กู้ชูหน่วนสตรีอัปลักษณ์ บทที่ 550
ที่นางพูดออกไปนี้……นางปรุงกลั่นยาอายุวัฒนะที่ดีออกมาเช่นนี้แล้ว หากนางไม่ได้อันดับที่หนึ่ง เช่นนั้นแล้วใครสมควรจะได้อันดับหนึ่งอีกหรือ?

เรื่องนี้ไม่จำเป็นต้องตัดสินเลยด้วยซ้ำ

ผู้อาวุโสสูงสุดทั้งหลายของหุบเขาตันหุยเริ่มนั่งไม่ติดและต่างเดินไปตรงหน้าของกู้ชูหน่วน ใบหน้าที่มีรอยย่นเต็มไปด้วยรอยยิ้ม “แม่นางอาหน่วน หุบเขาตันหุบของพวกข้ามียาสมุนไพรชั้นเลิศและมีวิธีการกลั่นปรุงยาระดับสูง ไม่เช่นนั้นเจ้าเข้าร่วมกับหุบเขาตันหุยของพวกข้าเถอะ พวกข้าสัญญาว่าจะแนะนำสั่งสอนทุกอย่างที่รู้เลย”

“ใช่ เพียงแค่เจ้ายอมตอบตกลงเข้าร่วมกับพวกข้า ไม่ว่าเจ้าจะยื่นข้อเสนออะไรมา พวกข้าจะพยายามทำให้เจ้าพึงพอใจที่สุด”

“เข้าร่วมกับหุบเขาตันหุยหรือ? ไม่สนใจหรอก” คิดว่าสมองของนางมีปัญหาหรืออย่างไรกัน ลูกศิษย์ชั้นเยี่ยมของหุบเขาตันหุยของพวกเขา อย่างมากก็แค่สามารถกลั่นปรุงยาอายุวัฒนะระดับขั้นที่สองเท่านั้น อีกทั้งแม้แต่วิธีการกลั่นปรุงยาขั้นพื้นฐานก็ไม่เข้าใจ จะให้เรียนกับพวกเขาหรือ?

สอนพวกเขาก็ว่าไปอย่าง

เมื่อได้ยินว่านางไม่สนใจ คนของหุบเขาตันหุยต่างพากันตื่นตระหนก

มีผู้อาวุโสสูงสุดท่านหนึ่งถึงขนาดกล่าวว่า “แม่นางอาหน่วน แม้ว่าเจ้าจะไม่ไตร่ตรองพิจารณาพวกข้า เช่นนั้นเจ้าก็ควรนึกถึงหลิงลั่วเสียบ้าง ขอเพียงแค่เจ้าเข้าร่วมกับหุบเขาตันหุย เช่นนั้นพวกข้าจะรีบจัดเตรียมงานแต่งงานของเจ้าและหลิงลั่ว อีกทั้งพวกข้ายังสามารถพูดให้ท่านผู้นำแห่งหุบเขาน่าหลานมอบตำแหน่งผู้นำแห่งหุบเขาให้หลิงลั่วในทันที ถึงตอนนั้นแล้ว เจ้าก็จะเป็นนายหญิงของท่านผู้นำแห่งหุบเขา และหลังจากนั้นในหุบเขาตันหุยแห่งนี้ ใครก็ไม่อาจรังแกหรือไม่เชื่อฟังเจ้าได้”

ตาเฒ่าคนนี้ อยากดึงนางไปเข้าพวกจนบ้าไปแล้วหรืออย่างไร

นายหญิงของท่านผู้นำแห่งหุบเขาน่ะหรือ ยิ่งใหญ่และสูงส่งเช่นนั้นเลยหรือ?

ผู้นำแห่งหุบเขาตันหุยเก็บกดความอยากดึงตัวของกู้ชูหน่วนเข้ามาเป็นคนของตัวเองจนแทบเอ่อล้น ยังไม่ทันที่เขาจะเอ่ยปากพูดออกไป แต่ผู้อาวุโสทั้งหลายต่างพูดแทนออกไปหมด จึงทำให้เขาไม่มีโอกาสที่จะพูดกับกู้ชูหน่วน

น่าหลานหลิงลั่วตบต้นขาและในหัวก็ปรากฏความคิดหนึ่งแวบขึ้นมา

แย่แล้ว ตกใจ……

ผู้อาวุโสสูงสุดเหล่านี้เห็นว่าโลกนี้ยังวุ่นวายไม่พออีกหรืออย่างไร?

