ในโกดังอาหารเต็มไปด้วยใยแมงมุม ในใยแมงมุมเหล่านั้นมีโครงกระดูกติดอยู่จำนวนหนึ่ง ทั้งยังมีแมงมุมกลุ่มหนึ่งห้อยตัวอยู่บนใยแมงมุมพวกนั้นอีกด้วย ทันทีที่รับรู้ถึงการมาของพวกหลิงม่อ พวกมันก็ค่อยๆ ไต่มาทางพวกหลิงอย่างเงียบเชียบ ทว่ามีซอมบี้สาวอย่างพวกเย่เลี่ยนอยู่ ทันทีที่แมงมุมพวกนั้นเข้าใกล้ ก็ถูกพวกเธอจับได้และฆ่าทิ้งทันที
ท่ามกลางสถานการณ์ที่ร้ายแรงแต่ไม่ถึงขั้นมีอันตราย ทุกคนยังคงเดินหน้าต่อไป จนกระทั่งผ่านไประยะหนึ่ง พวกเขาจึงค่อยตระหนักได้ถึงปัญหาที่สำคัญกว่า…ดูเหมือนว่าพวกเขาจะหลงทางเสียแล้ว…
“บ้าจริงๆ ที่นี่แม้แต่บนเพดานก็ยังมีแมงมุม แล้วจะแยกแยะทิศทางออกได้ยังไง?” มู่เฉินมองซ้ายมองขวา พลางบ่นอุบ
“จริงด้วย ที่นี่เหมือนกันไปหมด หาเส้นทางลำบากมากจริงๆ” จางซินเฉิงพูดเห็นด้วย
ใยแมงมุมไม่ได้ถักทอกันจนปิดทุกเส้นทางมิด ทว่าเส้นทางที่เหลือไว้กลับเลี้ยวลดคดเคี้ยว แค่เดินวนข้างในนี้เพียงครู่เดียว ก็ยากที่จะจับทิศทางได้แล้ว
หลิงม่อสลับมุมมองสายตาไปที่เสี่ยวป๋าย เพื่อมองโกดังจากมุมไกลๆ และคำนวณระยะห่างของเขากับมัน แล้วจึงค่อยพูดขึ้นอย่างแช่มช้าว่า “โกดังที่อยู่ใกล้พวกเราที่สุด อาจจะอยู่…” เขาค่อยๆ หมุนกาย แล้วชี้ไปข้างหน้า “ทางนั้นล่ะมั้ง”
แต่เพิ่งจะสิ้นประโยค หลิงม่อพลันชะงัก ไม่รอให้เขาได้สติ แมงมุมตัวหนึ่งพุ่งลงมาจากข้างบนอย่างรวดเร็ว โดยมุ่งเป้ามาที่หัวของเขา
“พี่หลิงระวัง!” เสียงร้องของซย่าน่าดังมาจากข้างหลัง หลิงม่อก้มหน้าโดยสัญชาตญาณ แมงมุมตัวนั้นพลันถูกมือที่มองไม่เห็นคว้าตัวไว้กลางอากาศ เห็นชัดว่าแมงมุมตัวนั้นมีพิษ เพิ่งจะถูกคว้าตัว มันก็พ่นพิษออกมาทันที ทว่าเมื่อฝ่ามือของหุ่นดวงจิตเสี่ยวเฮยเริ่มจางหายไป เย่เลี่ยนก็เดินเข้ามา ตวัดดาบสั้นหั่นร่างมันเป็นสองชิ้นร่วงลงพื้น
เมื่อศพแมงมุมตัวนี้ร่วงลงไป เสียงหวีดร้องด้วยความตกใจพลันดังมาจากด้านหลังใยแมงมุมที่อยู่ข้างหน้าพวกเขาทันที
ตั้งแต่ต้นจนจบ หลิงม่อไม่ได้มองแมงมุมตัวนั้นซักนิด หลังจากเบี่ยงหลบการโจมตี เขาก็รีบพุ่งตัวไปทางนั้นทันที
“ใครน่ะ? หยุดเดี๋ยวนี้!”
