​สนมเอก​เฮ่อ​เหลียน​รู้ดี​ว่านาง​จงใจ​โน้มน้าว​องค์​ชาย​ ​สุดท้าย​ก็​ถอนหายใจ​ด้วย​ความ​โล่งอก​ ​หากว่า​นาง​ยัง​ไม่​เลอะเลือน​ ​นาง​ก็​ไม่​คง​ไม่ยอม​สตรี​อื่น​เป็นแน่​หากว่า​ความคิด​เช่นนี้​ยัง​มีอยู่​ ​สนมเอก​เฮ่อ​เหลียน​ปรับ​สีหน้า​เรียบ​เฉย​ ​เอ่ย​ ​“​จาง​เต​๋อ​ไห่​ ​ไป​เรียก​ฉิน​อ๋อง​และ​ชายา​เอก​มาที​่​ห้อง​เอ๋อร​์​ฝาง[1] ​ข้างๆ​”

​จาง​เต​๋อ​ไห่​เอ่ย​รับคำ

​สีหน้าซ​ย่า​โหว​ซื่อ​ถิ​งก​ลัด​กลุ้ม​เล็กน้อย​ ​เห็น​ว่านาง​เดินตาม​จาง​เต​๋อ​ไห่​ไป​ก็​จนปัญญา​ทำ​อะไร​มิได้​ ​ทำได้​เพียง​เดินตาม​ไป​ก่อน​เช่นเดียวกัน

​ทั้งสอง​เดินตาม​กัน​ไป​ ​ออก​ประตู​เลี้ยวซ้าย​ ​ก้าว​เท้า​เดินตาม​ทาง​ที่​ทอด​ยาว

​ระหว่างทาง​บ่าว​รับใช้​ของ​ตำหนัก​ชุ่ย​หมิง​ ​หยุด​เท้า​ก้มตัว​ลง​ทำความเคารพ​ ​“​ท่าน​ฉิน​อ๋อง​”​ ​บัดนี้​คนตรง​หน้าเป็น​ถึง​ผู้สำเร็จราชการ​แทน​ ​ยิ่ง​ต้อง​เคารพ​ยำเกรง​กว่า​เก่า

​เพียง​ครู่เดียว​ทั้ง​สาม​หยุด​ลง​ตรงหน้า​ประตู​ห้อง​เอ๋อร​์​ฝาง

​ห้อง​บุปผา​เป็น​ห้อง​สำหรับ​รองรับ​แขก​ที่​แวะ​พักผ่อน​ระหว่างทาง

​ด้วยเหตุที่​ว่า​ตำหนัก​ชุ่ย​หมิง​ไม่​ค่อย​มี​แขก​ต่างเมือง​มาก​นัก​ ​ดังนั้น​จึง​มี​เตียง​ตั่ง​และ​เก้าอี้​เรียบง่าย​อย่างครบถ้วน​ ​แต่ทว่า​ห้อง​นี้​ว่าง​มาโดยตลอด​ ​แทบ​ไม่มี​ร่องรอย​การอาศัย​อยู่​ ​ทุกอย่าง​ถูก​จัด​อย่าง​สะอาดเอี่ยม​และ​สวยงาม

​ท่าน​อ๋อง​เห็น​จาง​เต​๋อ​ไห่​เปิด​ประตู​ ​นาง​ก้าว​เท้า​เดินหน้า​เข้าไป​เสียก่อน​แล้ว​ ​ตน​ยืน​นิ่ง​อยู่​หน้า​ประตู​ยัง​ไม่​เดิน​เข้าไป​ ​เอ่ย​เสียง​หนักแน่น​ ​“​มา​เสียเวลา​อะไร​อยู่​ที่นี่​”

​เห็น​ชุด​แม่ชี​ที่​ไม่​สามารถ​ปกปิด​ความงดงาม​ได้​ ​ลง​น้ำหนัก​ที่​ปลายเท้า​ก้าว​เข้าไป​ ​ทั้ง​ยัง​รำคาญ​ที่​เขา​อืดอาด​ ​กัด​ปาก​เอ่ย​ ​“​มั่ว​ชักช้า​อะไร​กัน​ ​เข้ามา​ข้างใน​ก่อน​ค่อย​พูด​”

