ทับทิมเห็นทั้งสองคนอยู่ในสายตา ก็ถอนหายใจยาวๆ ทำไมเธอไม่เจอผู้ชายแบบนี้บ้างนะ?
กินอาหารเที่ยงเสร็จก็ไม่มีอะไรทำ ทับทิมคันไม้คันมือ ออกปากชวน “มาเล่นกันสักกี่ตาเถอะ”
ยังไงก็ไม่มีอะไรทำเชอร์รีน ก็ตอบรับ
จักรกฤษ กนกอร ทับทิมและยังมีเชอร์รีน ก็นั่งอยู่บนโต๊ะไพ่นกกระจอกออกัสก็นั่งอยู่ข้างหลังเธอ ร่างยาวก็นั่งเอนเยงอย่างเกียจคร้าน มองดูเธอเล่น
ดวงขึ้นไม่เบาเชอร์รีนยังไม่แพ้เลย
แต่ ทับทิมไม่ยอมแล้ว ให้ทั้งสองคนเปลี่ยนที่นั่งกัน ให้ออกัสมาเล่นเชอร์รีนนั่งดู
ทำไงได้เชอร์รีนก็เปลี่ยนที่นั่ง ไปนั่งข้างๆออกัส
ตอนแรกออกัสไม่รู้กติกาการเล่นไพ่นกกระจอก แพ้ทุกรอบเชอร์รีนก็นั่งอยู่ตรงนั้น เอาเงินให้ทั้งสามคน
ตอนนั้น เงินที่ชนะมาก็เหลือไม่เท่าไหร่
ในที่สุดก็ทนดูไม่ไหวแล้วเชอร์รีนยืดตัวขึ้น ชี้แนะเขา
ผ่านไปอีกสามสี่ตา ก็รู้กฎกติกาแล้ว เงินที่เสียไปก็ชนะกลับมาไม่น้อยเลย
เชอร์รีนที่นั่งอยู่ข้างๆเขาได้แต่ยิ้มนับเงิน ทับทิมมองดูได้แต่หมั่นเขี้ยว
“ผ่อง……”
นิ้วเรียวยาวสวยงามได้ผลักไพ่ที่อยู่ตรงหน้าออกมา ริมฝีปากบางของออกัสได้พูดออกมาสั้นๆ แววตายังแฝงไปด้วยรอยยิ้ม มีความสุข
ทับทิมควักกระเป๋าเงินแบบหมดแรงไปทั้งตัวจักรกฤษก็กระแอมออกมาเบาๆ เขาก็แพ้มาเยอะแล้ว
ตอนนั้นเอง ก็มีเสียงเคาะประตูดังขึ้นเชอร์รีนไปเปิดประตู ก็เป็นเพื่อนเล่นไพ่ของกนกอร
กนกอรส่ายหน้าพร้อมกับปัดมือ ในคำพูดนั้นแฝงไปด้วยความโอ้อวดและได้ใจ “ฉันเล่นไม่ไหวแล้ว เดี๋ยวนี้นั่งนานแล้วปวดเอว พวกเธอมาเล่นกับลูกเขยฉันสิมา”
เพื่อนๆที่เล่นไพ่ด้วยกันล้วนเป็นหญิงสูงวัย เมื่อได้เห็นออกัส ก็ล้วนตกตะลึงและอิจฉาเล็กน้อย
กนกอรวาสนาดี ลูกสาวของเธอวสนาดียิ่งกว่า ไปได้ลูกเขยที่หล่อเหลาขนาดนี้มาจากไหนเนี่ย?
จ้องมองออกัสอยู่นานสองนาน กว่าจะนั่งลง ก็เริ่มล้างไพ่ใหม่
เชอร์รีนมองเห็นภาพนี้ คิ้วของเธอก็กระตุกเล็กน้อย
ออกัสในชุดสูทนั่งตัวตรง ใบหน้าอันหล่อเหลา มีสง่าราศี แต่กลับนั่งอยู่ในวงของผู้หญิงวัยห้าสิบกว่าปี สัมผัสไพ่นกกระจอกอย่างสง่างาม แล้วใช้มือสองข้างดันขึ้น “น็อกครับ……”
อาจจะเพราะว่า ทับทิมหลงจนสูญเสียสติไปแล้ว ผู้ชายเล่นไพ่นกกระจอก สามารถมีเสน่ห์ได้ขนาดนี้เชียวหรือ!
