บทที่ 200 อันดับ2 ? คาคิเนะ เทย์โทคุ มาแล้ว!
ก้นโชคุโฮถูกมือใหญ่ของวู่หยานจับเล่น เธอตัวสั่นระริกแต่ก็ทำได้แค่อดทนต่อไป
เพราะเธอไม่อยากเป็นตัวตลกต่อหน้ามิโคโตะ โชคุโฮพยายามยิ้มออกมาซึ่งเป็น
รอยยิ้มที่ดูจะแตกสลายได้ทุกเมื่อ
มีเพียงวู่หยานที่อยู่ใกล้แบบเนื้อแนบเนื้อกับเธอถึงรู้ว่าตอนนี้ตัวเธอกำลังสั่นอยู่ วู่
หยานรู้สึกดีอย่างมากที่ในที่สุดตนก็ได้เอาคืนอีกฝ่ายจนได้ เขาเพิ่มสปีดมือขึ้น
โชคุโฮไม่มีแรงที่จะไปเถียงกับมิโคโตะอีกต่อไป เธอกัดริมฝีปากด้วยฟันขาวเนียน
โชคูโฮเริ่มกังวลแล้วว่าตนเองจะทนไม่ไหวจนต้องร้องออกไป……
ถ้าเป็นปกติเวลานี้มิโคโตะควรจะใช้โอกาสที่โชคุโฮหยุดพูดมาโมตีกลับบางทีเธอ
อาจจะชนะสงครามฝีปากก็ได้ ทว่ามิโคโตะกลับเงียบไปเช่นกัน
ถ้าสังเกตดูดีๆจะพบว่ามิโคโตะกำลังหน้าขึ้นสี เหตุผลก็คล้ายคลึงกันเธอกำลังโดน
จับก้นอยู่!
ที่แตกต่างจากของโชคุโฮคือรายนั้นจะโดนจับผ่านกระโปรง แต่ของมิโคโตะคือ
โดนล้วงเข้าไปข้างในกระโปรงเลย!
ไอ้บ้าหยาน ดันมาทำอะไรแบบนี้ในเวลานี้ซะได้…….
เมื่อคิดว่าตนเป็นเพียงคนเดียวที่โดนล้วงเข้าไปข้างในกระโปรง มิโคโตะก็ก่าด่าวู่
หยานในใจหลายต่อหลายครั้ง มิโคโตะกลัวว่าจะโดนยัยผู้หญิงไร้ยางอายนี่พบเข้า
เมื่อถึงเวลานั้นเธอคงโดนหัวเราะเยาะไปตลอดชีวิตแน่!
ทั้งสองสาวต่างก็มีเหตุผลของตัวเอง ดังนั้นจึงต้องทนรับการโจมตีของเขาไป ใน
หม่ทั้งสามคน คนหนึ่งนั้นกำลังมีความสุขอย่างมาก ส่วนอีกสองนั้นไม่มีพลังงาน
มากพอที่จะพูดแล้ว ทำให้บรรยากาศกลายเป็นเงียบกริบ!
วู่หยานไม่กลัวว่าตนเองจะโดนสาวๆคนอื่นพบ ฮินางิคุกำลังพาอิคารอสกับแอสเท
รียไปไปช้อปปิ้ง พวกเธอไม่เหมือนวู่หยานที่สามารถอยู่บ้านได้ทั้งวันเหมือนฮิคิ
โคโมริ ดังนั้นนี่จึงเป็นเวลาที่เพอร์เฟคที่สุดสำหรับเขา ทั้งสถานที่และโอกาศมัน
ช่างเอื้อให้เขาก่อการร้ายจริงๆเชียว……
ถูกจับๆลูบๆนานเข้า ใบหน้าสองสาวก็ค่อยๆแดง ผิวเองก็เริ่มเปลี่ยนเป็นสีชมพู
เปล่งปลั่ง บางทีตอนนี้ถึงวู่หยานจะจับกดพวกเธอก็คงไม่มีแรงที่จะต่อต้าน!
