บทที่ 105 ความพ่ายแพ้ที่อธิบายไม่ถูก

อยากง้อเหรอ คุณสามี(เก่า)

หากไม่ใช่เพราะยังมีความยั้งคิดอยู่บ้าง หลินจือก็อยากจะเอาเหล้าที่ถือในมือสาดไปที่หน้าของเทาเท่

แต่ถึงแม้เธอจะไม่ได้สาดมันไป แต่สถานการณ์มันก็แย่อยู่แล้ว

เธอยิ้มเยาะและประจันหน้ากับสายตาที่ไม่พอใจของเทาเท่ จากนั้นก็พูดอย่างใจเย็นว่า“ ใช่ ฉันเรียกร้องความสนใจ ”

“ฉันอยากให้ทุกคนมาสนใจฉัน แล้วมาลงทุนกับบทละครที่ฉันเขียน แบบนี้ฉันถึงจะโด่งดังได้ไม่ใช่เหรอ?”

ในเมื่อเขาคิดว่าเธอเป็นคนทำได้ทุกอย่างแบบนั้น งั้นเธอก็ยอมรับมันแล้วกัน

ยังไงเสียตอนนี้เธอกับเขาก็ไม่ได้เป็นอะไรกัน จะต้องมานั่งอธิบายทำไม

หลินจือยอมรับอย่างที่ไม่เคยทำมาก่อน แต่กลับทำเอาเทาเท่ถึงกับต้องเม้มปากและเงียบไป

เขาขมวดคิ้วมุ่นและจ้องไปที่หลินจือ ดวงตาคู่คมดำขลับ มองไม่เห็นถึงอารมณ์ที่รู้สึก

ในตอนนี้เองเจเทาวน์ก็หาจังหวะเป็นฝ่ายพูดขึ้นบ้างว่า“ประธานเทาเท่ ประธานโซเมน เรายังมีธุระที่ต้องทำต่อ ขอตัวไปทางนั้นก่อนนะครับ ”

เจเทาวน์พูดจบก็พาตัวหลินจือจากไป หลินจือหันหลังให้อย่างเด็ดเดี่ยวและทันทีทันใด ไม่แม้แต่จะชายตามองไปที่เทาเท่เลย

หลังจากที่ทั้งสองคนเดินออกมาได้ไม่กี่ก้าว เจเทาวน์ก็ถามหลินจือเสียงเบาว่า “คุณโอเคใช่ไหม?”

คำพูดของเทาเท่นั้น ฟังดูแย่มาก

แต่ตามหลักแล้ว คนที่มีตำแหน่งอย่างเทาเท่ เป็นไปไม่ได้ว่าจะใช้ภาษาไม่เป็น แต่ทำไมถึงจ้องจะทำร้ายหลินจืออยู่ตลอด ?

มีเพียงคำอธิบายเดียวนั้นก็คือเขาใส่ใจ ดังนั้นจึงเลือกใช้คำพูดที่ไม่ถูกต้อง

หลินจือยกยิ้มและพูดว่า “ฉันสบายดีค่ะ”

เธอไม่เป็นไรเลยจริงๆ

ในตอนแรกนั้นก็รู้สึกหงุดหงิดมากกับคำพูดของเทาเท่ แต่เพียงครู่เดียวเธอก็ปล่อยวางมันได้

เจเทาวน์ถอนหายใจ“ดูเหมือนประธานเทาเท่จะจงใจตั้งแง่กับคุณ ไม่รู้ว่าเพราะรักหรือเพราะเกลียด……”

หลินจือหัวเราะเยาะตัวเอง“มันจะเป็นเพราะรักได้ยังไง ? ต้องเกลียดและชิงชังอยู่แล้ว”

เพราะเกลียดเธอ ดังนั้นก็เลยพูดจาเยาะเย้ยเธอ

ทางฝั่งของชายหนุ่ม โซเมนนั่งจิบเหล้า แล้วถามเทาเท่อย่างไม่เข้าใจว่า“นี่นาย ทำไมระหว่างพวกนายต้องมาทำร้ายกันแบบนี้ด้วย?”

คำพูดของเทาเท่ทำร้ายหลินจือเป็นเรื่องจริง แต่ท่าทีที่ยอมรับโดยไม่แก้ต่างของหลินจือก็ทำร้ายเทาเท่ด้วยเช่นกัน

เพราะเธอไม่แม้แต่จะพูดแก้ตัวใดๆ นั่นก็หมายความว่าเธอไม่สนใจเทาเท่เลยสักนิด

แต่ในมุมมองของโซเมน เทาเท่ก็สมควรโดน

ใครใช้ให้เขาปากดีพูดไม่คิดแบบนั้นกัน ?

