บทที่ 210 แอสเทรียสู้ตายค่า!
การต่อสู้เพิ่งเริ่มมาได้เพียงหนึ่งนาทีกว่าๆเท่านั้น แต่กลับทำให้พื้นที่รอบๆเละเทะ
ไปหมด
ตัวการใหญ่ทำเรื่องพวกนี้คือผู้ชายที่ยืนตรงหน้า แอคเซราเรเตอร์!
ต้องพูดว่าพลังของแอคเซราเรเตอร์นั้นช่างน่าสะพรึงกลัวจริงๆ เขาจำเป็นแค่ออก
แรงเล็กน้อยก็สามารถใช้พลังของตัวมาทบทวีคูณแรงนั้นให้กลายเป็นพลังทำลาย
ล้างมหาศาลได้! (@คือแค่ออกแรงกระทืบเท้ากับพื้นเบาๆก็สามารถสร้างพลัง
ทำลายล้างได้แล้ว)
ส่วนทางด้านการป้องกันก็มีการสะท้อนกลับทุกรูปแบบอีก….
เรียกได้ว่าทั้งด้านโจมตีและป้องกันสูงส่งเกินจะเปรียบ นี่ทำให้ผู้คนรู้สึกว่าอีกฝ่าย
ไร้เทียมทาน…..
แต่วู่หยานไม่ได้คิดแบบนั้นด้วย…….
ในเวลานี้ สีหน้าแอคเซราเรเตอร์ดูมืดมนมาก สาเหตุเป็นเพราะหนึ่งชายหนึ่งหญิง
ตรงหน้าที่สามารถยื้อตนมาได้นานถึงขนาดนี้อย่างไม่คาดคิด ถึงแม้ก่อนหน้านี้
ปากจะพูดไปว่าอย่ารีบตายกันนัก แต่พออีกฝ่ายไม่ยอมตายไปสักที ตัวเขาก็เริ่มมี
โมโห
“ดูจากพลังของพวกมันแล้วไม่น่าจะต่ำกว่าเลเวล5 แล้วทำไมถึงไม่เคยได้ยินชื่อ?”
แอคเซราเรเตอร์หรี่ตาลง เขาคิดไม่ออก คิดไม่ออกจริงๆ!
เขากระทืบเท้าทำพื้นสั่นสะเทือน พื้นดินที่เพิ่งผ่านการโดนทำลายมาก็ได้โดน
ทำลายอีกรอบ!
ไม่รู้ว่าแอคเซราเรเตอร์เปลี่ยนแรงของตัวเองยังไง เสาหินแหลมคมได้ทะลวง
ขึ้นมาจากพื้นโจมตีวู่หยานกับแอสเทรีย!
ทรายเหล็กผุดขึ้นมาจากพื้นแล้วกลายเป็นแส้คอยตวัดทำลายเสาหิน!
“ฮ่าฮ่าฮ่า! ถ้าแบบนี้ล่ะเป็นยังไง!”
แอคเซราเรเตอร์หัวเราะร่าจากนั้นกระทืบเท้าอีกครั้ง ครางนี้ไม่เพียงแต่เสาหิน
โผล่มาข้างหน้ายังมีข้างหลัง ด้านซ้ายแล้ะด้านขวาด้วย พวกมันพากันโจมตีไปที่
ทั้งสสองคน!
วู่หยานประหลาดใจ แอสเทรียเองก็เหมือนกัน ถ้าสามารถใช้ปีกได้การโจมตีแค่นี่
ไม่นับว่าอะไรได้ แต่ด้วยเวลากระชันชิดขนาดนี้เธอเรียกปีกออกมามาไม่ทัน!
เสาหินพุ่งมาจากทั้งสี่ทิศ ไม่นานนักก็ปรากฏที่ข้างตัวทั้งสองแล้วโจมตีเข้าอย่าง
แรง!
“ปัง!”
เสาหินได้โจมตีเข้าไปที่จุดเดียวกัน และได้ฝังวู่หยานกับแอสเทรียไว้ข้างใน!
แอคเซราเรเตอร์ฉีกยิ้มดูถูก ราวกับว่าที่ฆ่าไม่ใช่มนุษย์ด้วยกันแต่เป็นหนอนแมลง
ทั้งตัวเขาแผ่ออร่าชั่วร้ายออกมา
ทว่ารอยยิ้มนี้ก็ไม่ได้คงอยู่นานนัก มันได้หายไปพร้อมกับการปรากฏตัวของแสงสี
แดง ซึ่งนี่ทำให้เสาหินสั่นสะเทือนทันที!
