ซูอวี๋อดรนทนไม่ไหวในท้ายที่สุดในขณะที่มองสองพี่น้องมีปากเสียงกัน “พอได้แล้ว เธอจะเล่นละครตบตาฉันไปถึงเมื่อไหร่ ฉันรู้ว่าเจตนาที่แท้จริงของเธอก็คือช่วยพ่อตัวเอง และทำให้สื่อลืมเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อยี่สิบปีก่อนไป
“ถ้าเป็นอย่างนั้น มีประโยชน์อะไรที่จะมาแสร้งทำเป็นทะเลาะกันล่ะ
“มันยิ่งทำให้ฉันดูถูกเธอมากกว่าเดิมซะอีก!
“หันซิวเช่อ ฉันไม่รู้ว่าเธอพาฉันมาที่นี่ทำไม เรียกฉันมาดูว่าครอบครัวของเธอรักใคร่กลมเกลียวกันแค่ไหนเหรอ
“หรือแค่อยากจะท้าทายฉันกันแน่
“ถ้างั้นฉันก็มาอยู่ตรงนี้แล้ว แล้วเธอก็ทำสำเร็จแล้วด้วย การแสดงนี้ควรจะจบลงได้แล้วไม่ใช่หรือไง”
หันซิวเช่อมองผู้หญิงด้านล่างเวทีก่อนพลันเงียบไป เพราะว่าซูอวี๋มองไม่ออก… ไม่สิ ว่ากันตามจริง เธอไม่เชื่อว่าเขาจะช่วยเธอต่างหาก
หลังจากถูกทำร้ายมายี่สิบปี เทียบกับเรื่องที่เพิ่งเกิดขึ้นเพียงสองวันแล้ว เธอมีเหตุผลอะไรที่ต้องเชื่อเขาด้วยล่ะ
คิดได้ดังนั้น หันซิวเช่อก็เหลือบมองหันเจี๋ย พ่อที่หน้าซีดเผือดแล้วก็เลขา ก่อนพยักหน้า เดินลงจากเวทีและส่งสัญญาณให้พนักงานโรงแรมเปิดเครื่องเสียง ไม่นานวิดีโอที่เขาบันทึกบทสนทนาระหว่างเขากับลูกพี่ลูกน้องของเลขาก็เริ่มเล่นบนหน้าจอ
“เรื่องนี้มันเริ่มจากลูกพี่ลูกน้องของฉัน ตอนนั้นเธอบอกฉันว่าตั้งท้องแต่คุณหันไม่ยอมหย่า เลยขอให้ฉันช่วยเธอข่มขู่ซูอวี๋ ฉันไม่คิดว่าเรื่องวุ่นวายนี้จะถูกเปิดโปง ตอนนั้นฉันต้องหลงผิดไปแน่ๆ ฉันสาบานว่าไม่เคยคิดฉวยโอกาสกับแม่ของคุณเลย เป็นเพื่อนสมัยเรียนของลูกพี่ลูกน้องฉันต่างหาก”
เมื่อประโยคแรกหลุดออกจากปากชายคนนั้น พร้อมกับวิดีโอที่เริ่มเล่นไปบนหน้าจอ ทุกคนต่างตกตะลึงกับสิ่งที่ได้ยิน
ความจริงแล้วหันซิวเช่อได้ข่มขู่ให้ชายคนนั้นเล่าซ้ำในคืนที่พวกเขาเจอกัน
เขาจึงบันทึกวิดีโอนี้ไว้ในตอนนั้น!
หลังวิดีโอเล่นมาถึงจุดนี้ คุณพ่อหันมองหันเจี๋ยอย่างสงสัย หันซิวเช่อได้วิดีโอนี้มาได้อย่างไร
หันเจี๋ยส่ายหน้าด้วยท่าทีงุนงง
คุณพ่อหันยืนขึ้น คว้าเก้าอี้ตัวเองขว้างเข้าใส่หน้าจอเสียงดังลั่น ทุกคนสะดุ้งโหยงด้วยความตกใจกับสิ่งที่คุณพ่อหันทำ!
