ตอนที่ 376

The Divine Nine Dragon Cauldron

สตรีทุกคนริษยาในใบหน้าอันงดงามของเขา ใบหน้าเขาเปล่งประกายและมั่นใจ เขายิ้ม

 

“เข้ามา!”

 

เขาสั่ง

 

“พวกเจ้ามีโอกาสเดียวเท่านั้น!”

 

ถ้าเฉินคงต้องการ พวกเขาคงจะไม่มีแม้แต่โอกาสได้ลงมือ แม้จะร่วมมือกัน

 

“ย่อมได้!”

 

เว่ยฉีหลินกับซงหลวนใช้พลังสูงสุด

 

“ฝ่ามือที่ห้าแห่งนพลักษณ์ทลายสวรรค์ ทลายเทพ!”

 

“กระบี่หนึ่งเดียว!”

 

ทั้งสองใช้วิชาที่แข็งแกร่งที่สุดของตัวเอง!

 

หนึ่งคนใช้หมัดยักษ์ อีกคนเป็นหนึ่งเดียวกับกระบี่และเฉือนผ่านนภา

 

ลานประลองที่มีทั้งสองยืนอยู่นั้นเกิดรอยแตกไม่ต่างกับใบแมงมุม พวกเขาพุ่งเข้าโจมตีในพริบตา

 

เฉินคงยืนมือไพล่หลังดังเดิม เขายังคงยิ้ม สายลมรุนแรงพัดผมยาวของเขา แต่เฉินคงก็ยังแน่นิ่งไม่ไหวติง

 

เมื่อทั้งสองเข้ามาใกล้ เขาก็ค่อยๆยื่นดัชนีไปข้างหน้า!

 

ซงหลวนที่เป็นหนึ่งเดียวกับกระบี่นั้นมิอาจถูกป้องกันได้ กระบี่นั้นเร็วปานสายฟ้าและมิอาจหยุดยั้ง แต่ราวกับว่าเฉินคงรู้ว่ากระบี่จะเฉือนตรงที่ใด เขาก้าวหนึ่งก้าวและชี้ดัชนีไปในทิศทางนั้น!

 

คนธรรมดาคงไม่มีทางเห็นได้เลย แต่ซือหยูใช้พลังดวงตาจนถึงขีดสุดและเห็นได้อย่างชัดเจนว่าเฉินคงทำอะไร

 

เขามีพลังที่จะทำนายอนาคต!

 

ปั้ง–

 

สิ่งที่เกิดขึ้นตามมานั้นน่าตกใจ! กระบี่ที่รวดเร็วปานสายฟ้าได้หยุดลง! ดัชนีนั้นชี้ไปยังหน้าผากของซงหลวน เฉินคงผู้เป็นเจ้าของดัชนียังไม่ได้เคลื่อนที่ไปที่ใดแม้แต่น้อย! ราวกับว่าซงหลวนไม่ได้เข้ามาปะทะดัชนีแต่เป็นภูเขาลูกยักษ์!

 

“เจ้าแพ้แล้ว!”

 

เฉินคงยิ้มและสะบัดมือ

 

ครืน—-

 

ร่างของซงหลวนกระเด็นลอยไปไกลสองลี้ เขากระแทกเข้ากับที่นั่งคนดู

 

แรงกระแทกมหาศาลทำให้อวัยภายในของซงหลวนสั่นสะเทือนอย่างแรง เขากระอักเลือดออกมา เขาลุกขึ้นมาด้วยความยากลำบากและเช็ดโลหิตออกจากมุมปาก เขาประสานมือนับถือ

 

“ตำนานกระบวนท่าเดียว ขอบคุณที่ชี้แนะข้า! ขอบคุณที่ไม่ฆ่าข้า!”

 

ดัชนีนั้นบดขยี้กะโหลกของเขาได้อย่างแน่นอน! ถ้าเฉินคงต้องการเขาก็คงตายไปแล้ว

 

เฉินคงยิ้ม เขาไม่คิดจะตอบอะไรซงหลวน เขายกดัชนีเข้าหาหมัดยักษ์ที่พุ่งเข้ามาโดยไม่สนใจพลังมหาศาลนั่นเลย

 

ในตอนนั้น หมัดที่พุ่งเข้ามาไม่ต่างอะไรกับหมอก มันกระจายหายไปด้วยเฉินคงที่แทบไม่ได้ทำอะไรเลย มันพุ่งกลับไปหาเว่ยฉีหลิน!

