ขณะเดียวกัน หลังจากที่ได้ยินซุนซวี่พูดอย่างนั้น ซย่าน่าพลันตระหนักถึงความผิดปกติ

“แย่แล้ว! หยุดเขาเดี๋ยวนี้! เขาไม่ได้กำลังฆ่าพวกนั้นอย่างเดียว!”

ซุนซวี่ยืนนิ่งอยู่ที่เดิมไม่ขยับไปไหน เขาหัวเราะเสียงดัง “รู้ตัวเร็วดีนี่ แต่สายไปแล้วล่ะ!”

“ความจริงตอนที่ฉันฆ่าคนที่หนึ่ง พวกเธอก็น่าจะรู้แล้ว ถึงแม้คนพวกนั้นต้องตายไม่ช้าก็เร็ว แต่ถ้าหากเก็บพวกเขาไว้ อย่างน้อยก็ยังช่วยฉันแบ่งเบาภาระได้บ้าง ถ้าไม่อย่างนั้นฉันจะเลือกลงมือตอนนี้ทำไมล่ะ?” ซุนซวี่พูดต่อ “ดังนั้นนับตั้งแต่วินาทีนั้น ฉันก็เริ่มเล่นตุกติกแล้ว…ไม่ว่าอย่างไร ฉันจะไม่มีทางแพ้ง่ายๆ แน่นอน โดยเฉพาะหลังจากที่ยอมเสียกำลังคนทั้งหมดไปแล้ว ราคานี้ ฉันจะต้องเอาคืนมาจากพวกแกให้ได้”

“แกเข้าใจอะไรผิดไปหรือเปล่า? แกเป็นคนฆ่าพวกนั้นเอง ถ้าจะเอาคืนจากใคร ก็ต้องเอาคืนจากแก อีกอย่าง มันยังไม่สายเกินไปซักหน่อย” ซย่าน่ากลอกตาขาว พูดขึ้น

“ทำไม พวกแกยังทำอะไรได้อีกงั้นหรอ?” ซุนซวี่ย้อนถาม

“ฆ่าแกยังไงล่ะ!”

ซย่าน่าเข้าใกล้เขาจากด้านหลังอย่างรวดเร็ว พลางพูดเสียงเย็นเยียบ เมื่อกี้เสียงพูดของเธอยังดังห่างออกไปสิบกว่าเมตร ทว่าตอนนี้เสียงพูดของเธอกลับดังขึ้นในจุดที่ห่างจากซุนซวี่ไม่ถึง 5 เมตรแล้ว

แต่ซุนซวี่ราวกับเตรียมตัวไว้ก่อน แมงมุมจำนวนมากพลันมุดออกมาจากเส้นผม และไต่ลามไปทั่วตัวเขาทันที แมงมุมเหล่านี้ตัวใหญ่กว่าของเหล่าร่างปรสิตอย่างเห็นได้ชัด จำนวนก็มีมากกว่า อีกทั้งพอพวกมันปรากฏตัว กลิ่นเหม็นคาวจางๆ ก็ลอยคลุ้งไปทั่วบริเวณ เห็นชัดว่า แมงมุมพวกนี้ล้วนมีพิษ

คนปกติเพียงได้กลิ่นนี้ คงมีอาการเวียนหัวไปแล้ว แต่สำหรับพวกเย่เลี่ยน พวกเธอไม่จำเป็นต้องใส่ใจเรื่องเล็กๆ แค่นี้ด้วยซ้ำ

อากาศพิษไม่ได้ผล ซุนซวี่ชะงักไปครู่หนึ่ง ทว่าเขากลับตอบสนองอย่างรวดเร็ว โดยการดีดแมงมุมจำนวนมากออกไป ในเมื่อพิษระยะไกลไม่ได้ผล ถ้าอย่างนั้นก็เข้าไปกัดเลย!

