เห็นแบบนั้น เขาก็ขมวดคิ้วแน่นออกัสยื่นแขนไป วางบนเอวของเธอ
ร่างกายขยับสั่นเล็กน้อย ไม่ทันที่เธอจะตอบสนอง สองมือที่แข็งแรงนั้นก็ยกร่างเธอขึ้นแล้วพลิกกลับ หญิงสาวได้นอนอยู่บนหน้าอกของเขา
มองไปที่เธอ มือใหญ่ๆของออกัสไปจับคางของเธอ เสียงทุ้มต่ำพูดออกมาว่า “คุณนอนกับผม หรือนอนกับกำแพง หื้ม?”
“ฉันแค่นอนไปทางกำแพงก็เท่านั้น คุณให้ฉันลงไปได้ไหม แบบนี้ฉันร้อน…… ”
ที่จริงแล้วไม่ได้ร้อนหรอก แต่เพราะว่าร่างกายของทั้งสองคนไม่มีช่องว่างระหว่างกันเลย แนบสนิทอยู่ด้วยกัน แน่นๆ
ถึงขนาดที่เธอยังรู้สึกได้ถึงเสียงหัวใจเต้นของเขาด้วย แข็งแรง มีพลังขนาดนั้น จึงทำให้ หัวใจของเธอก็เต้นแรงขึ้นด้วยเช่นกัน
ริมฝีปากของเขายิ้มขึ้น ชั่วร้ายเล็กน้อย เขาจ้องไปที่เธอ ตั้งใจที่จะพ่นลมร้อนจากริมฝีปากบางๆไปที่ใบหน้าของเธอ เสียงหนักแน่น อบอุ่น และชวนหลงใหล
“ร้อน?หน้าอกของผมทำให้คุณหญิงเชอร์รีนร้อนตรงไหน?หรือว่าจะเป็นเต้าที่หน้าอก ก็ถูกนะกครับ ทั้งร่างกายมีแค่ตรงนั้นที่นุ่มที่สุดเลยอาจจะทำให้ร้อนง่าย……”
ได้ยินแบบนั้น เชอร์รีนก็หน้าแดงหูแดง ด่าไปเบาๆ “หน้าไม่อาย!”
“หรอครับ ถ้าเป็นแบบนี้หล่ะ……”
พูดพลาง มือใหญ่ๆของออกัสก็ล้วงเข้าไปข้างล่างในเสื้อนอนของเธอ
“เอามือออกไปเดี๋ยวนี้นะ!อนาจาร!”หน้าของเชอร์รีนแดงขึ้นเรื่อยๆ ใช้แรงตีแขนของเขา
หน้าผากกว้างกดลงไปบนหน้าผากของเธอ ทั้งสองคนตามองกัน จมูกก็ชนติดกัน ระยะห่างระหว่างริมฝีปากก็มีแค่ฝ่ามือเดียวกั้นอยู่เท่านั้น
เพียงแค่ขยับนิดเดียว ริมฝีปากทั้งสองก็จะประจบกัน เชอร์รีนตกใจจนไม่กล้าขยับ
ชายหนุ่มยิ้ม แต่ก็ไม่ได้จูบเธอ ริมฝีปากร้อนๆก็แค่ผ่านริมฝีปากเธอไปเท่านั้น
ร้อนรุ่ม ชา หัวใจของเธอเต้นไม่เป็นจังหวะ เงยคางขึ้นมา หลบการกระทำของเขา
ยิ้มเล็กน้อย เขากัดริมฝีปากล่างของเธออย่างกะทันหัน
*
บ้านสิริไพบูรณ์
สุนันท์กวาดสายตาไปทั่วโต๊ะอาหาร จากนั้นก็ขมวดคิ้ว มองไปที่เลอแปง “พี่นายล่ะ?”
“ไม่ได้กลับบ้าน” เห็นได้ชัดว่าสีหน้าของเลอแปง ไม่ได้สู้ดีนัก เขาหรี่ตาลง แล้วขยี้ผมอย่างหงุดหงิด
“ไปไหน ไม่ได้กลับบ้าน?”
หยาดฝนนั่งเงียบๆซดซุป แต่หูก็ยังตั้งใจฟังที่ทั้งสองคนพูดกัน
“เมื่อวานไม่ได้ไปกับพี่สะใภ้หรอ เมื่อคืนคงค้างอยู่ที่โน่นด้วยกัน”เมื่อพูดถึงเรื่องนี้ ในใจของเขาก็ยิ่งไม่สบายใจ
เสียงดังขึ้น สุนันท์วางตะเกียบลงกับโต๊ะ “เป็นอะไรกันไปหมด ไม่รู้จักมารยาทกันเลยสักนิด!”
“แม่ ไหนบอกสิ้พี่สะใภ้ทำอะไร?”เลอแปงไม่พอใจ ขมวดคิ้ว แล้วก็พูดกลับ “วันที่สองก็ต้องกลับบ้านภรรยา ในเมื่อพี่ไม่ได้กลับมา นั่นก็เป็นเพราะความคิดของทั้งสองคน เป็นผลของการปรึกษากันแล้ว แม่อย่าไปยุ่งเยอะได้ไหม?”