เดิมทีอาหน่วนก็ไม่ยอมตอบตกลงแต่งงานกับเขาอยู่แล้ว แต่เมื่อพูดขึ้นมาอีก เช่นนั้นก็ยิ่งสร้างความเข้าใจผิดให้กับคนอื่นเข้าไปอีกว่าการที่เขาจะแต่งงานกับนางนั้น ก็เพียงเพราะนางสามารถกลั่นปรุงยาอายุวัฒนะได้เท่านั้น

เมื่อจอมมารได้ยินในสิ่งที่ผู้อาวุโสสูงสุดของหุบเขาตันหุยพูดขึ้นเขาก็รีบเปลี่ยนสีหน้าและพูดตักเตือน “ตาแก่ พูดจาระมัดระวังปากเสียหน่อย นางเป็นว่าที่ภรรยาของข้า”

เยี่ยจิ่งหานหัวเราะอย่างเย็นชาและแววตาที่เยือกเย็นของเขากวาดมองทุกคนที่ยืนอยู่ตรงนั้น ความเย่อหยิ่งและอันธพาลของเขาแผ่ออกมาปกคลุมทุกคนในบริเวณนั้น และคำพูดที่พูดออกมานั้นเยือกเย็นเกินต้านอย่างมาก

“ดูเหมือนว่าช่วงนี้ทุกคนจะไม่เห็นข้าคนนี้อยู่ในสายตาเลย ข้ายังไม่ตายเสียหน่อย แต่พวกเจ้ากลับกล้าแย่งชิงพระชายาของข้ากันต่อหน้าต่อตาข้าเช่นนี้”

ไม่ว่าจอมมารหรือเยี่ยจิ่งหาน เดิมทีหุบเขาตันหุยก็ไม่ต้องการจะก่อเรื่องสร้างปัญหาขึ้น แต่ตอนนี้กู้ชูหน่วนได้แสดงให้เห็นถึงพรสวรรค์การกลั่นปรุงยาอายุวัฒนะของนางออกมาเช่นนี้ เพื่อความเจริญและพัฒนาในอนาคตข้างหน้าของหุบเขาตันหุยและเพื่อให้หุบเขาตันหุยยังคงดำรงอยู่ยาวนานไปอีกนับพันปีแล้ว เช่นนั้นพวกเขาก็ไม่สนใจแล้วว่าจะมองหน้าไม่ติดทั้งกับจอมมารและเยี่ยจิ่งหาน

อีกทั้งเดิมทีก็แทบจะไม่ให้เกียรติและไม่ไว้หน้าเยี่ยจิ่งหานอยู่แล้ว

“แม่นางอาหน่วนตอบตกลงที่จะแต่งงานกับนายน้อยแล้ว”

“พูดเหลวไหล กู้ชูหน่วนเป็นพระชายาของข้าและมีตำแหน่งเป็นถึงพระชายาเอก มีหลักฐานพิสูจน์ได้ แต่พวกเจ้าใช้วิธีสกปรกเพื่อบีบบังคับให้นางต้องแต่งงานกับน่าหลานหลิงลั่ว เช่นนั้นนางก็ต้องตกเป็นผู้หญิงของน่าหลานหลิงลั่วน่ะหรือ?”

จอมมารยืนกราน “พี่หญิงก็ตอบตกลงว่าจะแต่งงานกับข้า”

เยี่ยจิ่งหานเหลือบมองไปที่กู้ชูหน่วนด้วยแววตาที่แหลมคม

ผู้หญิงคนนี้นอกจากการยั่วยุผู้ชายแล้ว นางยังทำอะไรได้อีกบ้าง?

ผู้นำคนสำคัญของนิกายและสำนักขนาดกลางต่างเฝ้ารออย่างใจจดใจจ่อ

พวกเขาไม่ต้องการฟังคนเหล่านี้ทะเลาะกัน

พวกเขาต้องการประมูลยาอายุวัฒนะที่กู้ชูหน่วนกลั่นปรุงออกมา

“ท่านผู้นำแห่งหุบเขาน่าหลาน ไม่ทราบว่าเมื่อไรจะเริ่มการประมูลยาอายุวัฒนะหรือ ยังคงเป็นกฎเกณฑ์เดิมหรือไม่ที่ผู้ใดประมูลในราคาสูงจะได้ไปครอบครอง”

“แม่นางกู้ หากพวกข้าไม่สามารถประมูลยาอายุวัฒนะที่ท่านกลั่นปรุงออกมาได้ละก็ เช่นนั้นแล้วสามารถขอร้องให้ท่านกลั่นปรุงขึ้นมาอีกหนึ่งเม็ดได้หรือไม่”

