แดนนิรมิตเทพ บทที่ 465
เมื่อเห็นว่าเฉินโม่กำลังจะจากไป ทุกคนต่างก็กระวนกระวาย

หยูเจียหาวบังเอิญเห็นหยกแขวนตรงหน้าอกของมู่หรงยานเอ๋อร์ แววตาเป็นประกาย แล้วทันใดนั้นก็ถอนหายใจแล้วพูดออกมาว่า “เห้อ วันนี้เป็นงานวันบรรลุนิติภาวะของคุณหนูยานเอ๋อร์ แต่ใครบางคนกลับเอาสิ่งของข้างทางราคาถูกๆมาให้เป็นของขวัญ ก็ว่าทำไมยังไม่ทันทานข้าวก็รีบกลับก่อนแล้ว คงจะกลัวว่าหากถูกคนอื่นเห็นเข้าแล้วจะอับอายสินะ!”

เมื่อได้ยินคำพูดของหยูเจียหาว ทุกคนต่างก็นิ่ง ทันใดนั้นสายตาของทุกคนก็หันไปมองที่หยกแขวนชิ้นเล็กตรงหน้าอกของมู่หรงยานเอ๋อร์

เมื่อเผชิญกับสายตามากมายเช่นนี้ มู่หรงยานเอ๋อร์ก็รู้สึกกระสับกระส่าย และก็ห้ามใจไม่ได้ที่จะก้มมองดูหยกแขวนตรงหน้าอกของตัวเองด้วยเช่นกัน

“หยกแขวนชิ้นนี้ฝีมือการทำหยาบมาก และสีสันก็มืดมน เห็นได้ชัดว่ามันเป็นแค่ของถูกข้างทางนี่นา!”

“หึ เมื่อกี้ฉันไม่ทันได้สังเกตเห็น ตอนนี้ได้ยินนายพูดเช่นนี้แล้ว ดูเหมือนจะเป็นอย่างนั้นจริงๆด้วย คิดไม่ถึงเลย ในงานบรรลุนิติภาวะของคุณหนูยานเอ๋อร์ จะมีคนมอบของขวัญที่แย่ขนาดนี้ให้ด้วย!”

“ใช่แล้ว แม้ว่านายจะเป็นคนบ้านนอกที่มาจากอำเภอเล็กๆ แต่เพียงแค่ไม่กี่ร้อยก็ไม่มีเลยงั้นหรอ? ถึงได้ใช้สิ่งของข้างทางราคาถูกๆมาหลอกลวงคนอื่น ช่างเป็นการเหยียดหยามคุณหนูยานเอ๋อร์ที่สวยงามของพวกเราจริงๆ!”

หนุ่มสาวทุกคนต่างคว้าโอกาสไว้ เริ่มพูดจาหยาบคายทำร้ายจิตใจเฉินโม่

แม้มู่หรงยานเอ๋อร์จะไม่เชื่อว่าเฉินโม่ใช้ของราคาถูกมาหลอกลวงตัวเอง แต่เมื่อเผชิญกับสายตาเหยียดหยามมากมายเช่นนี้ เธอรู้สึกว่าหยกแขวนตรงหน้าอกของตัวเองเหมือนจะดูลวกมืออย่างมาก

เมื่อได้ยินเช่นนั้น เฉินโม่หยุดฝีเท้าลงอย่างเอือมระอา หันหลังไปมองหยูเจียหาวที่กำลังยิ้มเยาะด้วยสายตาเย็นชา

“ตั้งแต่เริ่มแรก นายก็เอาแต่ประชดประชันไม่หยุด คอยหาเรื่องฉันตลอด หากว่าวันนี้ไม่ใช่วันเกิดของยานเอ๋อร์ ฉันคงตบนายตายไปนานแล้ว!”

หยูเจียหาวไม่หวาดกลัว เชิดหน้าขึ้นเยาะเย้ย “ทำไม? นายกล้าเอาของข้างทางราคาถูกมาเป็นของขวัญมอบให้ยานเอ๋อร์ แล้วยังไม่กล้ายอมรับให้คนอื่นพูดจาต่อว่างั้นหรอ?”

“ของขวัญที่ทุกคนมอบให้ต่างก็อยู่ที่นี่กันหมด นายสามารถเอาออกมาดูได้ หากว่ามีสิ่งของที่แย่กว่าของนาย ฉันยอมคุกเข่าคำนับขอโทษนาย!”

