อวี๋หมิงหลางพอได้ยินระดับความแรงของเหล้าก็ร้องออกมาคำเดียว
ชิบหาย!
ถูกเฉินเสี่ยวเชี่ยนหลอกอีกแล้ว!
เสี่ยวเชี่ยนรายงานความแรงของสุราเสร็จก็ไม่ได้ฟังว่าอวี๋หมิงหลางโวยวายอะไร—ตาทึ่มน่าจะโมโหแหละ แต่อยู่ห่างกันขนาดนี้ถ้าอยากจะคิดบัญชีก็คงต้องเอาไว้ก่อน เพราะคืนนี้ประธานเชี่ยนต้องจัดรายการ
รายการที่มีชื่อว่า คายความจริงหลังเมา!
เสี่ยวเชี่ยนไปนั่งข้างอวี๋หมิงซี อวี๋หมิงซีกำลังใช้สองมือนวดขมับ เธอรู้สึกเหมือนโลกหมุนติ้ว ท้องไส้ก็ปั่นป่วนอยากอาเจียนสุดๆ
“มองฉันค่ะ ฉันเป็นใครคะ?” เสี่ยวเชี่ยนจับไหล่อวี๋หมิงซีพลางถาม
“ฉันเป็นปู่เธอหรือไง!” อวี๋หมิงซีเริ่มอารมณ์เสีย ตอนนี้สมองเธอเริ่มคิดอะไรไม่ออก รู้แต่ว่าถูกยัยผู้หญิงตรงหน้าเธอคนนี้หลอกเข้าให้แล้ว
“อืม ใช่ค่ะ พี่เป็นปู่ฉัน ปู่คะ ขอถามอะไรหน่อยสิคะ”
“ได้—ไม่ได้ เธอ เธอคือเฉินเสี่ยวเชี่ยน ฉันไม่พูดความจริงกับเฉินเสี่ยวเชี่ยน”
เสี่ยวซีที่ดื่มเข้าไปเยอะน่ารักไม่เบา แก้มแดงระเรื่อ ไม่มีมาดแข็งๆดูโง่นิดๆ เสี่ยวเชี่ยนพยายามระงับอาการอยากแกล้ง แล้วพูดด้วยท่าทางจริงจัง
“ฉันไม่ใช่เฉินเสี่ยวเชี่ยน ฉันเป็นปู่พี่นะ”
“อ่อ สวัสดีค่ะปู่—ไม่ใช่สิ! ฉันต่างหากที่เป็นปู่เธอ เดี๋ยวนะ ฉันเป็นผู้หญิง…” เริ่มงงๆกับตัวเอง อวี๋หมิงซีครุ่นคิด เอามือตีหัว จากนั้นก็ยิ้มฮี่ๆ
“ฉันเป็นยายเธอต่างหาก!”
“ได้ สวัสดีค่ะยาย ยายคะ ช่วยตอบคำถามหน่อย…”
ที่แท้อวี๋หมิงซีพอเมาแล้วก็เป็นแบบนี้ น่ารักกว่าตอนปกติเยอะเลย เสี่ยวเชี่ยนตัดสินใจแล้วว่า ต่อไปจะต้องกินเหล้ากับพี่สาวสามีคนนี้บ่อยๆ
แต่ตอนนี้เธอต้องเปิดโหมดตั้งคำถาม การรับมือกับอวี๋หมิงซีที่มีจิตใจตั้งกำแพงป้องกันหนาเป็นพิเศษ ไม่ยอมให้ความร่วมมือ ใช้วิธีแบบจิตวิทยาก็เอาไม่อยู่ เลยต้องพึ่งแอลกอฮอล์ แล้วมีเหรอจะถามไม่ได้ความ?
ตอนที่อวี๋หมิงหลางมาถึง เขาไม่อยากจะเชื่อว่าตัวเองเห็นอะไร
พี่สาวของเขาโอบคอเสี่ยวเชี่ยน ใบหน้าของเสี่ยวเชี่ยนมีแต่รอยลิปสติกที่อวี๋หมิงซีฝากรอยประทับไว้ ทั้งสองคนกำลังร้องเพลงอยู่
“ทำอะไรกันน่ะ!!!”
อวี๋หมิงหลางเกรี้ยวกราด ผู้หญิงตรงหน้าเนื้อตัวมีแต่กลิ่นเหล้า ใบหน้าเต็มไปด้วยรอยลิปสติก ร้องเพลงก็เพี้ยน นี่ใช่เมียเขาจริงๆเหรอ?
