“เจ้ากระบี่ขั้นเทพ?” ผู้มาเยี่ยมเยือนร้านทำหน้าสับสน “ไม่!”
ท้องของหวังปู่เต๋ายังคงไม่พอใจเขาจึงเลือกที่จะซื้อขนมเผ็ดและโค้กขวดหนึ่งต่อจากอาหารหลัก เขาพูดพลางยื่นมือไปรับของว่าง “ข้ามาที่นี่เพราะข้าได้ยินว่าร้านของฟางฉีมีเทคนิคการควบคุมดาบ!”
“เทคนิคการควบคุมดาย?” โมเทียนซิงกล่าวซ้ำขณะซู้ดบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป “สาวน้อยรวนหนิงเล่าให้ข้าฟังเมื่อวันก่อน แต่ข้ากำลังยุ่งอยู่กับการเก็บเกี่ยวค่าประสบการณ์ในเกมเลยไม่ได้สนใจมันอย่างลึกซึ้ง ทำไมหรือ? มันมีพลังมากหรือเปล่า?”
“แน่นอน!” หวังปู่เต๋ายังคงเขินเมื่อนึกถึงเหตุการณ์เมื่อคืนวานที่ผ่านมา เขาเป็นถึงปรมาจารย์ผู้ปลูกฝังมาหลายร้อนปี แต่กลับไล่ตามเจ้าของร้านไม่ทันจนเสียเวลาและกำลังแรงร่วมหนึ่งคืน หากเล่าให้ใครฟังแล้วต้องไม่มีใครเชื่อแน่ๆ
เขาต้องได้เรียนรู้เทคนิคการควบคุมดาบซึ่งมันจะมีประโยชน์ต่อเขามาก ไม่ว่าจะถูกตามล่าหรือไล่ล่าหากได้เทคนิคแบบนี้มาแล้วมันต้องรู้สึกภูมิใจมากแน่!
สำหรับเวทย์มนตร์ที่มีพลังควบคุมสายฟ้าจากดาบของพระเจ้าได้ยินมาว่ามันสามารถเรียนรู้ได้จากที่นี่เช่นกันและแน่นอนเขาก็อยากได้เทคนิคนี้ด้วย
“เล่นเกมเจ้ากระบี่ขั้นเทพหรือไม่?” หวังปู่เต๋าถาม “เทคนิคในเจ้ากระบี่ขั้นเทพนั้นดีกว่าเทคนนิคการควบคุมดาบหรือ?”
“ข้าก็ไม่แน่ใจ เจ้าต้องถามสาวน้อยรวนหนิงคนนั้น” โมเทียนชิงส่ายตัวของเขาและโยนคำถามให้แก่รวนหนิง
หวังปู่เต๋าและคนอื่นๆ หันมองรวนหนิงด้วยความสงสัย
“ก็ไม่ทั้งหมด!” รวนหนิงกล่าว “ตอนข้าดูเรื่องกระบี่เทพสังหารไปสองสามตอนข้าก็พบว่าคาถาทางจิตวิญญาณนั้นมีพลังมากแต่ปัญหาคือ ..”
เธอทำคิ้วขมวด “ข้าไม่สามารถเรียนรู้ได้ในเวลาอันสั้น! เทคนิคการควบคุมดาบนั้นไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะเรียนรู้เช่นกัน! ข้าคิดเรื่องนี่มาเป็นเวลาหนึ่งคืนแต่ก็ยังไม่เข้าใจ มันมีวิธีการเรียนรู้ที่แตกต่างจากการควบคุมสิ่งประดิษฐ์ทางจิตวิญญาณซึ่งข้าคิดว่าคงต้องใช้เวลาสักระยะหนึ่งในการศึกษา!”
