บทที่ 344 – การกลับมา (2)
“…ก็ไม่ได้เจอคนที่เรียนรู้สัญชาตญาณมานานแล้วนะ”
ซึงชิฮยอนพึมพำอย่างประหลาดใจ
“แม้กระทั่งแฮจูก็ยังเรียนมันไม่ได้เลย… ดูเหมือนนายค่อนนี้จะค่อนข้างอยู่ในระดับสูงอีกด้วย”
เขายังเหลือบไปมองฟิลิป มูเลอร์ที่กำลังเบิกตากว้างอย่างตกใจอีกด้วย
หลังแสดงความเสียใจออกมาเล็กน้อยแล้ว ตัวเขาก็ได้หายไปเหมือนควัน ก่อนที่จปรากฏตัวขึ้นข้างๆความบริสุทธิ์อันโสมมในเวลาต่อมา
-เจ้า…
“ดูสิ อัศวินขี่ม้าขาวมาช่วยเธอแล้วนะ เธอควรที่จะมองฉันด้วยสายตาของสาวน้อยที่กำลังหลงใหลชายหนุ่มสิ”
ซึงชิฮยอนหัวเราะขึ้น
ความเครียดของความบริสุทธิ์อันโสมมได้คลายลง และเธอก็ถอนหายใจอย่างโล่งอก
ซึงชิฮยอน แม้ว่าในตอนนี้เขาจะยังมีปัญหาในการควบคุมพลัง แต่ว่าในตอนที่ผู้บัญชาการกองทัพที่เจ็ดอาจจะพ่ายแพ้ไปแล้ว เขาก็คือไพ่ใบสำคัญที่แกร่งที่สุดของปรสิต
-ขะ ขอบคุณ เร็วเข้าเถอะ
“อ่า รอก่อนสิสาวน้อย ฉันไม่ได้เจอหน้าพวกเธอมาตั้งนาน อย่างน้อยก็ให้ฉันทักทายกันบ้าง”
ซึงชิฮยอนกวาดตามองพร้อมยิ้มเยาะออกมา
ซอลจีฮูได้มองสำรวจดูชายหนุ่มที่จู่ๆก็ปรากฏตัวขึ้น จากที่ดูแล้วคนๆนี้เหมือนกับจะอยู่ฝ่ายปรสิต แต่มันชัดมากว่าคนๆนี้เป็นมนุษย์
ซอลจีฮูได้สำรวจรอบตัวให้มั่นใจ และคนอื่นๆก็ดูจะตกใจมาก
แอ็กเนสกับฟิลิป มูเลอร์อ้าปากค้างจนปิดไม่ลง ใบหน้าของแบคแฮจูกับซอยูฮุยก็ดูแปลกไปอย่างชัดเจน
“โย่ว”
ซึงชิฮยอนยิ้มสดใสออกมา
“ทุกๆคนอยู่นี่กันหมดเลย นี่ก็…”
เขาต้องหยุดพูดกลางคัน และเหวี่ยงดาบยาวออกมาอย่างรวดเร็ว
เคร๊ง!
คมดาบได้ตัดแท่งน้ำแข็งที่โผล่ขึ้นมากลางอากาศ และเล็งเป้ามาที่หัวเขา
“ใครทำแบบนี้กัน? ฉันพนันได้เลยว่าต้องเป็นคนที่ชอบโจมตีคนอื่นในตอนเผลอแน่ๆ”
จากนั้นซึงชิฮยอนก็หันไปมองอึนยูริที่กำลังลอยอยู่กลางอากาศเหมือนเขา
จากสายตาบูดบึ้งของเขาได้เบิกกว้างขึ้น
จากสายตากวาดมองสำรวจจากหัวจรดเท้าของเขาได้ทำให้ทั้งโรเซร่ากับอึนยูริต้องขนลุกขึ้นมา
มันเป็นความรู้สึกแปลกๆเหมือนมีหนอนมาไชอยู่ตามผิวหนัง
‘อุหว่าาา~’
ซึงชิฮยอนอดจะตกใจไม่ได้
“มีคนที่ตรงสเป็คฉันอยู่เยอะเลย… เอาล่ะ ฉันตัดสินใจแล้ว ฉันจะให้เธอเป็นหมายเลขสี่”
-หมายเลขสี่?
