ตอนที่ 377

The Divine Nine Dragon Cauldron

เฉินคงยิ้มเยาะ แสงอันตรายเปล่งประกายจากดวงตาของเขา! เขากำลังจะใช้พลัง!

 

จ้าววิหคเพลิงขมวดคิ้ว นางเปิดริมฝีปากแดงเล็กน้อย นางรู้สึกอยากจะหยุดพวกเขา แต่ทันใดนั้นเอง นางดูเหมือนจะมองเห็นอะไรบางอย่างและหยุดพูดไป

 

“ความพยายามที่ไร้ค่างั้นรึ? อาจจะไม่ใช่!”

 

ซือหยูยิ้มเยาะ

 

แสงสีแดงโอบล้อมพื้นที่ เขาเตรียมการไว้ล่วงหน้าก่อนที่จะโจมตีแล้ว!

 

“ยักย้ายพื้นที่!”

 

ฟึ่บ–

 

สิ่งที่เกิดขึ้นนั้นเกินกว่าที่ทุกคนคาดการณ์! วงแหวนอัสนีทั้งห้าที่ไม่โดนเฉินคงและถูกซัดไกลออกไปถูกโอบล้อมโดยแสงสีแดงนั้น

 

เฉินคงหยุดนิ่งไปเล็กน้อย จากนั้นเขาก็ชักสีหน้า นี่เป็นครั้งแรกที่เขาบอกตัวเองว่าสถานการณ์ไม่ใช่ดังเดิมอีกแล้ว จากนั้นแสงนั้นก็มาปรากฏที่ตรงหน้าเขา!

 

วงแหวนอัสนีที่โจมตีพลาดปรากฏออกมาจากแสงมิติ!

 

“นี่เจ้า!”

 

เฉินคงท่าทางเปลี่ยนไป

 

เขามองอย่างโกรธแค้นและอยากจะหลบอีกครั้ง! แต่เขาไม่มีโอกาสนั้นอีกแล้ว!

 

และนี่เป็นครั้งแรกที่เขารับรู้ถึงความผิดพลาดร้ายแรงของตัวเอง จากนั้นแผ่นหลังของเขาก็ถูกวงแหวนอัสนีซัดเข้าใส่!

 

ครืน–

 

วงแหวนอัสนีมาพร้อมกับเพลิงพิโรธสูงหลายสิบศอก เพลิงพุ่งทะยานสู่นภา จากนั้นเสียงอัสนีลั่นก็ดังไปทั่วลานประลอง!

 

ฝุ่นควันพัดปลิวสูงบดบังทุกสิ่ง คลื่นความร้อนที่นำมาพร้อมกับสายอัสนีกระจายไปทั่วทิศทาง

 

รอบๆเงียบกริบ! ซือหยูได้ทำ…เขาได้โจมตีใส่เฉินคงได้จริงๆ!

 

ก่อนหน้าซือหยู ไม่มีใครในทวีปนี้เลยที่รับเขาได้เกินหนึ่งกระบวนท่า…ไม่ต้องพูดถึงการโจมตี! แต่ในตอนนี้ก็มีคนทำมันได้! เขาได้ฉีกกระชากตำนานของเฉินคงโดยการยังยืนอยู่โดยไม่แพ้เมื่อผ่านไปหนึ่งกระบวนท่า!

 

ตำนานที่ราวกับเป็นคำสาปได้หายไปแล้ว!

 

ในตอนนี้ไม่มีใครอธิบายความมหัศจรรย์ใจในพวกเขาได้เลย เหล่าผู้ชมนับหมื่นหายใจหอบอย่างบ้าคลั่งและกู่ร้องออกมาไม่หยุด!

 

“เขา…เขาทำได้! หยินหยูทำได้!”

 

“ตำนานไม่มีอีกแล้ว! เฉินคงเอาชนะหยินหยูในกระบวนท่าเดียวไม่ได้!”

 

“ข้าเห็นปาฏิหาริย์! ข้าเห็นตำนานใหม่แล้ว!”

 

เหล่าผู้ชมนับหมื่นตื่นเต้นอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน เสียงร้องอันตื่นเต้นของพวกเขาพุ่งทะลวงเมฆาไปถึงสวรรค์

 

แต่ก็มีบางคนที่รู้สึกต่างออกไปมาก สตรีหลายคนที่รักชอบในเฉินคงปิดปากอย่างไม่เชื่อสายตา แววตาของพวกนางตกตะลึงและเหม่อลอย พวกนางมิอาจรับความจริงได้ สตรีหลายคนมิอาจรับได้ด้วยซ้ำที่ตำนานของเฉินคงถูกทำลาย ความจริงอันโหดร้ายทำให้พวกนางหลั่งน้ำตา!