 

“อ๊าก!”

 

เว่ยฉีหลินไม่มีเวลาพอที่จะหลบพ้น! ความเร็วที่มากเกินไปพุ่งซัดใส่ร่างของเขา

 

อั่ก—

 

เว่ยฉีหลินกระเด็นและพ่นโลหิตออกมาดั่งหมอก เขากระแทกเข้ากับที่นักคนดู สิ่งปลูกสร้างที่เขากระแทกนั้นพังทลายไม่มีชิ้นดี เว่ยฉีหลินหน้าซีดจนแทบหายใจไม่ออก

 

เขาพ่ายแพ้ในหนึ่งกระบวนท่า! ผู้คนเป็นตำนานปาฏิหาริย์นี้ด้วยตัวเอง! กระบวนท่าเดียว ไม่ว่าจะเป็นศัตรูคนไหน!

 

หลังจากที่เงียบไปชั่วครู่ เหล่าผู้คนระเบิดเสียงตะโกน พวกเขาตื่นเต้นที่ได้เห็นพลังอันบ้าคลั่งนี้

 

“เฉินคงเอาชนะในกระบวนท่าเดียว!”

 

“แข็งแกร่งเกินไปแล้ว! ตำนานที่เอาชนะทุกคนในกระบวนท่าเดียว—เฉินคงไร้พ่าย!”

 

“น่าตกใจนัก! ข้าจะไม่ลืมการต่อสู้ครั้งนี้ไปตลอดชีวิต!”

 

“เกิดในยุคเดียวกับยอดฝีมือเช่นนี้ช่างเป็นความโศกเศร้าของผู้บ่มเพาะพลังยิ่งนัก!”

 

เหล่าผู้คนไม่เคยตื่นเต้นขนาดนี้มาก่อน ดัชนีธรรมดาของเฉินคงทำให้ทุกคนตกตะลึง ทุกอย่างที่พวกเขาเคยรับรู้กลับตาลปัตรไปหมด

 

จ้าววิหคเพลิงมองอย่างพอใจ

 

“บ่มเพาะมาตลอดเพื่อรับตำแหน่งสูงสุด แต่เขาก็ต้องมาเจอกับคนที่เอาชนะทุกคนในกระบวนท่าเดียว”

 

ข้างนางคือมู่เทียนฟางที่อ้าปากค้าง นางได้ยินคำพูดของจ้าววิหคเพลิงและมองซือหยูด้วยความสงสารอีกครั้ง

 

ที่อาจารย์ของนางพูดก็คือยอดฝีมือที่บ่มเพาะอยู่ตลอดเวลาจะไปถึงจุดสูงสุดของมนุษย์ได้ แต่เมื่อต้องมาเจอกับเฉินคงที่ชนะทุกคนในกระบวนท่าเดียว ทุกสิ่งนั้นก็สูญเปล่า ทุกอย่างไร้ความหมายเมื่ออยู่ต่อหน้าเฉินคง

 

เหมือนกับเว่ยฉีหลินผู้โด่งดัง เขาต่อสู้ได้อย่างน่าตระการตา ไม่มีใครในทวีปที่รับเขาได้เกินห้ากระบวนท่า คนคนเดียวที่ยืนเหนือทุกคน บุรุษที่หายาก ผู้มีพรสวรรค์โดยแท้ แต่ก็ถูกลิขิตให้แพ้ในกระบวนท่าเดียวจากเฉินคง

 

ส่วนยอดฝีมือประหลาดอย่างซงหลวนที่ไม่ตายหลังจากต้องกระบี่เก้าครั้ง เขามีระดับปัญญาที่สูงส่งเหนือมนุษย์และบ่มเพาะดวงใจกระบี่ที่ไม่เคยมีผู้ใดเคยเห็นมาก่อน เมื่อเขาได้เจอกับเฉินคง เขาก็ต้องขอบคุณที่เฉินคงไม่ฆ่าเขา!