เมื่อเล่นจบแล้ว ทุกคนก็แยกย้ายกันกลับ เวลาดึกจนถึงสองทุ่มแล้ว พวกเขาก็ควรจะกลับบ้านสิริไพบูรณ์ได้แล้ว
แต่ ดูเหมือนเชอร์รีนจะไม่อยากกลับ ยังอยู่บ้านไม่พอใจเลย เพราะว่าไม่ได้กลับมาบ้านนานแล้ว
ออกัสเห็นสีหน้าเธอแบบนั้น ก็ใช้มือจัดระเบียบเสื้อสูทบนตัวเงยหน้าขึ้นมอง “ไม่อยากกลับบ้านสิริไพบูรณ์หรอ?”
ได้ยินแบบนั้น เชอร์รีนก็ขมวดคิ้ว สีหน้าของเธอมันชัดเจนขนาดนั้นเลยหรือ?
“ไม่ได้ไม่อยากกลับค่ะ แต่ว่าอยากอยู่ที่นี่สักคืน พรุ่งนี้ค่อยกลับบ้านสิริไพบูรณ์”เธอค่อยๆพูดออกมา เศร้าเล็กน้อย
“ในเมื่ออยากอยู่ ก็อยู่ที่นี่สักคืนค่อยกลับ……”เขาพูดแบบนี้
สีหน้าเปลี่ยนเป็นชื่นชม มุมปากเชอร์รีนแฝงด้วยรอยยิ้ม พูดว่า “โอเคค่ะ งั้นคุณกลับบ้านดีๆนะคะ ระวังความปลอดภัยด้วย”
ท่าทีเปลี่ยนไปอย่างชัดเจนออกัส ไม่พอใจเล็กน้อย ขมวดคิ้ว มองไปที่เธอ “ใครบอกว่าผมจะกลับบ้านล่ะคุณหญิงเชอร์รีน? ”
“คุณหมายความว่าไงคะ?”
“ก็ต้องเป็นผมที่อยู่นี่ด้วยสิ พรุ่งนี้ค่อยกลับบ้านสิริไพบูรณ์ด้วยกัน…… ”เขาพูดช้าๆอย่างเป็นธรรมชาติ
เชอร์รีนถามด้วยความสงสัยอย่างผิดปกติ “คุณชายออกัส คุณจะนอนที่ไหนคะ?”
เลิกคิ้ว ออกัสขยับริมฝีปาก ทำตัวอย่างเป็นกันเอง เปิดปากอย่างช้าๆ “ตอนกลางคืนคุณหญิงเชอร์รีน นอนที่ไหนล่ะ?”
“ก็ต้องนอนที่ห้องของฉันสิคะ”เธอตอบอย่างไม่จริงจัง
“ถ้างั้นคุณหญิงเชอร์รีนคิดว่าผมจะนอนที่ไหนล่ะครับ?”เขาถามกลับแบบมีเลศนัย
คิ้วของเชอร์รีนกระตุกไม่หยุด อดที่จะกลืนน้ำลายไม่ได้ คงไม่ใช่สิ่งที่เธอทายไว้ในใจหรอกนะ?
“คุณคงไม่ได้จะนอนห้องฉันหรอกนะคะ?”
ยังคงเป็นสายตาที่มืดมนดวงนั้นออกัสจ้องเธออย่างสนใจ และหัวเราะเบาๆ “สมแล้วที่เป็น คุณหญิงเชอร์รีนฉลาดจริงๆ”
ได้ยินแบบนั้น เธอก็บีบนิ้วที่อยู่ข้างตัว พยายามที่จะพูดให้เขายอม “ห้องของฉันเล็กมาก คุณคงนอนไม่สบายแน่ๆ”
“ผมไม่ถือนะ คุณหญิงเชอร์รีนจะถือทำไมกัน หื้ม?”
“……” เขาไม่ถือ ไม่ได้แสดงว่าเธอก็ไม่ถือนี่!
“นอกจากนี้ ผมขอเข้าไปดูห้องส่วนตัวของคุณหญิงเชอร์รีนจะเป็นไรไหมครับ?หรือจะให้ผมไปถามที่ห้องรับแขก?”