 

ตำนานอันศักดิ์สิทธิ์กลับมลายหายไปในพริบตา!

 

จ้าววิหคเพลิงมองด้วยความนับถือ

 

“หยินหยูเป็นยอดฝีมือที่หายากโดยแท้จริง! แต่ก็น่าเสียดายที่มีแค่เฟิงเซี่ยนคนเดียวเท่านั้น!”

 

นางมองซือหยูด้วยความเวทนา

 

เหล่าผู้ชมนับหมื่นเดือดพล่าน ฝุ่นที่ฟุ้งกระจายบนลานประลองหายไปอย่างมาก ที่บนลานประลองนั้นชัดเจน ทุกคนกลั้นหายใจและจ้องลานประลองโดยไม่กระพริบตา

 

การโจมตีเช่นนี้ แม้ฐานพลังที่แท้จริงของเฉินคงจะเป็นอำมฤตระดับสี่ เขาก็มิอาจไร้รอยขีดข่วนได้แน่ และเขาอาจจะต้องบาดเจ็บร้ายแรง!

 

แต่ท่ามกลางความวุ่นวายบนลานประลอง เขายังคงยืนอยู่ท่ามกลางหมอกควัน และเขาคือเจ้าตำหนักเฉินคง! เขายังไม่พ่ายแพ้!

 

ไม่มีใครรู้สึกประหลาดที่เขายังไม่แพ้

 

เรื่องที่เฉินคงแข็งแกร่งนั้นสลักลึกอยู่ในหัวใจของพวกเขา ตอนที่ซือหยูทำลายตำนานกระบวนท่าเดียว ไม่มีใครตั้งคำถามถึงตำนานไร้พ่ายของเฉินคง และก็ไม่มีใครคิดว่ากระบวนท่าเดียวจะเอาชนะเฉินคงได้

 

แต่เมื่อฝุ่นกระจายออกไปทุกคนก็อ้าปากค้าง! พื้นตรงที่เฉินคงยืนอยู่นั้นแลหกละเอียดไปจากวงแหวนอัสนีห้าสี ไม่มีจุดใดเลยที่ไม่เสียหาย

 

พื้นตรงที่เขายืนนั้นถูกทำลายโดยสมบูรณ์ ไม่มีใครปฏิเสธได้เลยว่ากระบวนท่านั้นอ่อนแอ

 

แต่ที่ยิ่งน่ากลัวยิ่งกว่าคือเฉินคงที่ยังยืนอยู่ ณ ที่เดิม เขาไม่บาดเจ็บเลยแม้แต่น้อย! เส้นผมสีดำของเขาพัดปลิว เสื้อผ้าที่สวมยังคงสะอาดไร้ฝุ่นเกาะ ราวกับว่าแรงระเบิดอัสนีอันน่ากลัวนั้นไม่มีผลกับเขาเลยแม้แต่น้อย!

 

“เป็นไปได้ยังไง?”

 

มู่เทียนฟางไม่เชื่อสายตา

 

“การโจมตีในสถานการณ์ที่ไร้การป้องกันแบบใดกันที่ทำให้เขาไม่บาดเจ็บได้เลย? ท่านอาจารย์ เกิดอะไรขึ้นงั้นรึ?”

 

จ้าววิหคเพลิงจ้องมองเฉินคงด้วยความภูมิใจ

 

“นี่คือเหตุที่ข้าเต็มใจหมั้นเฟิงเซี่ยนกับเขา! นอกจากเฉินคงก็ไม่มีผู้ใดคู่ควรกับเฟิงเซี่ยน แม้แต่หยินหยูก็เช่นกัน”

 

มู่เทียนฟางพูดกับตัวเอง

 

“หรือว่าเขาจะไร้พ่ายจริงๆ?”

 

สายลมเย็นพัดพาจิตใจผู้คนให้สบายกาย แต่ก็มิอาจทำให้หัวใจที่เต้นอย่างรุนแรงของพวกเขาผ่อนคลายลงได้ เฉินคงแข็งแกร่งเพียงใดกัน? ด้วยการโจมตีเช่นกัน เขาไม่บาดเจ็บได้อย่างไรกัน? นี่มันไร้เหตุผลสิ้นดี!

 

แม้แต่ซือหยูเองก็ตกใจ

 

“ฐานพลังของเจ้า…ไม่ใช่แค่อำมฤตระดับสี่ขั้นสูง! แต่เจ้า….เป็นอำมฤตระดับห้า!”

