ตอนที่ 1440 รนหาที่ตาย (6)
นี่คือผู้ใช้พลังวิญญาณขั้นสีม่วง!
ผู้ที่แข็งแกร่งเหนือทุกผู้คน ยืนอยู่บนจุดสูงสุดของพีระมิด!
พวกผู้ลี้ภัยที่รวมตัวกันอยู่รอบๆพากันเบียดเข้าหากัน ทั้งหมดต่างเงียบสนิท ไม่มีการแอบมองจากพวกเขาแม้แต่ครั้งเดียว
พวกเขาจ้องไปที่ศพที่นอนอยู่บนพื้น และหลังของพวกเขาก็เปียกโชกไปด้วยเหงื่อ ความเย็นยะเยียบยังคงซึมลึกอยู่ในกระดูกของพวกเขา ภาพการสังหารหมู่นองเลือดที่เกิดขึ้นต่อหน้าต่อตายังคงเกาะกุมอยู่ในใจของพวกเขา
จวินอู๋เสียก้าวผ่านกองเลือดสีแดงฉานไปที่ข้างตัวหญิงชราที่หมดสติไปแล้ว ทุกย่างก้าวของนางทิ้งรอยเลือดสีแดงสดไว้ที่พื้น พอเชื่อมกันแล้วก็ดูเหมือนโซ่แห่งความตายปรากฏขึ้นมา
เด็กที่นอนอยู่บนหญิงชราร้องไห้สะอึกสะอื้นอย่างหนัก และกำลังหอบหายใจขณะเงยหน้าขึ้นมองจวินอู๋เสีย ดวงตาเอ่อล้นไปด้วยน้ำตานั้นไม่ได้มีความกลัวหรือไม่สบายใจแม้แต่น้อย แต่มันเต็มไปด้วยความสำนึกขอบคุณ
ความคิดของเด็กยังบริสุทธิ์และไม่แปดเปื้อน เขารู้แค่ว่าพี่ชายตรงหน้าช่วยฆ่าคนพวกนั้นที่รังแกย่าของเขา เป็นผู้มีพระคุณของเขา!
จวินอู๋เสียลงนั่งยองๆและตรวจดูอาการของหญิงชรา หลังจากแน่ใจว่าอาการไม่ได้อยู่ในขีดอันตราย นางก็ตบมือ แล้วเงาดำร่างหนึ่งก็พุ่งออกจากมุม
“เอายานี้ให้นางและส่งนางกลับไปพักผ่อน” จวินอู๋เสียส่งยาขวดหนึ่งให้เย่ฉา
เย่ฉารับขวดยามาโดยไม่ได้พูดอะไร และแบกหญิงชราขึ้นหลังก่อนจะพานางเข้าไปในหอพัก
จวินอู๋เสียลุกขึ้น แววตาอำมหิตหายไปจากดวงตาของนางแล้ว แต่สายตาของนางยังคงเย็นชาเหมือนน้ำแข็งขณะกวาดมองไปยังกลุ่มผู้ลี้ภัยที่ตกตะลึงอยู่ด้านข้าง จากนั้นนางก็เปิดปากพูดขึ้นว่า “สิ่งที่เกิดขึ้นวันนี้ ข้าจะยอมให้เกิดขึ้นแค่ครั้งเดียวเท่านั้น ข้าให้พวกเจ้าอยู่ที่นี่ ไม่ใช่เพื่อเก็บพวกขยะที่เอาแต่ยืนมองอยู่เฉยๆโดยไม่แม้แต่จะกระดิกนิ้วช่วย ถ้าพวกเจ้าไม่มีความกล้าที่จะปกป้องพรรคพวกของตัวเอง งั้นพวกเจ้าทุกคนก็คลานกลับค่ายผู้ลี้ภัยไปซะ! ที่นี่ไม่ต้อนรับพวกขี้ขลาดตาขาว!”