โมเทียนซิงพยักหน้าและพูดว่า “นั่นเป็นเรื่องจริง ข้าสามารถเรียนรู้คาถาจิตวิญญาณในเจ้ากระบี่ขั้นเทพได้อย่างรวดเร็วและทรงพลัง เพราะข้าใช้เวลากับมันซึ่งมันก็ดีสำหรับการต่อสู้”
“ดังนั้นความแตกต่างคือ ..” คนอื่นๆ เริ่มมีความคิดเห็นกับที่นี่มากขึ้น
“ข้าต้องไปแล้ว!” โมเทียนซิงปรุงบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปเสร็จพอดี “ข้าต้องรีบไปเก็บไอเทมและประสบการณ์ต่อก่อน”
“…”
ในไม่ช้าหวังปู่เต๋ากับผู้ฝึกฝนกลุ่มมังกรดำของเขาและหลิวหนิงหยุนพร้อมด้วยผู้ฝึกฝนจากหนานหัวก็ได้เริ่มแตะคอมพิวเตอร์เพื่อค้นหาประสบการณ์ตามคำแนะนำของฟางฉี
“เอาละ! อย่าหาว่าข้าไม่ดูและพวกท่าน ทำตามคำแนะนำของข้าปลูกผักก่อนหลังจากนั้นพวกท่านจะดูหนังหรือเล่นเกมก็ตามใจ แต่อย่าลืมกลับมาเก็บผักด้วยละ ..”
ภายใต้การแนะนำของฟางฉีพวกเขาเริ่มทำตามคำแนะนำตั้งแต่ปลูกผักตามขั้นตอนยาวไปถึงดูหนัง .. จากนั้นพวกเขาพบว่าเจ้าของร้านพูดคุยเกี่ยวกับเนื้อเรื่องทั้งในละครและเกมกับพวกเขา
อ่อที่ขาดไม่ได้เลย .. แน่นอนว่าฟางฉียังคงขโมยผักของพวกเขาเหมือนกับที่เขาทำกับคนอื่น
…
ขณะเดียวกัน ณ หุบเขามรณะในเม้งชงของเกมเจ้ากระบี่ขั้นเทพ หุบเขาแห่งนี้เป็นที่รู้จักกันดีในหมู่ผู้เล่น
ตามตำนานกล่าวว่านี่คืออุโมงค์ใต้ดินที่นำไปสู่หุบเขาไวเปอร์ที่นี่เต็มไปด้วยสัตว์เลื้อยคลานเช่นหนาน ตะขาบ ผู้คนที่เข้ามามักตกเป็นเหยื่อโดยไม่ตั้งใจ
วังจินเข้าถ้ำมาพร้อมกับคนกลุ่มใหญ่ “ท่านหัวหน้า! ข้าเคยเห็นชายคนนี้หลายครั้งแล้ว เขาน่าจะมีนามว่าซงซึ่งชายคนนี้น่าจะเป็นหัวขโมยที่ขโมยผักของท่าน!”
พวกเขาเห็นนักรบบางคนกำลังจัดการกับตะขาบอยู่ตรงหน้า พวกเขาจึงลองคลิ้กที่ตัวละครจึงพบว่าหนึ่งในนักรบนั้นมีนามว่า ‘อาจารย์น้อยซง’
…
ช่องพูดคุยของสำนักหลิงหยวนใน QQ
หลายคนร่วมตัวกันในห้องย่อยเล็กที่มีหัวชื่อว่า ลงโทษเจ้าของร้าน!
ซงฉิงเฟิงที่กำลังฆ่าตะขาบด้วยความเบื่อหันไปถาม “ศิษย์พี่ซูท่านเห็นเขาบางมั้ย?”
เขาควรจะเรียกเธอป้า แต่ทุกคนที่เรียกเธอว่าป้าจะถูกทุบตีอย่างไม่คณามือ
ซูเทียนจิตอบกลับว่า “ข้าจะส่งข้อความไปถามเจ้าเซียวก่อน!”
นาหลันหมิงสือกล่าวว่า “มีคนบอกว่าเจ้าของร้านได้ออกไปข้างนอกเมื่อวานก่อนและคาดว่าวันนี้เขาน่าจะกลับมาเล่น”
ใบลังเสริมว่า “ข้าค้นหาเขาในเมืองแต่ก็ยังไม่พบ”
ขณะเดียวกันซงฉิงเฟิงเห็นสายฟ้าสีน้ำเงินพุ่งเข้ามาทางเขา1 ก่อนที่เขาจะตอบสนองกลับด้วยสายฟ้า
ซงฉิงเฟิงที่โดนสายฟ้าถึงสองครึ่งนั่นส่งผลให้เลือดของเขาลดลงในทันตา เขาล้มลงเนื่องจากถูกตะขาบกัดอีกครั้ง!
