ฝั่งปีศาจดำในตอนนี้พวกเขามีลูกสมุนเพียงไม่กี่สิบคนขณะที่ฝั่งคู่ต่อสู้ของเขามีเกือบสามสิบคนโดยวัดจากสายตา พวกเขารีบหยิบเทเลพอร์ตออกมาทันที
“อ่า!”
เสียงตะโกนดังขึ้นจากการโจมตีดาบแทงเข้าที่แขนทำให้ใบเทเลพอร์ตตกลงพื้นทันที
“บ้าเอ้ย!” ปีศาจดำก้มลงกำลังจะเก็บแต่เขาเห็นนักรบหญิงคนหนึ่งปรากฏตัวต่อหน้าเขาใบหน้าของเธอยิ้มเยาะ “เจ้าต้องการเรียกใช้มันหรือ?”
แหวนต้านไฟ .. ปีศาจดำใช้แหวนต้านไฟเพื่อป้องกันตัว แต่กลับพบว่ามันไร้ประโยชน์
นาหลันหมิงสือจับเขา หลังจากนั้นสายฟ้าก็ผ่าลง!
นาหลันหมิงสือตะโกนกลับ “ท่านพี่ซู! ท่านควรจะระวังหน่อยมันเกือบโดนข้าแหน่ะ!”
“ข้าดูอยู่น่า!” ซูเทียนจิเปิดฉากด้วยระเบิดลูกไฟ ส่วนลูกสมุนจากกลุ่มปีศาจดำคนหนึ่งที่เหลือเลือดน้อยได้รับลูกหลงเข้าเขาจึงจากไปอย่างสงบด้วยเสียงกรีดร้องอันโหยหวน “อ๊ากกกก!”
“นั่นของตกหรือเปล่า?” ซูเทียนจิถาม
นาหลันหมิงสือหันมองพบเข้ากับคฆา “ไม้เท้าปีศาจลดระยะร่ายเวทย์ 2-5 อัตราการดรอปของบวก 1”
“ข้าไม่เคยเห็นไม้เท้าที่มาก่อนเลย!”
“มันมีคุณสมบัติสูงแถมยังเพิ่มอัตราการตกของไอเทม!”
อีกด้านหนึ่งซงฉิงเฟิงเองก็ได้กวาดล้างเหล่ากลุ่มปีศาจดำจนหมดสนามรบอย่างรวดเร็ว “เจ้าคิดอย่างไง? เราควรจะอยู่รอพวกเขาให้มาเพิ่มหรือไง?”
“กลับเมืองก่อนและตรวจสอบว่าทุกคนกลับไปครบ!” นาหลันหมิงสือเอ่ยห่วงทุกคน “นักเวทย์ที่เคยฆ่าพี่ซูของเราเขาคือหัวหน้ากลุ่มปีศาจดำจากทะเลดวงดาว ข้าเดาว่าถ้ามัวแต่รอพวกเขาต้องมาเพิ่มอีกหลายร้อยคนแน่!”
…
เวลาเดียวกันฟางฉีเองก็วิ่งไปหาเหล่าสมาชิกที่อยู่ในระดับต่ำเพื่อสบทบกับกลุ่ม เนื่องจากพวกเขาเพิ่งได้รับสกิลต่างๆ ซึ่งในตอนนี้ฟางฉีไม่ได้รับอีกเนื่องจากระดับของเขาเลยช่วงไปแล้ว
ดังนั้นเชาจึงย้อนกลับมาเพื่อช่วยสอนสกิลต่างๆ
“หัวหน้าสมาคม .. แสงแห่งมนตร์เสน่ห์สามารถสังหารผู้คุมเสือได้หรือ?” ซียือเอ่ยถามเพราะตอนที่เธอออกไปเก็บค่าประสบการณ์กับผู้คุมเสือเธอบังเอิญใช้แสงมนตร์เสน่ห์แต่นั้นกลับกลายเป็นการฆ่าผู้คุมแทน
“ใช่แล้ว ..” ในความเป็นจริงการใช้สกิลแสงมนตร์เสน่ห์มีผลข้างเคียงต่อผู้คุมเสือมากกว่าสัตว์ตัวอื่น ซึ่งมันเป็นเหตุผลว่าทำไมการใช้แสงมนตร์เสน่ห์ถึงทำให้ทีมนั้นอยู่แค่ระดับต่ำ
“หัวหน้าสมาคมเราจะอยู่ที่นี่เพื่อเก็บค่าประสบการณ์ต่อหรือไม่?” ตอนนี้ระดับของพวกเขาเพิ่มขึ้นถึงสองระดับแล้ว
“เรามาที่นี่เพื่อมาตามหาแตร” ฟางฉีตอบเขากำลังวางแผนจะยกระดับสมาคมในเกมและแตรคือไอเทมสำคัญ