คนผู้นั้นวิ่งเร็วมาก และเห็นได้ชัดว่าคุ้นเคยกับเส้นทางในนี้เป็นอย่างนี้ แต่เขามัวแต่ระวังหลิงม่อที่ไล่ตามมาอย่างไม่ลดละ กลับไม่คิดว่าเพิ่งจะวิ่งเลี้ยว เบื้องหน้าก็ปรากฏเงาร่างอรชรของใครอีกคนหนึ่งขึ้น
คนผู้นั้นสะดุ้ง แต่เขาเพิ่งจะยื่นมือไปที่เอว ประกายวาววับจากคมมีดก็จ่อลงมาที่ลำคอเขาเสียก่อน เวลานี้เขาจึงเพิ่งค้นพบว่า เงาร่างที่เมื่อกี้ยังยืนอยู่ตรงหน้าเขา ไม่รู้มาอยู่ข้างหลังตั้งแต่เมื่อไหร่ อีกทั้งตรงจุดเดิม ยังมีเงาร่างเลือนรางของอีกฝ่ายหลงเหลือให้เห็นอีกด้วย…
“อย่าขยับน้า ไม่อย่างนั้นฉันจะค่อยๆ เลาะลูกกระเดือกของนายออกมาซะ” หลี่ย่าหลินข่มขู่เสียงแผ่วจากด้านหลัง แม้ว่าเสียงของเธอจะนิ่มนวล แต่รังสีอำมหิตที่แฝงอยู่ในประโยคกลับทำให้คนผู้นี้ขนลุกชันไปทั้งตัว ซ้ำยังเริ่มตัวสั่นอย่างควบคุมไม่ได้ ความรู้สึกนี้เหมือนถูกงูพิษโอบรัด และถูกจ้องด้วยสายตาเย็นเยียบ พร้อมโจมตีเขาได้ทุกเมื่อ…
“อื้ม เชื่อฟังอย่างนี้ก็ดีแล้ว…”
ขณะที่หลี่ย่าหลินกำลังพูด หลิงม่อก็ไล่ตามมาพอดี เขาเดินมาหยุดตรงหน้าคนผู้นี้ สิ่งแรกที่ทำคือใช้หนวดสัมผัสเกี่ยวปอยผมของคนผู้นี้ขึ้น
“หื้ม?”
ดวงตาของคนคนนี้ กลับปกติดี…
อีกทั้งพอหลิงม่อเกี่ยวปอยผมขึ้น เขาก็ยังเสหน้าหลบโดยสัอัตโนมัติอีกด้วย
“เมื่อกี้เป็นนายลอบโจมตีฉันใช่ไหม?” หลิงม่อขมวดคิ้วถาม บลัดมาเธอร์ต้องเหลือกำลังคนไว้ที่รังกบดานหนึ่งหรือสองคนแน่นอน นี่จึงไม่ใช่เรื่องที่เหนือความคาดหมาย เพราะหลิงม่อเตรียมตัวไว้แต่แรกแล้ว ทว่าทั้งที่เห็นคนแปลกหน้าปรากฏตัวพร้อมกันมากขนาดนี้ คนคนนี้กลับยังกล้าที่จะลงมือซุ่มโจมตีอย่างไร้เกรงกลัว คงเบื่อที่จะมีชีวิตอยู่ต่อแล้ว…
“ไม่…ไม่ใช่ฉัน!”
คนคนนี้เพิ่งจะอ้าปาก หลิงม่อกับหลี่ย่าหลินรวมถึงคนที่เหลือที่เพิ่งตามมาก็พลันตกตะลึง
“เธอเป็นผู้หญิง!” เย่ไคตกใจราวกับเพิ่งค้นพบแผ่นดินผืนใหม่ ในรังแมงมุมแบบนี้พวกเขากลับเจอผู้หญิงคนหนึ่ง เป็นเรื่องที่ยากจะเชื่อสำหรับพวกเขา ต้องบอกก่อนว่าที่นี่ไม่ใช่ถ้ำแมงมุม แต่เป็นสถานที่ที่กลืนกินชีวิตผู้คน กอปรกับเสียงของคนคนนี้ ยังแฝงไว้ด้วยแววตกใจอีกด้วย…
หลิงม่อชะงักไปครู่หนึ่ง จากนั้นก็เลื่อนสายตาลงข้างล่างโดยอัตโนมัติ…
เป็นผู้หญิงจริงๆ ด้วย!
