ตอนที่ 270 เต็มใจที่จะเดิมพัน

คุณหนูสี่ สตรีเปื้อนเลือด

ฉินอวี้โม่ปลดผ้าคลุมสีดำเผยให้เห็นใบหน้าอันงดงาม

“ราชาเขาเงิน เจ้ารู้ได้อย่างไรว่าข้าเป็นสตรี?”

เมื่อนึกย้อนไปถึงวาจาของราชาเขาเงินเมื่อครู่ ฉินอวี้โม่ก็ยกยิ้มมุมปากและเอ่ยถาม

“ฮ่า ฮ่า ฮ่า เราเป็นวิหคอมตะและความสามารถการรับรู้ของเราอยู่คนละชั้นกับอสูรอื่นๆพวกนั้น”

ราชาเขาเงินยิ้มอ่อนๆโดยไม่ปกปิด

ฉินอวี้โม่แต่งกายด้วยอาภรณ์ของบุรุษและมีลูกกระเดือกยื่นออกมาอย่างแนบเนียน หากไม่ใช่เพราะความสามารถการรับรู้ของวิหคอมตะที่ยอดเยี่ยมเหนือชั้นกว่าอสูรมายาอื่นๆ เกรงว่ามันจะไม่สามารถมองเห็นความจริงได้อย่างทะลุปรุโปร่ง แท้จริงแล้วฉินอวี้โม่คือสตรีงดงามราวกับเทพเซียนที่สั่นคลอนทั้งแผ่นดิน

ฉินอวี้โม่พยักศีรษะเมื่อได้ยินวาจาของราชาเขาเงินและนางไม่ได้ถามสิ่งใดต่อไป

“ราชาเขาเงิน ข้ามีการแข่งขันสองวิธีให้เจ้าเลือก”

นางเตรียมวิธีการแข่งขันสองแบบมาล่วงหน้าแล้ว แน่นอนว่าทั้งสองวิธีล้วนอำนวยประโยชน์ต่อนางและนางมั่นใจถึงแปดส่วนว่าจะคว้าชัยชนะมาครอง

เมื่อฉินอวี้โม่กล่าวถึงวิธีการแข่งขันสองวิธี ราชาเขาเงินก็ส่งสัญญาณให้นางอธิบายรายละเอียดของทั้งสองวิธี

ฉินอวี้โม่ไม่ลังเลและอธิบายเงื่อนไขของทั้งสองวิธีที่นางได้เตรียมการไว้

“วิธีแรกคือเราจะต่อสู้ประลองฝีมือกันอย่างจริงจัง แม้ว่าวิธีนี้จะต้องใช้พลังและความพยายามพอสมควร แต่มันก็ชัดเจนที่สุด เมื่อถึงเวลานั้น ไม่ว่าข้าหรือเจ้าที่เป็นฝ่ายชนะ ผลของมันจะชัดเจนอย่างไร้ข้อกังขา”

วิธีการแรกรุนแรงมากกว่า ทว่าเมื่อสองฝ่ายต่อสู้กัน ไม่ว่าใครจะเป็นฝ่ายแพ้หรือชนะก็ย่อมเป็นที่ประจักษ์ชัดเจน

“แล้ววิธีที่สองล่ะ ?”

สำหรับวิธีแรก ราชาเขาเงินไม่รู้สึกถึงความแตกต่างจากประสบการณ์ที่ผ่านๆมา มันรู้สึกว่าการปะทะกันตรงๆไม่ใช่เรื่องที่น่าสนุกนัก

ด้วยเหตุนั้นมันจึงต้องการฟังรายละเอียดของวิธีที่สอง

“วิธีที่สองคือเราเล่นซ่อนหากัน หากว่าเจ้าหาข้าพบภายในเวลาสองก้านธูป เจ้าก็จะชนะ ไม่เช่นนั้นผู้ชนะก็จะเป็นข้า”

ฉินอวี้โม่ยิ้มกริ่มและอธิบายถึงวิธีที่สองซึ่งเป็นวิธีที่นางมั่นใจอย่างที่สุด

ไม่ว่าด้วยข่ายอาคมหรือทักษะล่องหนอำพรางตัว นางก็ยอดเยี่ยมไร้เทียมทาน

“ฮ่า ฮ่า ฮ่า ดินแดนอ้างว้างแห่งนี้กว้างใหญ่นัก หากเจ้าหนีไปไกล ข้าก็คงหาเจ้าไม่พบ”

