แดนนิรมิตเทพ บทที่ 453
พวกหยางเชี่ยนเชี่ยนก็หันหลังไปมอง ก็เห็นเฉินโม่นั่งหลับตาทำสมาธิอยู่ที่มุมเงียบๆ ตรงนั้น

“เฉินโม่มาจริงๆ ด้วย!” หยางเชี่ยนเชี่ยนตกใจเอามือลูบอก พูดเบาๆ ว่า “เขาคงไม่ได้ยินสิ่งที่ฉันพูดหรอกมั้งนะ?”

หยูเจียหาวก็หัวเราะเย็น “ได้ยินแล้วยังไง? หมอนั่นก็แค่คนไม่เอาไหนเท่านั้นเอง!ต้องกลัวคนอื่นเขาพูดนินทาด้วยหรือไง?”

หนุ่มสาวในพื้นที่มณฑลเจียงหนานก็มองไปยังเฉินโม่ หัวเราะเยาะใส่กันหมด สีหน้าดูถูกเหยียดหยาม

“ไอ้กระจอกคนหนึ่ง คิดจะมาจับคุณหนูมู่หรงยานเอ๋อร์ กระต่ายหมายจันทร์ ฝันไปเถอะ!”

เจิ้งหยวนฮ่าวกับอานเข่อเยว่ก็มองเฉินโม่ อดที่จะขมวดคิ้วขึ้นมาไม่ได้พวกเขานึกว่าตอนนั้นเฉินโม่ได้รับคำเชิญจากมู่หรงยานเอ๋อร์ ก็แค่รับปากไปอย่างนั้น คิดไม่ถึงว่าจะมาจริงๆ !

เจิ้งหยวนฮ่าวก็ไม่พอใจ สายตาก็เผยความเยาะเย้ยออกมา “เฉินโม่นะเฉินโม่ อยู่ในโรงเรียนอาจจะอาศัยการต่อสู้ของตนเองให้มีหน้ามีตาได้หน่อย แต่พอมาเข้าสังคมแบบนี้ มึงจะรู้ว่ามึงแม่งไม่มีอะไรดีสักอย่างเลย”

“ครั้งนี้มึงกล้ามางานเลี้ยงวันเกิดครบ18ปีของคุณหนูตระกูลมู่หรง ช่างเป็นการหาเรื่องให้ตัวเองอับอายแท้ๆ !”

เจิ้งหยวนฮ่าวก็มองหยูเจียหาวที่ยิ้มเยาะอยู่ แล้วก็พวกคนในพื้นที่มณฑลเจียงหนาน พวกลูกคนเศรษฐีที่มีสีหน้าไม่เป็นมิตร มุมปากล้วนเผยรอยยิ้มร้ายๆ ออกมา “ต่อให้กูไม่ลงมือ เดี๋ยวก็มีคนลงมือเอง”

ใบหน้าสวยๆ ของอานเข่อเยว่บึ้งลง มองดูท่าทางที่ไม่สนใจโลกของเฉินโม่ อานเข่อเยว่ก็โมโหขึ้นมาในใจ

ในสายที่แปลกใจของทุกคน อานเข่อเยว่ก็เดินเข้าไป

เฉินโม่รู้สึกว่ามีคนเดินเข้ามา ก็ค่อยๆ ลืมตาขึ้น กวาดมองไปทางอานเข่อเยว่ ก็ทำหน้าเหมือนเห็นคนแปลกหน้า แล้วก็หลับตาต่อเหมือนเดิม

อานเข่อเยว่ก็หายใจแรง ในใจโกรธเล็กน้อย “ท่าทางแบบนี้อีกแล้ว ทำไมนายถึงได้เอาแต่ทำท่าไม่สนใจโลกแบบนี้? นายทำไปเพื่ออะไร?”

ใบหน้าของอานเข่อเยว่เย็นชากว่าเก่า เสียงก็ขรึม “เฉินโม่ นายไม่ควรมาที่นี่ ฉันขอเตือนว่าให้เลิกยุ่งกับยานเอ๋อร์เสียเถอะ ไม่อย่างนั้นนายก็จะหาความอับอายมาใส่ตัวเปล่าๆ”

เฉินโม่ทำอะไรไม่ได้ต้องลืมตาขึ้น ขมวดคิ้วมองอานเข่อเยว่ “ผมทำอะไรผมรู้ดี ไม่ต้องให้ใครมาเตือน คุณไปเสียเถอะ ไม่ต้องมารบกวนผม”

อานเข่อเยว่ยืนนิ่งอยู่ที่เดิม สีหน้าก็ยิ่งบึ้งมากกว่าเดิม “เฉินโม่ ฉันไม่เข้าใจนะว่าทำไมนายชอบอวดเก่งเหลือเกิน นายรู้หรือเปล่าว่าคนที่มาที่นี่ในวันนี้ล้วนเป็นใครบ้าง? ต่อให้นายใช้ตัวตนทายาทของเหม่ยหวา กรุ๊ป ก็เกรงว่าคงจะไม่ทำให้คนอื่นเขามองนายดีได้หรอก”

“หยูเจียหาวได้เล่าเรื่องของนายกับยานเอ๋อร์ให้พวกลูกเศรษฐีของมณฑลเจียงหนานฟังหมดแล้ว ตอนนี้พวกเขาล้วนมองนายว่าเป็นศัตรูของทุกคนหมดแล้ว พวกเขาแต่ละคนล้วนมีชาติตระกูลที่แข็งแกร่งกว่านาย คนมากมายรวมตัวกันเล่นงานนาย ต่อให้นายเอาเหม่ยหวา กรุ๊ปมาสู้ก็ช่วยอะไรไม่ได้”

“ฉันขอเตือนครั้งสุดท้ายนะ รีบออกไปเสีย อย่าคิดอะไรเกินเลยกับยานเอ๋อร์อีก เธอไม่ใช่คนที่นายจะยุ่งเกี่ยวด้วยได้”

อยู่ดีๆ เฉินโม่ก็หัวเราะ มองอานเข่อเยว่แล้วก็ถอนหายใจ “ทำไมเธอถึงมีท่าทางที่คิดเองเออเองตลอดเวลาเลย?”

“ผมบอกเธอไปนานแล้ว ว่าผมมองว่ายานเอ๋อร์เป็นน้องสาว ที่มาครั้งนี้ก็เพื่อจะมาให้ของขวัญยานเอ๋อร์เท่านั้น เธออย่ามาคิดมากที่นี่เลยได้ไหม?”

“อีกอย่าง ผมจะทำอะไร จะต้องให้เธอมาเสือกด้วยอย่างนั้นหรือ?”

อานเข่อเยว่ไม่เชื่อคำพูดของเฉินโม่ พูดด้วยสีหน้าโกรธเกลียดมาก “นายก็ยังหัวดื้อ เฉินโม่ เมื่อไหร่นายจะโตสักที มองดูรอบๆ สิ ที่นี่มีใครบ้างที่ไม่มีเงินทองเป็นพันล้าน แต่ต่อหน้าตระกูลมู่หรง พวกเขาต้องถ่อมตัวยิ้มให้ ส่วนนาย เอาเหม่ยหวา กรุ๊ปมารวมด้วย ก็ยังสู้พวกเขาไม่ได้สักคนเลย นายจะเอาอะไรไปสู้?”