ใช่ เมื่อวานเป็นวันกลับบ้านภรรยาออกัสกับเชอร์รีนไม่ได้กลับมา ก็แสดงว่าทั้งสองค้างอยู่ที่บ้านของเชอร์รีน
ในตอนนี้หยาดฝนถึงจะเข้าใจ มือเรียวยาวที่ยกซุปอยู่ดูเหมือนจะบีบขึ้นเล็กน้อย เหมือนจะไม่เข้าใจเขามากขึ้นเรื่อยๆแล้ว……
แต่เขา ก็ดูเหมือนกับว่าจะไกลออกไปเรื่อยๆแล้ว
ความเจ็บปวดในใจของเธอเหมือนมีเข็มทิ่มแทงกระจายอยู่ทั่วร่างกาย ถึงขนาดที่เธอหายใจยังรู้สึกลำบากเล็กน้อย
ลุกขึ้นหยาดฝนเอาถ้วยในมือวางลงบนโต๊ะ ใบหน้าแข็งทื่อ “ฉันจะไปเข้าห้องน้ำ”
จากนั้น ก็เดินออกไปจากโต๊ะอาหาร
แต่เมื่อได้ยินคำพูดของเลอแปง ความโกรธในใจของสุนันท์ ก็เพิ่มขึ้นอีก “เลอแปงนายกำลังพูดเข้าข้างใคร?”
“ผมไม่ได้เข้าข้างใคร แค่มองอย่างเป็นกลางก็เท่านั้น ”เลอแปงนั่งพิงเก้าอี้ พูดอย่างจริงจัง “แม่ แม่อย่าบอกนะว่าแม่ไม่ได้รู้สึกว่าแม่ยุ่งเยอะเกินไปอะ?”
“ฉันยุ่งเยอะยังไง?แม่สามีอบรมลูกสะใภ้ แม่สั่งสอนลูกชาย ไหนแกลองพูดสิว่าที่ฉันยุ่งมันไม่สมเหตุผล?”
ปวดหัวเลอแปงรู้สึกว่าเธอกำลังเข้าใจเขาผิด “ในเรื่องนี้มันก็สมเหตุผลอยู่หรอก แต่ที่ผมพูดมันไม่ได้หมายความอย่างนี้ แม่ไม่รู้สึกว่าแม่เข้มงวดกับพี่สะใภ้เกินไปหรอ?”
สุนันท์มองตรงไปที่เลอแปงไม่พอใจ “ฉันเข้มงวดอะไรกับเธอ?”
เห็นได้ชัดว่าพูดให้ชัดเจนไม่ได้แน่ ทั้งยังยิ่งพูดยิ่งไปกันใหญ่ อารมณ์ของเธอก็จะยิ่งพลุ่งพล่าน จะยิ่งรุนแรงมากยิ่งขึ้น
ทั้งยัง จะทำให้ความสัมพันธ์ระหว่างเธอทั้งสองยิ่งแย่ลงไปอีก ดังนั้น ไม่มีเหตุผลที่จะทะเลาะต่อไป
เลอแปงหยุดคำพูดไว้แค่นั้น เบี่ยงเบนความสนใจของเธอ “แม่ชอบกินซุปปลาไม่ใช่หรือครับ ผมเห็นซุปวันนี้สดมาก กินเยอะๆนะครับ”
“ลูกยังไม่พูดเลยนะ แม่เข้มงวดกับเธอยังไง คนนอกยังไม่พูดอะไร กลับโดนลูกตัวเองว่าแบบนี้ แม่ต้องรู้ให้ได้!”
อย่างไรก็ตาม เมื่อใบหน้าที่งดงามของสุนันท์เปลี่ยนไป เธอจะไม่ยอมใจดีแน่ ลูกตัวเองว่าตัวเองแบบนี้ เธอจะรับได้อย่างไร?
“ผมแค่ล้อเล่น มา กินซุปเถอะฮูหยิน !”เลอแปง ไม่ได้พูดต่อ แค่ยิ้มตาหยี ส่งซุปไปให้เธอ
“เลอแปงทำไมลูกถึงเข้าข้างเธอได้นะ ใช่แล้ว ครั้งก่อนนั้นที่ลูกโทรมาหาแม่ ให้พี่ชายลูกไปสถานีตำรวจ ให้ครูประจำชั้นลูกไปด้วย อย่าบอกนะว่าเป็นพี่สะใภ้ลูกน่ะ?”ทันใดนั้น สุนันท์ก็พูดเรื่องในอดีตขึ้น
“เรื่องผ่านไปตั้งนานแล้ว จะมาพูดตอนนี้ทำไมครับ?”เลอแปงปริปาก
“ตำรวจน่ะ เขาไม่จับคนใส่คุกใส่ตารางสุ่มสี่สุ่มห้าหรอกนะ หล่อนเป็นผู้หญิงที่ถูกจับ ต้องมีอะไรแน่ๆ ก็พูดได้เลยว่าเธอคนนี้ไม่ได้ดีอะไร”
เลอแปงเดิมทีก็ไม่ได้ชอบฟังคำพูดอะไรแบบนี้อยู่แล้ว จึงต้องพูดกลับเป็นธรรมดา “ผมก็บอกแล้วไง ว่าเธอมีปัญหาอยู่น่ะ!”