บทที่ 96 จะแต่งกับเทาเท

อยากง้อเหรอ คุณสามี(เก่า)

เทาเท่คิดไม่ถึงว่าหลินจือจะไม่อยู่บ้าน เขาอิงจากลักษณะนิสัยของเธอที่ว่าหลังจากย้ายกลับมาแล้วก็ยังคงเขียนบทที่บ้านต่อ

ตอนนี้ชัดเจนแล้วว่าเธอไม่ได้อยู่บ้าน เขาก็ทำได้แค่ลงมาด้านล่างแล้วออกไป

ข้อความที่หลินจือถามว่าเขามีอะไรนั้น เขาคิดอยู่สักพักก็เลือกที่จะไม่ตอบกลับ ก็ถือว่าเขาไม่ได้ส่งข้อความก่อนหน้านี้ก็แล้วกัน

ในเวลานี้เขาก็สงบลงแล้ว รู้สึกว่าตัวเองนั้นมาหาหลินจืออย่างกะทันหัน เพื่อมากินบะหมี่ต้มหนึ่งชาม ค่อนข้างที่จะไม่เหมาะสม ดูเหมือนเห็นได้ชัดว่าเขานั้นคิดถึงเธอมากแค่ไหน

หลินจือรออยู่สักพักก็ไม่ได้รับคำตอบกลับจากเทาเท่ ก็ให้รู้สึกโล่งใจ

ยังดีที่เขาไม่ตอบ ไม่งั้นแล้วเธอไม่รู้จริงๆว่าจะเผชิญหน้ายังไง

ค่ำคืนนี้หลินจือมีความสุขมากที่ได้ปาร์ตี้กับนานิและควีน ซูซีกลับอาละวาดจากหน้ามือเป็นหลังมือ

คืนนี้ซูซีตั้งใจกลับมาที่บ้านของพ่อแม่ เพียงเพื่อรอให้หลังจากที่เบลซกับเทาเท่ให้คำตอบกับเธอ

ซูซีใจลอย เนียร์แม่ของซูซีโน้มน้าวให้เธอกินอะไรสักหน่อย “ลูกกินไม่ลง สุดท้ายคนที่ได้รับความทรมานก็คือตัวลูกเองนะ”

เนียร์ก็ปลอบใจเธออีกว่า “พ่อลูกไปเจอหน้าเอง สำเร็จอยู่แล้วล่ะ”

“จะว่าไปมองไปไกลทั่วเมืองเจสเวิร์ดทั้งหมด ยังจะมีผู้หญิงคนไหนเหมาะสมกับเขาเท่าลูกอีกล่ะ?”

“พวกลูกมีความรู้สึกกันมาอยู่แล้ว ระหว่างบ้านพวกเราสองบ้านความรักความห่วงใยมีมาก เขายังมีตัวเลือกอย่างอื่นอีกหรอ?”

แม้คำพูดของเนียร์จะปลอบใจซูซี แต่ว่าซูซีพอคิดถึงว่าช่วงนี้เทาเท่เย็นชากับเธอก็ให้รู้สึกวุ่นวายใจอีก

อีกอย่างเธอไม่เคยบอกกับใคร รวมทั้งแม่ของเธอด้วยว่าจริงๆแล้วระหว่างเธอกับเทาเท่ไม่ได้มีความสัมพันธ์แบบสนิทสนมแบบคู่รักอะไรเลย

โดยเฉพาะอย่างยิ่งปีกว่าๆที่ผ่านมาที่เทาเท่ได้มีเรื่องหย่า ดูเหมือนว่ามีข่าวที่พวกเขาเข้าออกโรงแรมเดียวกันเยอะมาก แต่ว่าไม่ได้มีอะไรเกินเลย

“มาๆๆ กินซุปหน่อย แม่ตั้งใจทำออกมาให้เพื่อบำรุงผิวพรรณ” เนียร์ก็เอาซุปมาวางไว้ที่หน้าของเธออีก ซูซีฝืนดื่มลงไป

ซูซีและเนียร์ต่างคิดว่าเบลซจะกินอาหารกับเทาเท่จนถึงดึก สรุปคิดไม่ถึงว่าเบลซจะกลับมาเร็ว

ซูซีพอได้เห็นสีหน้าที่บึ้งตึงของเบลซ ก็ว้าวุ่นใจขึ้นตาม

เห็นได้ชัดว่าเบลซคุยไม่สำเร็จกับเทาเท่ ตาเธอแดงและน้ำตาไหลออกมาในตอนนั้น

เนียร์พูดทักทายออกมา แล้วรีบมาที่ด้านหน้าของเบลซ “ทำไมกลับมาเร็วอย่างนี้ล่ะคะ? คุยไม่เรียบร้อยดีหรอ?”