 

เฉินคงแข็งแกร่งเกินไป! เขาแข็งแกร่งจนเบื่อเหล่ายอดฝีมือที่เกิดในยุคเดียวกับเขา ทุกคนไม่ต่างจากเบี้ยล่างสำหรับเขา

 

ด้วยความสนใจจากผู้คนทั้งลานประลอง เฉินคงยังคงยืนมือไพล่หลังดังเดิม เขายิ้มเช่นเคยราวกับทวยเทพที่ลงมาจากสวรรค์ เขายิ้มมองดูมนุษย์โลกด้วยอำนาจ

 

“เจ้ามีโอกาสเดียวเท่านั้น”

 

เฉินคงมองซือหยูและพูดด้วยรอยยิ้ม

 

“ไม่มีใครชิงผู้หญิงของข้าไปได้ แม้นางจะเคยเป็นของเจ้าก็ตาม”

 

เซี่ยนเอ๋อ!

 

ซือหยูหันกลับไปมองเก้าอี้เมฆาหิมะ เซี่ยนเอ๋อไม่พูดอะไรเลยตั้งแต่มาที่นี่ นางจำเสียงของซือหยูไม่ได้รึ? นางลืมเสียงของซือหยูเมื่อผ่านไปหนึ่งปีงั้นรึ?

 

ซือหยูกลับมาตั้งสติ ยิ่งศัตรูตรงหน้าแข็งแกร่งเท่าใด ซือหยูก็ยิ่งเยือกเย็นเท่านั้น

 

“เจ้าจะรู้รึถ้ายังไม่ลองดู?”

 

แววตาซือหยูเย็นชา

 

ฟึ่บ–

 

ซือหยูเรียกธนูออกมาและยิงศรวิญญาณออกไปทันที

 

เฉินคงส่ายหน้า

 

“ข้าไม่ได้บอกเจ้ารึว่าเจ้ามีโอกาสเดียว? เจ้าใช้สิ่งที่เว่ยฉีหลินหยุดได้กับข้างั้นรึ? เจ้ามีสมองหรือไม่?”

 

เฉินคงยื่นสองดัชนีไปคล้าศรวิญญาณ

 

“ข้าใช้โอกาสเจ้าแล้ว”

 

“มันจบแล้ว”

 

พรึ่บ–

 

เฉินคงพลิกมือสะบัดศรวิญญาณกลับไปหาซือหยู ศรวิญญาณนั้นเร็วปานสายฟ้า มันพุ่งเข้าใส่ซือหยูเร็วยิ่งกว่าตอนที่ซือหยูยิงมันใส่เฉินคง! ซือหยูแทบไม่มีเวลาตอบสนอง

 

ฉึก–

 

อกของซือหยูถูกทะลวงออกด้วยศรวิญญาณของตัวเอง!

 

“อ๊าย!”

 

มู่เทียนฟางกรีดร้อง

 

เหล่าคนดูอุทานด้วยความตกใจ! เขาพ่ายแพ้ในกระบวนท่าเดียวอย่างไม่ต้องสงสัย! ไม่ว่าจะการโจมตีแบบใด ไม่ว่าจะศัตรูแบบไหน พวกเขาก็ทำได้แค่พ่ายแพ้ต่อเฉินคงในกระบวนท่าเดียว!

 

ใช้เวลาทั้งหมดเพื่ออยู่บนจุดสูงสุด! แต่ทั้งหมดก็ไร้ค่าเมื่อถูกเอาชนะในกระบวนท่าเดียว เมื่อเผชิญหน้ากับเฉินคง พลังทั้งหมดที่มีนั้นต่างกับไร้ซึ่งสิ่งใด ท้ายสุด ซือหยูที่ขัดโชคชะตาจนมาถึงที่นี่…ม้ามืดอันน่าตกใจ…ก็ไม่เป็นข้อยกเว้น

 

แต่เฉินคงก็ต้องเลิกคิ้ว เขาสังเกตเห็นอะไรบางอย่างเมื่อศรวิญญาณทะลวงร่างซือหยู ศรนั้นควรจะทำให้ซือหยูกระเด็นลอยกลับไป

 

แต่นอกจากรูบนร่าง ซือหยูไม่ได้ขยับแม้แต่น้อย!