“งานแถลงข่าววันนี้จบลงแต่เพียงเท่านี้ครับ นักข่าวทุกคนออกไปได้แล้ว ที่เหลือผมจะให้ทนายความของผมจัดการ”
คุณพ่อหันมองหันซิวเช่อตาขวางขณะที่เน้นย้ำทุกคำพูดด้วยเสียงหนักแน่น!
ทว่าหันซิวเช่อไม่ยอมถอย
“ถ้าพ่อไม่จบเรื่องนี้ในวันนี้ ผมจะปล่อยวิดีโอนี้ลงอินเทอร์เน็ตให้ทุกคนได้เห็น!”
เมื่อคุณพ่อหันได้ยินเช่นนี้ ก็กำหมัดแน่น เดิมทีเขาอยากจะตอบโต้ แต่เลขากลับรีบพุ่งเข้ามาขวางเขาไว้ “ซิวเช่อ อย่าโกรธพ่อไม่ได้เหรอ ผ่านมาตั้งหลายปี เธอไม่โตขึ้นบ้างเลยเหรอ”
“คุณนั่นแหละคือคนสุดท้ายที่จะมีสิทธิ์พูด!” หันซิวเช่อตวาดพลางชี้หน้าหลี่ฉิงไอ้ “เป็นเมียน้อยมีสิทธิ์อะไรมาออกความเห็นกับเรื่องของฉัน”
“เธอจะทำให้พ่อตัวเองโกรธจนอกแตกตายเลยเหรอ”
“เขาสมควรถูกทำให้โกรธจนตายแล้ว!” หันซิวเช่อสวนกลับอย่างเย็นชา
“ถังหนิงให้ผลประโยชน์อะไรกับนาย แล้วผู้หญิงคนนั้นให้ผลประโยชน์กับนาย ทำไมนายถึงหันหลังให้คนที่ให้กำเนิดและเลี้ยงดูนายมาได้ลงคอ” หันเจี๋ยคว้าโอกาสนี้ขึ้นเสียงใส่น้องชายตัวเอง “ตอบฉันมาสิ!”
“เธอไม่เคยให้ผลประโยชน์อะไรกับผมเลย แต่เป็นพี่ที่ทำให้ผมเจ็บปวดเจียนตาย! พี่คนเดียวเลย!
“ทำไมพี่ไม่ปล่อยให้ผมเล่นวิดีโอต่อล่ะ หรือว่าพี่รู้สึกผิดกับบางสิ่งอยู่กันแน่
“หรือว่ากลัวคนจะรู้ว่าพี่ร่วมหัวกันใส่ร้ายภรรยาและแม่ตัวเอง
“ทำไมพี่ต้องกลัวด้วยล่ะ กล้าทำก็ต้องกล้ารับสิครับ!
“ส่วนหลี่ฉิงไอ้ คุณเป็นคนที่น่ารังเกียจที่สุดแล้ว! พวกคุณอาจจะยอมจบงานแถลงข่าวนี้ไปดื้อๆ ได้ แต่ยังไงก็ไม่มีทางเลือกนอกจากก้มหน้ายอมรับผิดเพราะวิดีโอนี้หรอก! คิดให้ดีๆ จะเป็นการดีที่สุดนะครับ!” พูดจบหันซิวเช่อก็เดินไปหาซูอวี๋ก่อนเอ่ยกับเธอ “ผมรู้ว่าคุณคงไม่ให้อภัยผม ไม่ว่าผมจะพูดหรือทำอะไรก็ตาม แต่วันนี้ผมก็ยังได้รู้เรื่อง”
ซูอวี๋มองหน้าหันซิวเช่อก่อนสูดหายใจลึก แม้ว่าเธอจะไม่ได้เชื่อใจเขาเสียทีเดียวแต่ก็ไม่ได้ต่อต้านเขาเช่นกัน
ตอนนี้พวกเขาอยู่ฝ่ายเดียวกันแล้ว ส่วนที่เหลือนั้นเป็นการตัดสินใจของตระกูลหัน
“แล้วยังไงล่ะ”
“พ่อครับ!” หันเจี๋ยหันมามองคุณพ่อหัน
คุณพ่อหันไม่ได้ตอบกลับในทันที หลังเงียบไปครู่หนึ่ง เขาพุ่งลงมาจากเวทีและต่อยหน้าหันซิวเช่อ “นับตั้งแต่วันนี้ ฉันจะถือว่าแกไม่เคยเป็นลูกชายของฉัน!”