เพียงแต่เธอสวมหมวกไว้ และใส่เสื้อคลุมที่ใหญ่เป็นพิเศษ ถ้าหากไม่ใช่ว่ายังพอมองเห็นเนินเล็กๆ ตรงหน้าอกนั่น ก็คงแยกไม่ออกจริงๆ เพราะถึงยังไงในยุคสมัยนี้คนที่สามารถเปล่งเสียงผู้หญิงออกมา อาจไม่ใช่ผู้หญิงจริงๆ ก็ได้…
ปรากฏว่าพอสังเกตเห็นปฏิกิริยาของหลิงม่อ หญิงสาวก็พลันบิดตัวหลบ พลันตะโกนเสียงดัง “นายคิดจะทำอะไร!”
“เอิ่ม…” หลิงม่อพลันพูดไม่ออก “เธอว่าฉันจะทำอะไรล่ะ? อีกอย่าง ฉันต่างหากที่ต้องเป็นคนพูดคำนั้นไม่ใช่หรอ?” พูดถึงตรงนี้ สีหน้าเขาพลันตึงเครียด สายตาก็เริ่มเย็นชา “ไม่ว่าจะเพศไหน แต่ถ้าคิดจะฆ่าคนของฉันเมื่อไหร่ ฉันไม่ออมมือแน่”
“ไม่ใช่ฉันจริงๆ…” สายตาของหญิงสาวเปลี่ยนเป็นหวาดกลัว เสียงพูดเริ่มลนลาน ดูจากสีหน้าของหลิงม่อเธอก็รู้แล้ว ชายคนนี้ไม่ได้พูดเล่นจริงๆ…
“ถ้าอย่างนั้นทำไมเธอต้องหลบๆ ซ่อนๆ อยู่ใกล้ๆ พวกฉันด้วย? อีกอย่าง ทำไมพอแมงมุมตัวนั้นตายเธอถึงตะโกนออกมา? ซ้ำยังวิ่งหนีทันทีอีก?” หลิงม่อถามรัวเร็ว
หญิงสาวถูกหลี่ย่าหลินจับกุม จึงไม่กล้าขยับตัวอีก ทำได้เพียงละล่ำละลักตอบ “ฉัน…ฉันก็แค่…ไม่รู้ว่าพวกนายเป็นใคร ก็เลยไม่กล้าออกมา…แล้วก็เมื่อกี้…เมื่อกี้ฉันตกใจ เพราะแมงมุมชนิดนั้นมีหน้าที่เฝ้ารังกบดานโดยเฉพาะ ปกติร้ายกาจมาก แต่พอมันโจมตีนาย กลับ…” เธอเหลือบมองหลิงม่อแวบหนึ่ง เพื่อสังเกตปฏิกิริยาของเขา จากนั้นจึงค่อยพูดว่า “กลับค้างเติ่งอยู่กลางอากาศ…”
“ดังนั้นเธอก็เลยวิ่งหนี?” อวี่เหวินซวนพูดแทรกขึ้น
หญิงสาวพยักหน้าสุดชีวิต “ใช่…ใช่แล้ว! ฉันไม่ได้ทำอะไรจริงๆ นะ! นายก็เห็น บนตัวฉันไม่มีแมงมุมอยู่เลย!”
