“เฮ้! ไม่สนุกเลย!” ในคาเฟ่ที่จิวหัวตอนนี้ ซงฉิงเฟิงถอดหูฟังออกและถอนหายใจด้วยความเบื่อ “ทำไมคนจากทะเลดวงดาวถึงหยุดต่อสู้ง่ายขนาดนี้ ข้าคิดว่ามันจะยืดยาวสักอีกหน่อย!”
“พวกเขาต้องล่าถอยก่อน” หลินเซียวกล่าวอย่างมีเหตุผล “สิ่งของของพวกเขาตกอยู่แทบทุกที่ หลายคนไม่มีทักฝาะที่พร้อมดังนั้นพวกเขาจึงไม่สามารถดำเนินการต่อสู้ต่อไปได้”
“กลับไปเก็บผักกันมั้ย?”
ข้างๆเขาคือนาหลันหมิงสือและหลันยันพวกเธอทั้งสองตะโกนย้ำ “ไปเก็บผักกันเถอะ!”
เฉินชิงชิงสีหน้าดูกังวลเล็กน้อย “เจ้าของร้านจะมาขโมยผักจากพวกเราอีกมั้ย?”
นาหลันหมิงสือพูดเบาๆ “ข้าละกลัวว่าเขาคงจะไม่กล้ามาอีกแล้ว!”
“อ๊ะ?” เฉินชิงชิงและคนอื่นๆ มองเธอด้วยความประหลาดใจ
“ข้าซื้อหมามาเมื่อวานนี้” เธอตอบพร้อมอธิบาย
“เจ้ามีเงินมากพอขนาดนั้นเลยหรอ?” เฉินชิงชิงถามเนื่องจากมันใช้เงินไม่น้อย
“เธอซื้อตัวเล็ก” หลันยันอธิบาย “ข้าลองดูแล้วเหมือนกันมันบอกว่าเจ้าหมาตัวนนี้จะดุร้ายเหมือนหมาป่าเมื่อมันโตขึ้น มันน่าจะเพียงพอในการใช้เฝ้าสวน”
“จริงหรอ?” เฉินชิงชิงพูดด้วยความขุ่นเคืองใจ “ข้าละหวังว่ามันจะกัดเขา อยากจะรู้จริงๆ ว่าเขาจะกล้ามาขโมยผักของเราอีกมั้ย!?”
“เจ้าซื้อหมาด้วยมั้ย?” ดงชิงลี่ที่ยืนอยู่แถวนั้นได้ยินพวกเขากำลังคุยกันถามขึ้น “มันน่ารักมั้ย? หรือหน้าตาดูโง่เหมือนกับหมาของเจ้าของ?”
“อืม ..” นาหลันหมิงสือตอบว่า “มันก็ดีนะ”
“มันน่ารักมากๆ” หลันยันเสริม “มันยังเด็กและขี้เล่น เจ้าอยากมาดูมั้ย?”
“ความคิดดี!”
สาวๆ หลายคนนั้นกดยอมรับคำเชิญในคิวโซนของนาหลันหมิงสือ
“หมาของนาหลันหมิงสือนั้นเชื่อฟังดีนะเว้นแต่ว่ามันชอบกัดแทะไปหน่อย ..” หลันยันบอกพวกเขาด้วยความตื่นเต้น “อ้อพวกมันอ้วนและน่ารักมากๆ”
ขณะที่พวกเธอกำลังเดินเข้าไปในสวนของนาหลันหมิงสือ “หยวนหยวน!”
พวกเธอเห็นนาหลันหมิงสือทำท่าสงสัย
ผักทั้งสอนของเธอในตอนนี้ถูกทำลายราวกับว่ามันโดนพายุพัดถล่ม .. เกิดอะไรขึ้น!?
“เจ้าหมาอยู่ไหน? คนร้ายนั้นเจ้าของร้ายใช่มั้ย?” หลันยันมีทีท่าเป็นห่วง
เจ้าหมาหน้าเซ่อซ่าสีดำและขาวนั่งอยู่กับพื้น มันกระดิกห่างและวิ่งพุ่งเข้าหาเจ้าของทันทีเมื่อเห็น “หืม?” ผักห้อยลงมาจากปากของมัน นาหลันหมิงสือมองด้วยความประหลาดใจ เธอจะตีมัน!