แตรเป็นไอเทมหากยากซึ่งหากได้จากปีศาจวิลมะทรงพลังหลายคนมองเขาว่าเป็นเทพเจ้าผู้ยิ่งใหญ่ ซึ่งทำให้ผู้คนในเนื้อเรื่องเกมพยายามที่จะคืนชีพให้กับสมาคมของวิลมะอีกครั้งโดยการสละชีวิตคนถึงหมื่นคน
แม้ว่าหัวหน้าสมาคมวิลมะจะไม่สามารถเดินออกจากวัดหรือสถานที่ของเขาได้ แต่นั่นก็ไม่ได้เป็นผลต่อการทำลายล้างโลกมนุษย์ได้และยิ่งหากเขาได้รับความแข็งแกร่งกับคืนมาละก็ .. อย่าแม้แต่จะคิดสายฟ้าที่ถูกปล่อยออกมานั้นสามารถสังหารคนได้ง่ายดายราวกับบี้มด
มีเรื่องเล่ามากมายเกี่ยวกับหัวหน้าสมาคมวิลมะ หากเปรียบเทียบราชายักษ์กับหัวหน้าสมาคมวิลมะแล้วราชาศพนั่นง่ายราวกับปลอกกล้วยเลยก็ว่าได้
ฟางฉีที่นั่งอยู่ในร้านพร้อมด้วยลูกสมาคม “มาทางนี่สิ! นี่เป็นทางเขาชั้นที่สาม” เขาพูดในช่องพูดคุย
“หืม? ทำไมคนอื่นมาที่นี่เพื่อฆ่ากับเหล่าสัตว์ประหลาด?” ฟางฉีรู้สึกประหลาดใจเขารู้สึกเหมือนมีคนมาถึงที่แห่งนี้ก่อนเขา
ณ ใจกลางห้องโถงชั้นสามมีปีศาจขนาดใหญ่สองตัวมันมีปีกและเท้าของมันดูคล้ายกับกีบเท้าวัวมันกำลังพุ่งเข้ามาหาเขา
“ท่านเราควนทำไงกันดี!?” ซียื่อขมวดคิ้วขณะที่พวกมันกำลังพุ่งมา
“บ้าเอ้ย!” ฟางฉีสบถ เขากำลังจะเป็นแผนเพื่อมาในวันพรุ่งนี้
ก่อนที่เขาจะพูดอะไรจบร่างหนึ่งปรากฏขึ้น เหมือนกับว่าร่างนั้นเป็นผู้ควบคุมปีศาจใหญ่ทั้งสอง เขาตะโกนขึ้น “ออกไปจากที่นี่ซะ ที่นี่เป็นที่ของสำนักมังกรเผือก!”
รวนหนิง “…”
ซียื่อ “…”
ฟางฉีก้าวหลบการโจมตีของเป้าหมาย ด้วยแรงการชนที่ดุเดือดทำให้นักเวทย์ผู้ที่มาถึงก่อนล้มลง
“อ่า!” เมื่อมองไปยังข้างหลัง ใช่! หัวหน้าสมาคมวิลมะปรากฏตัวขึ้น
ตามมาด้วยเสียงกรีดร้องอันดังก้อง!
ฟางฉีที่อยู่ข้างหลังมองดูเหตุการปัดฝุ่นออกจากมือเขาก้มลงหยิบของที่ตกพื้นพบว่ามันเป็นของนักเวทย์คนหนึ่งที่มีชื่อว่าจือใบ
ณ หัวมุมร้านอินเตอร์คาเฟ่
“แม้งเอ้ย!” ผู้ฝึกฝนในชุดคลุมสีขาวระเบิดความโกรธ “ข้าถูกซุ่มโจมตีโดยนักรบฝาแฝด”
นักรบประมาณสิบคนกำลังเผชิญหน้ากับหัวหน้าสมาคมวิลมะที่เผยตัวออกมา
ไม่นานพื้นที่ข้างหน้าฟางฉีก็ปรากฏแสงสายฟ้าผ่าลงมาราวกับพายุ
“มาเลย! ข้าจะจัดการกับลัทธิเต๋าที่ชื่อว่าซือซุยหลงเอง!”
“คาถาสายฟ้า รักษาข้าที!”
“ทำได้ดีมากเรากำลังจัดการมัน!”
“…”
ในโลกแห่งความจริงกลุ่มผู้คนจากหนานหัวและมังกรดำที่กำลังดูหนังรู้สึกไม่สามารถอดกลั้นได้ต่อไป “ความวุ่นวายในนั้นคืออะไร?”