เห็นๆอยู่ว่าวันนี้การแต่งตัวของหลินจือนั้นทำเอาเทาเท่ทึ่งมาก ไม่ต้องการให้เธอเป็นจุดสนใจทำเอาพวกผู้ชายต้องน้ำลายหก แต่คำพูดที่พูดออกไปนั้นกลับเป็นคำพูดที่ดูรังเกียจ

ตามแบบฉบับของคนที่ปากไม่ตรงกับใจ

แววตาของเทาเท่มีร่องรอยของความหงุดหงิด ภายในใจมีความพ่ายแพ้ที่ไม่สามารถอธิบายเป็นคำพูดได้

ช่วงนี้เขาในสายตาหลินจือ รู้สึกเหมือนทำอะไรก็ผิดไปหมด ซึ่งในช่วงชีวิตอายุสามสิบสองปีของเขา ไม่เคยเกิดเรื่องแบบนี้มาก่อน

โซเมนยกมือขึ้นแล้วตบไปที่บ่าของเขา พูดเตือนด้วยความจริงใจว่า“ชีวิตคนเราเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอด หากนายยังใช้วิธีเดิมๆเหมือนเมื่อก่อนที่คอยแต่จะอยู่เหนือหลินจือ เกรงว่าความสัมพันธ์ระหว่างนายสองคนคงมีแต่จะแย่ลงเท่านั้น”

โซเมนพูดจบก็เดินจากไป ออกไปพบปะสังสรรค์กับสังคมของตัวเอง

เทาเท่เงยหน้าขึ้นแล้วกระดกเหล้าในแก้วตัวเอง ทันใดนั้นก็เห็นซูซีเดินเข้ามาหา

ซูซีหลบอยู่ในห้องน้ำเป็นเวลานานก็ยังติดต่อพินอินไม่ได้ ไม่มีทางเลือกจึงเดินออกมาด้วยความเป็นกังวล

เดิมทีเธอต้องการจะหลบหลีกกลุ่มบุคคลอันมีชื่อเสียงเหล่านั้น แล้วแอบไปหาพินอิน

ไม่คิดว่าพวกเขาจะมาเจอเข้า เลยเดินเข้าไปทักทายกันอีกรอบ

ซูซีขบฟันแน่น ตัดสินใจจะเดินเข้าไปหาเทาเท่เอง

อย่างแรกเลยก็จะสามารถอยู่ให้ห่างจากผู้หญิงกลุ่มนั้นด้วย และอย่างที่สองเธอก็อยากจะคุยกับเทาเท่อย่างจริงจังอีกครั้ง

ดังนั้นเธอจึงส่งยิ้มให้พวกผู้หญิงกลุ่มนั้น จากนั้นก็ก้าวเดินเข้าไปหาเทาเท่

เมื่อครู่ตอนที่เธอเดินออกมาจากห้องน้ำ ก็เห็นเทาเท่กับโซเมนถือแก้วเหล้าและกำลังยืนอยู่กับหลินจือและเจเทาวน์ เธอขบริมฝีปากตัวเองแน่น กลัวมากว่าเทาเท่กับหลินจือจะมีปฏิสัมพันธ์กันต่อหน้าสาธารณชน

ไม่คิดว่าพวกเขาจะพูดคุยกันเพียงไม่กี่คำ เจเทาวน์ก็พาหลินจือเดินจากไป

สีหน้าของเทาเท่ดูแย่มาก ราวกับมีเรื่องกับหลินจือมาจนหงุดหงิด

ซูซีก็ถึงกับโล่งใจขึ้นมาทันที เทาเท่กับหลินจือเข้ากันไม่ได้ คนที่มีความสุขที่สุดก็คือเธอ

ถือชายกระโปรงแล้วเดินเข้าไปหา เทาเท่เหลือบมองเธออย่างเย็นชาแวบหนึ่ง“ มีอะไร ?”

ดวงตาซูซีแดงก่ำขึ้นมาทันที เธอพูดเสียงต่ำด้วยท่าทีเจียมตน มองไปยังเทาเท่อย่างอ้อนวอน“ เทาเท่ เรามาคุยกันหน่อย ดีไหม ?”