ขณะที่แมงมุมพวกนั้นพุ่งออกไป เขาหมุนตัวกลับมา เบี่ยงตัวหลบคมดาบของซย่าน่า พลางคว้ามือหมายขย้ำคอเธอ ซุนซวี่ตระหนักได้แล้วว่าหากสู้กันด้วยกำลัง เขาสู้เด็กสาวสี่คนนี้ไม่ได้แน่นอน วิธีเดียวที่เขาทำได้ ก็คืออาศัยความเร็วกำราบหนึ่งในสี่คนนี้ ถึงจะสามารถหลุดพ้นจากอันตรายไปได้

และเพราะอย่างนี้ เป้าหมายหลักในการโจมตีของเหล่าแมงมุมของเขา จึงมุ่งไปที่ซย่าน่า

ซย่าน่าเพิ่งหลบแมงมุมพวกนั้นพ้น มือข้างหนึ่งที่มีแต่แมงมุมไต่ยั้วเยี้ยเต็มไปหมดพลันยื่นมาตรงหน้าเธอทันใด

ภาพที่เห็นทำให้ซย่าน่าอึ้งไปชั่วขณะหนึ่ง และเพราะการชะงักที่ไม่ถึงศูนย์จุดหนึ่งวินาทีนี้ ทำให้ซย่าน่าสูญเสียโอกาสหลบหลีกที่ดีที่สุดไป

“วางใจ ฉันไม่ฆ่าเธอเร็วนักหรอก”

พอเห็นมือของซุนซวี่ใกล้จะคว้าถึงตัว ดวงตาข้างหนึ่งของซย่าน่าพลันฉายแววดูถูก

สายตาบ่งบอกสองอารมณ์ที่แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิงปรากฏบนใบหน้าเดียว นั่นทำให้ซุนซวี่ชะงักงันไปครู่หนึ่ง

“บ้าเอ๊ย! หลงกลอีกแล้ว!”

แต่เวลานี้ มือของเขากลับยื่นเข้าไปแล้ว…

คว้าพลาด!

แมงมุมมากมายที่กระโดดออกมาจากแขนเขา กลับพากันร่วงกราวลงบนพื้น…ส่วนซย่าน่าที่อยู่ตรงหน้า กลับหายตัวไปอย่างไร้ร่องรอย…

“อยู่ไหน!”

ซุนซวี่ร้อนใจ พลันเงยหน้ามองขึ้นไปข้างบนราวกับรู้สึกได้ แต่กลับมองเห็นเงาร่างของซย่าน่าทิ้งตัวลงมาเหนืออากาศอย่างรวดเร็วพร้อมกับเคียวดาบ

และขณะเดียวกันนั้น เงาร่างของพวกเย่เลี่ยนก็ปรากฏตัวอยู่ใกล้ซุนซวี่

ถึงแม้แมงมุมพวกนั้นเคลื่อนไหวเร็ว แต่เมื่อเทียบกับความเร็วของพวกเธอ พวกมันกลับต้องชิดซ้ายไปเลยทีเดียว ซุนซวี่เพียงทันกระโดดถอยหลัง กำลังจะขยับตัว ก็ได้ยินเสียง “ฉึก” พลันนั้นคมดาบเล่มหนึ่งก็แทงทะลุออกมาจากท้องของเขา

“แก…” ซุนซวี่ชะงักงัน ใบหน้าเต็มไปด้วยแววไม่อยากเชื่อ ไม่รอให้เขาพูดอะไร คมดาบเล่มนั้นบิดหมุนในร่างเขา จากนั้นก็กระชากออกไปอย่างแรง

เลือดสีแดงสดพุ่งกระฉูด ซุนซวี่ยกสองมือกุมท้อง สองเข่าอ่อนแรงทรุดลงกับพื้น เขาเงยหน้าอย่างยากลำบาก เห็นเงาร่างสูงเพรียวของเย่เลี่ยนเดินมาจากข้างหลังพอดี และในมือเรียวสวยข้างนั้นของเธอ ก็ถือดาบสั้นเปื้อนเลือดเล่มหนึ่งเอาไว้…

หนึ่งวินาที…ตั้งแต่การต่อสู้เริ่ม จนถึงตอนนี้ที่เขาถูกฆ่า กลับใช้เวลาเพียงหนึ่งวินาทีเท่านั้น…เขายังอุตส่าห์คิดจะเล่นงานหนึ่งในพวกเธอ แต่กลับไม่คิดว่าเด็กสาวพวกนี้ไม่จำเป็นต้องสื่อสารกันก็ร่วมมือกันกำจัดเขาได้…ตอนนี้พอมาคิดดู ไม่น่าล่ะอีกสามคนที่เหลือถึงได้เคลื่อนไหวช้าลงหนึ่งก้าว ที่แท้นับตั้งแต่วินาทีที่ตัดสินใจลงมือ พวกเธอก็เริ่มวางแผนเล่นงานเขาแล้ว…

“เมื่อกี้แกทำอะไรไปกันแน่?” ซย่าน่าปรับสีหน้าให้กลับมาเป็นปกติ ก้าวออกมา แล้วถาม

ซุนซวี่มองพวกเธอด้วยใบหน้าเหม่อลอย หลังจากกระอักเลือดดัง “อั๊ก” อยู่ๆ ก็ฉีกยิ้ม

“ก่อนหน้านี้…ฉันทำไปแล้ว…สายไปแล้ว…จริงๆ…”

พลั่ก!