กู้ชูหน่วนรู้สึกปวดหัวเหลือเกิน โดยเฉพาะเมื่อมองไปที่ดวงตาของเยี่ยจิ่งหานที่เต็มไปด้วยคำตักเตือน

นี่มันอะไรกัน นางเข้าร่วมการชุมนุมแข่งขันการปรุงกลั่นยาอายุวัฒนะก็เพื่อจุดประสงค์เดียวเท่านั้น นั่นก็คือได้อันดับหนึ่งและเข้าไปยังเขตหวงห้าม

พวกเขาร้อนรน แต่นางกลับร้อนรนกระวนกระวายใจยิ่งกว่า ท่านพี่เฉินเฟยยังคงรอคอยไข่มุกมังกรเพื่อไปช่วยชีวิตของเขา นางมีเวลาไม่มากแล้ว

เมื่อเห็นว่าสถานการณ์โกลาหลวุ่นวายเช่นนี้ กู้ชูหน่วนจึงรีบแย่งพูดขึ้นมา “พวกเจ้ารอก่อนแล้วค่อยทะเลาะกันได้หรือไม่ ให้ข้าได้พูดอะไรบางอย่างเสียหน่อย”

“เช่นนั้นเชิญท่านพูดเลย”

“ท่านผู้นำแห่งหุบเขาน่าหลาน ไม่ทราบว่าตอนนี้สามารถประกาศชื่อผู้ที่ได้อันดับหนึ่งได้หรือยัง?”

ผู้นำแห่งหุบเขาตกตะลึงเล็กน้อย

เหตุใดนางถึงหมกมุ่นอยู่กับใครจะเป็นผู้ได้อันดับหนึ่งนะ? หรือว่านางให้ความสำคัญกับการได้รางวัล?

ผู้นำแห่งหุบเขายิ้มและกล่าวว่า “แม่นางอาหน่วนวิตกกังวลเกินไปแล้ว เจ้าอายุยังน้อยแต่กลับกลั่นปรุงยาอายุวัฒนะระดับขั้นที่สี่ออกมาได้ เช่นนั้นแล้วผู้ที่ได้อันดับหนึ่งจึงตกเป็นของเจ้า และผู้ที่ได้อันดับหนึ่งในการแข่งขันการปรุงกลั่นยาอายุวัฒนะในครั้งนี้คือ กู้ชูหน่วน”

เมื่อได้ยินเช่นนั้น กู้ชูหน่วนก็รู้สึกมีความสุขขึ้นมาอย่างมาก

“เช่นนั้นแล้วข้าสามารถเข้าไปยังเขตหวงห้ามได้ใช่หรือไม่?”

“เอ่อ……ผู้ที่ได้อันดับหนึ่งสามารถเข้าไปยังเขตหวงห้ามได้ แต่มีข้อแม้ก็คือ คนคนนั้นจะต้องเป็นลูกศิษย์ของหุบเขาตันหุยของข้า”

กู้ชูหน่วนค่อยๆ พูดโน้มน้าว “ท่านผู้นำแห่งหุบเขา ท่านพูดเช่นนี้ก็ไม่ถูก พวกท่านเพียงออกกฎว่าผู้ที่ได้อันดับหนึ่งสามารถเข้าไปยังเขตหวงห้ามได้ แต่กลับไม่ได้บอกว่าหากคนที่ได้อันดับหนึ่งไม่ได้เป็นลูกศิษย์ของหุบเขาตันหุยจะไม่สามารถเข้าไปยังเขตหวงห้ามได้ แต่ตอนนี้ท่านกลับพูดเช่นนี้ เช่นนี้ก็เป็นการกลั่นแกล้งข้าไม่ใช่หรือ?”

ยังไม่ทันที่ผู้นำแห่งหุบเขาจะพูดอะไรออกมา ผู้อาวุโสสูงสุดทั้งหลายต่างตัดสินใจ “เข้าไปได้ๆ ขอเพียงได้อันดับหนึ่งก็สามารถเข้าไปได้ พวกข้าชาวหุบเขาตันหุยไม่มีทางกลั่นแกล้งแม่นางอาหน่วนอย่างแน่นอน”

ผู้นำแห่งหุบเขาน่าหลานหมดคำพูด

ผู้อาวุโสสูงสุดเหล่านี้ วันปกติมักวางตัวสูงส่งและมักคิดว่าตัวเองเป็นผู้ที่เหนือกว่าคนอื่น