“เธอก็คงจะได้ยินเรื่องที่ว่าฮีโร่ชอบมีผู้หญิงเยอะๆสินะ ตัวอย่างเช่นคนอย่างฉันที่ต้องมีคนคอยปรนนิบัติหลายคนไง”
-…งั้นนายกำลังจะบอกว่า…
คิ้วเรียวยาวของโรเซร่าได้ขมวดขึ้นอย่างไม่พอใจ เธอดูเหมือนกับจะโดนดูถูกอย่างรุนแรง
-ฉันถูกเลือกให้เป็นนางบำเรอคนที่สี่ของนายงั้นหรอ?
“โอ้! ไม่ใช่แค่หน้าสวยเท่านั้น แต่ยังเดาใจฉันได้ถูกอีก ฉันชอบผู้หญิงฉลาด”
โรเซร่าดูตกตะลึงมาก แต่ซึงชิฮยอนก็ยังพล่ามออกมาโดยไม่สนสักนิด
“เธอมีคุณสมบัติมากพอจะชิงตำแหน่งภรรยาได้เลย นี่แหละที่ทำให้เธอเป็นหมายเลขสี่ บอกไว้ก่อนเลยนะว่าหมายเลขสามคือเจ้าหญิงเทเรซ่า ทั้งสองต้องตั้งใจแข่งขันกันนะ”
โรเซร่าได้จ้องชายหนุ่มที่กำลังพูดอยู่ และถามขึ้น
-ฉันด่านายได้ใช่ไหม?
“แน่นอนสิ เอาเลย นี่ยิ่งน่ายินดีเข้าไปอีก มันมีแต่จะทำให้ฉันหลงใหลเธอมากขึ้น”
ซึงชิฮยอนพล่ามออกมาไม่หยุด
-แม้ว่านายจะดูเหมือนคนปกติ… เฮ้อ นี่เป็นครั้งแรกที่เราเจอกัน แต่ฉันบอกได้เลยว่านายมันเป็นคนประเภทไหน
โรเซร่าถอนหายใจเบาๆพร้อมทั้งบอกชายหนุ่มอย่างพูดไม่ออก เธอได้กอดอกขึ้น และมองเขาอย่างสมเพช
-เป็นคนมีความสามารถ และพรสวรรค์ แต่ขาดความน่าดึงดูด และหยิ่งยโส ฉันเคยเห็นคนแบบนายมามาก และส่วนใหญ่ต่างก็มีจุดจบที่คล้ายๆกัน พวกเขาจะตระเวนไปทั่วโดยไร้ที่อยู่ของตัวเอง จนกระทั่งถูกใช้จนกลายเป็นเศษผ้า และในท้ายที่สุดก็ถูกทิ้งขว้าง ช่างเป็นชีวิตที่น่าสมเพช~
“ไม่เลย ผิดแล้วล่ะ”
ซึงชิฮยอนหัวเราะเยาะออกมา
-ผิดงั้นเหรอ?
“ใช่แล้ว นั่นก็เพราะฉันไม่ได้ถูกทิ้ง แต่ออกมาเองต่างหาก”
ซึงชิฮยอนก้มหน้าลงไป
เขามองโชฮงกับฟีโซราอยู่สักพัก และจากนั้นก็หันสายตาไปหาซอยูฮุย แบคแฮจู และแอ็กเนส เขาได้ส่งยิ้มให้กับพวกเธอแต่ล่ะคน
“จริงไหมล่ะ? หมายเลขหนึ่ง หมายเลขสอง แล้วก็… โอ้ ไม่เจอกันนานเลยนะหมายเลขหก”
ซึงชิฮยอนโบกมือออกมา
‘…ไอ้คนกู่ไม่กลับนี่’
แอ็กเนสกัดฟันแน่น
อีกสองคนไม่ได้ตอบกลับไป
ซอยูฮุยได้แสดงสีหน้าตกตะลึงราวกับเธอตกใจมาก ส่วนทางแบคแฮจูมีสีหน้าสลับไปมาระหว่างดำแดงราวกับเธอกำลังพยายามควบคุมความโกรธเอาไว้อยู่
ซึงชิฮยอนที่เห็นแบบนี้มีความสุขมาก
“พวกเธอคิดถึงฉันใช่ไหมล่ะ? ฉันพนันได้เลย แต่น่าเสียดายนะที่ฉันย้ายไปอยู่ฝ่ายปรสิตแล้ว”
รอยยิ้มสดใสของเขานั้นเหมือนกับจะยั่วโมโหให้ใครสักคนพุ่งเข้าไปต่อย
“ดูสิ พวกเธอควรจะดูแลฉันให้ดีในตอนมีโอกาสนะ อะไรนะ พวกเธอคงไม่คิดว่าฉันจะย้ายไปอยู่ฝ่ายปรสิตงั้นสินะ?”
