ปฏิบัติการ ตามล่า อำนาจ ของ ฮาร์วีย์ ยอร์ก บทที่ 351

หลุยส์เย้ยหยันและสาปแช่งเมื่อฮาร์วีย์พูดแบบนี้ “ภาพวาดนี้ถือได้ว่าเป็นของโบราณงั้นเหรอ? ถ้าเป็นของจริงก็คือของจริง ถ้าเป็นของปลอมแสดงว่าเป็นของปลอม”

“ไม่เคยได้ยินคำพูดแบบนี้ในอุตสาหกรรมโบราณวัตถุมาก่อน ถ้านายไม่รู้ ก็อย่ายุ่งและออกไปจากที่นี่ซะ! ที่นี่ไม่มีใครต้อนรับ!”

หลายคนที่อยู่รอบ ๆ ซุบซิบกันกระหึ่ม นี่คือถิ่นของตระกูลไนส์เวลล์ ไม่มีใครกล้าไล่ฮาร์วีย์ออกไป

ฮาร์วีย์ไม่ได้แม้มองไปที่หลุยส์ จากนั้นเขาก็พูดว่า “สิ่งที่ประธานซาราเต้พูดนั้นถูกต้อง ภาพวาดของ แจสเปอร์ ฮิกกินส์ มีคุณลักษณะเฉพาะ ไม่ว่าภาพวาดจะน่าอัศจรรย์เพียงใดแต่สีของงานศิลป์นี้ซึมเล็กน้อย ผมต้องการจะบอกว่าภาพวาดนี้เลียนแบบของจริงได้เหมือนมาก”

“แก…” คราวนี้ชาร์ลส์ชี้ไปที่ฮาร์วีย์และร่างกายของเขาก็สั่นสะท้านไปทั้งตัว

เขาบอกว่าภาพวาดนี้เป็นเพียงของเลียนแบบงั้นเหรอ?

ชายหนุ่มคนนี้รู้เรื่องการวาดภาพและการประดิษฐ์ตัวอักษรจริง ๆ งั้นเหรอ

เขารู้แล้ว ไอ้สารเลวคนนี้แค่อยากจะโอ้อวด

สำหรับการพิสูจน์เวนซ์บอทเทิลก่อนหน้านี้ เชนอาจจะต้องสอนเขามาก่อน

ไม่งั้นไอ้ขยะนี่เขาจะรู้ได้ยังไง?

หากอาจารย์ถูกทำให้อับอาย เขาก็จะต้องอับอายเช่นกัน ดังนั้นเมื่อหลุยส์เห็นชาร์ลสถูกเยาะเย้ยครั้งแล้วครั้งเล่าเขาก็มาปกป้อง และชี้ไปที่ฮาร์วีย์แล้วพูดว่า “หึ นายมันก็เก่งแต่ปาก!”

“ดี ดี งั้นบอกฉันทีว่า ทำไมภาพวาดนี้ถึงเป็นของเลียนแบบ!”

“ถ้านายบอกได้ ฉันจะขอโทษนาย!”

“ถ้าบอกไม่ได้ วันนี้นายจะต้องคลานออกจากโรงแรมนี้!”

ว้าว…

ความโกลาหลเกิดขึ้นทันที

“ใช่! บอกมา!”

“ในความคิดของฉัน ลูกเขยคนนี้ไม่รู้อะไรเลย เขาขี้โม้ไปทั่ว!”

“คนแบบนี้มาที่งานแสดงวัตถุโบราณได้ยังไง? เขามีคุณสมบัติเข้าร่วมงานนี้ได้งั้นเหรอ?”

“ตระกูลซิมเมอร์ฝึกฝนคนของพวกเขายังไง? ปล่อยให้หมาออกมาเห่าเสียงดัง!”