พวกเขามองเห็นว่าในหน้าจอมีแต่สายฟ้าและการต่อสู้เต็มไปหมด
“นั่นอะไร?”
…
ในช่องพูดคุยของกลุ่มปีศาจดำ
“บัดซบ! พวกมันหายไปแล้ว!” ปีศาจดำโวยวาย เขานำคนเกือบร้อยคนมายังหุบเขาแต่ศัตรูของเขาหายไปอย่างไร้ร่องรอย
ปรศาจดำคำรามด้วยความโมโห “โถ่เว้ย! ไม้เท้าของข้าตกไป!”
“เราใช้เวลาตั้งนานในการตามหามันและตอนนี้มันตกหายไป” วังจินกล่าวด้วยสีหน้าเซง “เราจะไปหามันเจออีกที่ไหน!?”
“แล้ว ..” สมุนคนหนึ่งเอ่ย “เราไม่ตั้งหาของในโลกแห่งความจริงละ”
“อืม .. เป็นความคิดที่ดี” ปีศาจดำตะโกนทันที “ประกาศให้ทราบข้าต้องการไม้เท้า และให้จัดการคนที่ชื่อซงฉิงเฟิง หากใครทำได้ข้าจะมอบรางวัลให้สี่แสนเหรียญ!”
ไม่นานนักช่อง QQ ที่เป็นช่องสาธารณะที่สามารถเห็นได้ทุกคนก็เต็มไปด้วยการแจ้งเตือน
การแจ้งเตือนเกี่ยวกับการล่าหัวและตามหาไม้เท้านั้นท่วมท้นจอจนดึงดูดความสนใจของผู้เล่นทุกคน ซงฉิงเฟิงที่มัวแต่ยกระดับ เพิ่งรู้ตัวไม่นานหลังถูกโจมตีโดยคนแปลกหน้า เขาดูการแจ้งเดือนพร้อมสบถด้วยความโมโห
ในช่อง QQ ของซงฉิงเฟิงในตอนนี้ เขาโวยวายอย่างหัวร้อน “ข้ามีราคาค่าหัว ข้าถูกล่า!”
นาหลันหมิงสือพูดว่า “ข้าด้วย!”
“…” ซูเทียนจิ
ในไม่ช้าพวกเขาก็ได้รับข้อความแสงความยินดีจากคนที่โกรธที่สุด “พวกท่าน ข้าต้องการเงินออกมาช่วยข้าหน่อยสิ!” ฟางฉีส่งรูปมาอาคิตะที่กำลังยิ้มเยาะ
พวกเขาทั้งสามพูดพร้อมกัน “เจ้าของร้านออกไปเดี๋ยวนี้!”
ขณะที่นาหลันหมิงสือเห็นชื่อของคนแปลกหน้าที่เพิ่งเพิ่มเข้ามาในรายชื่อเพื่อนของเธอ
องค์หญิงก็ทักถามเธอว่า “เจ้าต้องการความช่วยเหลือหรือไม่?”
“ฮึ!?”
ณ ห้องโถงราชายักษ์พื้นทหารองครักษ์ส่วนใหญ่หลายคนได้รับคะแนนทักษะไม่ต่ำกว่าร้อยละเจ็ดสิบของการสังหารในครั้งนี้
ยูจิถามพวกเขาว่า “พวกเจ้าต้องการจัดการพวกขณะจากทะเลดวงดาวมั้ย?”
“ใช่!”
“ข้าได้วางแผนที่จะกำจัดเหล่าขยะจากทะเลดวงดาว”
“ข้าเริ่มเบื่อที่จะเก็บค่าประสบการณ์เดิมๆ ทุกวัน”
หลังจากนาหลันหมิงสือได้รับข้อความจากจียูแล้วเธอก็ถามกลับว่า “เจ้ามีกันกี่คน?”
“สามร้อย” จียูส่งอิโมจีกดไลค์มาให้ “แต่ถ้าเจ้าต้องการอีกข้าสามารถเรียกมาเพิ่มได้อีกเกือบสองพันคน”
นาหลันหมิงสือนิ่งไปรู้สึกว่าแทนที่จะเอาเวลาไปฝึกทหารกลับเอาเวลามารับมือกับความขุ่นเคืองในเกม
“ตกลง!” เธอตกลงทันที
ขณะเดียวกันจีวูก็กำลังรับฟังข่าวกรองลึกลับในมือเขา “ข้าจะไปดูท่านอาจารย์หลัน”
ด้านฝั่งของรายงายข่าวกรองลับมีข้อความว่า [หยุนเตียนระดับสูงได้ส่งกองทหารมายี่สิบหองพร้อมด้วยเรือรบและเรือขนส่งทางจิตวิญญาณอีกร้อยลำ!]