บทที่ 209 สู้โว้ยย!!
“ติ๊ง! เควสกะทันหันสำเร็จ! ได้รับแต้มอุปกรณ์ แต้มไอเท็ม แต้มอบิลิตี้ แต้ม
อัญเชิญ อย่างล่ะ10,000แต้ม!”
หลังจากน้องสาวมิซากะหายไป เสียงแจ้งเตือนของระบบก็ได้ดังขึ้น แต่วู่หยานก็
ไม่ได้มีเวลามากพอที่จะไปสนใจมัน
“มาสเตอร์! ระวังตัวด้วย!!”
บางทีอาจเป็นเพราะแอสเทรียสัมผัสได้ว่าแอคเซราเรเตอร์อันตรายจริง เธอจึง
ร้อนตะโกนเตือนวู่หยานด้วยสีหน้าจริงจัง ตัวเธอยามเข้าโหมดสู้รบนี่ต้องบอกว่ามี
เสน่ห์จริงๆ!
แอคเซราเรเตอร์หัวเราะอย่างกับคนบ้าโดยเอนหัวไปด้านหลัง ก่อนจะเงยหน้า
กลับมาด้วยรอยยิ้มน่ากลัว “จะเข้ามาพร้อมกันเหรอ? เอาเหอะยังไงมันก็ไม่
ต่างกันอยู่ดี ไอ้คนที่คิดขวางทางมันต้องตายให้หมด!!!”
“แอคเซราเรเตอร์!”
วู่หยานจ้องอีกฝ่ายด้วยสีหน้าจริงจัง “เดิมทีฉันก็ไม่อยากเป็นศัตรูกับนาย!”
ได้ยินแบบนี้ แอคเซราเรเตอร์ก็หัวเราะด้วยความดูถูก “ไอ้ฉันก็คิดว่าแกเป็นคนที่
ไม่ประมาณตน เหอะที่ไหนได้แกมันก็แค่ไอ้ขี้ขลาด!!”
แอคเซราเรเตอร์ พูดต่อ “แต่ก็นะ ไม่แปลกหรอก เพราะฉันคือแอคเซราเร
เตอร์!!!”
เวลาที่พูดประโยคนี้ออกมา น้ำเสียงของแอคเซราเรเตอร์นั่นเต็มไปด้วยความ
ภาคภูมิใจทว่าก็แฝงไว้ด้วยความเสียใจ จากนั้นเขาก็เงยหน้าหัวเราะดังลั่นราวกับ
ผู้ป่วยโรคจิตที่หนีออกมาจากโรงพยาบาลบ้าได้!
วู่หยานมองแอคเซราเรเตอร์ที่หัวเราะเป็นบ้าเป็นหลังโดยไม่ได้พูดปฏิเสธออกไป
อีกฝ่ายคงเข้าใจว่าเป็นเพราะเขากลัวจึงพูดแบบนั้นออกไป……
เหตุผลที่วู่หยานพูดแบบนี้ก็เพราะเขารู้ว่าในอนาคตแอคเซราเรเตอร์มันจะกลับตัว
กลับใจเดินออกจากความมืดไปสู่ด้านสว่าง ด้วยเหตุนี้วู่หยานจึงไม่ได้ไปช่วยโลลิ
น้อย Last Order ออกมา
แต่ว่า ตอนนี้มันเลวอยู่!
ต่อให้รู้ว่าอนาคตมันจะปรับปรุงตัวให่ก็เถอะ แต่ตัวมันตอนนี้ทำกับซิสเตอร์เป็น
เหมือนขยะเป็นเหมือนตุ๊กตาที่สามารถฆ่าแกงได้ตามใจ เพียงแค่เหตุผลนี้ก็
เพียงพอให้ไปอัดมันให้ยับแล้ว!
เสียงหัวเราะของแอคเซราเรเตอร์ค่อยๆเบาลง เมื่อเห็นสีหน้าที่ไม่เปลี่ยนไปของ
ผู้ชายและผู้หญิงตรงหน้า เขาก็ฉีกยิ้มกว้าง!
“ก่อนที่จะไปล่าไอ้ตุ๊กตา ขอฉันอุ่นเครื่องเล่นก่อนล่ะกัน!!!”
สิ้นเสียง แอคเซราเรเตอร์ก็ยกเท้าขึ้นก่อนที่จะกระทืบไปที่พื้น!
แรงสั่นสะเทือนได้ขยายออกไปโดยมีแอคเซราเรเตอร์เป็นจุดศูนย์กลาง พริบตา
ต่อมาพื้นที่5เมตรรอบตัวอีกฝ่ายก็พังทลาย!
แรงสั่นทำให้วู่หยานกับแอสเทรียเสียการทรงตัว ทั้งสองจึงรีบถอยห่างออกไป เมื่อ
ออกมามากพอเขาจึงหันไปมองตัวแอคเซราเรเตอร์
เป็นพลังทำลายที่แข็งแกร่งมาก…….