เมื่อเห็นชายหนุ่มขี้เล่นคนนี้ ซอลจีฮูก็ต้องผงะไป
ดูเหมือนว่าคนๆนี้จะเป็นซึงชิฮยอน หนึ่งในตำนานของชาวโลก แม้ว่าซอลจีฮูจะเคยได้ยินชื่ออีกฝ่ายมาหลายครั้ง แต่คนๆนี้ก็ต่างไปจากที่ซอลจีฮูคาดหวังเอาไว้มาก
หากให้พูดออกมาก็คงจะเป็นอีกฝ่ายเหมือนกับเป็นเด็กที่ชอบเรียกร้องความสนใจ
“แล้วรู้สึกยังไงบ้างล่ะ?”
ซึงชิฮยอนถามออกมาอย่างตื่นเต้น คำตอบที่เขาหวังเอาไว้เหมือนจะเป็นคำพูดทำนองว่า ‘ทำไมนายทำแบบนี้?’ หรือไม่ก็ ‘พวกเราขอโทษ กลับมาหาเราเถอะนะ!’
แบคแฮจูได้กลืนน้ำลายอึกใหญ่ลงไป เธอได้สูดหายใจลึก และสีหน้าที่แดงอยู่ของเธอได้จางลงอย่างรวดเร็ว
จากนั้นเธอก็จ้องซึงชิฮยอนด้วยสายตาเย็นชา
“จะทำอะไรก็ทำ”
“จะทำอะไรก็ทำ?”
“ใช่ นายจะไปติดเชื้อปรสิตหรืออะไรแล้วมันเกี่ยวกับฉันยังไงงั้นเหรอ?”
“โอ้~ ดูพูดเข้าสิ แต่ว่านะฟังจากน้ำเสียงก็บอกได้แล้วว่าเธอกำลังโกรธ”
“นี่คือสิ่งที่นายหวังงั้นเหรอ แต่ว่านะเรากำลังพูดถึงคนที่มีดีแค่พลังเท่านั้น ฉันไม่ได้หวังอะไรจากนายอยู่แล้ว เพราะงั้นฉันก็เลยไม่ได้ผิดหวังหรือโกรธเลย”
“…”
“นี่มันเยี่ยมซะอีก ฉันอยากจะฆ่านายอยู่ตั้งหลายครั้งแล้ว การที่นายไปอยู่ฝ่ายปรสิตทำให้ฉันสามารถจะฆ่านายได้ตรงๆสักที”
ซึงชิฮยอนเม้มปากออกมาเพราะคำตอบมันไม่เป็นไปตามที่เขาคิดไว้
“ยังใช้อารมณ์อยู่เสมอเลยสินะ นี่แหละที่ทำให้เธอทรงเสน่ห์”
เขาพึมพำเบาๆ ก่อนจะหันมาหาซอยูฮุยที่เขาตั้งเป็นหมายเลขหนึ่ง
“แล้วเธอคิดแบบเดียวกันหรือเปล่ายู…?”
ถึงจะถามออกมาไม่จบ เขาก็ต้องแสดงสีหน้าขมขื่นออกมา นั่นก็เพราะซอยูฮุยได้ใช้สายตาที่เต็มไปด้วยความขยะแขยง และรังเกียจมองมาที่เขา
เธอผลักไสเขาอย่างชัดเจน ถึงขนาดที่เธอยกมือปิดปาก และถอยออกห่างอีกด้วย
“…น่าขยะแขยง”
เธอได้เช็ดปาก และสุดท้ายก็พูดออกมา
ซอลจีฮูกลายเป็นพูดไม่ออก นี่เป็นครั้งแรกเลยที่ได้เห็นซอยูฮุยแสนใจดีแสดงท่าทีขยะแขยง และผลักไสแบบนี้
“…โหดร้ายจังเลยนะ ถ้านั่นเป็นความรู้สึกจริงๆ ฉันก็คงทำอะไรไม่ได้…”
ซึงชิฮยอนก็คงจะตกใจมากจนเกาหัวอย่างแรก
“ก็นะ แย่จัง”
เขาพยักไหล่พร้อมยกยิ้มขึ้น
“แต่ไม่ว่าจะเกลียดฉันมากยังไง แต่ในที่สุดแล้วเธอก็จะต้องตั้งท้องลูกของคนน่าขยะแขยงคนนี้แหละ นี่มันยอดไปเลยใช่ไหมล่ะ?”