 

พลังทำลายล้างโอบรอบตัวเฉินคง! เขารอดโดยไร้รอยขีดข่วนเพราะเขาปล่อยพลังวิญญาณออกมาทั้งหมดในจุดสุดท้าย! นั่นคือพลังวิญญาณทำลายล้างที่อำมฤตระดับห้ามีอยู่!

 

และยิ่งไปกว่านั้น รังสีพลังนั้นเป็นพลังที่ซือหยูไม่เคยสัมผัสมาก่อน!

 

“อำมฤต…อำมฤตระดับห้างั้นรึ?”

 

คนทั้งหมื่นคนเงียบกริบ!

 

อำมฤตระดับห้าคือขอบเขตที่ยอดฝีมือยากจะได้พลังมาครองในทั้งชีวิต ว่ากันว่ามันคือขอบเขตที่ใกล้เคียงกับเทพ มันมีพลังทำลายที่เหนือจินตนาการ

 

พลังเช่นนี้จะมีเฉพาะกับเจ้าสำนักของเหล่าขุมกำลังยิ่งใหญ่ในทวีป เช่นฮั่นเจียงหลิน เขาเป็นอำมฤตระดับห้าขั้นต้น! จ้าววิหคเพลิงก็เป็นอำมฤตระดับห้าขั้นต้น! จ้าวแห่งหอสดับหิมะและเจ้าเมืองอันยี่เองก็ไม่ต่างกัน!

 

อำมฤตระดับห้าเป็นขอบเขตที่คนทั้งทวีปได้แต่แหงนหน้ามอง! แต่เฉินคงที่เป็นรองเจ้าตำหนักกลับสำเร็จขอบเขตนั้น! เขาไม่ได้อ่อนแอกว่าจ้าววิหคเพลิงเลย! ไม่แปลกใจที่จ้าววิหคเพลิงเต็มใจจะหมั้นเขากับเฟิงเซี่ยน!

 

หากได้ใจของยอดฝีมืออำมฤตระดับห้า กำลังของนางจะน่ากลัวขึ้นเพียงใดกัน?

 

ซือหยูตกใจเช่นกัน! เฉินคงแข็งแกร่งอย่างไม่น่าเชื่อ! เมื่อทุกคนคิดว่าเขาเป็นแค่อำมฤตระดับสี่ขั้นกลาง เขากลับเหนือกว่าทุกคนไปแล้ว คนที่ถูกเรียกว่ายอดฝีมือแห่งทวีปในสายตาเขาก็อาจจะเป็นเพียงแค่ตัวตลก

 

ซือหยูหายใจเข้าลึก เขาจะคาดคิดรึว่าคนที่เขาต้องต่อสู้ด้วยมีพลังในระดับหลิงเสี่ยวเทียน?

 

“ฮ่าๆๆๆ”

 

เสียงหัวเราะดังมาจากเฉินคง เขาก้มหน้าจึงทำให้ไม่เห็นสีหน้าที่ชัดเจน แต่เสียงหัวเราะนั้นก็ทำให้ทุกคนขนลุก

 

เฉินคงกำลังโกรธ! ตัวตนอันสูงส่งแห่งทวีปกำลังโกรธแค้น! ทุกคนตัวสั่นจนต้องเงียบด้วยความกลัว

 

“ฮ่าๆๆ! เจ้าบังคับให้ข้าแสดงพลังออกมาได้จนได้!”

 

เฉินคงเงยหน้า ความใจเย็นและความอิ่มเอิบใจนั้นหายไปนานแล้ว มันแทนที่ด้วยความเยือกเย็นสุดขั้ว! และดวงตาคู่นั้นยังเย็นยะเยือกจนแช่แข็งหัวใจของผู้คนได้

 

“หยินหยู! ข้ายอมรับว่าข้าประมาทเจ้าเกินไป!”

 

“เจ้าแข็งแกร่ง แข็งแกร่งยิ่งกว่าที่ข้าคิด! ถ้าเจ้ามีเวลามากกว่านี้ก็ไม่แปลกที่เจ้าจะปีนขึ้นไปสูงกว่าข้าในวันหนึ่ง!”

 

ไม่มีใครกังขาในคำพูดเฉินคง ซือหยูนั้นมีพรสวรรค์เกินกว่าทุกคนในทวีป และไม่ผิดเลยที่จะประกาศว่าหยินหยูจะแข็งแกร่งอย่างประหลาดใจอนาคต

 

“ดังนั้น…”

 

“ข้าจะไม่ให้เวลาเจ้าได้เติบโตอีก! เจ้ามันน่ากลัวเกินไป!”