 

พรึ่บ–

 

ทันใดนั้นเอง ร่างของซือหยูเลือนลางหายไปเป็นพลังวิญญาณ

 

“นั่นมัน…”

 

รอยยิ้มของเฉินคงหายไปเป็นครั้งแรก

 

“วิชาร่างเทียม!”

 

แม้ว่าคนนอกจะไม่รู้ แต่เฉินคงจะไม่รู้ถึงวิชาของไป่ฮีที่เป็นผู้ตรวจการแห่งตำหนักรองได้ยังไง? นั่นเป็นการสร้างร่างเทียมจากพลังวิญญาณ!

 

“ใช่แล้ว!”

 

เสียงอันเย็นชาดังมาจากข้างเฉินคง

 

เฉินคงขมวดคิ้ว เป็นไปได้ยังไง? ซือหยูมาถึงข้างกายเขาโดยที่เขาไม่รู้ตัวตั้งแต่เมื่อใดกัน?

 

ถ้ามองดีๆก็จะพบว่าในครั้งนี้ซือหยูเร็วกว่าเดิมถึงสามเท่า! เขาใช้พลังเร่งเวลาสร้างร่างเทียมอย่างรวดเร็วและใช้ร่างเทียมนั้นดึงความสนใจจากเฉินคงจากนั้นจึงรีบมาใกล้เฉินคง เมื่อเฉินคงซัดธนูกลับไป ซือหยูก็เตรียมพร้อมจะโจมตีเขาแล้ว

 

“ดัชนีพันสายฟ้า!”

 

สายฟ้าสามร้อยสายล้อมดัชนีของซือหยู วงแหวนทั้งห้าซัดเข้าไปที่หน้าผากของเฉินคง! ไม่มีใครป้องกันตัวเองจากสถานการณ์เช่นนี้ได้แน่

 

เหล่าผู้คนกลั้นหายใจเมื่อได้เห็นภาพเช่นนี้! ถ้าเฉินคงโดนเข้าไปจริงๆ ตำนานที่เขาเอาชนะทุกคนในกระบวนท่าเดียวก็จะหายไป!

 

ต่อสู้กับเฉินคงและบดขยี้ตำนานของเขา! หรือว่าซือหยูที่มาจากจุดใต้สุดจะเอาชนะตำนานที่มีมาถึงตอนนี้ได้? หลายคนนักในยุคนี้ที่โศกเศร้าเพราะเฉินคง พวกเขาถูกเฉินคงกดมานานเกินไป! ตำนานที่เอาชนะทุกคนในกระบวนท่าเดียวทำให้พวกเขามิอาจเงยหน้าขึ้นมาได้ พวกเขาถูกเฉินคงทำลายย่อยยับ แต่ซือหยูกำลังจะทำมันได้! ที่เป็นภาพประวัติศาสตร์ตรงหน้าพวกเขา!

 

“หยินหยู! สู้กับเฉินคงแล้วทำลายตำนานนั่นซะ!”

 

บางคนตะโกนร้องด้วยความตื่นเต้น

 

เหล่าผู้คนกู่ร้อง ประโยคนี้เต็มไปด้วยความไม่พอใจและความปรารถนาของยอดฝีมือมากมาย

 

“สู้กับเฉินคง!”

 

อีกคนตะโกนขึ้น

 

“ทำลายตำนานนั่นซะ!”

 

“สู้! สู้! สู้!”

 

เหล่าผู้คนตะโกนร้อง เลือดในกายเดือดพล่านด้วยความตื่นเต้น ความปรารถนาของพวกเขาทุกคนอัดแน่นอยู่ในประโยคเดียว

 

“สู้กับเฉินคง ทำลายตำนานของเขาซะ!”

 

พวกเขามิอาจเผชิญหน้ากับเฉินคงได้ แต่พวงเขามอบความหวังทั้งหมดให้กับซือหยู!