เปลวไฟสีแดงกระจายออกมาจากข้างในเสาหิน ในเวลาเดียวกันกับที่ไฟโผล่
ออกมาคลื่นดาบทรงพลังก็ได้ปรากฏออกมาจากเสาหินและบดขยี้มันไปพร้อมกัน!
เมื่อเสาหินพังทลายมา ตัวของวู่หยานกับแอสเทรียก็ปรากฏออกมานี่ทำให้แอค
เซราเรเตอร์มีสีหน้ามืดมนอีกครั้ง
ตอนนี้ในมือวู่หยานได้ถือดาบคาตะนะอยู่อันหนึ่ง ครั้งนี้ไม่ได้ทำมาจากทรายเหล็ก
แต่เป็น นิเอโทโนะ โนะ ชานะ!
ส่วนที่ทำลายเสาหินไปก็เป็น ดาราพลิกสวรรค์ ถึงแม้มันจะไม่ได้ยากอะไรแต่มันก็
ทำให้ตัวเขาเประเปื้อนไปด้วยฝุ่น ยังดีที่นี่ไม่ใช่หน้าตาที่แท้จริงของเขา……
“มาสเตอร์ ไม่เป็นไรนะ?”แอสเทรียไม่รู้เลยว่าจมูกตัวเองกำลังเปื้อนฝุ่น นี่ทำให้วู่
หยานหัวเราะ
“อื้ม! สบายมาก!”
“ดูเหมือนว่าจะไม่เป็นไรกันจริงๆ…..” เสียงของแอคเซราเรเตอร์ดังเข้ามาในหู
ของทั้งคู่ ทำให้สีหน้าพวกเขาเปลี่ยนเป็นเคร่งขรึม
มองดูเศษซากเสาหินที่ถูกทำลาย แอคเซราเรเตอร์ก็แลบลิ้นเลียริมฝีปาก “การ
โจมตีระดับนี้คงทำอะไรพวกแกไม่ได้เลยสินะหือ? สงสัยพลังจะน้อยไปหน่อย
……”
ได้ยินแบบนี้ ปากวู่หยานก็บิดเบี้ยว “นายแทบจะถล่มที่นี่ซะไม่เหลือชิ้นดีแล้วนะ
แต่กลับพูดว่าพลังยังไม่พออีก……”
“ต่อให้มันเละขนาดไหนแล้วมันยังไงล่ะ? แกเองก็ยังมีชีวิตอยู่ดีนี่ หรือว่าแกกำลัง
ท้าทายฉัน?” แอคเซราเรเตอร์ยิ้ม
“ถ้าฉันกลายเป็นตัวตนที่ไร้เทียมทาน แมลงเม่าอย่างพวกแกคงไม่กล้ามาท้ายฉัน
สินะใช่มั้ย?”
จากนั้นแอคเซราเรเตอร์ก็ชี้มาที่ตัววู่หยาน “มีคนมากมายที่มาท้ายทายฉันเพื่อ
หวังแย่งชิงฉายาผู้ที่แข็งแกร่งที่สุด แม้แต่คนที่ไร้ชื่ออย่างพวกแกเองก็มาที่นี่เพื่อ
ท้าทายฉัน ไหนบอกมาสิว่าฉันพูดผิดน่ะ?”
ยิ่งพูดเสียงแอคเซราเรเตอร์ก็ยิ่งดังจนสุดท้ายก็กลายเป็นเสียงคำราม วู่หยานไม่ได้
ให้ความสนใจ เขาทำเพียงแค่มองอีกฝ่ายด้วยสายตาสงสาร
หมอนี่ก็แค่เลือกทางแก้ปัญหาผิด บางทีคนที่น่าสงสารที่สุดคงเป็นเขา…….
เมื่อเห็นวู่หยานกับแอสเทรียไม่ตอบสนอง แอคเซราเรเตอร์ก็ฉีกยิ้มบ้าคลั่ง “ตราบ
ใดที่ตัวฉันกลายเป็นผู้ไร้เทียมทาน ก็จะไม่ใครหน้าไหนกล้าออกมาท้าทายฉันอีก
ดังนั้นในเมื่อแกต้องการขัดขวางฉันไม่ให้กลายเป็นคนไร้เทียม ถ้างั้นก็ตายซะ!!!”