 

เฉินคงแผ่จิตสังหารออกมา

 

จิตสังหารอันเหนือกว่าทุกผู้คนมาพร้อมกับรังสีทำลายล้างของอำมฤตระดับห้า มันปกคลุมทั่วทุกพื้นที่!

 

“ไม่นะ!”

 

จ้าววิหคเพลิงรีบพูดเพื่อหยุดเฉินคง

 

“เจ้าไม่ได้รับอนุญาตให้สังหารใครที่นี่!”

 

ยอดฝีมือหลายคนถูกเชิญมาจากจ้าววิหคเพลิง ถ้าพวกเขาตายที่นี่ก็ยากที่จ้าววิหคเพลิงจะอ้างว่านางไม่เกี่ยวข้อง

 

“แล้วก็พวกเจ้าน่ะ…”

 

“พวกเจ้าสองคนก็เป็นรองเจ้าตำหนักแห่งอาณาจักรทมิฬมิใช่รึ เจ้าจะฆ่าแกงกันไปเพื่อสิ่งใดกัน”

 

แต่เฉินคงก็ยังคงมีจิตสังหารอันแรงกล้า

 

“ไม่เลย!”

 

เขาปฏิเสธอย่างเด็ดขาด

 

“ท่านไม่เข้าใจว่าเขาจะน่ากลัวแค่ไหน! ท่านรู้หรือไม่ว่าตอนที่เขาเข้ามาเป็นคนของอาณาจักรทมิฬ เขามีฐานพลังเท่าใดกัน? มังกรระดับห้า! แต่แค่ครึ่งปีจากคนที่ไม่มีอะไร เขาก็กลายเป็นตำนานยอดฝีมือที่ทวีปต้องหวาดกลัว แล้วพลังของเขาที่มากพอจะเอาชนะอำมฤตระดับสี่ได้อีก ท่านจินตนาการได้หรือไม่ ถ้าให้เวลาเขาอีกไม่กี่ปี ฐานพลังของเขาจะไปอยู่ที่ระดับใดกัน?”

 

คำพูดของเขาสร้างคลื่นอันน่ากลัว ทุกคนเคยได้ยินชื่อเสียงของหยินหยู แต่ก็ไม่มีใครรู้พื้นเพของเขา แค่ครึ่งปีเขาก็เติบโตจากมังกรระดับห้ามาเป็นคนที่เขาชนะอำมฤตระดับสี่ได้ พรสวรรค์อันน่ากลัวเช่นนี้ไม่มีใครเคยได้ยินมาก่อนในประวัติศาตร์!

 

“ถึงข้าจะไม่ฆ่ามันในวันนี้ ข้าก็ต้องทำลายฐานพลังของมัน! แม้เจ้าตำหนักหลิงจะมาเองข้าก็จะไม่หยุด!”

 

เฉินคงพูดอย่างแน่วแน่!

 

จ้าววิหคเพลิงหวาดกลัว นางอาจจะหยุดเขาที่เป็นอำมฤตระดับห้าขั้นต้นไม่ได้!

 

คำพูดของจ้าววิหคเพลิงเปลี่ยนไปในทันที นางมองตรงไปที่ซือหยู

 

“หยินหยู? เจ้ายังไม่ยอมรับความผิดพลาดแล้วขออภัยอีกรึ? เฟิงเซี่ยนแต่เดิมก็เป็นคู่หมั้นของเฉินคง เจ้าพาตัวเองมาถึงสถานการณ์ก็เพราะเจ้าคิดจะต่อสู้เพื่อนาง”

 

ในเวลานี้ จ้าววิหคเพลิงพูดเพื่อที่จะหวังให้ซือหยูยอมแพ้ต่อเฉินคง เพื่อที่จะให้เขารามือ

 

มู่เทียนฟางเป็นกังวลเช่นกัน หากทำเช่นนั้นซือหยูจะได้รักษาชีวิตเอาไว้ได้! คนหมื่นคนรอบๆเงียบกริบ พวกเขามองสิ่งที่เกิดขึ้น….การประลองนี้เดินทางมาถึงจุดที่เฉินคงโกรธเกรี้ยวจนพร้อมจะสังหารซือหยู

 

ชีวิตของซือหยูถูกตัดสินด้วยความประสงค์ของเฉินคง

 

เฉินคงส่ายหน้า

 

“เปล่าประโยชน์ ถึงเขาจะก้มหัวยอมรับผิด ข้าก็ไม่คิดจะปล่อยมันไป! วันนี้มันจะต้องตายไม่ก็ถูกทำลายฐานพลัง!”