เมื่อเห็นซุนซวี่สิ้นลมล้มลงไป หลังจากจ้องมองเขาอยู่ครู่หนึ่ง ซย่าน่าก็หันไปมองยังทิศทางของพวกเฮ่อเจิ้น ไม่รู้ทำไม คำพูดก่อนตายของซุนซวี่ ทำให้เธอรู้สึกสังหรณ์ใจแปลกๆ

“แมงมุมในร่างของหมอนี่หายไปไหนแล้ว…” อวี๋ซือหรานพูดขึ้นอย่างสงสัย

“มะ…ไม่รู้สิ…” เย่เลี่ยนเองก็มองไปรอบๆ อย่างฉงน แล้วส่ายหน้าตอบ บนพื้นรอบกายว่างเปล่า…นอกจากศพของแมงมุมที่ตายไปบางส่วน ก็ไม่มีสิ่งมีชีวิตอื่นอยู่อีก

หลี่ย่าหลินรีบก้าวไปหยุดหน้าศพซุนซวี่ หลังจากนั่งยองๆ ลงไปสำรวจครู่หนึ่ง ก็ลุกขึ้นแล้วบอกว่า “ตัวที่อยู่ในตาเขาก็หายไปแล้ว ไม่รู้ว่าปะปนอยู่ในกลุ่มแมงมุมที่ถูกขว้างออกมาเมื่อกี้หรือเปล่า”

“แมงมุม?” ซย่าน่าขมวดคิ้ว แต่สุดท้ายก็ยังคงมุ่งความสนใจไปที่พวกเฮ่อเจิ้นอยู่ดี “ช่างเถอะ ยังไม่ต้องสนใจเรื่องนี้ พวกเราไปดูกันก่อน หมอนี่ยอมเสียสละพรรคพวกมากขนาดนี้ แสดงว่าต้องมีแผนการใหญ่ซ่อนอยู่แน่ๆ…ตอนนี้พวกเราเพิ่งรู้แผนการที่แท้จริงของพวกมัน จะปล่อยให้เกิดปัญหาอื่นตามมาอีกไม่ได้แล้ว ซือหราน เธอบอกพวกเฮยซือว่าไม่ต้องไปแล้ว ย้อนกลับไปช่วยพี่หลิงดีกว่า ให้พวกเขารับมือกับแมงมุมตัวใหญ่ตัวเดียว น่าจะสะดวกกว่ารับมือกับฝูงแมงมุมตัวเล็ก”

“เข้าใจแล้ว” อวี๋ซือหรานพยักหน้าอย่างว่าง่าย จากนั้นก็หลับตา ผ่านไปสองวินาทีก็ลืมตาอีกครั้ง “เรียบร้อยแล้ว พวกเราไปกันเถอะ”

…………

เวลานี้ บลัดมาเธอร์ยังคงยืนอยู่ที่เดิม ณ จุดที่ห่างออกไปไม่ไกล คือหลุมขนาดใหญ่ที่เกิดขึ้นตอนมันมุดขึ้นมา สำหรับมัน พื้นที่ถูกเทด้วยปูนซีเมนต์นั้น มีผิวสัมผัสที่นิ่มไม่ต่างจากเต้าหู้เลยซักนิด และเหล่าแมงมุมตัวเล็กที่อยู่บนตัวมัน กลับยังคงไต่ยั้วเยี้ยไปมาอยู่บนร่างมหึมาของมัน บางครั้งก็มีแมงมุมตัวเล็กไต่เข้าไปในปากมัน และไม่ออกมาอีกเลย…

ขาแมงมุมทั้งแปดข้างของบลัดมาเธอร์เคลื่อนขยับไปมาไม่อยู่นิ่ง ดวงตาบนหัวของมันเหมือนหลอดไฟสีแดงหลายดวงที่แบ่งกันมองคนละทิศ ชั่วขณะหนึ่ง ราวกับว่าใต้ท้องของมันมีดวงตาคู่หนึ่งเพิ่มขึ้นมา ดวงตาชั่วร้ายคู่นั้นมองตรงไปข้างหน้าอย่างระแวดระวัง…