เมื่อได้ยินเสียงคำสบประมาทแบบนั้น ผู้อาวุโสซิมเมอร์ก็ตระหนักได้ว่าตระกูลซิมเมอร์กำลังได้รับผลกระทบเช่นกัน

ในตอนนี้ผู้อาวุโสซิมเมอร์ก้าวไปข้างหน้าอย่างกระวนกระวายและโค้งคำนับให้ผู้คนรอบตัวเขา จากนั้นเขาก็พูดว่า “นายใหญ่ไนส์เวลล์ ประธานซาราเต้ และทุก ๆ คน อย่าถือโทษโกรธกันเลย ผมต้องขอโทษสำหรับลูกเขยที่ไร้ประโยชน์ของตระกูลของเรา เขาไม่เข้าใจเกี่ยวกับวัตถุโบราณ…”

“ ไม่เข้าใจงั้นเหรอ!” หลุยส์ตะโกนออกมา “แล้วเขาจะพูดเรื่องไร้สาระแบบนั้นได้อย่างไร เขาทำตัวน่ารังเกียจขนาดนี้ได้ยังไง? ตระกูลซิมเมอร์เป็นเพียงครอบครัวชนชั้นสองในนิอัมมี่ และคุณปล่อยให้หมาของคุณออกมาไล่กัดคนแบบนี้ คุณแบกรับความรับผิดชอบได้ไหม?”

ชาร์ลส์ยิ้มและพูดอย่างเย็นชาว่า “หลุยส์ นี่เป็นความผิดของฮาร์วีย์ เราไม่ควรให้ครอบครัวของเขาเข้ามาเกี่ยวข้อง แค่ให้เขาคลานออกไปจากที่นี่ก็พอแล้ว”

“ฮาร์วีย์ นายได้ยินไหม? คลานออกจากที่นี่เดี๋ยวนี้! อย่าทำลายตระกูลซิมเมอร์ไปมากกว่านี้!”

ผู้อาวุโสซิมเมอร์ตื่นตระหนก เจาทำได้เพียงชี้ไปที่ฮาร์วีย์และออกคำสั่ง

หากพวกเขาทำให้หลาย ๆ คนขุ่นเคืองเพราะฮาร์วีย์ ตระกูลซิมเมอร์จะทำธุรกิจอย่างไรในอนาคต?

ฮาร์วีย์หัวเราะเยาะ จากนั้นเขาก็เอื้อมมือไปพับมุมภาพวาดนั่น

สีหน้าทุกคนเปลี่ยนไป!

มีเพียงเชน และโรซาลีเท่านั้นที่แสดงความชื่นชมออกมาในสายตาของพวกเขา

การหักมุมทดสอบความแท้!

ฮาร์วีย์เคยใช้เทคนิคนี้ในครั้งที่เขาพิสูจน์ ภาพวาด ‘ยอดเขาแลนเดอร์แห่งเทือกเขาร็อกกี’

ในตอนนั้นทุกคนคิดว่าเป็นภาพวาดปลอมจึงไม่มีใครสนใจ

และตอนนี้ทุกคนคิดว่า ภาพวาด ‘ยอดเขาเสือคำราม’ เป็นของจริง สีหน้าของพวกเขาเปลี่ยนไป

นี่เป็นภาพวาดที่มีชื่อเสียง มันอาจจะพังพินาศเพราะการกระทำของเขา เขาจะไม่ได้รับการยกโทษเพราะเขาไม่สมควรได้รับ!

สีหน้าของหลุยส์เปลี่ยนไปอย่างมาก เขายืนอยู่ใกล้ฮาร์วีย์มากที่สุด เขาจะหยุดการกระทำของฮาร์วีย์ แต่สุดท้ายเขาช้าเกินไป

เกิดรอยพับตื้น ๆ บนพื้นผิวที่สามารถมองเห็นได้ด้วยสายตา

ชาร์ลส์ก็อ้าปากค้างทันทีพร้อมกับมองใบหน้าของฮา์วีย์อย่างไม่อยากจะเชื่อ…

เขานึกขึ้นมาได้แล้ว นั่นเป็นการหักมุมทดสอบในตำนานใช่ไหม?

มันเป็นไปได้ยังไง? ลูกเขยคนนี้รู้จักเทคนิคนี้ได้ยังไง?