 

ซือหยูเป็นภัยของเฉินคง และยังเป็นภัยต่อเหล่าผู้นำของขุมกำลังในทวีป! ทุกคนกังวลต่อซือหยูเพราะไม่มีใครในตอนนี้หยุดเฉินคงได้แล้ว!

 

จ้าววิหคเพลิงยืนขึ้น นางยืนหยัดที่จะช่วยชีวิตซือหยู ส่วนเรื่องฐานพลังนั้น…เทียบกับชีวิตและอนาคตของเขาแล้วไม่มีอะไรสำคัญทั้งนั้น

 

“หยินหยู โปรดยอมรับก่อนเถ….”

 

แต่พวกนางไม่คิดเลยว่าหลังจากที่ซือหยูตกใจกับฐานพลังของเฉินคง เขาก็กลับมาใจเย็นอย่างรวดเร็วอีกครั้ง หลังจากที่ได้ยินคำแนะนำของจ้าววิหคเพลิง ซือหยูหัวเราะอย่างขมขื่น

 

“น่าหัวร่อนัก! เห็นอยู่กับตาว่าเขาอยากจะทำลานข้า ทำไมข้าจะต้องขอโทษเขาด้วยรึ? ข้าขอโทษแล้วเขาจะปล่อยข้าไปรึ?”

 

คำถามทั้งสองทำให้จ้าววิหคเพลิงกระวนกระวาย เหตุการณ์ในตอนนี้ไม่ใช่สิ่งที่นางควบคุมได้ และการกระทำของซือหยูจะยิ่งทำให้เรื่องแย่ขึ้นไปอีก!

 

“ฝากชีวิตข้าไว้ในน้ำมือคนอื่นนั้นมันน่าละอายเพียงใดกัน?”

 

“มันน่าโศกเศร้าเพียงใดกัน? มันตาขาวเพียงใดกัน?”

 

ดวงตาของซือหยูคมกริบ เขาเงยหน้ามองท้องนภาไร้ขอบเขต แววตาของเขาล้ำลึก สุดท้ายเขาหันไปมองที่นั่งเมฆาหิมะ ความอ่อนโยนและความแน่วแน่รวมอยู่ในดวงตาของเขา

 

“ชีวิตของข้าเป็นของข้า — ไม่ใช่ของใครอื่น!”

 

ซือหยูตะโกนสุดเสียง!

 

“ชีวิตข้ามิได้เป็นของสวรรค์ และมันก็มิได้เป็นของโลกใบนี้! ข้าจะควบคุมชะตาของตัวเอง!”

 

เสียงของเขาเป็นจังหวะก้องกังวาลราวกับเป็นเสียงจากระฆังที่ชำระจิตใจของทุกคน คนนับหมื่นยืนขึ้นโดยไม่รู้ตัวและมองนักสู้ผู้สิ้นหวัง เขาไม่คิดจะออกจากลานประลอง ทุกคนเห็นได้ชัดว่าซือหยูนั้นตัวผอมบาง แต่เขาในตอนนี้ทำให้ผู้คนรู้สึกถึงความยิ่งใหญ่ตระการตา ราวกับว่าเขาเป็นเทพสงครามที่ขัดได้แม้แต่บัญชาสวรรค์!

 

“เฉินคง! ข้ากับเจ้าจะต้องชำระหนี้ครั้งนี้ให้จบสิ้น! ความเป็นความตายจะตัดสินโดยบัญชาจากพระเจ้า!”

 

แววตาคมกริบของซือหยูเต็มไปด้วยความอยากที่จะต่อสู้ เพลิงพิโรธนั้นทำให้โลหิตในกายพุ่งพล่าน ความแน่วแน่ของเขาเพิ่มขึ้น

 

เขาจะต้องไม่แพ้! เขาจะต้องต่อสู้จนตัวตายกับเฉินคง!

 

ระหว่างพวกเขา หนึ่งคนคอตำนานยอดฝีมือที่พุ่งทะยานมาจากจุดต่ำที่สุดจนทำให้ยุคสมัยปั่นป่วน

 

ส่วนอีกคนคือราชาไร้พ่ายแพ้ทวีป เขาคือตำนานไร้คู่แข่งที่แข็งแกร่งเหนือกว่าทุกคนในทวีป

 

ทั้งสองคนนี้ ใครกันจะเป็นตำนานบทใหม่?

 

หรือซือหยูจะพุ่งทะยานเหนือนภาและบดขยี้ตำนานจนกลายเป็นตำนานใหม่? หรือว่าเฉินคงจะสังหารซือหยูและหัวร่อให้กับยุคสมัยนี้กัน?