เมื่อได้ยินคำสั่งของเสี่ยวหลัว ความหวาดกลัวก็ปรากฏขึ้นในดวงตาของ จาง ตงไห่ ร่างกายของเขาสั่นเทาอย่างไม่ตั้งใจและเขาถามเสี่ยวหลัวด้วยน้ำเสียงที่ไม่มั่นคงว่า“คุณต้องการที่จะทำอะไร”

เสี่ยวหลัวมองไปที่ จาง ตงไห่ อย่างใจเย็นและพูดว่า“ฉันแค่บอกคุณ บนโลกนี้ไม่มีแสงสว่างและความมืดอย่างแท้จริง แสงว่างและความมืดมันเป็นอะไรที่ไร้สาระ ฉันเดิมพันอนาคตทั้งหมดของฉันกับ บริษัท หลัวฝาง ดังนั้นใครก็ตามที่ขัดขวางการพัฒนาของมันก็คือศัตรูของฉัน! ฉันจะไม่มีวันปรานีหรือเมตตาต่อผู้ที่เป็นศัตรูของฉัน โชคไม่ดีเลยที่ คุณจาง ตงไห่ เป็นศัตรูของฉันในตอนนี้”

เสี่ยวหลัว พูดด้วยน้ำเสียงที่นุ่มนวลและอ่อนโยน แต่ จาง ตงไห่ จาง ซูซาน และคนอื่นๆ ต่างก็รู้สึกถึงความหวาดกลัวอย่างแท้จริง จนหนาวสั่นไปจนถึงกระดูกสันหลัง

ดวงตาของ จาง ตงไห่ เบิกกว้าง เขาพูดออกมาด้วยความหวาดกลัวว่า“คุณมันเป็นปีศาจ!”

เสียงของ จาง ตงไห่ แหบห้าว เขารู้ดีว่าตอนนี้เสี่ยวหลัวกำลังขู่เขาโดยใช้ครอบครัวของเขา

เสี่ยวหลัวยิ้ม ดวงตาของเขาถูกปกคลุมไปด้วยความเย็นชา เขาถามย้ำอีกครั้งว่า “งั้นคุณจะช่วยฉันเป็นพยาน และช่วยฉัน ต่อกรกับ ฝาง ฉงเหล่ หรือเปล่า?”

จาง ตงไห่ ฝืนยิ้มอย่างขมขื่นและตอบว่า“ฉันทำไม่ได้ ถ้าฉันเป็นพยานและช่วยคุณต่อกรกับ ฝาง ฉงเหล่,แก๊งมังกร คงจะไม่ปล่อยฉันไปแน่ๆ และครอบครัวของฉันก็จะต้องอยู่โดยไม่มีฉัน…”

นี่คือสิ่งที่เขากลัวมากที่สุด เนื่องจากเขาถูกจับได้โดย จาง ซูซาน เขาจึงไม่มีอะไรจะมาพูดอธิบาย แต่ถ้าเขาเป็นพยานและต่อกรกับ ฝาง ฉงเหล่ ไม่ต้องสงสัยเลยว่าเขาและครอบครัวของเขาจะได้รับการแก้แค้นอย่างแน่นอน

“คุณไม่จำเป็นต้องกังวลเกี่ยวกับเรื่องนั้น ครอบครัวของคุณจะได้รับการปกป้องเป็นอย่างดี!” เสี่ยวหลัว กล่าว จากนั้นเขกล่าวเพิ่มเติมว่า “หลังจากทุกอย่างจบลง ฉันจะให้เงินคุณสองล้านหยวนและให้คุณและครอบครัวหนีไปยังที่ไกลๆ ไม่ว่าแก๊งมังกรจะทรงพลังแค่ไหนมันก็มีอิทธิพลอยู่แค่ในเมืองเจียงเฉิง ถ้าคุณหนีออกไปจากเมืองเจีนงเฉิง คุณก็ไม่จำเป็นที่จะต้องไปกลัวพวกเขา”

“คุณให้สัญญาได้ไหม?” จาง ตงไห่ รู้สึกว่าเขาคว้าจับ ฟาง เส้นสุดท้ายมาได้ ในขณะที่เขาตกอยู่ในสถานการณ์ที่สิ้นหวัง

