เมื่อเห็นเทาเท่เงียบไป ซูซีก็ร้องไห้ออกมาทันที “ฉันขอโทษ!”
“ตอนนั้นฉันหมกมุ่นและจิตใจสับสน เพราะฉันรักคุณมากเกินไป ทุกครั้งที่ฉันคิดว่าคุณกับหลินจือแต่งงานเป็นสามีภรรยากัน ฉันก็อิจฉาจนแทบบ้า ดังนั้นพอพินอินเสนอมาฉันก็เห็นด้วยทันที และร่วมมือกับเธอทำเรื่องพวกนี้ขึ้น”
“เทาเท่ ฉันรักคุณมากจริงๆ ฉันรู้สึกเสียใจมากที่เลิกกับคุณในตอนนั้น……”
ซูซีร้องไห้หนักมาก และเศร้าเสียใจอย่างมาก
ที่ซึ่งไม่ไกลมากนักมีคนกำลังเดินมาที่ห้องน้ำ เทาเท่ก็เหลือบมองเห็น
จะจัดการกับปัญหานี้โดยการพูดคุยกันในห้องน้ำก็ไม่ใช่ทางเลือกที่ดี ดังนั้นเขาจึงออกคำสั่งกับซูซีด้วยใบหน้าที่ขยะแขยงว่า“ออกมา!”
จากนั้นก็หันหลังและเดินออกไป พร้อมกันนั้นก็ได้โทรหาคนขับรถของตัวเอง สั่งด้วยน้ำเสียงที่เย็นชาว่า“ไปตามหาตัวพินอินมา ”
คนขับรถรับคำสั่ง ห้านาทีต่อมาเทาเท่ที่ยืนอยู่ตรงสวนด้านนอกห้องงานเลี้ยงก็ได้รับสายจากคนขับรถว่า“ประธานเทาเท่ครับ คุณพินอินอยู่ที่ลานจอดรถ……”
เทาเท่ตวาดเสียงดัง“ให้เธอไสหัวมาที่สวนด้านหลังนี้!”
หลังจากที่คนขับวางสายไปก็รีบมาเคาะประตูรถที่อยู่ตรงด้านหน้าของตัวเองอย่างรวดเร็ว“คุณพินอิน คุณเทาเท่ให้คุณรีบตามไปที่สวนเดี๋ยวนี้ครับ”
คนขับรถเจอพินอินในรถของเธอที่ลานจอด พินอินกำลังกอดจูบอยู่กับผู้ชายคนหนึ่งบนรถที่ตัวเองเพิ่งจะรู้จักกันที่งานเลี้ยง หากไม่ใช่เพราะคนขับมาเจอเธอเข้าซะก่อน ทั้งสองคนก็คงจะเล่นหนังสดไปแล้ว
พินอินที่ถูกขัดจังหวะก็เลื่อนกระจกรถลงด้วยความไม่พอใจ“ บอกเขาว่าฉันไม่ว่าง!”
คนขับเหลือบมองไปยังเสื้อผ้าที่หลุดลุ่ยของเธอ ละสายตาออกแล้วพูดว่า“คุณเทาเท่ดูเหมือนกำลังโกรธมาก คุณควรรีบไปนะครับ”
พินอินย่อมรู้นิสัยของเทาเท่ดี พี่ชายของเธอ เวลาโมโหนั้นน่ากลัวมาก
ดังนั้น เธอจึงต้องสวมใส่เสื้อผ้าให้เรียบร้อย แล้วบอกลากับชายหนุ่มในรถอย่างอาลัยอาวรณ์ จากนั้นก็ไปหาเทาเท่อย่างไม่ค่อยเต็มใจ
เมื่อพินอินมาถึงที่สวน ก็เห็นซูซีกำลังนั่งร้องไห้ที่ม้านั่งตัวยาวด้านข้างอย่างน่าเวทนา ขณะที่เทาเท่ยืนอยู่ข้างๆด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยความโกรธ
“พี่……”พินอินเดินเข้าไปด้วยความรู้สึกผิด และเอ่ยเรียกเทาเท่เสียงเบา
ทันทีที่เทาเท่เห็นเธอก็อารมณ์ขึ้น ตวาดเสียงดังด้วยความโกรธว่า“ พรุ่งนี้แกไสหัวไปต่างประเทศซะ!”
“พี่!”พินอินกระวนกระวาย “ ฉันไม่ไป!ฉันไม่ไปไหนทั้งนั้น !”
หลายวันมานี้เทาเท่ไม่ได้พูดถึงเรื่องให้เธอไปต่างประเทศเลย เธอคิดว่าเรื่องนี้มันจบไปแล้ว ใครจะไปคิดว่าเขาจะให้เธอไปวันพรุ่งนี้เลย !