ขณะที่วู่หยานเริ่มอดไม่ไหวกำลังจะล้วงเข้าในกระโปรงควีนซามะ ราวกับสวรรค์
ไม่อาจทนดูการกระทำของเขาได้อีกต่อไป ทันใดนั้นก็มีมนุษย์มีปีกบินลงมาจาก
เมษ ซึ่งนี่ได้ช่วยสองสาวไว้อย่างพอดิบพอดี!
“อันดับ3! อันดับ5! หือ สวยกันดีจริงๆ…….”
เพิ่งร่อนลงมาต่อหน้าทั้งสาม ผู้ชายคนนี้ก็พูดจาไม่เข้าหูแล้ว เขายกนิ้วเล่นผมสี
น้ำตาลของตัวเอง เขามีใบหน้าที่หล่อเหลา ทว่ามีจุดตำหนิอยู่หนึ่งอย่างคือใบหน้า
นั่นมันช่างกระตุ้นอารมณ์ให้คนที่เห็นอยากเดินเข้าไปตั๊นหน้ามันซักดอกเสียจริง!
เสียงดังเข้ามาในหูของทั้งสามคน ทำพวกเขาสะดุ้งก่อนจะหันไปมอง
ปีสามคู่ด้านหลังสั่นไหวเบาๆ ทำให้เจ้าของลอยอยู่กลางอากาศ มีขนนกบางส่วน
ร่วงลงมาที่พื้น ถ้าไม่ใช่เพราะเขาใส่ชุดของคนยุคนี้ทุกคนคงเข้าใจว่าอีกฝ่ายเป็น
เทวทูตแน่!
คาคิเนะ เทย์โทคุ : เลเวล69
คาคิเนะ เทย์โทคุ? นี่มันมาทำอะไรที่นี่?
เห็นชื่อบนหัวอีกฝ่ายผ่านทางระบบ วู่หยานก็หรี่ตาลงแล้วปล่อยตัวสองสาวอย่าง
เบามือ เมื่อเห็นเลเวลของคาคิเนะวู่หยานก็เบิกตาด้วยความงุนงง
เลเวล69? น้อยไปมั้ยวะ?
เลเวลขนาดนี้จริงๆก็ไม่ได้ต่ำเลย อย่างน้อยมันก็เลเวลมากกว่าวู่หยานที่ตอนนี้
เลเวล65 แต่มันก็แค่พลังต่ำกว่าที่เขาคาดการณ์ไว้ว่ามันเป็นแรงค์8 (@แรงค์8คือ
เวล71-79)
ทำไมถึงยังแค่แรงค์7?
วู่หยานมองคาคิเนะที่มีสีหน้าอวดดี ก่อนจะขมวดคิ้วเมื่อนึกถึงบางอย่าง
นี่หรือว่าเรา……ประเมินมันสูงไปเหรอ?…….
นาทีนี้เอง วู่หยานก็ฉุกคิดได้ว่านี่ยังไม่ใช่ร่างเวอร์ชั่นที่สมองตายไปแล้วซึ่งสามารถ
ต่อยตีกับแอคเซลาเรเตอร์ได้
นี่แสดงว่า เราประเมินมันสูงเกินไปจริงๆ!
คิดถึงตรงนี้ คิ้วที่ขมวดของวู่หยานก็ค่อยๆคลายออก คาคิเนะ เทย์โทคุ เลเวล69
ถึงแม้จะเป็นแรงค์7ขั้นสูงสุด แต่เขาก็ยังสามารถสู้ได้ แล้วนับประสาอะไรกับมิโค
โตะที่แข็งแกร่งกว่า นอกจากนี้ก็ยังมีโชคุโฮอยู่ด้วย!
ถึงจะเห็นแบบนี้ แต่ควีนซามาะก็เลเวล63เชียวนะเออ!