ราชาเขาเงินหาได้โง่เง่าและกล่าวในสิ่งที่เป็นกังวลออกมาทันที

หากฉินอวี้โม่มีอสูรมายาประเภทว่องไวและหลบหนีออกไปในดินแดนอ้างว้าง มันก็ยากที่จะตามหาตัวนางได้พบ

“ไม่ต้องกังวล ข้าจะไม่ออกไปจากบริเวณของป่ารัตติกาล” ฉินอวี้โม่ยิ้มและกล่าวด้วยสีหน้าเรียบเฉย

หากเลือกใช้วิธีนี้เพื่อแข่งขัน แน่นอนว่านางไม่ต้องหลบหนีไปไกลด้วยตัวเอง นางเพียงต้องใช้ทักษะล่องหนอำพรางตัวและยืนอยู่กับที่เพื่อรอครบกำหนดเวลาเท่านั้น

“เอาล่ะ ข้าเลือกวิธีที่สอง ข้าอยากจะรู้นักว่าเจ้าจะซ่อนตัวในป่านี้อย่างไร”

ราชาเขาเงินไตร่ตรองครู่ใหญ่ก่อนตอบ ด้วยความเหนื่อยหน่ายเกินกว่าจะต่อสู้ มันจึงเลือกวิธีที่สอง

ฉินอวี้โม่ยิ้มกริ่มด้วยความพึงพอใจเมื่อได้ยินคำตอบของอีกฝ่าย

นางเองก็ไม่อยากต่อสู้เช่นกัน ถือว่าเป็นเรื่องดีแล้วที่มันคลี่คลายได้อย่างง่ายเช่นนี้

“ในเมื่อเป็นเช่นนั้น เราก็เริ่มจับเวลากันเถอะ !”

ฉินอวี้โม่ยิ้มก่อนร่างของนางอันตรธานหายไปจากตรงหน้าราชาเขาเงิน

เมื่อมองร่างฉินอวี้โม่ที่หายไป ราชาเขาเงินก็ถึงกับชะงักไปชั่วขณะ

“บัดซบ เสียท่าแล้ว !”

มันอดสบถอย่างเกรี้ยวกราดไม่ได้ ในเวลานี้ราชาเขาเงินมีสีหน้าที่ดูราวกับกำลังร้องไห้อย่างไร้น้ำตา

มันเผลอลืมไปได้อย่างไรว่าฉินอวี้โม่เป็นผู้ใช้ข่ายอาคม  ทักษะการหลบซ่อนตัวของผู้ใช้ข่ายอาคมนั้นยอดเยี่ยมเกินบรรยาย

การหาตัวฉินอวี้โม่ให้พบนั้นแทบไม่มีทางเลย

ราชาเขาเงินคาดเดาถูกต้องแล้ว ตลอดเวลาสองก้านธูป มันใช้พลังจิตวิญญาณสำรวจทั่วทั้งป่า ทว่ากลับไม่พบแม้แต่ร่องรอยของฉินอวี้โม่

อันที่จริงแล้วฉินอวี้โม่ยืนอยู่ข้างกายราชาเขาเงินโดยไม่เคลื่อนไหวมาตลอด

และข่ายอาคมที่ราชาเขาเงินคาดไว้นั้น ความจริงมันเหนือจินตนาการกว่านั้นมาก เพราะฉินอวิ้โม่เพียงแค่ใช้วิชาเสียงเร้นกายของเสี่ยวม่านเพื่อเข้าสู่สภาวะล่องหนซึ่งทำให้ราชาเขาเงินไม่สามารถค้นหานางได้พบ

หลังจากเวลาดำเนินไปสองก้านธูป ร่างของฉินอวี้โม่ก็ค่อยๆปรากฏตรงหน้าราชาเขาเงิน

“เจ้าแพ้แล้ว”

