หลังจากที่เทาเท่ออกไปแล้ว นิปปอนมองเจเทาวน์พูดด้วยความไม่เข้าใจว่า “นี่ท่านประธานเทาเท่…..ไม่ยอมรับเรื่องงานแต่งกับซูซีหรอครับ?”
เจเทาวน์ยิ้มขึ้นอย่างเสียดสีแล้วพูดว่า “เขายอมรับก็ดี ไม่ยอมรับก็ช่าง คนที่พลาด ถึงอย่างไรก็พลาดอยู่ดี”
เป็นไปได้ยังไงที่เจเทาวน์จะดูไม่ออกว่าเทาเท่มีท่าทางตัดไม่ขาดกับอดีตภรรยา
ตอนนั้นคนทั้งสองหย่ากันอย่างเด็ดขาด เจเทาวน์ยังนึกว่าชั่วชีวิตนี้เทาเท่จะไม่มองหรือสนใจหลินจืออีก
แต่ดูเหมือนว่าเทาเท่ตอนนี้ยังคงวางท่าทางถือดี ไม่ได้สังเกตเลยว่าตัวเขาเองกำลังเกาะแกะหลินจือ
ในเมื่อเป็นอย่างนี้ งั้นเขาก็ขอให้….เทาเท่ดื้อดึงอย่างนี้ต่อไปเถอะ
นิปปอนยิ้มขึ้นมา “ผมว่านะพี่ พี่คงไม่ชอบผู้หญิงคนเดียวกับท่านประธานเทาเท่หรอกนะครับ?”
ระหว่างพวกเขาสองคนชัดเจนแล้วว่าสู้รบกันเพราะผู้หญิง
เจเทาวน์พูดยิ้ม “หัวข้อนี้รอให้พี่จีบติดก่อนแล้วค่อยมาคุยกัน”
ช่วงนี้หลินจือรับมรสุมมามากพอแล้ว เจเทาวน์ไม่อยากที่จะรบกวนเธออีก
ยังไงก็ตามยังมีเวลาอีกนาน หลินจืออยู่ในกำมือเขา สิ่งที่เขามีคือโอกาสที่ค่อยๆเข้าหาเธอ
เจเทาวน์และนิปปอนก็คุยกันเรื่องตัวบทและสัญญาอีก นิปปอนเสนอความคิดเห็นของตัวเองกับตัวบท เจเทาวน์ค่อยๆจดลงไป แพลนไว้ว่าจะเอาไปบอกหลินจือ
อารมณ์ของเทาเท่ไม่ดีเท่าไหร่ พ่อของเขาไกอาที่อยู่ต่างประเทศโทรหาเขา แม่เขาวีนาโทรหาเขาไม่ต่ำกว่าสามรอบ เขาก็ไม่ได้รับ
ที่พวกเขาโทรหาเขาเป็นเพราะเรื่องซูซีแน่นอน เขาไม่อยากสนใจ
ตอนกลางคืนหลังจากเสร็จงานเลี้ยง เทาเท่ให้คนขับรถพาเขาไปที่ที่หลินจืออยู่
เธอพูดว่าปวดท้องแล้วลงจากเตียงไม่ได้ไม่ใช่หรอ? ในฐานะที่ทำงานร่วมกัน เขาไปเยี่ยมหน่อยคงจะเหมาะอยู่นะ
ขณะที่ขับรถผ่านร้านดอกไม้ เขาให้คนขับรถนั้นหยุด แล้วเขาเข้าไปร้านดอกไม้เพื่อซื้อดอกไม้ช่อนึง
แต่ก่อนในบ้านของเขากับหลินจือ ทุกวันจะมีดอกไม้สดใหม่ ดูแล้วทำให้สบายอกสบายใจ
เธอชอบจัดวางตกแต่งบ้านของพวกเขา แต่ก่อนเขาไม่สนใจที่จะมองมันด้วยซ้ำ แต่หลังจากที่หย่ากันไปหนึ่งปีก็ยังคงเก็บทุกๆส่วนที่เธอได้จัดวางตกแต่งไว้
หลังจากที่ถึงข้างล่างตึกที่หลินจืออยู่ เขาให้คนขับรถขับออกไปก่อน แล้วตัวเขาเองก็ถือดอกไม้ขึ้นตึกไป
ครั้งนี้ที่ได้เคาะประตูหลินจืออยู่บ้าน ก็เปิดประตูอย่างรวดเร็ว
แต่หลังจากที่ได้เปิดประตูเห็นคนนอกประตูเป็นเขา เธอก็ชะงักอยู่กับที่
เทาเท่ยื่นส่งดอกไม้ที่อยู่ในมือให้กับเธอด้วยสีหน้าปกติ กำลังอ้าปากที่จะถามว่าร่างกายของเธอดีขึ้นรึยัง ก็เห็นเจเทาวน์ใส่ผ้ากันเปื้อนเดินออกมาจากครัวถามว่า “ใครมาหรอ?”