ผู้สื่อข่าวอ้าปากค้างอย่างตกใจ และคิดว่าพ่อลูกกำลังจะสู้กันเอง แต่หันซิวเช่อลูบคางตัวเอง ลุกขึ้นยืนเผชิญหน้ากับพ่อของตัวเองอย่างไม่เกรงกลัว
แน่นอนว่าการกระทำของเขาในวันนี้ไม่อาจชดเชยเรื่องเลวร้ายที่เขาเคยทำเมื่อก่อนได้ แต่อย่างน้อยเขาก็ได้แสดงมนุษยธรรมให้เห็นบ้าง
ด้วยวิดีโอที่หันซิวเช่อถ่ายมา คุณพ่อหันดิ้นไปไหนไม่หลุด เขาจะทำอะไรได้อีก หรือเขาจะอ้างว่าวิดีโอนั้นถูกปลอมขึ้นมาเหมือนกัน
หากเขาทำเช่นนั้นจริง เช่นนั้นเขาก็คงกำลังหลอกตัวเองและหาเรื่องให้ตัวเองขายหน้า
“ไหนๆ เรื่องก็มาถึงจุดนี้แล้ว ฉันไม่มีอะไรจะพูดทั้งนั้น…” คุณพ่อหันเอ่ยก่อนหันกลับออกไปจากโรงแรม นั่นหมายความว่าหันซิวเช่อจะเปิดโปงอะไรก็ตามใจ เขาจะไม่นั่งโดนถูกหยามหน้าอยู่เฉยๆ
หันเจี๋ยมองคุณพ่อหันที่เดินจากไป เมื่อสบตากับหลี่ฉิงไอ้ เขาก็หันหลังจากไปเช่นกัน
จากนั้นนักข่าวเข้ามารุมล้อมหันซิวเช่อเพื่อขอวิดีโอที่เขามี
เพื่อเลี่ยงเรื่องวุ่นวายที่จะเกิดขึ้นในอนาคต หันซิวเช่อส่งวิดีโอให้นักข่าว ในเมื่อวันนี้คุณพ่อหันไม่ยอมรับผิด เขาก็ยังมีเวลาให้ยอมรับมันอีกมาก
ซูอวี๋มองหน้าหันซิวเช่อ บางทีนี่อาจเป็นสิ่งที่มีความหมายที่สุดที่เขาได้ทำจนถึงตอนนี้ เธอจึงไม่ได้ปริปากพูดอะไรขณะที่หันหลังเดินจากไป แต่เมื่อเธอกลับมาถึงบ้านก็ได้สายจากถังหนิง
“คุณน้าซูคะ ฉันเห็นข่าวแล้วค่ะ แต่คุณยังประมาทไม่ได้นะคะ ฉันว่าวิดีโอนี้มันยังไม่เพียงพอและหันซิวเช่อก็จะถูกสงสัยว่าปลอมมันขึ้นได้ค่ะ!
“ถ้าคุณดูผู้ชายในวิดีโอ ก็จะเห็นได้ชัดว่าเขาถูกบังคับให้พูด”
ถังหนิงได้ข่าวว่าตระกูลหันทะเลาะกันใหญ่โตที่งานแถลงข่าว เป็นเรื่องวุ่นวายที่เห็นได้ทั่วไปของตระกูลคนใหญ่คนโต
“แต่พูดอีกอย่างเขาก็แค่พยายามทำเรื่องดีๆ ไม่ใช่เหรอ” ซูอวี๋ถาม “คอยดูกระแสตอบรับจากคนภายนอกแล้วกันค่ะ”
วิดีโอฉบับเต็มถูกปล่อยออกมาในครึ่งชั่วโมงให้หลังนับจากงานแถลงข่าวและแพร่สะพัดไปอย่างบ้าคลั่ง!
แม้ว่าวิดีโอนี้จะสุ่มเสี่ยงกับการถูกหาว่าเป็นของปลอม แต่มันก็ได้สาธยายเหตุการณ์ต่ำช้าที่เกิดขึ้นที่บ้านตระกูลหันเมื่อยี่สิยปีก่อนได้เป็นอย่างดี