ที่มุมตะวันออกเฉียงใต้ก็มีหนุ่มสาวหลายคนมารวมกันแล้ว จับกลุ่มกัน3-5คน กำลังคุยเล่นกันสนุกสนานกันตามประสาวัยรุ่น

คนส่วนใหญ่เฉินโม่ไม่รู้จัก แต่ก็มีนักเรียนที่มาจากโรงเรียนตี้ยีแห่งอู่โจวเหมือนกัน เฉินโม่คุ้นๆ ตา แต่ไม่รู้จักชื่อ น่าจะเป็นเพื่อนที่สนิทของยานเอ๋อร์

เฉินโม่ก็หามุมที่เงียบๆ นั่งลง ไม่ได้ตั้งจะออกห่างจากคนอื่น แต่เพราะเฉินโม่ชอบความเงียบสงบ

มีผู้หญิงใส่แว่นคนหนึ่ง จำเฉินโม่ได้ “พวกเธอดูสิ นั่นเฉินโม่ไม่ใช่หรือ? เขาก็มาด้วยหรือนี่!”

ผู้หญิงคนนี้เป็นเพื่อนห้องเดียวกันกับมู่หรงยานเอ๋อร์ เพื่อนแบบสนิทกันดี ชาติตระกูลก็ไม่เลว รู้ว่ามู่หรงยานเอ๋อร์เป็นคนของตระกูลมู่หรงแห่งเจียงหนาน ที่มางานวันเกิดของมู่หรงยานเอ๋อร์ครั้งนี้ ก็ถือโอกาสมาประจบสอพลอตระกูลมู่หรงด้วย

ผู้ชายอีกคนข้างๆ ก็ยิ้มเย็น “ไอ้คนไม่เอาไหนอย่างเฉินโม่ก็ยังจะกล้ามางานวันเกิดของยานเอ๋อร์อีกนะ มันก็ไม่ตักน้ำใส่กะโหลกชะโงกดูเงาตัวเองเสียบ้าง ว่ามันคู่ควรไหม? มันคิดว่าที่นี่เป็นโรงเรียนหรือไง? คิดว่าตัวเองเป็นใคร!”

ผู้ชายคนนี้ก็เป็นเพื่อนห้องเดียวกันกับมู่หรงยานเอ๋อร์ ชื่อว่า หยูเจียหาว ชาติตระกูลไม่เลวตามจีบมู่หรงยานเอ๋อร์ตลอด เฉินโม่กอดยานเอ๋อร์ในงานเฉลิมฉลองโรงเรียน ทำให้เขาเกิดความอิจฉา คิดว่าเฉินโม่เสียมารยาทกับสาวงามของเขา

เดิมทีก็คิดจะไปหาเรื่องเฉินโม่ที่โรงเรียน แต่ว่าเฉินโม่ลาเรียน ก็เลยทำให้หยูเจียหาวหัวเสียนานพอสมควร ในที่สุดครั้งนี้ก็ได้โอกาส ก็เลยจะเล่นงานเฉินโม่

เหล่าคุณชายคุณหนูรวยๆ ทั้งหลายในเจียงหนานโดยรอบ ได้ดังนั้นก็หันไปถามเรื่องเฉินโม่กับหยูเจียหาว

พอรู้ว่าเฉินโม่เป็นนักเรียนที่เพิ่งย้ายมาเรียนจากอำเภอเล็กๆ แห่งหนึ่ง แถมยังสอบได้ที่สุดท้ายของโรงเรียนตลอด3ปี สิ่งที่ทำให้ทุกคนโมโหก็คือ เขาไปกอดมู่หรงยานเอ๋อร์ในงานเฉลิมฉลองโรงเรียน ผู้ชายในงานแทบทั้งหมดมีสายตาที่มองเฉินโม่มา ล้วนมีแต่ความดูถูก

พวกผู้หญิงก็ค่อนข้างเสียดาย พากันส่ายหัว ผู้หญิงสะสวยอย่างมู่หรงยานเอ๋อร์ จะไปชื่นชอบผู้ชายที่ไม่เอาไหน หล่อก็ไม่หล่อ ชาติตระกูลก็ไม่ดี ความสามารถอะไรก็ไม่มีอย่างเฉินโม่ได้อย่างไร?