จิตสังหารได้เริ่มแผ่ออกจากร่างแบคแฮจู ยังไงก็ตามซึงชิฮยอนกลับตัวสั่นขึ้นราวกับแค่คิดก็ทำให้เขามีความสุขแล้ว
“อ่า! สาวสวยผมแดงนั่นก็ด้วยนะ!”
‘สาวสวยผมแดง’ ที่ซึงชิฮยอนพูดถึงได้ขมวดคิ้วทันที
“นายกำลังจะบอกว่าฉันเป็นหมายเลขเจ็ด?”
“ถูกแล้ว ฉันลังเลระหว่างเธอกับคนที่ถูกกระบองนั่น แต่ในสายตาฉัน เธอดีกว่านะ”
“โอ้ เป็นงั้นเหรอ? อย่างน้อยนายก็รู้ว่าใครสวยกว่ากัน… แต่น่าเสียดายนะที่ฉันมาตราฐานสูง แล้วก็นายยังไม่มีคุณสมบัตินั่น”
“ไม่ต้องห่วง! หญิงสาววางท่าแบบคนชั้นสูงก็อยู่ในสเปคฉันเหมือนกัน ฮ่าฮ่าฮ่า!”
ซึงชิฮยอนหัวเราะแห้งๆออกมา
ฟีโซราได้ขมวดคิ้ว และถ่มน้ำลายออกมาก่อนหันหน้าหนี
“ว้าว… ฉันก็ได้ยินข่าวลือมามากนะ แต่นี่เป็นครั้งแรกเลยที่ข่าวลือมันพูดน้อยกว่าความจริงไปหน่อย”
นี่คือข้อสรุปที่ทุกๆคนคิดหลังจากเจอซึงชิฮยอน
แบคแฮจูกำลังแสร้งทำเป็นสงบนิ่ง แต่ลำคอของเธอกำลังสั่นอย่างชัดเจน
ยังไงก็ตามเธอก็ห้ามตัวเองเอาไว้ได้อีกครั้ง เธอรู้ดีว่าทำไมซึงชิฮยอนถึงพูดแบบนี้
การยั่วยุศัตรูเป็นหนึ่งในจุดเด่นของเขา การตอบโต้จะเป็นการทำให้เขาหยุดพูดได้ แต่ในเวลาเดียวกันนั่นก็จะเท่ากับว่าไปตกอยู่ในแผนของเขา
-รอก่อน ให้ฉันแก้แค้นเจ้าสารเลวนี่ก่อน
‘หืมม?’
ซอลจีฮูที่กำลังมองหาโอกาสลอบโจมตีได้สับสนขึ้น เมื่อได้ยินเสียงของแบคแฮจูดังขึ้นในหัวอย่างกระทันหัน
โทรจิตงั้นสินะ?
“ฉันก็ไม่ได้รู้สึกแย่กับความรู้สึกของนายหรอกนะ แต่น่าเสียดาย…”
แบคแฮจูได้ขยับเข้ามาใกล้ซอลจีฮูก่อนที่เขาจะได้ทันคิดอะไร จากนั้นเขาก็ยิ่งสับสนกว่าเดิม นั่นก็เพราะแบคแฮจูได้เข้ามากอดแขนเขาไว้แน่น
“ฉันมีแฟนแล้วน่ะสิ”
เสียงหัวเราะของซึงชิฮยอนได้หายไป ถึงแม้ว่าเขาจะยังยิ้มอยู่ก็ตาม
“โอ้? หมายเลขสองไปรู้จักความรักตั้งแต่เมื่อไหร่? นี่อยากจะทำให้ฉันอิจฉางั้นเหร?”