มุมปากของฉินอวี้โม่ยกขึ้นเป็นรอยยิ้มเล็กน้อยแสดงถึงความอารมณ์ดี

ราชาเขาเงินผิดหวังไม่น้อย เมื่อครู่มันประมาทเกินไปจริงๆ

“ข้าเต็มใจที่จะเดิมพันตั้งแต่แรกและก็เป็นฝ่ายแพ้  ดังนั้นตราบใดที่เจ้าสยบข้าได้ ข้าก็จะกลายเป็นอสูรมายาของเจ้าด้วยความเต็มใจ”

ราชาเขาเงินเป็นอสูรมายาที่ตรงไปตรงมาอย่างแท้จริง มันกล่าวคำไหนเป็นคำนั้นและไม่ผิดวาจาของตนเอง

“ฮี่ ฮี่ ฮี่ ไม่ผิดจากที่ข้าคิดไว้เลย”

ฉินอวี้โม่ยิ้มพลางก้าวตรงเข้าไปหาราชาเขาเงินและวางมือลงบนศีรษะของมัน

ภายในชั่วพริบตา ราชาเขาเงินก็รู้สึกถึงสายใยเชื่อมโยงบางอย่างระหว่างตัวมันและฉินอวี้โม่ จากนั้นมันก็กลายเป็นหนึ่งในอสูรมายาของฉินอวี้โม่

“ข้าไม่คิดเลยว่าอสูรทรงพลังอย่างข้าจะไม่ใช่อสูรมายาประจำตัวของนายหญิง”

ราชาเขาเงินรู้สึกไร้อำนาจไปโดยปริยาย หลังจากทำพันธสัญญากับฉินอวี้โม่ มันกลับพบว่าตนไม่ใช่อสูรมายาประจำตัวของฉินอวี้โม่ด้วยซ้ำ

“ฮ่า ฮ่า ฮ่า อสูรมายาประจำตัวน่ะรึ ? รอให้พี่ซิวออกมาก่อนเถอะ แล้วเจ้าจะได้เห็นว่าอสูรมายาประจำตัวของนายหญิงทรงพลังเพียงใด ยิ่งไปกว่านั้น เจ้าจะรู้สึกโชคดีที่ได้ทำพันธสัญญากับนายหญิง”

เสียงของหงส์แดงดังขึ้นในโสตประสาทของฉินอวี้โม่และร่างของมันปรากฏตรงหน้าฉินอวี้โม่

“หงส์แดง ยินดีด้วย”

ฉินอวี้โม่มองหงส์แดงและกล่าว

เพียงการทำพันธสัญญากับราชาเขาเงิน พลังความแข็งแกร่งของฉินอวี้โม่ก็พุ่งสูงขึ้นอย่างรวดเร็วจนทะลวงถึงระดับสูงสุดของขอบเขตจ้าวพิภพ ในขณะกองทัพอสูรมายาของนางที่ใกล้ทะลวงพลังเต็มทีก็ได้รับประโยชน์อย่างมาก

หงส์แดง อาไป๋ เพลิง เสี่ยวจิ่วและม่อเสีย อสูรทั้งห้าล้วนเพิ่มระดับพลังจนกลายเป็นอสูรมายาระดับจ้าวพิภพซึ่งมีพลังเพิ่มขึ้นมาก

สำหรับอสูรมายาอื่นๆก็บรรลุระดับความแข็งแกร่งเหนือระดับจักรพรรดิอสูรสวรรค์เช่นกัน

กล่าวได้ว่าการทำพันธสัญญากับราชาเขาเงินทำให้พลังความแข็งแกร่งโดยรวมของฉินอวี้โม่เพิ่มขึ้นกว่าเดิม

“ไม่ใช่เรื่องแปลกเลย ข้ารู้สึกว่าอีกไม่นานคงได้วิวัฒนาการเข้าสู่ขอบเขตจ้าวสุริยะ”

ราชาเขาเงินพยักหน้าด้วยความมั่นอกมั่นใจ

มันเพิ่งทำพันธสัญญาเป็นอสูรมายาของฉินอวี้โม่ซึ่งทำให้มันได้รับประโยชน์มาอย่างมากมาย

มันรู้สึกได้ว่าพลังของมันเพิ่มขึ้นเล็กน้อย แม้ว่ายังไม่ถึงระดับของขอบเขตจ้าวสุริยะ ทว่าคงอีกไม่นานเกินรอ

