหัวหลังจากนั้นเธอก็พูดต่อ
“ถ้าข้าต้องอยู่แบบนั้น ข้าก็คงจะขอให้ถูกฆ่าซะดีกว่า”
“…”
หยวนพูดไม่ออก แต่ไม่ใช่ว่าเขาไม่เข้าใจความคิดของเฟิงยู่เซียง
“เฟิงเฟิงเจ้าบอกว่าเลือดฟีนิกซ์ของเจ้าสามารถรักษาความเจ็บป่วยทั้งหมดได้ใช่ไหม ถ้าคนในสภาพนั้นกินเลือดของเจ้า แต่ไม่หายละจะว่าอย่างไร?” หยวนจึงถามเธอ
“แท้จริงแล้วเลือดนกฟินิกซ์ของข้าสามารถรักษาอาการเจ็บป่วยได้ทั้งหมด อย่างไรก็ตามความสามารถดังกล่าวมีขีดจํากัด เนื่องจากมันจะรักษาเฉพาะความเจ็บปวยของมนุษย์เท่านั้น” เมื่อกล่าว
“หมายความว่าอย่างไร” หยวนเลิกคิ้ว
เสี่ยวฮัวจึงพูดว่า
” เช่นเดียวกับยาพิษ ยาเองมีหลายระดับ ความเจ็บปวยนั้นแตกต่างกันความเจ็บปวยบางอย่างเป็นได้ในเฉพาะมนุษย์ ในขณะที่ผู้ฝึกฝนจะมีภูมิคุ้มกัน แต่ก็เป็นไปได้ทั้งสองทาง เนื่องจากมีความเจ็บปวยที่ส่งผลกระทบต่อผู้ฝึกฝน แต่ไม่ใช่กับมนุษย์ เนื่องจากเรามีร่างกายและระบบภูมิคุ้มกับที่แตกต่างกัน”
“ เริ่ม ข้าไม่รู้ว่ามีเรื่องแบบนี้ด้วย ” หยวนพึมพำ
“เลือดของข้าสามารถรักษาอาการเจ็บป่วยที่มนุษย์เป็นและความเจ็บป่วยส่วนใหญ่ที่มีผลต่อผู้ฝึกฝนเท่านั้น ถ้าคนที่พิการอยู่คนนี้เป็นมนุษย์คนๆนั้นก็ต้องทําสัญญากับสิ่งที่หายากและทรงพ ลังอย่างยิ่ง ซึ่งอาจส่งผลต่อผู้ฝึกฝนด้วยซ้ำ”
“คนนี้เป็นคนที่ท่านรู้จักใช่ไหมนายน้อย ถ้าเป็นเช่นนั้นคงจะดีกว่าถ้าท่านพบผู้เชี่ยวชาญจริงๆ และพวกเราก็ไม่ใช่หมอพวกเราก็ไม่รู้เรื่องทั้งหมด อย่างน้อยข้าก็คิดอย่างนั้น” เฟิงยู่เซียงหันมองไปที่เสี่ยวฮัวที่ส่ายหัว
“เสี่ยวฮัวรู้แต่พวกเรื่องพื้นฐาน” เธอกล่าว
“ผู้เชี่ยวชาญงั้นหรอ แล้วข้าจะหาได้ที่ไหน” หยวนจึงถาม
” ข้ารู้จักหมอที่มีชื่อเสียงไม่กี่คนในสวรรค์ชั้นล่าง แต่พวกเขามักจะเดินทางอยู่เสมอ ดังนั้นข้าจึงไม่รู้ว่าพวกเขาอยู่ที่ไหน อย่างไรก็ตามหากข้าสัมผัสได้ถึงออร่าของพวกเขา ข้าจะแจ้งให้ท่านทราบทันทีนายน้อย” เฟิงยู่เซียงกล่าว
” ขอบคุณมาก เฟิงเฟิง ข้าไว้วางใจเจ้า” หยวนพยักหน้า