ยังจะถามอีก เพียงแต่เขาเอ่ยปาก พ่อแม่ก็ยอมรับร้อยเปอร์เซ็นต์แหละ จะปฏิเสธได้ยังไง?
“ตามใจค่ะ คุณชายออกัสอยากจะทำอะไรก็ทำ”เธอพูดอย่างไม่เกรงใจ จากนั้นก็เข้าไปในห้องอาบน้ำ
เท้าเรียวยาวก้าวเดินออกัสค่อยๆเดินเข้าไปในห้องทางซ้ายมือ สายตาสอดส่ายไปทั่ว ห้องเล็กมาก แต่สะอาดอย่างน่าเหลือเชื่อ
หน้าต่างสีเขียวอ่อน ผ้าปูเตียงสีแดงกุหลาบ ในห้องมีเตียงหนึ่งหลัง มีตู้เสื้อผ้า แล้วก็โต๊ะหนังสือ บนระเบียงหน้าต่างมีดอกไม้ที่ไม่รู้ชื่อวางอยู่เต็มไปหมด
เรียบง่าย อบอุ่น กลิ่นหอมของส้มอ่อนๆผสมกับกลิ่นหอมของอะไรไม่รู้ แต่หอมมาก
ร่างสูงของเขายืนอยู่ข้างโต๊ะหนังสือ มือของเขารื้อดูสมุดบันทึกการเรียนของเธอ ลายมือสวยงามมาก ดูก็รู้ว่าเขียนอย่างตั้งใจ
อืม คุณหญิงเชอร์รีนดูแล้ว เป็นหญิงสาวที่จริงจังจริงๆ
เชอร์รีนออกมาจากห้องอาบน้ำ อาบน้ำเสร็จแล้ว เธอสวมชุดนอน ชายหนุ่มก็หรี่ตามอง กำลังแกล้งหลับอยู่บนเตียง
เธอขมวดคิ้ว รู้สึกว่าไม่เข้าใจความคิดของเขา บ้านสิริไพบูรณ์ก็อยู่ตรงนั้นสะดวกสบาย เขากลับจะมานอนเบียดกับเธอในห้องเล็กๆ
เดินเข้าไปยื่นมือไป เธอผลักไหล่เขาเล็กน้อย “ฉันอาบน้ำเสร็จแล้ว คุณจะอาบไหมะ?”
“ไม่อาบ……”ส่ายหน้า ที่จริงเขาเป็นคนรักษาความสะอาด
“ห้องฉันก็กว้างแค่นี้ คุณก็เห็น คุณแน่ใจนะคะว่าจะนอนหลับลง?”เธอพูด
ห้องก็เล็กอยู่แล้ว อีกอย่างคือเตียงเดี่ยว เธอกับเขาสองคน จะนอนลงได้ยังไง?
“เตียงมันไม่มีชีวิต แต่คนมีนะครับ จะต้องมีทางแหละ……”
สองมือกอดอก ถอยออกมาด้านหลัง จะได้มองเขาได้ง่าย “ไหนคุณชายออกัสลองคิดวิธีดูสิคะ”
ในตาก็เห็นแล้วว่าเป็นเตียงเดี่ยวออกัสมองไปที่เธอลึกๆ แล้วพูดออกมาว่า “ผมนอนบนเตียงคุณหญิงเชอร์รีนนอนบนตัวผม……”
“……”นี่นับว่าเป็นวิธีอะไรเนี่ย?
พูดมาตั้งนาน ก็เหนื่อยใจแล้ว ก็ไม่พูดอะไรแล้ว แย่งขึ้นเตียงก่อนเลยแล้วกัน
เขาเลิกคิ้ว เดินไปข้างหน้า ถอดรองเท้า ขึ้นไปบนเตียงด้วย เพียงแต่ว่าเตียงนี้เล็กเกินไปจริงๆ ขายาวๆของเขาแทบจะยืดออกไปไม่ได้ ต้องนอนขดตัว
ในเวลานั้นเอง เตียงที่เดิมก็เล็กอยู่แล้วก็ดูจะยิ่งคับแคบขึ้นไปอีก ถ้าทั้งสองคนนอนราบ ก็นอนไม่ได้แน่นอน
ไร้หนทาง เธอต้องนอนตะแคงข้าง แล้วก็ตั้งใจหันหลังให้เขา แก้มติดกับกำแพงอีกด้าน