“ไม่นี่ ฉันก็แค่พูดความจริง”
“หา อย่าพูดไปสิ หมอนั่นดีกว่าฉันตรงไหนกัน? ถ้าจะหลอกฉัน อย่างน้อยก็หาคนที่อยู่ในระดับเดียวกันกับฉันหน่อยสิ”
ซึงชิฮยอนล้อเลียนออกมา แต่แบคแฮจูก็ไม่ได้สนใจ กลับกันเธอยิ่งยิ้มมากกว่าเดิมซะอีก
“นายพูดถูก เขาอยู่คนละระดับกับนายเลย แค่เอาทั้งสองคนมาเทียบกันก็ทำให้ฉันรู้สึกผิดแล้วสิ”
“หา!”
“นายรู้อะไรไหมว่าแฟนฉันเข้ามาในพาราไดซ์ทีหลังนาย แต่ว่าเขากลับมีชื่อเสียงมากยิ่งกว่านาย”
รอยยิ้มของซึงชิฮยอนได้จางหายไป เขายังจำได้ดีว่าราชินีปรสิตมักจะพูดถึงชาวโลกคนนึงอยู่เสมอ
“เขามีความสามารถยิ่งกว่านาย มีนิสัยดี แถมยังหล่อด้วย นอกจากนี้ก็ยังมีเรื่องบนเตียง… อ่อ คงเทียบกันไม่ได้เพราะฉันไม่เคยมีอะไรกับนาย แต่ว่านะนายคงไม่มีอะไรพิเศษเลยหากมาเทียบกับเขา”
‘ปกติเธอเป็นแบบนี้เหรอ?’
ซอลจีฮูตกใจเล็กน้อยเมื่อเห็นแบคแฮจูหัวเราะเยาะอย่างเย็นชา
เธอยั่วโมโหคนอื่นได้ดีกว่าที่เขาคิดไว้ซะอีก
แม้ว่าเขาจะยังคงยิ้มอยู่เสมอ แต่สายตาเขาก็หรี่ลง
“โอ้ มีอะไรที่อยากจะบอกอีกไหม? แม้แต่ซอยูฮุยที่นายหลงใหลก็ยังสนใจในแฟนของฉัน”
“…ฮ่าฮ่า!”
ซึงชิฮยอนระเบิดหัวเราะออกมา
“ฉันเข้าใจนะว่าเธออยากทำให้ฉันโกรธ แต่อย่าโม้เกินไปสิ เรื่องบนเตียงงั้นเหรอ? ยูฮุยสนใจเขาเหรอ? พวกเธอสองคนชอบคนเดียวกัน? ฮ่าฮ่าฮ่า! ถ้าอยากจะโม้อย่างน้อยก็ช่วย…”
ยังไงก็ตามเขาก็ไม่อาจจะพูดได้จบก็เพราะซอยูฮุยได้ยิ้มสดใส และเขามากอดแขนซ้ายซอลจีฮู เธอได้พิงไหล่ของเขาอย่างอ่อนโยน และยิ้มหวานออกมา
จากนั้นเธอก็พูดขึ้น
“เธอกำลังพูดเรื่องจริง”
สีหน้าของเธอได้แสดงออกถึงความสุข
รอยยิ้มบนใบหน้าซึงชิฮยอนได้หายไปจนหมดแล้ว
“เธอ… เธอมันเป็นใครกัน?”
“หืมม? หมายความว่ายังไง?”
“ฉันเห็นรู้เลยว่าเธอเป็นคนตีสองหน้าแบบนี้ ไม่ใช่ว่าเธอรู้สึกขยะแขยงที่แตะต้องผู้ชายเหรอ?”
“โอ้ ฉันรังเกียจแค่กับนาย แต่คนๆนี้คือแฟนของฉัน แน่นอนว่าต้องไม่มีปัญหาอยู่แล้ว”
“…”
“จริงสิ นายยังจำสัตว์วิเศษกับยาล้ำค่าที่ให้ฉันเป็นของขวัญได้ไหม?”
ซอยูฮุยยิ้มกว้างออกมา
“ฉันไม่ได้ใช้ประโยชน์จากของพวกนั้น ก็เลยเก็บเอาไว้ในคลัง แต่สุดท้ายแล้วแฟนคนนี้ของฉันก็กินทุกอย่างเลย… นั่นมันไม่เป็นไรใช่ไหม?”