“รักษาจิตเวชไง ใช่ไหมยาย?”
“ใช่! หลานสาว! เบื้องหน้าของพวกเราเป็นท้องทะเลกว้างดวงดาวเต็มท้องฟ้า! ไป ยุคสมัยที่เรือลำใหญ่โลดแล่นอย่างยิ่งใหญ่ เกียรติภูมิของทหารเราจะต้องขจรไปไกล ฉันเป็นทหารเรือ เพลงของทหารเรือเธอเคยฟังไหม? ธงแดงปลิวไสว เสียงเพลงของพวกเราก้องกังวานไปไกล! ทหารเรือของเหล่าประชาเดินหน้า ปกป้องน่านน้ำของประเทศด้วยความมั่นใจ!”
ร้องเพี้ยนขั้นเทพ! อวี๋หมิงหลางอยากจะอัดเสียงไว้จริงๆ จากนั้นก็ส่งไปที่สถานีโทรทัศน์ ถึงตอนนั้นอวี๋หมิงซีได้ตกงานแน่ ทำบ้าอะไรกันเนี่ย!
“เฉียงจ๋า เฉียงของฉัน! เราจะแพ้ยายไม่ได้นะ จัดเพลงพลังแห่งแรงงานไปเลย! ไม่สิ นายไม่ใช่แรงงาน นายเป็นใครนะ? ใช่ เดินหน้า เดินหน้า เดินหน้า หน่วยของเราไปสู่ดวงอาทิตย์!”
“เพ้อเจ้อกันไปใหญ่แล้ว ไป ไปกับผม รีบไป!”
อวี๋หมิงหลางเข้าไปพยุงเสี่ยวเชี่ยน แต่ถูกเสี่ยวเชี่ยนสะบัดออก “ไม่ต้องมายุ่ง ฉันเดินเองได้! ยาย ไปกัน ไปหาที่ high กันต่อดีกว่า!”
“Highกับปู่คุณสิ!” เสี่ยวเฉียงที่แสนใจเย็นเริ่มโมโห สามีคนไหนจะทนเห็นเมียตัวเองเมาปลิ้นแบบนี้ได้
“เพ้อเจ้อ ฉันเป็นยายเขา ปู่เขาคือไห่เจา นายด่าไห่เจาได้ไง!”
โวะ!
อวี๋หมิงหลางอยากจะบ้าตาย “อวี๋หมิงซีแหกตาดูให้ดีๆว่านี่ใคร!”
เพิ่งจะผ่านไปวันเดียวนี่เขากลายเป็นอีกรุ่นนึงแล้วเหรอ? นี่เมียเขาทำอะไรกับอวี๋หมิงซีกันแน่ ทำไมดูปัญญาอ่อนขนาดนี้?!
“ฉันไม่สนหรอกว่านายเป็นใคร อยากจะรักใครก็ช่าง! ไม่เกี่ยวกับฉัน ทำตัวเองกันทั้งนั้น!”
ก่อนอวี๋หมิงหลางมาถึง เสี่ยวเชี่ยนได้ทำการล้างสมองอวี๋หมิงซีอย่างละเอียดอยู่ครึ่งชั่วโมง ผลที่ได้ยอดเยี่ยมมาก
“ใช่ อยากจะรักใครก็ช่าง! ทำตัวเองกันทั้งนั้น ไม่เกี่ยวอะไรกับพี่เลยสักนิด!”
เสี่ยวเชี่ยนเข้าข้าง แล้วสบตากับอวี๋หมิงซีอย่างเข้าใจกัน จากนั้นทั้งสองคนก็ร้องเพลงขึ้นมาอีก
“ซีหูช่างสวยงาม~”
“ท้องฟ้าเดือนสาม~”
อวี๋หมิงหลางทนไม่ไหว จับเสี่ยวเชี่ยนอุ้มขึ้นมาพาดไหล่เหมือนแบกหมู เสี่ยวเชี่ยนที่หัวห้อยลงล่างรู้สึกทรมานมาก เธอเตะอวี๋หมิงหลางแต่ถูกเขาเตือน
“ของที่อาเหม็ดให้มาผมยังไม่ได้ทิ้งนะ!” ไม่อยากถูกจัดการก็ทำตัวนิ่งๆ!