เบลซพูดด้วยใบหน้าเย็นชาว่า “เขาพูดกับผมว่า เขาไม่เหมาะสมกับซูซี แล้วก็พูดอีกว่าคบหากันก็เรื่องนึง ส่วนแต่งงานก็อีกเรื่องนึง”

“นี่เขาถีบหัวส่งชัดๆ! ลูกสาวของเบลซ ให้เปลืองเวลาวัยรุ่นหลายปีอย่างนี้จากเขาเชียวหรือ?”

เบลซพูดตะคอกออกมาเสียงดัง

อาจจะเป็นเพราะเป็นพ่อแม่เลยเข้าข้าง เบลซลืมไปหมดแล้วว่าตอนแรกซูซีไม่ยอมแต่งงาน ดื้อรั้นที่จะเลิกกับเทาเท่

ก็ลืมไปแล้วด้วยว่าเทาเท่หย่าร้างมาปีนึงนี้ก็ไม่เคยมีคำตอบให้ลูกสาวของตัวเขาเองที่แน่ชัด

เป็นพวกเขาที่คิดอย่างมั่นอกมั่นใจว่า คนนั้นที่อยู่ในใจของเทาเท่เป็นซูซี

พวกเขาคิดว่าเทาเท่ที่หย่ากับหลินจือก็เพื่ออยากที่จะอยู่ดูแลซูซี

ดังนั้น เมื่อความคาดหวังทุกอย่างของพวกเขาว่างเปล่า พวกเขาก็เลยหัวร้อนและผิดหวัง

เนียร์ก็โกรธแล้วด่าตามว่า “เชื้อไม่ทิ้งแถว ผู้ชายตระกูลฟอเรนาไม่ได้เรื่องสักคน!

ซูซียกมือขึ้นปิดหน้าตัวเอง ทรุดตัวนั่งลงบนโซฟาแล้วร้องไห้ออกมา “ทำไม? ทำไม?”

เธอคิดว่าเธอให้พ่อของเธอออกหน้าเพื่อเพิ่มความกดดันให้กับเทาเท่ เทาเท่จะยอมๆกันได้

เธอไม่เข้าใจว่าทั้งๆที่เทาเท่ก็รักเธอ ตอนแรกพวกเขาก็เกือบได้แต่งงานกันแล้ว ทำไมตอนนี้เทาเท่ถึงไม่ยอมที่จะแต่งงานกับเธอล่ะ?

หลังจากที่ร้องไห้อยู่นาน ซูซีก็พูดอย่างโกรธๆว่า “ทั้งหมดนี่เป็นเพราะหลินจือต้องโทษมัน”

เนียร์ถามอย่างไม่เข้าใจว่า “อดีตภรรยาของเทาเท่นั้นหรอ? เกี่ยวอะไรกับมันล่ะลูก? พวกเขาหย่ามาได้ปีกว่าๆแล้วไม่ใช่หรอ?”

ซูซีกัดฟันกรอด “ช่วงนี้มันกับมาแล้ว แล้วก็ยังอยู่ในโปรเจคภาพยนตร์และโทรทัศน์ของเทาเท่”

เนียร์ขมวดคิ้วขึ้น “หรือว่ามันไปอ่อยเทาเท่?”

“ต่อให้มันอ่อยเทาเท่ แต่เทาเท่ก็ไม่ได้รู้สึกสนใจอะไรมันเลยไม่ใช่หรอ? ไม่งั้นตอนนั้นจะหย่ากับมันทำไมล่ะ?” เนียร์ไม่ได้เก็บหลินจือมาสนใจเลย

จากมุมมองของเนียร์ หลินจือผู้หญิงที่สถานภาพทางบ้านเป็นอย่างนั้น อยู่กับเทาเท่ไม่ได้นานหรอก

ต่อให้ตอนแรกเทาเท่แต่งกับหลินจือ เนียร์ก็ไม่ได้รู้สึกว่าหลินจือตัวขัดขวางของลูกสาวเธอ ตอนนี้เนียร์ก็ไม่ได้รู้สึกว่าหลินจือมีอันตรายอะไร

เทาเท่ไม่รักหลินจือ อีกอย่างช่วงเวลาการแต่งงานสามปีเขาก็เย็นชากับหลินจือมาก นี่เป็นเรื่องที่ทุกคนรู้

ถ้าหลังจากที่เทาเท่หย่ากันแล้วแต่กลับตกหลุมรักหลินจือ นั่นก็…….