แอคเซราเรเตอร์เอียงคอด้วยรอยยิ้มดุร้าย แล้วพูดคำๆหนึ่งออกมา “ตาย….”
เศษหินจำนวนนับไม่ถ้วนได้ลอยขึ้นจากพื้นไปหยุดอยู่บนฟ้าชั่วครู่ ก่อนจะทิ้งดิ่ง
เข้าหาวู่หยาน!โดยมีเสียงโซนิคบูมตามท้าย! วู่หยานไม่เสียเวลาคิดเลยเขามั่นใจว่า
ความแรงของมันมากพอที่จะทะลุร่างกายตนได้แน่นอน!
ยกมือขึ้นจากนั้นทรายเหล็กสีดำก็ได้ลอยออกมาจากพื้นวนรอบตัววู่หยานก่อตัว
เป็นโล่ ซึ่งได้ป้องกันหินที่พุ่งลงจนหมด!
นัยน์ตาแอสเทรียเรืองแสงสีแดง ก่อนที่จะมีโล่กลมขนาดเล็กสีฟ้าปรากฎออกมา
จากความว่างเปล่าที่มือเธอ จากนั้นเธอก็ยกมันขึ้นมาด้านหน้า!
โล่ป้องกันคริสตัลโปร่งใสโผล่ออกมาคลุมตัวแอสเทรีย เมื่อเศษซากหินเข้ามา
สัมผัสมันก็ทำได้แค่ยื้ออยู่เพียงไม่กี่วินาทีก่อนจะสลายหายเป็นฝุ่นผง……
เอจิส! โล่ที่แข็งแกร่งที่สุดของแอสเทรีย!
“ฮ่า! ฉันจะไปล่ะนะ!”
เมื่อการโจมตีของแอคเซราเรเตอร์ผ่านไป แอสเทรียก็ตะโกนออกมาด้วยพลังอัน
เหลือล้น ดาบไคเซอร์ปรากฎออกมาที่มือจากนั้นเธอก็เหวี่ยงมันไปด้านหลัง!
“แอสเทรีย! โจมตี!!”
ด้วยการพุ่งตัวแอสเทรียได้ย่นระยะระเข้าหาแอคเซราเรเตอร์ด้วยความเร็วเกิน
จินตนาการ เผชิญกับคววามเร็วอันน่ากลัวนี่สีหน้าแอคเซราเรเตอร์ก็ได้เปลี่ยนไป
ใบดาบฟันไปที่ตัวแอคเซราเรเตอร์อย่างรุนแรง ต่อมาแอสเทรียก็รู้สึกได้ถึงแรง
มหาศาลที่ถูกส่งมามือข้างที่ถือดาบ วินาทีต่อมาเธอก็ปลิวกลับไปด้านหลังด้วย
ความเร็วที่มากกว่าขามา!
วู่หยานยกมือปิดหน้าด้วยความเอือมระอา เขาได้บอกเธอไปแล้วว่าไม่สามารถ
โจมตีโดยตรงใส่แอคเซราเรเตอร์ได้ แต่นี่กลับพุ่งเข้าไปฟันให้ตัวเองเจ็บตัวซะงั้น
…..สมแล้วจริงๆที่เป็นยัยโง่…….
ในเวลาเดียวกัน ดูเหมือนว่าในที่สุดแอสเทรียก็จำคำพูดแนะนำของวู่หยานจนได้
เธอก้มหน้าลงด้วยความอาย แล้วบินกลับไปยืนข้างๆตัววู่หยาน จากนั้นเชิดคอ
จ้องเขม็งไปที่แอคเซราเรเตอร์ตาเป็นมันราวกับอีกฝ่ายเป็นคนผิด
พูดตามตรงการโจมตีของแอสเทรียที่โดนแอคเซราเรเตอร์สะท้อนกลับมาควรทำ
ให้เธอบาดเจ็บไม่ใช่น้อย แต่ทว่าแอสเทรียกลับไร้รอบขีดข่วน นี่ทำให้แอคเซราเร
เตอร์สงสัย
“สปีดสูงมาก แล้วดูเหมือนว่าการป้องกันเองก็ไม่ได้ด้อยด้วย…..” ในที่สุดแอค
เซราเรเตอร์ก็เก็บรอยยิ้มดูถูกบนหน้ากลับไป เปลี่ยนเป็นใบหน้าเคร่งขรึมมองไปที่
แอสเทรีย หลังจากนั้นเขาก็หัวเราะ
“แต่ว่าการโจมตีของแก มันไร้ค่า!!”