ตามคาด เสี่ยวเชี่ยนสงบลง
อวี๋หมิงหลางที่โมโหสุดๆใช้มือข้างหนึ่งล้วงโทรศัพท์ออกมา เดิมเขาคิดจะให้พี่ใหญ่มารับขี้เมาอีกคนไป แต่เสี่ยวเชี่ยนพูดด้วยน้ำเสียงเหมือนคนปกติดี
“โทรหาไห่เจา”
“ไม่ได้เมาเหรอ?” อวี๋หมิงหลางฟังเสียงของผู้หญิงที่เมื่อครู่ยังดูเมาหนักแล้วจึงถามด้วยความสงสัย
“ไร้สาระ ซุปเปอร์คอแข็งอย่างฉันมีเหรอจะเมาด้วยเหล้าแค่นี้? อย่าพูดมาก รีบโทรหาไห่เจา! นี่คือการรักษา!”
อวี๋หมิงหลางไม่รู้ว่าเสี่ยวเชี่ยนใช้วิธีไหนรักษา แต่ก็เชื่อฟังโทรหาไห่เจา ไม่ถึงห้านาทีไห่เจาก็มา ที่แท้เขาก็มากินเหล้าแก้กลุ้มอยู่แถวนี้
อวี๋หมิงหลางเห็นเพื่อนมาแล้วถึงได้แบกเสี่ยวเชี่ยนออกไปได้อย่างสบายใจ ยังไม่ลืมเตือนไห่เจาด้วย
“ไปหาที่ทำให้พี่ฉันสร่างเมา ถ้านายกล้าล่วงเกินพี่ฉันฉันจะทำให้ชีวิตที่เหลือของนายลุกขึ้นยืนไม่ได้อีก!”
“ส่วนไหน?” เสี่ยวเชี่ยนที่ดื่ทเหล้าเข้าไปมากถามอย่างกวนๆ
อวี๋หมิงหลางพูดด้วยความโมโห “ทุกส่วน!”
ไห่เจายิ้มแหยๆ “นายเห็นฉันเป็นอะไร”
เขาก็อยากแตะต้อง แต่ถ้าอวี๋หมิงซีไม่ยินยอมเขาจะบังคับเธอได้อย่างไร ต่อให้เสี่ยวซีเมา เขาก็ไม่มีทางฉวยโอกาส
อวี๋หมิงหลางรู้จักเพื่อนสมัยเด็กคนนี้ดี ด้วยความไว้ใจถึงได้เรียกมา ก็แค่พูดขู่ไปอย่างนั้น
เสี่ยวเชี่ยนขึ้นรถแล้วนั่งให้ดี จากนั้นก็รัดเข็มขัด ไม่ได้มีท่าทางเหมือนตอนเมาเมื่อครู่เลยสักนิด อวี๋หมิงหลางหยิบทิชชู่เปียกมาเช็ดหน้าให้เธอ
“เบาหน่อย เจ็บนะ”
“เชื่อไหมกลับไปคุณจะเจ็บกว่านี้? กล้ามากเลยนะ เหล้าที่ติดอันดับเหล้าแรงที่สุดในโลกก็กล้าลอง?”
“ทำไม ฉันไม่ได้ดื่มเยอะเสียหน่อย!”
“รอก่อนเถอะ กลับไปได้เห็นดีกันแน่!” อวี๋หมิงหลางหยิกแก้มเธอแล้วปล่อยอย่างหมั่นเขี้ยว ผู้หญิงคนนี้เสร็จเขาแน่
“เห็นดีอะไร ฉันยังไม่ได้เก็บค่ารักษาจากนายเลยนะ เขาเป็นพี่นายนายก็ต้องเป็นคนจ่าย! วันนี้ฉันถึงขนาดต้องใช้ท่าไม้ตาย นายคิดว่าวิธีมอมเหล้าแบบนี้ฉันใช้กับทุกคนงั้นเหรอ? มีแค่พวกนายพี่น้องฝาแฝดนี่แหละที่มีบุญ ถ้าไม่ใช่พี่สาวนายนะ ฉันไม่ทำแบบนี้หรอก!”
“คุณมอมเหล้าผมเมื่อไร?”
เสี่ยวเชี่ยน หึ ออกมา ไม่บอกหรอก
ถ้าชาตี่แล้วไม่มอมเหล้า แล้วลูกสาวที่แสนฉลาดของเธอจะมาได้ไง?
“ดื่มนี่ก่อน หลับตาพักสายตาสักพัก กลับไปค่อยคิดบัญชี ไม่ไหวเลยจริงๆ กล้าดื่มเหล้าเยอะขนาดนี้” อวี๋หมิงหลางยื่นชาสร่างเมาที่เตรียมมาให้เธอ