แย่ไปจริงๆ

ในใจเนียร์คิดคำอย่างนี้ขึ้นมา

“แม่ เซ้นส์ของหนูบอกหนูว่าเป็นเพราะหลินจือ” ซูซีกลับใช้เซ้นส์ของผู้หญิงมากำหนดว่าที่เทาเท่ไม่แต่งงานกับเธอเป็นเพราะหลินจือ

“ก็แค่ผู้หญิงสามีทิ้ง จะมามีผลอะไรได้?” เนียร์ไม่เก็บหลินจือมาใส่ใจ “ลูกอย่าเพิ่งทอดใจไปก่อน คิดดีๆว่าจะฟื้นฟูความสัมพันธ์กับเทาเท่ยังไง”

“ฟื้นฟูอะไร?” เบลซ ไม่เห็นด้วยกับข้อเสนอของเนียร์ โกรธจนตะคอกออกมาว่า “ผู้ชายของเมืองเจสเวิร์ดตายหมดแล้วหรือยังไง? ทำไมต้องไปติดแหงกกับเขาด้วย!”

วันนี้เบลซถูกความบ้าระห่ำของเทาเท่ทำให้อารมณ์เสียจริงๆ

เขาคิดมาตลอดว่าเทาเท่นั้นเคารพเขา คิดไม่ถึงว่าวันนี้เทาเท่จะทำให้เขาเสียหน้า ตอนนี้เขาแทบไม่อยากที่จะมองเทาเท่ด้วยซ้ำ แล้วก็ไม่อยากให้ลูกสาวแต่งงานกับเทาเท่แล้ว

ปัญหาเรื่องศักดิ์ศรีของผู้ชายนั้น บางทีสำคัญยิ่งกว่าชีวิต

เนียร์ขมวดคิ้วแล้วพูดว่า “แต่ถ้ามองดูทั้งเมืองเจสเวิร์ด คนไหนจะยอดเยี่ยมกว่าเทาเท่?”

“จะว่าไป ตอนแรกพวกเราก็รู้สึกว่าเทาเท่มีอนาคตที่สดใส ถึงให้ซีกลับประเทศมาเพื่อใกล้ชิดกับเขาไม่ใช่หรอ?”

เบลซได้ยินคำพูดของเนียร์ทำให้ตอนแรกไม่รู้จะพูดอะไร ใช่น่ะสิ ตอนแรกที่ลูกสาวของพวกเขาเรียนที่ต่างประเทศก็มีแฟนที่กำลังคบหากันอยู่

ตอนนั้นที่บ้านของพวกเขาไม่ชอบเทาเท่ แต่คิดไม่ถึงว่าหลังจากที่เทาเท่ได้รับช่วงฟอเรนากรุ๊ปแล้วฐานะจะสูงขึ้นเรื่อยๆ แบบยอดเยี่ยมเฉิดฉาย

ครั้งแรกนั้นเขากับเนียร์ก็เอาเทาเท่มาเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุดสำหรับการเป็นลูกเขย หลังจากที่ได้ปรึกษาหารือกับลูกสาวเสร็จแล้ว ลูกสาวก็รีบตกปากรับคำ วันที่สองก็ไปเลิกกับแฟนในตอนนั้นแล้วกลับประเทศมา

“หนูไม่สน หนูจะแต่งกับเทาเท่ แต่งกับเขาเท่านั้น” ซูซีที่นั่งหน้าเศร้าสลดอยู่บนโซฟาพูดประโยคนี้ขึ้นมาอย่างกะทันหัน หลังจากนั้นจึงลุกขึ้นเอามือปิดปากแล้วเดินออกไป

เนียร์รีบลุกขึ้นเข้าไปขวาง “ซี ลูกจะไปไหน!”

ซูซีร้องไห้พลางออกไปข้างนอก “หนูออกไปรีแลกซ์หน่อยค่ะ พ่อแม่ไม่ต้องมายุ่ง”

เนียร์ดึงแขนของเธอกลับมา “ท่าทางลูกอย่างนี้ แม่กับพ่อจะวางใจให้ลูกไปข้างนอกได้อย่างไร?”

ซูซีสะบัดมือของเนียร์ แล้วก็กวาดแจกันที่อยู่บนตู้ด้านข้างลงกับพื้น “ถ้าหนูไม่ได้แต่งกับเทาเท่ หนูก็ไม่อยากอยู่อีกต่อไปแล้ว”

เธอพูดจบก็เหมือนได้ระบายอารมณ์ออกมา และถลันไปอีกด้านนึง เป็นอีกครั้งที่ทำเครื่องลายครามที่มีมูลค่าสูงหล่นลงกับพื้น