ศัตรูที่ทรงพลังไม่ได้น่ากลัวถึงขนาดนั้น สิ่งที่น่ากลัวจริงๆก็คือการไม่มีความกล้าที่จะสู้กับศัตรู!
ตอนนี้หอพักรองรับผู้ลี้ภัยได้เกือบพันคน แม้ว่าพวกเขาจะเป็นเพียงคนแก่ ผู้หญิงอ่อนแอ และเด็ก แต่ถ้าพวกเขามีความกล้าที่จะลุกขึ้นมารวมตัวกันเป็นหนึ่งเดียว อันธพาลที่ดุร้ายสิบกว่าคนนั้นก็ไม่มีโอกาสต่อต้านพวกเขาทั้งหมดได้
ด้วยจำนวนคนเกือบพันคน แม้ว่าพวกเขาทุกคนจะขว้างก้อนหินกันคนละหนึ่งก้อน มันก็ทำให้อันธพาลสิบกว่าคนนั้นโดนหินขว้างจนตายได้ แต่พวกเขาไม่มีความกล้า เอาแต่ยืนเงียบอยู่ด้านข้างด้วยความกลัว มองดูพวกพ้องของตัวเองโดนข่มเหงอย่างทารุณ!
จวินอู๋เสียรังเกียจคนขี้ขลาดตาขาวแบบนี้ คนเราอ่อนแอได้ แต่หัวใจต้องไม่อ่อนแอ!
คำพูดของจวินอู๋เสียเป็นเหมือนสายฟ้าฟาดลงมาที่หัวใจของทุกคน พวกเขายืนมองเด็กที่กำลังร้องไห้สะอึกสะอื้น มองคู่แม่ลูกที่กำลังกอดกันอยู่ด้วยความหวาดกลัว
เสียงกรีดร้องบาดหัวใจเพื่อขอความช่วยเหลือของผู้หญิงคนนั้นฉายซ้ำอีกครั้งในใจของทุกคน น้ำจากน้ำพุแห่งความรู้สึกผิดได้ชะล้างเอาฝุ่นที่ปกคลุมความรู้สึกผิดชอบชั่วดีที่ซ่อนอยู่ในใจทุกคนออกไป
พวกเขาก้มหน้าอย่างละอายใจจากความรู้สึกผิดรุนแรง สายตาเต็มไปด้วยความเสียใจ วันนี้ตอนที่ย่าหลานและแม่ลูกถูกข่มเหง พวกเขาทุกคนเลือกที่จะเก็บมือไว้ในแขนเสื้อไม่ยอมช่วยเหลือใดๆ แต่ถ้าวันนึงเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นกับพวกเขา พวกเขาจะรู้สึกหมดหนทางและสิ้นหวังแค่ไหน?
“ขอบคุณ……ขอบคุณ……” ผู้หญิงที่เกือบตกเป็นเหยื่อของอันธพาลกอดลูกของนางและคุกเข่าลงบนพื้นเพื่อขอบคุณจวินอู๋เสียไม่หยุด ถ้าไม่ใช่เพราะจวินอู๋เสียเข้ามาขัดขวางเอาไว้ได้ทันเวลา นางกับลูกคงตายอยู่ที่นี่วันนี้แล้ว!
จวินอู๋เสียชำเลืองมองพวกเขาแวบหนึ่ง จากนั้นก็หันหลังเดินจากไป ผู้หญิงกับลูกยังคงคุกเข่าอยู่ที่พื้น ไม่ยอมลุกจนกระทั่งจวินอู๋เสียเข้าไปในหอพักที่แยกอิสระจากคนอื่นๆ ผู้หญิงคนนั้นถึงได้ลุกขึ้นยืนทั้งที่ยังสั่นอยู่ นางอุ้มลูก ดวงตาแดงก่ำจากการร้องไห้กวาดมองไปยังกลุ่มผู้ลี้ภัยที่ยืนเงียบงันด้วยความเกลียดชัง