เมื่อมองหน้าเจ้าหมาก็ทำท่าไร้เดียงสาราวกับว่าจะขอคมจากเธอว่า ‘หนูละเลงบ้านแม่จนยุ่งเหยิงไปหมดแล้วนะฮะ’
ขณะเดียวกันเสียงปี๊ปเตือนใน QQ ก็ดังขึ้น ซึ่งข้อความนั้นมาจากฟางฉี [นี่เจ้าซื้อฮัสกี้น้อยมาตั้งแต่เมื่อไรน่ะ? มันน่ารักสุดๆ]
จากนั้นเขาส่งรูปภาพที่เขากำลังโอบหัวผักกาดและเจ้าฮัสกี้ไปพร้อมกัน [มันน่ารักมากแถมช่วยข้าดึงหัวผักกาดอีก]
นาหลันหมิงสือผู้เยือกเย็นเริ่มจะถึงจุดเยือกแข็ง!
“ฮ่าๆๆๆๆ” ฟางฉียังคงส่งเจ้าหมาอาคิตะหน้ายิ้มเยาะของเขากลับมา “โชคดีนะ!”
[อ้อข้าจะบอกเจ้าให้อย่างนึง เจ้าฮัสกี้ของเจ้าน่ะมันเล่นกับข้าด้วย] .. เธอกล้าดียังไงใช้ฮัสกี้เฝ้าบ้าน เขาคิดในใจ
.. ในเขตคิวโซนของนาหลันหมิงสือ
“เจ้าหมาน่ารักมากๆ” ดงชิงลี่เอ่ยชมพลางอุ้มมันขึ้นมากอด
“ดูหน้ามันสิ น่ารักจัง”
“มันน่าตาน่ารักกว่าหมาของเจ้าของอีก!”
“หมาของฟางฉี?” หลันยันทำหน้างง
“ก็ภาพที่เขาใช้ส่งทุกวันไง”
หลันยันสูญเสียคำพูด ในใจของเธอคิดไม่ตกทุกครั้งที่เจ้าของส่งรูปหมาไม่เขาขโมยผักก็ต้องทำอะไรที่ไม่ดีแน่ๆ
“ฮ่าๆๆๆ” เธอหัวเราะอย่างหนักกับสิ่งที่คิดในหัว
…
ไม่แปลกที่เหล่าสาวๆ จะคิดเรื่องร้ายๆ เกี่ยวกับเขาในหัวเพราะมันคือเรื่องจริง! แต่เจ้าตัวก็ยังคงไม่รู้ตัวและนั่งดูรายการในร้านค้าด้วยความเพลิดเพลิน
เขาจำได้ว่ามีคนสามารถซื้อคอมพิวเจอร์และเกมอย่างสตีทไฟเตอร์ในนี้ได้ มองดูจากราคาเหรียญแล้วเขาพบว่าคอมพิวเตอร์มีราคาแพง แต่เขาก็พอมีเงินจากการปลูกผักและขโมยคนอื่น แต่เมื่อซื้อคอมพิวเตอร์มาแล้วในตอนนี้เขากลับพบว่าเขาไม่มีเงินเหลือพอที่จะซื้อเกม!
วัตถุเพื่อความบันเทิงล้วนมีราคาค่อนข้างถูก เว้นแต่เกมสตีทไฟเตอร์มันมีราคาค่อนข้างแพงพอตัวเนื่องจากสามารถปลดล็อกคุณสมบัติใหม่หลังจากทำตามเงื่อนไขบางประการ
ในตอนนี้ฟางฉีเองจึงเลือกที่จะเล่นเกมเล็กๆ ราคาถูกๆ แก้ขัดไปก่อนอย่างไพ่โป๊กเกอร์ และคนล่าสุดที่ฟางฉีคุยคือนาหลันหมิงสือ เขาจึงส่งข้อความไปชวนเธอ [มาเล่นไพ่กันมั้ย?]