มันเชื่อว่าตราบใดที่ติดตามฉินอวี้โม่ต่อไป ในไม่ช้ามันจะได้เป็นอสูรมายาขอบเขตจ้าวสุริยะที่แท้จริง

“นายหญิง เก็บผลจินหยินทั้งหมดนี้เถอะ เดิมทีข้าทำหน้าที่เป็นผู้พิทักษ์ของผลจินหยินเหล่านี้ ในเมื่อตอนนี้ข้าเป็นอสูรมายาของท่านแล้ว ท่านก็เก็บเอาพวกมันทั้งหมดไปด้วยเถิด”

ราชาเขาเงินยิ้มขณะบอกให้ฉินอวี้โม่เก็บผลจินหยินทั้งหมดจากต้น

ฉินอวี้โม่พยักหน้าตอบรับและเด็ดเอาผลจินหยินทั้งหมดจากต้นมาเก็บไว้ในแหวนมิติ

“เฮ้อ หากมีพื้นที่ที่เหมือนกับโลกข้างนอกนี่ก็สามารถเคลื่อนย้ายต้นจินหยินนี้ไปปลูกใหม่ได้ ไม่จำเป็นต้องปล่อยให้มันแห้งเหี่ยวเฉาตายอยู่ที่นี่ มันจะเป็นการสูญเปล่า”

ราชาเขาเงินอดถอนหายใจด้วยความรู้สึกผูกพันอันท่วมท้นไม่ได้

เมื่อฉินอวี้โม่ได้ยินวาจาของราชาเขาเงิน ความคิดของนางก็หมุนเล็กน้อยราวกับเกิดความคิดบางอย่าง

ในชีวิตก่อนของนาง นางจะใช้เวลาว่างของนางไปกับการอ่านนิยายประเภทต่างๆ ช่างหลอมในนิยายเหล่านั้นสามารถสร้างอาคารคฤหาสน์ที่เหมือนกับโลกภายนอกได้ หากว่านางสามารถสร้างสถานที่เช่นนั้นได้ ไม่เพียงแต่อสูรมายาของนางจะไม่รู้สึกแออัดอีกต่อไปเท่านั้น ทว่าคฤหาสน์ของนางก็สามารถแบ่งออกตามประโยชน์ใช้สอยที่คาดไม่ถึงอีกมากมาย

เมื่อคิดเช่นนี้ นางก็ได้แนวคิดใหม่ๆ

และบังเอิญว่าเมื่อไม่นานมานี้ ทักษะการหลอมของนางก็พัฒนาขึ้นพอสมควร ฉินอวี้โม่เชื่อว่านางจะสามารถหลอมบางสิ่งบางอย่างที่ทำให้แผ่นดินทั้งผืนสั่นสะท้านสะเทือนได้

“นายหญิงจะกลับไปที่เมืองเยี่ยหลายรึไม่ ?”

หงส์แดงเอ่ยถามฉินอวี้โม่

ฉินอวี้โม่พยักหน้าเล็กน้อยและมุ่งหน้ากลับไปยังเมืองเยี่ยหลายโดยไม่ลังเล

กว่าจะเดินทางมาถึงเมืองเยี่ยหลาย ท้องฟ้าก็มืดค่ำแล้ว

ฉินอวี้โม่พิจารณาสิ่งต่างๆชั่วครู่ก่อนตัดสินใจมุ่งหน้าไปที่โรงประมูลในเมืองเยี่ยหลาย

นางมีสิ่งของอยู่ในการครอบครองมากมาย อีกทั้งยังมีวัสดุสำหรับหลอมอุปกรณ์จำนวนมากเช่นกัน อย่างไรก็ตาม นางยังคงขาดสิ่งของบางส่วน นางจึงต้องไปที่โรงประมูลเพื่อหาซื้อสินค้าบางอย่างไว้ใช้เป็นวัตถุสำหรับหลอมสิ่งที่ต้องการ

ทันทีที่ฉินอวี้โม่มาถึงโรงประมูล เถ้าแก่ดูแลโรงประมูลก็จดจำนางได้ในทันที

“ฮ่าฮ่า ยินดีต้อนรับท่านจอมยุทธ์”