แต่ตอนนี้พวกเขากลับไม่ห่วงหน้าตาและศักดิ์ศรีของตัวเอง เพียงเพื่อต้องการตัวของกู้ชูหน่วน

แถมยังเรียกแม่นางอาหน่วน……ช่างสนิทสนมประจบประแจงเสียเหลือเกิน นางเป็นว่าที่ภรรยาของเขา แต่เขากลับยังไม่เรียกนางว่าแม่นางอาหน่วนเลยเสียด้วยซ้ำ

อีกอย่าง……

เรื่องการเข้าไปยังเขตหวงห้าม ได้ขออนุญาตเขาหรือยัง?

กู้ชูหน่วนยิ้มและกล่าวว่า “เช่นนั้นแล้วเมื่อไรข้าจะสามารถเข้าไปยังเขตหวงห้ามได้ล่ะ? คงไม่ต้องรอถึงสิบปียี่สิบปีหรอกใช่หรือไม่”

“จะเป็นเช่นนั้นได้อย่างไร ขอเพียงแค่แม่นางอาหน่วนต้องการเข้าไปยังเขตหวงห้าม ก็สามารถเข้าไปได้ทุกเมื่อ แม่นางอาหน่วน เช่นนั้นเจ้าก็พิจารณาหุบเขาตันหุยของพวกข้าเถอะ ขอเพียงแค่เจ้าสามารถเข้าร่วมกับหุบเขาตันหุย เช่นนั้นแล้วเจ้าก็สามารถขึ้นเป็นยอดปรมาจารย์นักปรุงยาอันดับหนึ่งได้อย่างแน่นอน……นี่……แม่นางอาหน่วน เจ้าจะไปไหนหรือ?”

“จะไปไหนได้ล่ะ ข้าก็ไปที่เขตหวงห้ามยังไงล่ะ ได้ยินมาว่าทิวทัศน์ที่เขตหวงห้ามช่างสวยงดงามอย่างมาก ข้าอยากจะเข้าไปดูให้เห็นกับตา ท่านสามารถนำทางข้าได้หรือไม่?”

“เอ่อ……”

“ทำไมหรือ ท่านเป็นคนพูดเองไม่ใช่หรือ ขอเพียงแค่ข้าต้องการเข้าไป เช่นนั้นก็สามารถเข้าไปได้ทุกเมื่อไม่ใช่หรือ หรือว่าท่านพูดเพื่อหลอกข้าเท่านั้น กลั่นแกล้งข้าอย่างนั้นหรือ?”

“ไม่ได้เป็นเช่นนั้นหรอก”

“ในเมื่อไม่ได้เป็นเช่นนั้น เช่นนั้นก็นำทางข้าไปเถอะ” กู้ชูหน่วนกะพริบตาและยิ้มออกมาอย่างไร้เดียงสา

ผู้อาวุโสสูงสุดคนนั้นนำทางนางไปก็ไม่ถูก ไม่นำทางนางไปก็ไม่ถูก จนเขารู้สึกทำตัวไม่ถูก

เดิมทีพวกเขาคิดอยากใช้วิธีการนี้เป็นเครื่องต่อรองให้นางเข้าร่วมกับหุบเขาตันหุย แต่ตอนนี้ดูเหมือนนางจะรู้แผนการของพวกเขาเสียแล้ว

ต่อหน้าผู้คนจำนวนมากเช่นนี้ และยิ่งเป็นคำขอร้องของนาง หากเขาไม่พานางไปก็คงดูไม่ดี

แต่นางพานางไป นี่……จะหรือไม่นะ…….

“ทำไมหรือ ชาวหุบเขาตันหุยต้องการจะกลับคำพูดอย่างนั้นหรือ? ไม่ต้องการให้ข้าเข้าไปแล้วหรือ?”

“เอ่อ……จะเป็นเช่นนั้นได้อย่างไร ท่านผู้นำแห่งหุบเขา ข้าสามารถพานางไปยังเขตหวงห้ามได้หรือไม่…..”

ผู้นำแห่งหุบเขาน่าหลาน “……”

เขาได้พูดไปหมดแล้ว เขายังสามารถพูดอะไรได้อีกหรือ?

บอกว่าไม่ได้อย่างนั้นหรือ?

เช่นนั้นแล้วคนไม่ดีก็ตกเป็นเขาอย่างนั้นหรือ ต่อไปจะผูกสัมพันธ์พ่อสามีและลูกสะใภ้ได้อย่างไรอีก?