(ผู้แปล : Dou Dizhu โต้วตี้จู่ เป็นไพ่ที่นิยมเล่นกันในจีนจากที่แอดหาข้อมูลคิดว่าน่าจะเป็นเกมคล้าย สลาฟ)
“คืออะไร?”
[มันเป็นเกมเล็กๆ ทดสอบไหวพริบของผู้เล่น]
[ทดสอบไหวพริบ? เห็นได้ชัดว่าเจ้าต้องการกระตุ้นอารมณ์ข้า!]
[บ้าน่า!]
…
อีกฝั่งหนึ่ง ซูเทียนจิที่นั่งหน้าจอคอมกำลังมองเวลาที่เหลือเพียงสิบนาทีเธอจึงเลือกที่จะเข้าไปนั่งผ่อนคลายในคิวโซน เธอนอนเหยียดยาวอยู่บนเตียง
“เกิดอะไรขึ้นกับข้า? ข้าไม่ต้องการฝึกฝนหรือต่อสู้ ..”
เธอกลิ้งไปมาและลุกขึ้น อยู่ๆ เวลาการเล่นก็ใกล้จะหมดลงและเธอเองก็รู้สึกเบื่อกับชีวิตในตอนนี้ เธอรู้สึกว่าเหมือนกับต้องไปออกรบในไม่กี่วัน “บ้าเอ้ย!” เธอสบถ พักนี้คงมีเรื่องให้เธอวิตกกังวลคิดเยอะ ตอนนี้เธออยากแค่หลับหนีเรื่องราวไป
แต่จู่ๆ ฟางฉีก็ส่งข้อความมาหา [เล่นไพ่ด้วยกันมั้ย?]
[มันคืออะไร?] ซูเทียนจิถามกลับ
[มันเป็นเกมเล็กๆ เพื่อทดสอบไหวพริบผู้เล่น] ฟางฉีตอบอย่างตรงไปตรงมา [มาเลยข้าจะเรียกซงฉิงเฟิงและคนอื่นๆ ด้วย!]
[อีกสิบนาทีจะหมดเวลาข้าเล่นอะไรได้บ้าง?] ซูเทียนจิรู้สึกไม่สนใจเท่าไรนัก
[ไม่ต้องกังวล เราสามารถเล่นได้หลายรอบภายในสิบนาที!]
[หืม? จริงเรอะ?]
[มามามามามา!]
หลังจากนั้นฟางฉีอธิบายกฎเกณฑ์การเล่นให้พวกเขาฟัง พวกเขาเรียนรู้เกมอย่างรวดเร็วในไม่ช้าเสียงก็ดังขึ้นในห้องพูดคุยของฟางฉี
“ข้าเป็นคิง!”
“หึ โดนแน่!”
“สามใบหรอ?”
“ผ่าน!”
“…”
…
“เกมนี้มันสนุกยังไง?” เซียวหยูยืนพึมพำขณะที่ดูพวกเขาเล่น “มันดูซับซ้อนไป ..”
วันรุ่งขึ้นเซียวหยูที่มาคาเฟ่แต่หัววันนั่งลงบนโซฟาพร้อมกับชุดการ์ดเดียวกันกับที่เจ้าของร้านเล่นเมื่อวานนี้
“มาเลย! มาเล่นกันเถอะ ใครก็ได้ที่กำลังรอคอมพิวเตอร์หรือหมดเวลาเล่นแล้วมาเล่นกับข้าได้!”
ขณะเดียวกันฝั่งฟางฉีนั่นเขากำลังนับเหรียญรางวัลของเขา “ถ้าข้าเล่นชนะอีกสองวัน ข้าก็จะสามารถมีเงินพอจะซื้อเกมสตีทไฟเตอร์ ..”
ตอนนี้ QQ ของเขาเต็มไปด้วยข้อความ [เจ้าของร้ายนิสัยไม่ดี คืนเงินที่หายากของเรามาเดี๋ยวนี้!]
“…”