เทาเท่หันมองดูเธออีกครั้ง จากนั้นก็เม้มปากหันหลังแล้วเดินออกจากงานเลี้ยงไป ซูซีเองก็เดินตามไปติดๆ

ในสวนด้านนอกของงานเลี้ยง ซูซียืนนิ่งและสะอื้นออกมาเบาๆ“เทาเท่ ฉันสำนึกผิดแล้ว ฉันสัญญา ว่าต่อไปจะไม่ไปหาเรื่องหลินจืออีก ”

เทาเท่พูดเสียงเรียบ“ ปัญหาระหว่างเรา ไม่เกี่ยวอะไรกับหลินจือ ”

ซูซีร้องไห้หนักมากขึ้นไปอีก เทาเท่ก็พูดอีกว่า“ซูซี ความสัมพันธ์ระหว่างเรา มันเป็นอดีตไปแล้ว”

“ตั้งแต่ที่เราเลิกกัน นี่ก็ผ่านมาสี่ปีแล้ว หลังจากที่ผมหย่า ก็เคยเปิดใจยอมรับคุณเข้ามาเหมือนกัน แต่สุดท้ายผมก็พบว่าระหว่างเรามันเหมือนคนแปลกหน้ากันไปแล้ว”

เวลาสี่ปีไม่สั้นเลย เพียงพอที่จะทำให้ความสัมพันธ์ที่บางเบาของคนทั้งสองหมดลง

ซูซีรับไม่ได้กับสิ่งที่ได้ยิน เธอเดินเข้าไปหาแล้วคว้าตัวเทาเท่เอาไว้แน่น ร้องไห้สะอึกสะอื้น“เทาเท่ ฉันอยู่ไม่ได้ถ้าไม่มีคุณ!”

“ฉันเปลี่ยนตัวเองได้ เปลี่ยนได้ทุกอย่าง!”ซูซีในตอนนี้ ทำได้ทุกอย่างเพื่อจะรั้งเทาเท่เอาไว้

แต่เทาเท่กลับดึงมือเธอออกด้วยสีหน้าเรียบเฉย หันหลังแล้วจากไป

ซูซียกมือขึ้นมาปิดหน้าตัวเอง และร้องไห้ออกมาอย่างหนัก

ตอนนั้นเธอเลิกกับเทาเท่ด้วยใจที่ฮึกเหิมและก้าวเข้าสู่วงการบันเทิง ไม่เคยคิดว่าวันหนึ่งพอกลับมาเทาเท่จะไม่รอเธออยู่ที่เดิมอีกแล้ว

หากรู้ว่าจะมีวันนี้ เธอไม่มีทางเลิกกับเขาเด็ดขาด และจะแต่งงานกับเทาเท่ด้วย

น่าเสียดายที่ไม่มีวันนั้นอีกแล้ว……

ซูซีร้องไห้จนเครื่องสำอางเลอะหน้าไปหมด ทำได้เพียงต้องเข้าห้องน้ำแล้วไปแต่งหน้าใหม่

ช่างบังเอิญเหลือเกิน เพราะทันทีที่เธอเข้ามาในห้องน้ำ ก็เจอเข้ากับหลินจือที่ล้างมือเสร็จและกำลังจะออกจากห้องน้ำไป

หลินจือเห็นซูซีที่ร้องไห้จนเครื่องสำอางเลอะแบบนี้ ก็รู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย

ซูซีในสายตาของเธอ เป็นคนที่สดใสสวยงามและสง่า วันนี้เป็นอะไรไป ?

แต่นั่นก็ไม่ใช่เรื่องที่เธอควรจะสนใจ เธอละสายตาออกทันที หลุบตาลงเบี่ยงตัวหลบเพื่อจะเดินออกไป

ทันทีที่ซูซีเห็นหลินจือก็โกรธจัด ยิ่งอับอายมากขึ้นเมื่อนึกถึงเครื่องสำอางที่เลอะอยู่เต็มใบหน้าในตอนนี้ ก้าวเดินไปคว้าตัวหลินจือไว้แล้วตวาดเสียงดัง“หยุดเดี๋ยวนี้!”

หลินจือถูกซูซีลากจนเกือบล้ม หลังจากที่ยืนนิ่งได้สิ่งแรกที่ทำคือสะบัดแขนให้หลุดออกจากการถูกควบคุม

“เธอเป็นบ้าอะไร!”หลินจือโกรธจัด

ตลอดทั้งคือเธอพยายามอยู่ให้ห่างจากพวกเขา กับเทาเท่ก็พูดคุยไปด้วยแค่สองสามคำก็แยกกัน แล้วไปยั่วโดนอะไรซูซีอีก ?

ช่างน่าแปลกจริงๆ!

“ฉันบ้างั้นเหรอ?”ซูซีตะคอกเสียงดัง“ถ้าไม่เพราะเธอ ฉันจะบ้าอย่างนี้เหรอ?”

หลินจือเอามือกอดอกแล้วหัวเราะเยาะพร้อมถามกลับว่า“อย่าบอกนะว่า ความสัมพันธ์ของเธอกับเทาเท่นั้นมีปัญหากัน?”

“และอย่าบอกนะว่า เธอมาหาเรื่องฉันเพราะเรื่องนี้ ”

ซูซีกล่าวโทษ“ใช่แล้วไง!ไม่ใช่เพราะเธอคอยยุแหย่อยู่เบื้องหลังหรอกเหรอ?