“บ้าเอ้ย! ข้าถูกโจมตี” ซงฉิงเฟิงโวยวายใส่ QQ พลางเติมเลือด
“ตรงไหน!?” ผู้เล่นรวมตัวกันใน QQ ทุกคนดูกระตือรือร้นที่จะเอาชนะเจ้าของร้านอย่างเต็มที่
“พวกเราหลายคนอยู่ด้วยกันไหนดูสิ ใครจะกล้ายุ่งกับพวกเรา?”
“เราอยุ่ในหุบเขามรณะ!” หลินเซียวตะโกน
ซูเทียนจิถามว่า “มีกี่คน? ข้าอยู่ไม่ไกลจากพวกเจ้า!”
นาหลันหมิงสื่อเสริมทัพ “เราจะบินไปทันที”
ซีฉีกล่าวว่า “พี่ซงรอสักครู่นะ!”
“บ้าเอ้ย! พวกเขามีมากกว่าสิบคน” ซงฉิงเฟิงตะโกน
“ไปกันเถอะ!” พวกเขาบางคนเริ่มรู้สึกเบื่อหน่ายเพราะในแต่ละวันมีแต่เล่นเพื่อเก็บค่าประสบการณ์
นาหลันหมิงสือตะโกน “มีหลายคนรึ!? งั้นพวกเรามารวมตัวกันที่ทางเข้าหุบเขา!”
…
อีกฝั่งหนึ่งช่องพูดคุยของกลุ่มปีศาจดำใน QQ
วังจินตะโกน “ท่านหัวหน้า เจ้าคนที่ชื่อซงกำลังหนี!”
“ถ่วงเวลามัน!” ปีศาจดำตะโกนกลับ
“อ่า!” วังจินตะโกน “พวกเขาหนีไปได้”
หลินเซียวนำสกิลเทเลพอร์ตพร้อมสายฟ้าออกมา .. แสงสายฟ้าปรากฏขึ้นอย่างรวดเร็ว
“มารวมตัวกันที่ทางเข้าของหุบเขามรณะ!” นาหลันหมิงสือตะโกน
ในไม่ช้าผู้คนต่างไปรวมตัวกัน “ไปที่ตรงทางแคบๆ ข้างหุบเขา”
ไม่กี่นาทีต่อมานักรบประมาณสิบคน นักเวทย์และลัทธิเต๋าต่างจับกลุ่มกันเพื่อรวมตัวกันจัดการกับปีศาจดำ
“นั่นพวกเขาอยู่ตรงนั้น ไม่กี่คน!” ซงฉิงเฟิงรีบเขามาสมทบ
“ฆ่าชายคนนั้นที่มีชื่อว่า ‘ปู่จิน’” หลินเซียวตะโกน “เขาคนนั้นก็จะฆ่าข้าเหมือนกัน!”
“กำแพงไฟ! ใช้กำแพงไฟและยิงลูกไฟออกไป” ซูเทียนจิออกคำสั่ง
“นักรบมากับข้า!” นาหลันหมิงสือเอ่ย
ทันใดนั้นหุบเขามรณะที่มีบรรยากาศสลัวกลับสว่างไสวไปด้วยเปลวไฟและสายฟ้า!
เหล่านักเวทย์เปิดฉากด้วยการโจมตีครั้งแรกและตามด้วยนักรบ!
…
อีกฝั่งหนึ่งของปีศาจดำที่ไม่ทันตั้งตัว เขาตะโกนโวยวายในช่องพูดคุย “กลุ่มปีศาจดำของเรา มาที่หุบเขามรณะเดียวนี้ มาฆ่าพวกมันเร็วเข้า! ข้าต้องการกำลังเสริมด่วน!”