“ฉันสัญญา!” เสี่ยวหลัวกล่าว

จาง ตงไห่ ประหลาดใจอยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นแสงแห่งความหวังที่ปรากฏอยู่บนใบหน้าของเขาก็เริ่มจางลงไปอีกครั้ง เขากล่าวว่า“ฉันไม่เชื่อว่าคุณมีความแข็งแกร่งเช่นนั้น แก๊งมังกรเป็นพลังใต้ดินที่ทรงพลังที่สุดในเจียงเฉิง คุณจะต่อสู้กับพวกเขาได้อย่างไร”

“ฉันไม่ได้ต่อสู้พวกเขา ฉันกำลังต่อสู้กับ ฝาง ฉงเหล่”

“พวกนั้นมันก็คือสิ่งเดียวกัน” จาง ตงไห่ ตอบกลับเขารู้สึกสิ้นหวังและซึมเศร้า

เสี่ยวหลัวจ้องมองไปที่เขาอยู่ครู่หนึ่งแล้วพูดว่า“ชีวิตนั้นเป็นเกมแห่งโอกาส คุณจะต้องลงเดิมพันในครั้งนี้!”

“ฉันไม่มีทางเลือกอื่นแล้วเหรอ?” จาง ตงไห่ ยิ้มอย่างเศร้าโศก

เสี่ยวหลัวพยักหน้าแล้วพูดด้วยน้ำเสียงที่จริงจังว่า “คุณไม่มีทางเลือกอื่น!”

จาง ตงไห่ ลดระดับหัวของเขาลงเหมือนกับไก่ที่พ่ายแพ้จากนั้น เขาก็เงยหน้าขึ้นมามองและถามว่า “ประธานเสี่ยว คุณเป็นส่วนหนึ่งของสังคมมืดหรือเปล่า?”

จากการรับมือกับพวกนักข่าวที่มีปัญหาจนถึงการคุกคามเขากับครอบครัวตอนนี้ การกระทำทุกอย่างมันทำให้เขารู้สึกว่า เสี่ยวหลัว นั้นเป็นคนที่อยู่ในสังคมมืด

“ไม่ว่าฉันจะเป็นแสงสว่างหรือความมืด นั่นมันก็ขึ้นอยู่กับประเภทของคู่ต่อสู้ที่ฉันเผชิญหน้า” เสี่ยวหลัว กล่าวเบาๆ

“ฉันเข้าใจแล้ว…”

จาง ตงไห่ ยอมแพ้และไม่ต่อต้านเสี่ยวหลัวอีก ตอนนี้เขาเลือกแล้วที่จะลงเรือลำเดียวกับเสี่ยวหลัว

******

เมื่อกลับมาถึงที่พักเสี่ยวหลัวและ จาง ซูซาน ก็มายืนอยู่บนระเบียงชั้นบนสุดและมองดูวิวกลางคืนในพื้นที่ห่างไกลของเมืองเจียงเฉิง รถไฟส่งเสียงคำรามวิ่งเข้ามาในสถานีที่อยู่ในระยะไกล ในตอนกลางคืนรถไฟมันยาวเหมือนกับงูยักษ์ที่ส่องแสงไปทั่วทุกพื้นที่ตามรางรถไฟ

จาง ซูซาน จุดบุหรี่ขึ้นมาแล้วพูดว่า“แกช่วยให้ฉันได้เข้าใจอย่างลึกซึ้งเกี่ยวกับขั้นตอนแรกของการเป็นนักธุรกิจ”

เสี่ยวหลัวทำเพียงหัวเราะออกมา แต่ก็ไม่ได้ตอบอะไรกลับ

เขารู้ว่า จาง ซูซาน กำลังบอกว่าเขาอาจจะถลำลึกเกินไปแล้ว โดยการใช้ครอบครัวของพวกเขามาข่มขู่ ชั้นเชิงนี้มันไร้ยางอายมาก แต่เขาก็ไม่มีทางเลือกอื่น เขาต้องการประสบความสำเร็จ มันจำเป็นที่จะต้องใช้วิธีการนอกรีตบางอย่างเมื่อเขาตกอยู่ในความเสี่ยง

เมื่อ จาง ซูซาน เห็นการแสดงออกที่ไม่แยแสของเสี่ยวหลัว เขาจึงเปลี่ยนเรื่องพูดคุย“อย่างไรก็ตามทางศาลจะเปิดทำการพิจารณาคดีในอีกสองวัน และแกก็เคยพูดคุยกับ จี เซินเจิ้น แกขอให้เขามาเป็นที่ปรึกษาของ หลัวฝาง ได้ไหม?”