วู่หยานรู้จักคาคิเนะ แต่มิโคโตะไม่แต่เธอก็เคยเห็นชื่ออันดับสองมาก่อน พอเห็น
ชื่อที่ระบบส่งมาเธอก็แปลกใจ
“คาคิเนะ เทย์โทคุ สินะ? นายมาทำอะไรที่นี่มิทราบ?”
“คาคิเนะ เทย์โทคุ?” โชคุโฮมองผู้ชายที่ลอยอยู่บนฟ้าด้วยความสงสัย ก่อนจะพูด
ออกมาประหลาดใจ “เขาคืออันดับสอง ดาร์ค แมตเตอร์(สสารมืด) คนนั้นนะ
เหรอ?”
ได้ยินเสียงพูดเธอ คาคิเนะก็มวดคิ้วแล้วพูดออกมาด้วยความไม่พอใจ “ฉันมีชื่อว่า
คาคิเนะ เทย์โทคุ ดาร์ค แมตเตอร์ มันก็แค่ฉายาไม่ใช่ชื่อฉัน เพราะงั้นโปรด
เรียกชื่อกันให้ถูกด้วย!”
“คาคิเนะ เทย์โทคุ ผู้โด่งดัง ไม่ทราบว่านายมาที่นี่เพื่ออะไรกันแน่?”
วู่หยานไม่เชื่อว่าอีกฝ่ายแค่ออกมาเดิน(บิน)เล่นกลางเมือง ด้วยนิสัยของคาคิเนะ
การที่มันอุตสาถ่อมาถึงที่นี่ย่อมมีเป้าหมายแน่นอน!
จริงๆด้วย คาคิเนะมองมิโคโตะแล้วยิ้ม “ฉันมาหาเธอ อันดับ3!!”
ได้ยินแบบนี้ บรรยากาศวู่หยานก็เปลี่ยนไป สายตาที่มองคาคิเนะนั้นแฝงไปด้วย
ความอันตราย นี่ทำให้ใกล้กัน โชคุโฮ ที่เห็นเป็นอันต้องสับสน
วู่หยานไม่ได้หึงแน่นอน เขาแค่ตื่นตัวเพราะอีกฝ่ายไม่ได้มาด้วยเจตนาดี…….
“นายมาหาฉันทำไม?” มิโคโตะขมวดคิ้วแล้วถามออกไปตรงๆ
“ฉันมาขอร้องให้เธอช่วยธุระเล็กน้อยน่ะ!” คาคิเนะพูดยิ้มๆ ทว่าตอนที่พูดว่า
‘ขอร้อง’ ใบหน้ามันมันได้แสดงให้เห็นว่าถึงจะต้องใช้กำลังตนก็ไม่แคร์
“ฉันแค่ต้องการตัวอย่างเลือดเล็กน้อยจากเธอ!!”
ใบหน้าของวู่หยานกับมิโคโตะมืดมนทันที หน้าผากมิโคโตะเริ่มปรากฏประกาย
ไฟฟ้า จากนั้นพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชา “นายมาเพื่อเอาDNAของฉัน?”
“ถูกต้อง!” คาคิเนะไม่คิดที่จะปกปิดเป้าหมายแม้แต่น้อย เขายอมรับคำถามของมิ
โคโตะทันที โดยที่ไม่ได้สังเกตุเห็นสีหน้ามืดครึ้มของมิโคโตะ
“ฉันจำเป็นต้องใช้DNAของเธอเพื่อเป้าหมายบางอย่าง!!”
ได้ยินแบบนี้ วู่หยานก็คิดได้ทันที ไอ้เป้าหมายที่ออกมาจากปากคาคิเนะก็คือมัน
ต้องการพลังที่สูสีกับแอคเซลาเรเตอร์!