กางมือทั้งสองออก จากนั้นบรรยากาศก็สั่นไหวทันทีภายใต้การควบคุมของแอค
เซราเรเตอร์ ไม่นานลมพายุขนาดใหญ่ก็ได้ปรากฏออกมารอบตัวเขา
“อุตสาอยู่เล่นกับฉันมาซะตั้งนาน อย่ารีบตายกันนักล่ะ…….” แอคเซราเรเตอร์ม
องวู่หยานกับแอสเทรีย ก่อนที่พายุทอร์นาโดจะมุ่งไปหาวู่หยาน
“ทำไมถึงต้องเป็นตู?”
คำถามนี่ไม่มีตอบเขา ทรายเหล็กได้รวมตัวกันเป็นพายุหมุนเหมือนของอีกฝ่าย
ต่างกันแค่ของเขาเป็นสีดำและไม่ได้เกิดจากลมแต่เป็นทรายเหล็กที่หมุนวนกัน!
พายุสีดำของปลอมปะทะกับพายุของจริง ก่อให้เกิดลมกระจายตัวออกไปทั่วทุก
ทาง!
ผลคือพวกทั้งสองได้รวมตัวกันแล้วหายไปโดยไม่ได้ทำความเสียหายต่อใครทั้งนั้น
พายุเพิ่งหายพื้นก็สั่นไหวอย่างรุนแรงต่อทันที จากนั้นก็มีฝนหินถล่มไปที่วู่หยาน!
สาวผมทองปรากฏตรงหน้าวู่หยานแล้วยกโล่ตัวเองขึ้นก่อนที่จะมีบาเรียปรากฏ
ออกมาป้องกันฝนหินทั้งหมด!
เห็นแอสเทรียช่วยตนเองป้องกัน วู่หยานก็แบมือจากนั้นทรายเหล็กก็มารวมตัวกัน
เป็นดาบ เขาฉีกตัวออกมาจากด้านหลังแล้ววิ่งเข้าหาแอคเซราเรเตอร์ เพียงแค่
พริบตาเดียวเขาก็ไปถึงตรงหน้าแอคเซราเรเตอร์!!
จู่ๆก็มีผู้ชายปรากฏตรงหน้าตนทำให้แอคเซราเรเตอร์ตกใจเล็กน้อย แน่นอนว่าที่
ตกใจคือความเร็วของอีกฝ่าย ทำไมไอ้สองคนนี่มันถึงได้เคลื่อนไหวเร็วนัก?
แอคเซราเรเตอร์ไม่ได้ให้ความสนใจกับดาบทรายเหล็กที่พุ่งตรงเข้ามาเลย เขาเอา
แต่มองวู่หยานด้วยรอยยิ้มดูถูกราวกับกำลังเยาะเย้ยอะไรบางอย่าง
ด้วยการสะท้อนนี้ ใครมันจะทำเขาบาดเจ็บได้?
ดาบทรายฟันไปที่อกแอคเซราเรเตอร์อย่างแรง วินาทีที่กำลังจะสัมผัสตัวดาบก็
ชะงักค้างจากนั้นก็ถูกพลังอะไรบางอย่างสลายไป!
เมื่อแอคเซราเรเตอร์มองไปที่มือวู่หยานเขาก็ช็อค
ด้วยพลังที่มันโจมตีเข้ามาเมื่อกี้หลังจากโดนสะท้อนมือนั้นก็ควรจะฉีกขาดไปแล้ว
สิ ทำไมถึงไม่เป็นอะไรเลย?…..
ความคิดถูกเจ้าตัวโยนทิ้งอย่างรวดเร็ว ยังไงซะการโจมตีก็ไม่ได้ผลอยู่ดี……
“เปล่าประโยชน์…..” แอคเซราเรเตอร์หัวเราะใส่วู่หยานที่อยู่ห่างจากตัวเองไม่กี่
นิ้ว รอยยิ้มของเขาดูอัปลักษณ์มาก จากนั้นยกเท้าขึ้นทันใดนั้นจุดที่วู่หยานยืนอยู่
ก็ถูกปกคลุมด้วยก้อนกรวด!
วู่หยานถอยกลับมา แล้วมองดูมือตัวเองข้างที่จับดาบที่สั่นเล็กน้อยและตรงนิ้วก็มี
รอยปริแตก……
กำมือแน่นโดยเมินเฉยต่อเลือดที่ไหลออกมาจากแผล วู่หยานกัดฟันด้วยสีหน้า
ยุ่งยาก
ไอ้วิธีการชักมือกลับตอนที่สัมผัสตัวแอคเซราเรเตอร์ มันไม่ได้ทำสำเร็จกันง่ายๆ
จริงๆด้วย…..
“…แต่ว่า…..”
วู่หยานมองดูแอคเซราเรเตอร์ที่ยืนอยู่ห่างออกไปด้วยรอยยิ้ม เขาสะบัดเลือดบน
มือออกไปแล้วสร้างดาบทรายแหล็กอีกอัน
เมื่อกี้อย่างน้อยมันก็ไม่ได้ล้มเหลวซะทีเดียว มือของเขาถือได้ว่าเป็นหลักฐานที่ดี
ที่สุด!!