 

เหล่าผู้คนตะโกนก้องไปถึงสวรรค์ แม้ว่าเสียงเสียงนั้นจะทำให้พวกเขาปวดหูของตัวเองแต่ก็มิอาจทำให้พวกเขาหยุดความบ้าคลั่งนี้ได้

 

ดัชนีของซือหยูราวกับได้ยินเสียงกู่ร้อง พลังของมันเพิ่มยิ่งกว่าเดิม!

 

“แหลกไปซะ!”

 

ซือหยูคำราม

 

วงแหวนอัสนีทั้งห้าเปล่งประกายทะลวงเฉินคง! ในระยะเพียงเท่านี้ เขาไม่มีโอกาสที่จะหลบได้แน่! อย่างน้อยเขาก็เป็นอำมฤตระดับสี่ขั้นกลาง เขาทำไม่ได้แน่!

 

เปรี๊ยะ—

 

แต่สิ่งที่เขาได้ยินกลับมิใช่เสียงอัสนีซัด แต่กลับ…เป็นเสียงของร่างที่ถูกทำลาย!

 

ภาพติดตา!

 

เหล่าผู้คนเงียบกริบในทันที พวกเขาสับสน บ้างก็หัวเราะอย่างขมขื่น บ้างก็ผิดหวัง ความรู้สึกซับซ้อนปรากฏบนใบหน้าพวกเขา! ซือหยูล้มเหลว!

 

ถ้าครั้งนี้ล้มเหลวซือหยูก็ไม่มีโอกาสอีกแล้ว! ตำนานยังคงยืนอยู่หน้าพวกเขา ไม่มีใครเอาชนะได้ลง

 

ซงหลวนกับเว่ยฉีหลินมองด้วยความกังวล จิตใจพวกเขาหลั่งรินเข้าไปในกระบวนท่าของซือหยู แต่สุดท้ายมันก็ไม่เป็นผลอะไรเลย

 

ซงหลวนถอนหายใจด้วยความหงุดหงิด

 

“สุดท้ายเขาก็ยังทำไม่ได้รึ? แต่ข้าก็เข้าใจแล้วว่าทำไมพวกเราที่เป็นอำมฤตระดับสี่ขั้นกลางเหมือนเขาถึงรับกระบวนท่าเดียวจากเขาไม่ได้!”

 

เว่ยฉีหลินมองซงหลวนและหัวเราะอย่างขมขื่น

 

“นั่นก็เพราะว่าเขามิใช่ขั้นกลาง เขาทะลวงพลังเป็นขั้นสูงแล้ว!”

 

ความต่างในแต่ละขั้นของขอบเขตอำมฤตระดับสี่นั้นราวฟ้ากับเหว นั่นจึงเป็นเหตุที่ยู่หลิงที่เป็นอำมฤตระดับสี่เอาชนะคนที่ฐานพลังเทียบเท่ากันได้แทบทุกคนแต่มิอาจรับสองกระบวนท่าจากเว่ยฉีหลินที่เป็นระดับสี่ขั้นกลางได้ ความต่างของพลังแต่ละขั้นนั้นสูงเกินไป

 

เฉินคงได้เป็นระดับสี่ขั้นสูงมานานแล้ว ดังนั้นเขาจึงแข็งแกร่งจนเอาชนะได้ทุกคนในทวีป นี่จึงทำให้เขาเหนือกว่าความคาดหมายของทุกคนและหลบการโจมตีที่มิอาจหลบได้!

 

ซือหยูประมาทเกินไป ทุกคนประมาทเขาเกินไป การโจมตีนั้นถูกลิขิตให้พลาดตัวเฉินคง!

 

อำมฤตระดับสี่ขั้นสูงรึ? นี่เกินกว่าที่ซือหยูคิดไว้!

 

ซือหยูยังคงอยู่บนกลางอากาศ แต่เขาก็ได้ยินเสียงอันเย็นชาจากข้างๆ

 

“เจ้าเป็นคนแรกที่บังคับให้ข้าแสดงฐานพลังที่ซ่อนเอาไว้ออกมา! แต่โชคร้านนัก การขัดขืนของเจ้ามันไร้ค่า!”

 

แม้ว่าซือหยูจะหลบการโจมตีนี้ได้ เขาก็ทำให้เฉินคงโกรธเข้าแล้ว!