สักพัก พวกอานเข่อเยว่กับหยางเชี่ยนเชี่ยนก็มาถึง ถูกพนักงานเชิญเข้ามาในงาน

ผู้หญิงคนที่ใส่แว่นก็ตะโกนออกมา “พวกเธอดูสิ พวกเจิ้งหยวนฮ่าวมากันแล้ว ฮ่าๆ ทีนี้ล่ะ มีละครสนุกๆ ให้ดูแล้ว”

หยูเจียหาวก็ตาเป็นประกาย เหลือบมองเฉินโม่ แล้วก็เผยรอยยิ้มเย็นๆ ที่คิดร้ายออกมา

“พี่ฮ่าว!ทางนี้!” หยูเจียหาวเคยคบค้าสมาคมกับเจิ้งหยวนฮ่าวบ้าง เลยโบกมือเรียก

เจิ้งหยวนฮ่าวก็ให้ความสำคัญกับตระกูลของหยูเจียหาวพอสมควร และมีใจที่จะคบค้าสมาคมกับหยูเจียหาว ก็เลยยิ้มเดินเข้ามา “เจียหาว มาเหมือนกันหรือ”

เจิ้งหยวนฮ่าวชี้ไปทางพวกของอานเข่อเยว่ แล้วยิ้มแนะนำว่า “นี่คือ เข่อเยว่ เชี่ยนเชี่ยนแล้วก็จางเสี่ยนเป็นเพื่อนโรงเรียนเดียวกัน ไม่ต้องแนะนำอะไรมากหรอก!”

“ไม่ต้องครับๆ ดาวโรงเรียนพวกเราจะไม่รู้จักได้อย่างไร? น้องจางแล้วก็สาวสวยแซ่จางเพื่อนสนิทของยานเอ๋อร์ พวกคุณล้วนเป็นคนดังในโรงเรียนตี้ยีแห่งอู่โจว ผมจะไม่รู้จักได้อย่างไร?” หยูเจียหาวคุยเก่ง คำพูดเดียวก็ทำให้หยางเชี่ยนเชี่ยนหัวเราะออกมาเลย

“คุณชายหยูต่างหากที่เป็นคนดังของโรงเรียนเรา พวกเราไปเทียบกับนาย ยังห่างอีกแสนแปดหมื่นลี้” หยางเชี่ยนเชี่ยนพูดด้วยใบหน้าดีใจ

มุมปากของหยูเจียหาวก็โค้งอย่างแปลกๆ ยิ้มพูดถ่อมตัวว่า “ใช่ที่ไหนกันล่ะครับ ถ้าจะพูดถึงคนดังในโรงเรียนเรา ผมไม่กล้ารับไว้หรอก แต่ว่ามีคนหนึ่งที่ชื่อเสียงโด่งดัง ไม่มีใครที่ไม่รู้จัก!”

เจิ้งหยวนฮ่าวกับอานเข่อเยว่ก็กระตุกสายตา มองไปยังหยูเจียหาว รู้สึกว่าเขาพูดเป็นนัยๆ

“ใครกัน!ทำไมฉันถึงไม่รู้เลยว่าโรงเรียนเรามีคนแบบนี้ด้วย?” หยางเชี่ยนเชี่ยนถามอย่างไม่หัวเสีย

“ก็คนไม่เอาไหนแห่งโรงเรียนตี้ยีแห่งอู่โจว สอบเข้ามหาวิทยาลัยได้คะแนนแย่สุดในโรงเรียน3ปีซ้อน ทั้งเมืองอู่โจวมีใครบ้างไม่รู้จัก?” หยูเจียหาวยิ้มพูด

หยางเชี่ยนเชี่ยนถึงบางอ้อทันที แล้วก็หัวเราะตาม “ฮ่าๆ ที่แท้ก็พูดถึงเฉินโม่นี่เอง ใช่ๆๆ เฉินโม่เป็นคนดังจริงๆ !”

“อ๋อแล้วก็ เฉินโม่บอกว่าวันนี้จะมาเหมือนกันไม่ใช่หรือ? ทำไมยังไม่เห็นเลย?”

หยูเจียหาวก็ยิ้มแปลกๆ ทำปากจู๋ชี้ไปทางฝั่งที่เฉินโม่นั่งอยู่ “นู่นแน่ะ อยู่ตรงนั้นไม่ใช่หรือไง?”