เทาเท่จ้องมองเจเทาวน์อย่างไม่อยากเชื่อ ทั่วทั้งร่างของเจเทาวน์สวมเสื้อลำลองสบาย ๆ ช่วงเอวคาดไว้ด้วยผ้ากันเปื้อนผู้หญิงที่เล็กกว่าไซส์หนึ่งเบอร์ ในมือถือตะหลิว เหมือนกำลังผัดกับข้าว
ท่าทางของเจเทาวน์อย่างนี้ เหมือนเขากับหลินจือเป็นคู่รักที่ใช้ชีวิตอยู่บ้านเดียวกันแล้ว
เทาเท่รู้สึกว่าคำว่าฟ้าผ่ากลางวันแสก ๆ ในเวลานี้พรรณนาความรู้สึกของเขาไม่พอ
เจเทาวน์เห็นเทาเท่ก็ค่อนข้างตกใจ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในมือเทาเท่ยังถือดอกไม้ช่อใหญ่อยู่
แต่ก็สงบได้ในเวลาที่รวดเร็ว แล้วก็ช่วยหลินจือที่ตะลึงอยู่กับพูดทักทายเทาเท่ขึ้นว่า “ท่านประธานเทาเท่ คุณมาได้ไงครับ? เข้ามาก่อน เข้ามาก่อน”
เทาเท่หน้างิ่วลงถอยหลังไปก้าวนึง หลังจากชักมือที่ยื่นดอกไม้กลับมาแล้ว แล้วปิดประตูใส่หน้าของหลินจือ แล้วหันหน้าสาวเท้าเดินออกไป
หึ!
ในบ้านของเธอมีผู้ชายคนอื่นอยู่ อีกทั้งยังทำกับข้าวให้เธอกินด้วย เขาจะเข้าไปได้ยังไง!
เข้าไปเพื่อเป็นก้างขวางคอของพวกเขาหรอ?
เข้าไปดูพวกเขาพลอดรักกันหรอ?
หลังจากลงลิฟต์มายังชั้นล่างเขาก็สาวเท้าออกจากตึก ปากประตูมีถังขยะใบใหญ่อยู่ เขาเอาดอกไม้ที่อยู่ในมือทิ้งลงไปในถังโดยไม่ลังเล
หลังจากที่ประตูถูกปิดอย่างเสียงดังและสะบัดอย่างกะทันหัน หลินจือและเจเทาวน์ให้ตกใจยิ่งนัก
หลินจือได้สติกลับมาก่อน เธอก็พูดอย่างหัวร้อนว่า “นี่เขาทำอะไรของเขาเนี่ย?”
ทั้งๆที่เขาเป็นคนมาเคาะประตู หลังจากที่เธอประตูมา เขาก็ปิดประตูใส่หน้าโดยไม่พูดสักแอะ
เทาเท่เอาตัวเองเป็นใหญ่ใช่หรือเปล่า? คิดว่าในโลกนี้เขามีอำนาจเด็ดขาด พูดอะไรจะได้อย่างนั้น อยากมาก็มา อยากไปก็ไป?
หลินจือรู้สึกว่าเทาเท่มีท่าทางแปลกๆ ไม่ให้ความเคารพเลย
เจเทาวน์กลับไม่รู้สึกแปลกใจอะไร “ท่านประธานเทาเท่อาจจะเป็นเพราะเห็นผมอยู่กับคุณที่นี่ อารมณ์เลยสูญเสียการควบคุมน่ะ”
หลินจือสัมผัสได้ว่านั่นเป็นการแสดงถึงความโกรธที่สูญเสียการควบคุมของเทาเท่
แต่สิ่งที่เธอไม่เข้าใจคือ “เขาจะสูญเสียการควบคุมอะไรได้? ฉันกับเขาหย่ากันมาปีกว่าแล้ว หรือว่าเขาไม่ยอมให้ฉันมีเพื่อนของตัวเอง? ไม่ยอมให้ฉันกินข้าวกับเพื่อน?