ทุกคนต่างก็ยิ้มเยาะ ผู้ที่อยู่ในงานล้วนเป็นลูกคนรวยที่มีอำนาจชื่อเสียง ของขวัญที่แย่ที่สุดก็มีราคาหลักหมื่น แล้วจะแย่กว่าสิ่งของข้างทางราคาถูกได้ยังไงกัน?

เมื่อเห็นเฉินโม่ได้รับความอับอาย หยู่เหวินฟางเฟยสีหน้าตื่นเต้นดีใจ หันหน้าไปมองหยู่เหวินเฉิงที่ยิ้มชั่วร้าย แล้วพูดว่า “พี่คะ ของขวัญที่พี่เตรียมไว้ให้น้องยานเอ๋อร์เหมือนจะยังไม่ได้ให้ใช่มั้ย? รีบเอาออกมาให้ทุกคนได้เห็นกันสิ!”

ทุกคนนิ่ง ใช่สิ เมื่อกี้เอาแต่สนใจที่เฉินโม่ จนลืมหยู่เหวินเฉิงไปเลย เหมือนว่าเขาจะยังไม่ได้มอบของขวัญเลยนี่นา!

“คุณชายเฉิง รีบเอาออกมาให้ทุกคนได้ดูกันหน่อยสิครับ คุณเตรียมของขวัญอะไรมาให้คุณหนูยานเอ๋อร์ครับ? จะได้ให้ใครบางคนดูสักหน่อย ว่าอย่าได้เอาของข้างถนนราคาถูกมาหลอกลวงคุณหนูยานเอ๋อร์!”

“ใช่แล้ว เอาออกมาดูหน่อยสิครับ ให้ใครมันคนมันอับอายขายหน้าสักหน่อย!”

หยู่เหวินเฉิงค่อยๆหยิบเอากล่องใบเล็กออกมา เดินเข้าไปใกล้ มองมู่หรงยานเอ๋อร์ แววตาร้อนแรง พูดด้วยรอยยิ้มว่า “ยานเอ๋อร์ สุขสันต์วันเกิดนะ!”

รอยยิ้มของมู่หรงยานเอ๋อร์ไม่ค่อยเป็นธรรมชาติเท่าไหร่นัก หันไปมองเฉินโม่ดูแล้วไม่ได้มีความรู้สึกโกรธ เธอถึงได้พูดยิ้มๆว่า “ขอบคุณพี่หยู่เหวินมากค่ะ”

“คุณชายเฉิง คุณมอบของขวัญอะไรให้กับคุณหนูยานเอ๋อร์งั้นหรอครับ? คุณหนูยานเอ๋อร์ แกะให้พวกผมได้ดูกันหน่อยสิครับ!” มีคนพูดยุยง

“ใช่ครับๆ คุณหนูยานเอ๋อร์ เติมเต็มความอยากรู้อยากเห็นของพวกเรากันหน่อยเถอะครับ ให้พวกเราได้ดูกันหน่อยครับ!”

คนมากกว่าครึ่งต่างก็พูดยุยง ส่วนหยางเชี่ยนเชี่ยนที่ชอบให้เกิดเรื่องวุ่นวายถึงขั้นเสนอหน้า วิ่งเข้าไปที่ข้างกายของมู่หรงยานเอ๋อร์ แล้วพูดประจบว่า “ยานเอ๋อร์ ทุกคนต่างก็รอดูกันอยู่นะ? เธออย่าได้ทำร้ายจิตใจของทุกคนเด็ดขาดเชียวนะ!รีบเปิดดูสิว่าด้านในคืออะไร”

รอยยิ้มของมู่หรงยานเอ๋อร์ดูฝืนทนเล็กน้อย ไม่สามารถปฏิเสธทุกคนได้จริงๆ จึงหันมองเฉินโม่อย่างรู้สึกผิด แล้วถึงได้พยักหน้าพูดว่า “งั้นเธอช่วยฉันแกะดูแล้วกันนะ!”

“ได้สิๆ!” หยางเชี่ยนเชี่ยนพยักหน้ารัวๆ แล้วแย่งกล่องสีดำใบเล็กนั้นมาจากมือมู่หรงยานเอ๋อร์อย่างทนรอไม่ไหว จากนั้นก็เปิดออก