“มันไม่จำเป็น.”

เสี่ยวหลัวส่ายหัวของเขาแล้วพูดว่า“แกจะต้องไปศาล แล้วแกก็จะต้องปกป้องหลัวฟางด้วยตัวเอง”

What the f*ck!

จาง ซูซาน ตกใจจนทำบุหรี่หล่นลงบนพื้น ดวงตาของเขาเบิกกว้างแล้วเขาก็พูดว่า“แกบ้าไปแล้วเหรอหะ ให้ฉันไปต่อสู้กับทนายความเนี้ยนะ …”

“แกจะตื่นตระหนกทำเป๊ะอะไร”

“ให้ตายเถอะ! แกจะไม่ให้ฉันตื่นตระหนกได้ยังไง! ฉันเก่งในการจัดการกับเหล่าสาวๆของฉัน แต่ฉันไม่สามารถปกป้อง หลัวฝาง ได้เหมือนกับพวกทนายความพวกนั้น!”

“ไม่ต้องกังวล ฉันจะเป็นกองหลังที่คอยสนับสนุนแกเอง” เสี่ยวหลัว ตอบด้วยรอยยิ้ม

คำพูดของเสี่ยวหลัว มันทำให้ จาง ซูซาน รู้สึกสับสน

“แกหมายความว่าไง แกช่วยอธิบายให้ฉันเข้าใจหน่อยได้ไหม?” จาง ซูซาน อดไม่ได้ที่จะเหลียวมอง ไปที่ เสี่ยวหลัว

“แกเคยดูการ์ตูนยอดนักสืบจิ๋วโคนันไหม”

“ฉันเคยดูอยู่บางตอน ตอนที่ฉันเบื่อ แต่ฉันก็ไม่ได้สนใจอะไรมันมาก มันเป็นเรื่องเดียวแนวเดียวกันเสมอ โมริ โคโกโร่ ถูกทำให้หมดสติ และจากนั้นโคนันก็แก้ไขอาชญากรรมในนามของ โมริ มันมีอยู่สองสามครั้งที่รันเริ่มสงสัย ฉันหวังว่าความลับของโคนันจะถูกค้นพบในตอนนั้น แต่ฉันก็ไม่เห็นว่ามันจะมีอะไรเกิดขึ้น จากนั้นโครงสร้างพล็อตเดียวกันก็กลับมาวนใหม่อีกครั้งในตอนต่อไป การดูการ์ตูนแบบนี้ มันทำให้ฉันรู้สึกรำคาญ”

“ในเมื่อแกเคยดูแล้ว ก็น่าจะเข้าใจได้ง่ายว่าฉันกำลังจะทำอะไร” เสี่ยวหลัว พูดด้วยสีหน้าที่จริงจัง “เมื่อการพิจารณาคดีของศาลของเริ่มขึ้น แกก็จะเล่นตัวละคร โมริ โคโกโร่ และฉันก็จะเล่นเป็นโคนัน”

ใบหน้าของ จาง ซูซาน เต็มไปด้วยความสงสัย เสี่ยวหลัว มันกำลังจะทำอะไรกันแน่?

“ฉันหมายความว่า แกจะต้องใส่หูฟังในวันที่พิจารณาคดี ฉันจะบอกสิ่งที่แกจะต้องพูดจากในระยะไกล เพื่อให้แกสามารถปกป้อง บริษัท หลัวฝาง ในนามของฉัน” เสี่ยวหลัว ตอบ

จาง ซูซาน จ้องมองเสี่ยวหลัว ราวกับว่า เขาเป็นมนุษย์ต่างดาว และพูดว่า“แกกำลังมองหาปัญหาหรือไง? แกจะเป็นทนายความได้ยังไง แกรู้เกี่ยวกับข้อกฎหมายอะไรพวกนั้นหรือไงหะ?”