ไอ้ผู้ชายมีความทะเยอทะยานนี่ คงได้รับข้อมูลจากสักที่ว่าอเลสเตอร์กำลัง
ต้องการDNAของมิโคโตะ ดังนั้นจึงชิงตัดหน้ามาเอาก่อนเพื่อที่จะได้มีข้อต่อลอง
กับพวกคนระดับสูงสินะ?……
หรือบางทีนี้อาจจะเป็นแผนของอเลสเตอร์ก็ได้……
มิโคโตะก้มหน้าลงด้วยสีหน้ามืดมนที่อยู่หลังผมปกหน้า เธอกำหมัดแน่นโดยมี
ไฟฟ้าไหลไปมาไม่หยุดบนมือเธอ
“พวกแกทุกคน……” มิโคโตะเงยหน้าขึ้นแล้วตะโกนใส่เสียงดังว่า “เมื่อไหร่ถึงจะ
หยุด คิดใช้ฉันสักที!!!!”
สิ้นเสียงเธอ! คลื่นไฟฟ้าก็มาร่วมกันเป็นหอกที่มือเธอจากนั้นมิโคโตะก็ปาใส่คาคิ
เนะ ทว่าคาคิเนะที่ไม่ได้คิดว่ามิโคโตะจะตอบสนองแบบนี้ เขาจึงรีบเรียกดาร์ค
แมตเตอร์ออกมาด้านหน้าป้องกันหอกสายฟ้าของมิโคโตะ!
หอกถูกป้องกันได้ สีหน้าคาคิเนะกลายเป็นโกรธเกลี้ยว สายตาที่มองมิโคโตะเริ่มมี
จิตสังหารแล้ว
“ฉันสามารถตีความว่านี่คือการยั่วยุได้สินะ? อันดับ3!!”
มิโคโตะนั่นคลั่งจนเธอต้องระเยิดเสียงหัวเราะออกมา
“วิ่งมาถึงที่นี่แล้วเปิดปากบอกว่าต้องการDNAของฉัน คนที่เป็นฝ่ายมายั่วยุคือ
นายถึงจะถูก!!!”
คาคิเนะ ขมวดคิ้ว “มันก็แค่DNA จะอะไรกันนักน่า? แค่นี่ก็ถือว่ายั่วยุแล้ว?”
“ก็แค่DNAเหรอ?” มิโคโตะโกรธเข้าจริงๆแล้ว ความรู้สึกผิดต่อเหล่าน้องสาว รวม
ไปถึงความโกรธความแค้นใจที่มีต่อโปรเจคเลเวล6และพวกนักวิจัยของเมืองแห่ง
การศึกษา ที่เธอได้ซ่อนไว้ภายในใจได้ระเบิดออกมาทั้งหมดจากคำพูดไม่กี่คำของ
คาคิเนะ!!
มิโคโตะที่มีสีหน้ามืดมนได้พูดใส่คาคิเนะด้วยน้ำเสียงเย็นชาอย่างยิ่งยวดว่า “นาย
รู้มั้ยว่าไอ้ ‘แค่ดีเอ็นเอ’ ที่นายพูดน่ะ มันทำฉันเจ็บปวดจนหายใจแทบไม่ออก!!!”
ฟังน้ำเสียงปวดร้าวของมิโคโตะ คาคิเนะก็ขมวดคิ้ว ตอนแรกเขาคิดว่า ดีเอ็นเอ
ของมิโคโตะจะเป็นโอกาสของตัวเอง แต่เขาคิดไม่ถึงจริงๆว่าไอ้งานที่ควรสำเร็จ
ง่ายๆจะทำให้มิโคโตะแสดงท่าทีแข็งกร้าวขนาดนี้!
คิดชั่วครู่ จากนั้นปีกที่หลังของคาคิเนะก็สั่นเบาๆ แล้วเขาก็ประกาศว่า
“ในเมื่อเธอไม่ยอมมอบให้ดีๆ งั้นฉันก็แค่ต้องไปเอามันด้วยตัวเอง!!”