“…อะไรนะ?”
“นั่นมันไม่สำคัญหรอกเนอะ ก็นายให้ฉันมาแล้วนี่”
ซอลจีฮูไอออกมา
‘ปกติแล้วพี่สาวก็เป็นแบบนี้เหรอ?’
เขาไม่รู้ว่าซอยูฮุยเกลียดซึงชิฮยอนมากขนาดไหน แต่ตอนนี้พอดูแล้วก็คงไม่น้อยไปกว่าแบคแฮจูแน่
ยังไม่หมดเท่านั้น
โรเซร่าที่ฟังอยู่เงียบๆได้เลียริมฝีปากออกมา ไม่นานนักเธอก็ลอยลงมากอดคอซอลจีฮูเอาไว้
-เสียใจด้วยนะ นายจะแอบชอบฉันก็ได้ แต่ฉันก็มีคู่ชีวิตที่สัญญาจะใช้ชีวิตด้วยแล้ว~
เธอได้เผยรอยยิ้มหวานออกมาอย่างชัดเจน
ฟีโซราก็ยังเริ่มเข้ามากางแขนกอดซอลจีฮูจากด้านหลังเช่นกัน
“แบร่~”
เธอยังไม่ลืมแลบลิ้นล้อเลียนซึงชิฮยอนอีกด้วย
ราวกับว่านี่ยังไม่พอ แอ็กเนสได้กระแอ่มเบาๆ และเข้ามาจับแขนเสื้อซอลจีฮู
“อ่า…”
ซอลจีฮูที่ถูกสาวสวยทั้งห้าคนล้อมได้แต่กลอกตาอย่างเหม่อลอย เขาเข้าใจว่าทำไมพวกเธอทำแบบนี้ แต่เขาอดจะอายขึ้นไม่ได้
“…”
อีกด้านหนึ่งใบหน้าของซึงชิฮยอนได้เปลี่ยนไปอย่างชัดเจน ใบหน้าของเขาได้แข็งทื่อไปราวกับหากมีคนแตะเบาๆก็แตกได้เลย
หญิงสาวที่เขาได้กำหนดให้มาอยู่ในฮาเร็มได้เข้าเกาะชายอื่น และล้อเลี่ยนเขา นี่มันเป็นธรรมดาที่เขาจะแสดงสีหน้าเช่นนี้
แม้แต่ในจินตนาการเขาก็ไม่เคยคิดเลย ซึงชิฮยอนได้เฝ้าฝันที่จะทำความฝันนี้ให้สำเร็จมาตลอด
หากว่าเทเรซ่าที่เขากำหนดให้เป็นสมาชิกฮาเร็มหมายเลขสามอยู่ด้วยอีกคน เขาก็คงจะช็อคไปแน่
“…ก็ได้”
เขาได้สลัดความสับสนออกไปทันที และพึมพำขึ้น
“นี่มันทำให้ฉันโกรธ”
เขาพึมพำเบาๆ และจ้องมองลงไปที่ซอลจีฮูด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยจิตสังหาร หากแค่สายตาสามารถฆ่าคนได้ ซอลจีฮูก็คงตายเป็นพันๆครั้งแล้ว
“พวกเธอเป็นคนทำให้มันเป็นแบบนี้เพราะแค่ฉันล้อเล่นนิดหน่อย…”
น้ำเสียงน่าขนลุกได้ดังขึ้น
“ปกติแล้วหากถึงเวลาฉันก็คงจะจากไป… แต่นี่พวกเธอเป็นคนทำให้มันเป็นแบบนี้เองนะ”
เขาได้จับดาบแน่นราวกับศักดิ์ศรีของเขาถูกบดขยี้
“ก็ได้ ไม่ว่านี่จะเป็นเรื่องจริงหรืออะไรก็ตาม แต่ฉันก็จะฆ่าไอ้สารเลวนี่ แล้วเราจะมาดูกันว่าพวกเธอจะยังหัวเราะกันได้อีกไหม”
ต่อจากนั้นซึงชิฮยอนก็ตวัดดาบลงอย่างรวดเร็ว
ปราณดาบรูปจันทร์เสี้ยวได้ปรากฏขึ้นดาบทิศทางที่ดาบกวัดแกว่ง และพุ่งลงมาอย่างเฉียบคม