เถ้าแก่โรงประมูลมองฉินอวี้โม่ด้วยแววตาเคารพนบนอบ

เขามองออกว่าอนาคตของฉินอวี้โม่นั้นไร้ขอบเขตโดยแท้ และสำหรับบุคคลมากพรสวรรค์เช่นนี้ ไม่มีทางที่เขาจะละเลยเพิกเฉยอย่างแน่นอน

หากฉินอวี้โม่เจิดจรัสรุ่งเรืองทั่วใต้หล้าขึ้นมาวันใด โรงประมูลแห่งนี้จะพลอยได้รับโอกาสดีๆเป็นแน่

“เถ้าแก่ ข้าอยากดูวัสดุสำหรับหลอมอุปกรณ์ทั้งหมดในโรงประมูลของท่าน”

ฉินอวี้โม่ยิ้มหวานและส่งสัญญาณให้เถ้าแก่พาไปดูวัสดุทั้งหมดสำหรับหลอมอุปกรณ์

การหล่อหลอมคฤหาสน์ขึ้นมาจะต้องใช้วัสดุล้ำค่าเป็นจำนวนมาก

บัดนี้นางมีแร่เหล็กดำหมื่นปี หินจันทรา เพชร แก่นมายาและแกนชีวิตของอสูรมายาระดับสูง ทว่าทั้งหมดยังคงน้อยเกินไป ไม่เพียงพอที่จะบรรลุจุดประสงค์ของนางได้

สิ่งที่นางต้องการสร้างคือคฤหาสน์ในแบบเดียวกับในชีวิตก่อน นางหมายที่จะทำให้คฤหาสน์หลังนั้นเป็นดั่งบ้านหลังที่สอง เช่นนั้นแล้วนางจึงต้องเตรียมความพร้อมให้เพียงพอ

“ได้เลยขอรับ โปรดรอสักประเดี๋ยว”

เถ้าแก่ส่งยิ้มให้และไม่เอ่ยถามให้มากความ

อย่างไรก็ตาม เขารู้สึกประหลาดใจยิ่งกว่าที่จอมยุทธ์ผู้นี้ถามหาวัสดุสำหรับการหล่อหลอม การเป็นช่างหลอมนั้นไม่ใช่เรื่องง่ายเลย

จากนั้นไม่นาน เขาก็นำวัสดุจำนวนมากออกมา

“ท่านจอมยุทธ์ นี่คือวัสดุหล่อหลอมทั้งหมดที่เรามี หากท่านต้องการ พวกเราสามารถลดราคาและขายในราคาหกจากสิบส่วนได้”

เถ้าแก่ดูแลโรงประมูลยิ้มและกล่าวอย่างตรงไปตรงมา

ฉินอวี้โม่พยักหน้าโดยไม่ได้เอ่ยปากพูดอะไร นางหยิบผลึกวิญญาณทั้งหมดที่มีส่งให้ชายตรงหน้า

“ไม่ทราบว่าผลึกวิญญาณพวกนี้พอสำหรับซื้อสินค้าเหล่านี้รึไม่”

ฉินอวี้โม่ยิ้มขณะเอ่ยถามเถ้าแก่

“เท่านี้ก็เพียงพอแล้ว มันไม่ใช่ของมีค่ามากมายนักหรอกขอรับ”

เถ้าแก่พยักหน้ารับ

วัสดุหล่อหลอมเหล่านี้ไม่ใช่ของมีค่ามากมายนักและผลึกวิญญาณของฉินอวี้โม่ก็ถือว่ามากพอ

“ข้าขอเสียมารยาทถามเสียหน่อย ท่านจอมยุทธ์เป็นช่างหลอมรึขอรับ?”

เถ้าแก่อดถามสิ่งที่สงสัยอยู่ในใจไม่ได้

ฉินอวี้โม่ไม่ได้รู้สึกถึงความหยาบคายหรือไม่เหมาะสมเมื่อได้ยินวาจาของเถ้าแก่ นางจึงพยักหน้าเบาๆ

“ฮ่า ฮ่า ถ้าเป็นเช่นนั้น ท่านจอมยุทธ์เคยได้ยินเรื่องงานชุมนุมช่างหลอมรึไม่ขอรับ?”

เถ้าแก่โรงประมูลยิ้มพร้อมถามต่อไป

ฉินอวี้โม่เป็นเหมือนช่างหลอมรักสันโดษ เขาจึงเอ่ยถามออกไป

.