เส้นทางเดินลมเปลี่ยน…..
สายลมได้พากันเข้าไปรวมตัวกันที่ข้างบนหัวของแอคเซราเรเตอร์!
“มาสเตอร์!”
วู่หยานมองดูลมพายุเหนือหัวอีกฝ่าย แล้วมองสีหน้าจริงจังของแอสเทรีย เขาก็
เงียบไปชั่วครู่ก่อนจะพยักหน้า เห็นแบบนี้แอสเทรียก็ยิ้มออกมา จากนั้นในดวงตา
เธอก็สะท้อนถึงข้อมูล…..
ไม่นานนัก พายุทอร์นาโดก็ได้เคลื่อนตัวมาทางทั้งสองโดนที่ด้านหลังตามมาด้วย
ก้อนหินขนาดใหญ่ที่กำลังร่วงลงมาราวอุกกาบาต!
เผชิญหน้ากับการโจมตีอันน่ากลัวนี่ วู่หยานถอยหลังหนึ่งก้าว เขาจับด้ามดาบ นิ
เอโทโนะ โนะ ชานะ ด้วยสองมือขณะที่จ้องแอคเซราเรเตอร์
นัยน์ตาสีแดงของแอสเทรียกำลังสแกนพายุกับก้อนหินยักษ์ที่ใกล้เข้ามา ด้านหลัง
เธอสั่นเบาๆจากนั้นปีกสีขาวบริสุทธิ์ก็ได้ผุดออกมาจากหลังเธอ!
“ปีก?” แอคเซราเรเตอร์ขมวดคิ้วเล็กน้อย แต่ก็ไม่ได้แคร์อะไร เพราะคาคิเนะไอ้
คนที่หวังฮุปตำแหน่งของตัวเองยังมีเลย แถมยังมีถึง6ปีก!
ที่ทำให้แอคเซราเรเตอร์ขมวดคิ้วจริงๆมาจากความรู้สึกไม่ดีที่อยู่ๆก็ปรากฏขึ้นใน
ใจ……..
ในมี่สุดพายุกับหินก็มาถึง แอสเทรียร้องออกมาเบาๆแล้วบินขึ้นไปด้วยความเร็วที่
มากกว่าความเร็วเสียง มาถึงตรงหน้าพายุกับก้อนหินจากนั้นยกดาบฟันเข้าไป!
ชั่วขณะที่ดาบของแอสเทรีบสัมผัสกับพายุก็ได้เกิดแสงจ้าขึ้นก่อนที่พริบตาต่อมา
พายุจะถูกตัดเป็นสองส่วน!
เมื่อพายุถูกตัดขาด ส่วนที่เหลืออยู่ก็ได้ร่วงลงไปที่พื้นทั้งสองฝั่ง ขณะเดียวกันก้อน
หินก็มาถึงตรงหน้าแอสเทรีย!
“เอจิส!!”
ตัวเลขข้อมูลในนัยน์ตาเคลื่อนไหว โล่อันเล็กที่อยู่บนมือแอสเทรียก็ได้ส่องแสง
ออกมา จากนั้นบาเรียคริสตัลโปร่งเสียงก็ปรากฏออกมา!
“ปัง! ปัง! ปัง! ปัง!”
ก้อนหินขนาดใหญ่ได้กระแทกใส่เอจิสอย่างต่อเนื่อง แล้วเกิดเสียงระเบิดออกมา
ก่อนที่พวกมันจะแตกกระจายเป็นชิ้นๆ โดยที่ไม่สามารถทำอะไรเธอได้เลย!
เมื่อพวกมันถูกป้องกันได้จนหมด ส่วนชิ้นเล็กๆที่แตกออกมาก็ได้หายไปเช่นกัน…..
เห็นแบบนี้สีหน้าแอคเซราเรเตอร์กลายเป็นมืดคลึ้มอีกครั้ง เป็นเพราะเขารู้ว่า
ตัวเองได้ประเมินอีกฝ่ายต่ำเกินไปอีกแล้ว ไม่ว่าจะเป็นพลังโจมตี หรือพลังป้องกัน