พินอินตะลึงงัน เมื่อได้สติก็รีบเข้าไปเขย่าตัวซูซี “ซี พี่ฉันเป็นอะไรไป ? ทำไมถึงให้ฉันไปวันพรุ่งนี้เลย?”
ซูซีร้องไห้จนพูดไม่ออกสักคำ ตอนนี้เธอก็เอาตัวเองไม่รอด จะไปช่วยอะไรพินอินได้อีก
เทาเท่ตวาดเสียงเขียว “เธอทำอะไรไปไม่รู้ตัวเองหรือยังไง ? ถึงขนาดปลอมภาพอัลตราซาวนด์ พินอิน นี่จิตใจเธอบิดเบี้ยวไปถึงขั้นไหนแล้ว ?”
พินอินถูกเทาเท่ตวาดจนหดตัวเกร็ง อีกทั้งเธอเองก็ไม่คิดว่าเรื่องนี้จะถูกเปิดเผย และไม่คิดว่าเธอจะเป็นตัวต้นเรื่อง
เมื่อคิดได้ดังนั้นเธอก็รีบเข้าไปอธิบาย “พี่ เรื่องนี้ไม่เกี่ยวอะไรกับฉันเลยนะ ซีเธอเป็นคนออกความคิด ฉันก็แค่ร่วมมือด้วย!”
ซูซีที่อยู่ข้างๆก็ลุกขึ้นยืนด้วยความโกรธ จ้องเขม็งมองไปที่พินอินแล้วตะคอกเสียงดัง“พินอิน!”
พินอินตะโกนกลับใส่เธออย่างไม่พอใจ“ทำไม ? หรือไม่จริง?”
เพื่อไม่ให้ถูกส่งตัวไปต่างประเทศ พินอินก็พร้อมแลกกับทุกอย่าง“หากไม่ใช่เพราะช่วยเธอให้ได้ตัวพี่ชายฉัน เธอคิดว่าฉันจะทำเรื่องพวกนี้เหรอ ?”
ซูซีลมแทบจับ
อันที่จริงแล้วระหว่างคนทั้งสองใครเป็นคนออกความคิดเห็นนั้น พวกเธอก็จำไม่ได้แล้ว
เพราะยังไงแล้วตอนนั้นพวกเธอก็ร่วมมือกันจริงๆ แต่มาตอนนี้จะหาคนรับผิดชอบ ใครที่ไหนจะอยากมายอมรับกัน
กับคำว่าเพื่อนที่ดี คำเรียกขานในตำนานเป็นความสัมพันธ์ที่ดูดีแต่ปลอม
เทาเท่รู้สึกรำคาญกับการทะเลาะเบาะแว้งของคนทั้งสอง เขามองไปยังพินอินอย่างเย็นชาและออกคำสั่งว่า “พินอิน พรุ่งนี้เธอต้องไปต่างประเทศ ตอนนี้ไสหัวกลับบ้านไปเก็บกระเป๋าเดี๋ยวนี้ อย่ามาทำขายหน้าอะไรที่นี่”
จากนั้นสายตาของเขาก็จ้องมองไปยังใบหน้าของซูซีที่อยู่ด้านข้าง แววตาเมินเฉย และมีท่าทีรังเกียจ“ซี คุณทำผมผิดหวังมาก เรื่องระหว่างเรา ให้มันสิ้นสุดแค่นี้แล้วกัน ”
ทันทีที่พูดจบเขาก็หันหลังแล้วเดินจากไป ซูซีกับพินอินก็ปล่อยโฮออกมาทันที แต่ก็ไม่มีใครสนใจพวกเขาเลย
ที่ตรงนั้น ภายในห้องจัดเลี้ยง
ทันทีที่หลินจือออกมาจากห้องน้ำ ก็เจอเข้ากับนานิพอดี
นานิเดินเข้ามาหาและถามเธอด้วยความเป็นห่วงว่า“ ฉันเห็นเทาเท่ก็เดินไปที่ห้องน้ำด้วย เขาไม่ได้รังแกอะไรเธอใช่ไหม ?”
หลินจือส่ายหัว“ไม่”
นานิก็พูดต่อว่า“แต่สีหน้าเธอดูไม่ดีเลย ?”
หลินจือเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นในห้องน้ำให้นานิได้ฟัง“เทาเท่รู้เรื่องที่ซูซีปลอมใบตั้งครรภ์แล้ว”
นานิตะลึงไปชั่วขณะ จากนั้นก็หัวเราะและปรบมืออย่างอารมณ์ดี“เรื่องชั่วที่เคยทำไว้ยังไงก็ต้องปรากฏขึ้นในสักวัน ตอนนี้คุณซูซีของเราจบเห่แน่”
หลินจือไม่ได้พูดอะไร ซูซีจบเห่ไม่จบเห่เธอไม่รู้ แต่เทาเท่นั้นโกรธมากจริงๆ
ดูๆไปแล้ว เทาเท่คงไม่รู้ว่าโคลของเขานั้นเบื้องลึกเบื้องหลังเป็นคนยังไง
นานิถอนหายใจขึ้นมาอีกครั้ง“เห็นหรือยัง เรื่องของภาพลักษณ์นั้นมันสร้างกันไม่ได้จริงๆ หากวันหนึ่งเกิดผิดพลาดอะไรขึ้นมา แล้วจะเอาหน้าไปไว้ที่ไหน?”
ยังดีที่ชีวิตในวงการบันเทิงของเธอไม่เคยสร้างภาพว่าอ่อนโยนและเอาใจใครหรือวางตัวสูงส่ง ไม่งั้นคงได้หน้าแหกจนหมอไม่รับเย็บแน่
ในระหว่างที่ทั้งสองคนกำลังคุยกันอยู่ โจมอนเด็กหนุ่มวัยใสในชุดสูทสีขาวก็เดินเข้ามา นานิจึงหาข้ออ้างแล้วปลีกตัวออกไป
หลินจือยกมือขึ้นกุมหน้าผาก เพื่อนรักของเธอคนนี้ทำได้ทุกอย่างเพื่อให้เธอได้ใกล้ชิดกับบรรดาชายหนุ่มจริงๆ
โจมอนทักทายเธอด้วยสีหน้าที่หลากหลาย“พี่หลินจือ……”
หลินจือยกยิ้มแล้วตอบรับ“ไม่เจอกันนานเลย ช่วงนี้เป็นยังไงบ้าง ?”
“ก็ดีครับ”โจมอนตอบไปคำหนึ่งจากนั้นก็มองเธอและพูดอย่างยากลำบากว่า “เมื่อกี้พี่นานิบอกผมว่า ประธานเทาเท่คืออดีตสามีของพี่……”
ครั้งที่แล้วที่โจมอนทำร้ายร่างกายผู้ช่วยผู้กำกับ เขาก็สังเกตเห็นแล้วว่าความสัมพันธ์ของเทาเท่กับหลินจือนั้นไม่ปรกติ แต่เขาไม่คิดว่าพวกเขาจะเป็นอดีตสามีภรรยากัน
เขารู้ว่าหลินจือเคยผ่านการหย่ามาก่อน วันก่อนที่หลินจือถูกสื่อโซเซียลโจมตีก็ถูกขุดคุ้ยออกมาแล้ว แต่อดีตสามีที่หล่อเหลาและร่ำรวยของเธอนั้นไม่มีใครรู้ว่าเขาเป็นใคร
เมื่อครู่นานิบอกเขา ว่าอดีตสามีของเธอคือ……เทาเท่
เขาตกใจอย่างมาก มิน่าล่ะ ตอนที่หลินจือกลับมาจากต่างประเทศเขาพาเธอไปเลี้ยงข้าว คุณเทาเท่คนนั้นก็สั่งเนื้อสเต๊กเกรดพรีเมียมมาให้หลินจือจานหนึ่ง
ไม่แปลกใจเลยที่เทาเท่จะปรากฏตัวขึ้นที่สถานีตำรวจในครั้งนั้น และไม่แปลกใจเลยที่อดีตสามีของหลินจือจะมีเงินทองมากมายให้กับชาร์ลีพ่อลูก
หลินจือรับคำและยกยิ้มให้อย่างเรียบเฉย“ใช่เขาเป็นอดีตสามีของพี่”
หลินจือพูดขึ้นอีกครั้งว่า “ดังนั้น เราอย่ามาเสียเวลากับพี่อีกเลย พี่เป็นผู้หญิงที่เคยผ่านการหย่ามาแล้ว——”
หลินจือพูดได้เพียงแค่นี้ก็ถูกโจมอนพูดขัดขึ้นมา ดวงตาคู่คมที่สวยงามของเขาจับจ้องมองมาที่เธออย่างลึกซึ้ง“ผมไม่เคยสนใจเรื่องที่พี่เคยหย่ามาแล้ว”
หลินจือ“……”
เด็กวัยรุ่นสมัยนี้เป็นอะไรกันไปหมด ?
ความคิดเปิดกว้างขนาดนี้แล้วเหรอ? ไม่สนใจแม้กระทั่งผู้หญิงจะเคยผ่านการหย่ามาก่อน ?