“ถ้าอย่างนั้นเธอเป็นใคร?” เย่ไคมองพิจารณาเธอ แล้วถาม
“ฉัน…ฉันถูกพวกเขาจับตัวมา…” หญิงสาวก้มหน้าพูด
แต่ในตอนนั้นเอง หลิงม่อกลับหัวเราะเย็นชาขึ้นมา พลันคว้าข้อมือของหญิงสาวขึ้นมา
หญิงสาวหวีดร้องด้วยความตกใจ แต่กลับหลบไม่พ้นแล้ว เธอถูกหลิงม่อลากตัวไปข้างใยแมงมุม แมงมุมหลายตัวที่เดิมซ่อนตัวอยู่ในนั้นพลันรีบไต่ออกมา ทว่าพวกมันกลับเลี่ยงหญิงสาว และพุ่งมาทางหลิงม่อแทน เพียงแต่หลิงม่อเตรียมตัวไว้แต่แรกแล้ว พวกมันจึงถูกฆ่าทันทีที่ปรากฏตัว
ตอนนี้เอง ใบหน้าของหญิงสาวเปลี่ยนเป็นซีดเผือด เพียงแต่ ไม่ใช่เพราะตกใจ…
“เรื่องที่เธอพูดก่อนหน้านี้อาจเป็นความจริง แต่สิ่งที่เพิ่งพูดเมื่อกี้กลับเป็นคำโกหก แมงมุมพวกนี้ไม่มีทางโจมตีเธออยู่แล้ว แล้วเธอจะถูกจับตัวเข้ามาได้ยังไง? ถ้ายังไม่พูดความจริงอีก ฉันก็จะถือแมงมุมตัวเมื่อกี้ถูกเธอสั่งการ” หลิงม่อพูดอย่างไร้ความปรานี
หญิงสาวคนนี้ไม่ใช่ร่างปรสิต แต่กลับมีกลิ่นอายประหลาดอยู่มากมาย…
“ฉันเปล่านะ!” หญิงสาวรีบส่ายหน้า เห็นชัดว่าเธอคาดไม่ถึงว่าหลิงม่อจะรู้ตัวเร็วขนาดนี้…คำโกหกที่เดิมยังฟังดูสมเหตุสมผล กลับถูกเปิดโปงในชั่วพริบตา ปรากฏว่าอย่าว่าแต่ช่วยตัวเองให้หลุดพ้นจากความลำบากเลย กลับยิ่งเป็นการผลักตัวเองให้เข้าสู่สถานการณ์ที่อันตรายยิ่งกว่าเดิมเสียอีก
“ฉันเข้าใจแล้ว…ฉันจะพูดความจริง แต่ว่านายช่วยบอกฉันก่อนได้ไหม…พวกซุนซวี่…เป็นยังไงบ้างแล้ว?” หญิงสาวตัวสั่น แล้วถามอย่างกล้าๆ กลัวๆ
หลิงม่อยังไม่คิดจะปล่อยมือเธอ เพียงแค่ตอบสั้นๆ ด้วยเสียงเย็นชา “ตายแล้ว”
“ตะ…ตายแล้ว?” หญิงสาวพลันเบิกตากว้าง
เธออึ้งงันไปหลายวินาที ทั้งยังกวาดสายตามองพิจารณาพวกหลิงม่อหนึ่งรอบ ริมฝีปากขยับสั่น
เธอกระตุกมุมปาก แล้วพึมพำกับตัวเอง “ตายแล้วงั้นหรอ…ไหนบอกว่าจะออกไปเที่ยวเล่นไง? ทำไมถึงตายได้ล่ะ?”
เย่ไคขมวดคิ้วมองเธอ จากนั้นก็แอบถามมู่เฉินที่อยู่ข้างๆ เสียงเบาว่า “โค้ช โค้ชว่าปฏิกิริยาอย่างนี้ของเธอ หมายความว่ายังไงกันแน่? ดีใจหรือเสียใจ?”