“ไม่ แต่ฉันมั่นใจว่าฉันสามารถทำมันได้”

เสี่ยวหลัว มองไปข้างหน้า และพูดว่า“เอาล่ะ ฉันยังต้องรวบรวมเอกสารสำคัญกับพวกหลักฐานอีก แกควรร่วมมือกับฉันเพื่อที่เราจะได้ไม่ต้องแพ้คดี”

“แกจริงจัง?”

“ฉันดูเหมือนคนที่กำลังล้อเล่นหรือไง”

“ถ้าอย่างนั้นทำไม แกถึงไม่ปรากฏตัวต่อหน้าศาลด้วยตัวเองล่ะ?”

“ฉันต้องทำสิ่งต่างๆที่ถูกกฎหมายและผิดกฎหมาย การปรากฏตัวต่อหน้าแบบนี้มันไม่เหมาะกับฉัน แกต่างจากฉัน แกนั้นมีประวัติที่ใสสะอาด”

เสี่ยวหลัวมองไปที่ จาง ซูซาน ด้วยรอยยิ้มที่สื่อความหมาย จากนั้นเขาหันหลังแล้วเดินกลับเข้าไปในห้อง

……

เวลาสองวันผ่านไปอย่างรวดเร็ว จากนั้นที่ศาลประชาชนเจียงเฉิง ก็มีการพิจารณาคดี ในคดีข่มขู่อีกครั้งของ บริษัท หลัวฝาง กับ เฉิน เจียนไป่

การพิจารณาคดีนั้นเปิดให้สาธารณชนทั่วไปเข้าถึงได้!

ที่ห้องพิจารณาคดีนั้นเต็มไปด้วยฝูงชน ไม่เพียงแต่มี ฝาง ฉงเหล่ ที่เป็นประธานของ Taste Buds เท่านั้นที่มา แต่มันยังมี สวี่ กว่างซ่ง,หลิน เฉาตง,ลั่วฉี และพนักงานคนอื่นๆจาก บริษัท หลัวฝาง ก็มากันเต็มความจุห้อง

“รองประธาน สวี่ ทำไมประธานเสี่ยว ถึงไม่มาในวันนี้ เขารู้สึกกลัวอีกแล้วหรือเปล่า? ฮ่าฮ่า!” ฝาง ฉงเหล่ กล่าวล้อเลียน

แม้ว่าเขาจะไม่รู้ว่าทำไมเสี่ยวหลัว ถึงทำให้พวกนักข่าวที่มาก่อกวนหายไปในครั้งที่แล้ว แต่เขาก็มั่นใจและมุ่งมั่นที่จะชนะในครั้งนี้ที่ศาลให้ได้ จากสิ่งที่เขาเห็น บริษัท หลัวฝาง จะต้องเป็นฝ่ายที่ซับน้ำตา กลับบ้าน อย่างแน่นอน

การแสดงออกของ สวี่ กว่างซ่ง นั้นซับซ้อน เขาไม่ต้องการที่จะพูดอะไร แต่ถึงกระนั้นเขาก็ยังสงสัยว่าทำไมเสี่ยวหลัวจะต้องซ่อนตัวแบบนี้ ทำไมเขาถึงปล่อยให้ จาง ซูซาน รับบทเป็นผู้พิทักษ์ในการพิจารณาคดีของศาล ที่ซึ่งมีความสำคัญต่อชีวิตและความตายของ บริษัท หลัวฝาง ในความเห็นของเขา แม้แต่นักกฎหมายที่สุ่มมาบนท้องถนน ก็ยังดีกว่า จาง ซูซาน แล้วพวกเขาจะชนะคดีนี้ได้อย่างไร?

จาง หยง หัวหน้าฝ่ายกฎหมายของ บริษัท หลัวฝาง อยู่ในห้องพิจารณาคดี แม้ว่าเขาจะสับสนกับแผนการของเสี่ยวหลัว แต่เขาก็รู้สึกโล่งใจมาก นี่มันจะไม่เป็นงานของเขาอีกต่อไป ไม่ว่าผลการพิจารณาคดีจะออกมาเป็นอย่างไรมันก็ไม่เกี่ยวอะไรกับเขา