วันนี้ทั้งวันหลินจือเป็นเพราะประจำเดือนทำให้ปวดท้องและร่างกายอ่อนแรง ตอนบ่ายเจเทาวน์บอกว่าจะเข้ามาหาเธออีก คุยรายละเอียดกับเธอถึงเรื่องข้อเสนอแนะของตัวบทในวันนี้
แต่หลินจือคิดไม่ถึงว่าเจเทาวน์จะหอบพวกผักมาด้วย เดิมทีเธออยากสั่งแกรบเพื่อเป็นอาหารมื้อค่ำกับเจเทาวน์ แต่ว่าเจเทาวน์ได้เอาพวกผักมา เธอก็ทำได้แค่ให้เจเทาวน์ทำอาหาร
เธอคิดไม่ถึงเลยว่าเทาเท่จะมาหาเธอแล้วก็นำดอกไม้มาให้ หลังจากที่เปิดประตูเธอก็ถูกสะกดให้พูดออกโดยดอกไม้ในมือเขา
แน่นอนล่ะว่าตอนนี้ดอกไม้ช่อนั้นก็คงจะอยู่ในถังขยะแล้ว
เธอก็ไม่หวง
เจเทาวน์ทำให้เธอเบาใจ “อย่าโกรธเลย พวกเราไปเตรียมอาหารดีกว่า”
หลินจือก็ไม่อยากคิดถึงท่าทีที่ไม่มีมารยาทของเทาเท่นั้น หันหน้าเดินกลับเข้าไปด้านใน
ต้องยอมรับว่าฝีมือการทำอาหารของเจเทาวน์นั้นเยี่ยมสุดๆ ขนาดหลินจือที่เป็นคนทำอาหารได้ดียังรู้สึกชม
คิดดูดีๆ ยังคงเป็นครั้งแรกของหลินจือที่เธอได้เพลิดเพลินกับการที่มีคนทำอาหารให้
เธอแต่งงานกับเทาเท่มาสามปี เทาเท่เป็นพวกลูกคุณหนู ถึงขนาดว่าประตูห้องครัวอยู่ที่ไหนไม่รู้ด้วยซ้ำ
อาหารสามมื้อเป็นเธอทำด้วยตัวเอง เรื่องหยุมหยิมเล็ก ๆ น้อย ๆ ในชีวิตประจำวันก็เป็นเธอที่จัดการ สิ่งที่เทาเท่ทำเพื่อครอบครัวนอกจากเรื่องการหาเงินแล้ว ก็มีเรื่องบนเตียง
ในเมื่อเขาก็ทุ่มเททำงานอย่างสุดความสามารถ ก็ถือว่าเขาได้ชาวยแล้วหรือเปล่า
นอกจากนี้ หลินจือไม่เคยได้รับการถูกดูแลใด ๆ เลย
ป่วยไม่สบายก็ไปหาหมอเอง ซื้อยาเองกินยาเอง
ขนาดเรื่องปวดประจำเดือน เธอก็ไม่ได้พูดถึงเรื่องนี้กับเทาเท่เลย
ถ้าพูดไปเขาก็คงรู้สึกว่าเธอนั้นสำออย หรือไม่ดูดำดูดีอะไรเลย
ทุกครั้งที่ปวดท้องประจำเดือน เธอกลั้นไว้เมื่ออยู่ต่อหน้าเทาเท่ โดยรวมช่วงเช้าเธอนั้นพักอยู่บ้าน ถึงกลางคืนอาการก็คลายลงแล้ว
หลังจากนั้นก็เริ่มยุ่งกับการเตรียมอาหารค่ำ หลังจากรอเทาเท่เลิกงานเสร็จถึงบ้าน บนโต๊ะอาหารก็มีอาหารค่ำที่อร่อยรออยู่แล้ว เขาก็ไม่ได้สังเกตถึงความไม่สบายของร่างกายเธอ
อาจจะเป็นเพราะวันนี้เธอปวดท้องจนทรมาน ในขณะนี้หลินจือเพลิดเพลินกับการดูแลของเจเทาวน์ที่ทำอาหารค่ำให้ เธอรู้สึกซาบซึ้งจริงๆ
ผู้ชายที่เอาอกเอาใจ อ่อนโยน ถึงจะทำให้สบายจริงๆ