มู่เฉินกลอกตาขาวใส่เขา “ถ้าฉันรู้ ฉันจะโสดมาจนถึงตอนนี้ไหม? เรื่องแบบนี้นายควรไปถามหัวหน้าสิ…”
“ผมว่าหัวหน้าก็ไม่รู้เหมือนกัน…”
“เหลวไหล…”
เวลานี้ หลิงม่อพูดตัดบทเธออย่างหมดความอดทน “เธอยังไม่ได้ตอบคำถามฉัน”
มู่เฉินพลันสะอึก จากนั้นก็พูดอย่างเจ็บใจ “ที่แท้เขาไม่ใช่แค่ไม่รู้ แต่ยังไม่สนใจอีกด้วย! หรือว่าเหตุผลที่ฉันโสดเป็นเพราะว่าฉันคิดมากเกินไป?!”
“ฉัน…” หญิงสาวพูดอย่างเหม่อลอย “ฉันถือว่าเป็นแนวหลังของที่นี่ล่ะมั้ง…” เธอเงยหน้ามองหลิงม่อ รอยยิ้มประหลาดทาบทับบนใบหน้า “ฉันต้องขอบคุณนายที่ฆ่าพวกนั้น ฉันเกลียดพวกมันมากจริงๆ น่าเสียที่พวกนายไม่ได้เอาศพพวกนั้นกลับมาด้วย ไม่อย่างนั้นฉันคงได้เอาศพพวกนั้นให้แมงมุมกินแล้ว ไม่สิ ฉันจะลอกผิวหนังของพวกนั้นออกมาด้วยตัวฉันเอง แล้วเอาพวกมันไปห้อยไปไว้ตรงนั้น ให้ลมโกรกและแห้งเหี่ยวไปตามกาลเวลา จากนั้นก็สตาฟเก็บไว้…” พูดถึงตรงนี้ เธอก็เริ่มขบเขี้ยวเคี้ยวฟัน
“ซี๊ดด…” เย่ไคสูดหายใจอย่างนึกสยอง พลางพึมพำเสียงเบา “พวกผู้หญิงนี่โคตรโหด…”
“ถ้าไม่อย่างนั้นจะมีสำนวนที่ว่าใต้หล้าไม่มีผู้ใดโหดเกินหญิง…” มู่เฉินยังพูดไม่จบ ก็พลันรับรู้ได้ถึงสายตาอำมหิตหลายคู่จากด้านหลัง เขาจึงรีบหุบปากทันที
“เห็นหรือยัง นี่ต่างหากเหตุผลที่โค้ชยังโสด” จางซินเฉิงพูดซ้ำเติมด้วยสีหน้าจริงจัง
“พวกเขาไม่ได้ฆ่าเธอ แล้วก็ไม่ได้ให้เธอเป็นร่างปรสิต เธอจะแค้นอะไรพวกเขาได้?” หลิงม่อถามอย่างไม่มีท่าหวั่นไหวไปกับคำพูดของเธอ
ในที่สุดหญิงสาวก็หยุดเล่าเรื่อง แล้วย้อนถามด้วยสีหน้าซับซ้อน “แล้วนายคิดว่าทำไมฉันถึงรอดมาได้ล่ะ?”
เธอโบกมือไปมา บอกว่า “พวกนายมาตามหาอะไร ฉันจะพาพวกนายไปเอง ถ้าพวกนายยังเดินเรื่อยๆ แบบนี้ต่อไป คงยากจะหาเจอ พวกนั้นอยู่ที่นี่มานานกว่าครึ่งปีแล้ว โครงสร้างภายในถูกดัดแปลงใหม่จนไม่เหลือเค้าเดิม ข้างนอกนี้ยังถือว่ามีแมงมุมอยู่ไม่มากนัก แต่ถ้าหากเดินหลงเข้าไปในเขตฟักไข่ของแมงมุม พวกนายอาจไม่ได้ออกมาอีกตลอดไป”
“ร้ายแรงขนาดนั้นเชียว?” อวี่เหวินซวนจิ๊ปาก สายตาที่มองไปรอบข้างแปรเปลี่ยนเป็นหวาดกลัวทันที…
“นายไม่จำเป็นต้องสงสัยฉัน นายก็เห็นแล้วนี่ ฉันไม่มีทางขัดขืนอะไรพวกนายได้แล้ว” หญิงสาวมองหลิงม่อตาไม่กระพริบ พลางพูดขึ้น