​สีหน้า​เขา​ทลาย​ลง​ ​“​กิน​ดี​หมี​หัวใจ​เสือ[2]ที่ไหน​มากัน​”​ ​กลับ​ไม่​เอ่ย​คำ​ใด​ออกมา​ต่อ​ ​ยกมือ​ไขว้หลัง​เดิน​เข้าไป

​จาง​เต​๋อ​ไห่​ยิ้มหัว​เราะ​ ​พร้อมทั้ง​ปิดประตู​ห้อง​เอ๋อร​์​ฝาง

​เสียง​ประตู​ปิด​ลง​ ​ท่าน​อ๋อง​จู่โจม​ใช้​ไหล่​กว้าง​โอบกอด​นาง​ไว้​ ​“​โกรธ​หรือ​”

​เสียงอ่อน​โยน​ที่​คุ้นเคย​ลอดผ่าน​ไรผม​จนถึง​ใบ​หู​ ​จน​ทำให้​ร่าง​ที่​ห้าวหาญ​และ​ยิ่งใหญ่​ด้านหลัง​จู่โจม

​ปลาย​สันจมูก​สูง​โด่ง​ชน​เข้ากับ​ผิว​คอ​ขาวนวล​ด้านหลัง​ ​เขา​ค่อยๆ​ ​ใช้​ปลายจมูก​ขยี้​เบา​ๆ​

​ทุกครั้งที่​ได้​โอบกอด​นาง​ ​การ​ปล่อยมือ​นั้น​ถือว่า​เป็นเรื่อง​ที่​ยาก

​ครั้งก่อน​ที่​ได้​เข้าใกล้​กัน​ ​ก็​คง​เป็น​คืน​นั้น​ที่​อาราม​ฉาง​ชิง​ ​วันนี้​ไม่ว่า​จะ​พูด​อะไร​ก็​จะ​ต้อง​คลี่คลาย​ให้​ได้

​นาง​ไม่ได้​ตอบกลับ​ไป​ ​ได้ยิน​เพียง​เสียง​ลมหายใจ​ของ​เขา​หนัก​ขึ้น​ ​จึง​ออกแรง​พลัก​เบา​ๆ​ ​จับมือ​เขา​แยก​ออก​ ​“​ช้าก่อน​ ​หม่อมฉัน​มีเรื่อง​จะ​พูด​กับ​ท่าน​อ๋อง​”

​เขา​ไม่พอใจ​หนัก​ที่นาง​ต่อต้าน​เขา​เช่นนี้​ ​แขน​แกร่ง​ทั้งสอง​ออกแรง​ดึง​ให้​นาง​หันกลับ​มา

​อวิ​๋น​หว่าน​ชิ่น​ไม่มี​ท่าที​โต้ตอบ​ ​หันกลับ​มาตาม​แรง​ดึง​ของ​เขา​ ​ท่าที​เย็นชา​ของ​เขา​พัด​โชย​เข้ามา​เต็มๆ​ ​นาง​ส่งเสียง​ต่ำ​ ​“​อ่า​”​ ​ถูก​เขา​กด​ไว้​ด้านหลัง​ประตู​ ​การกระทำ​รวดเร็ว​ดั่ง​เสียง​พัด​ ​ยัง​ไม่ทัน​ได้​ส่งเสียง​ ​ใบหน้า​ของ​เขา​ก็​ค่อยๆ​ ​ใกล้​เข้ามา​จรด​ริมฝีปาก​ลง​บน​ฝีปาก​บอบบาง​ของ​นาง​ ​เขา​ครอบครอง​ริมฝีปาก​นาง​ได้​อย่างรวดเร็ว

​จาง​เต​๋อ​ไห่​เห็น​ว่า​ประตู​ห้อง​เอ๋อร​์​ฝาง​ถูก​กระทบ​เบา​ๆ​ ​ทั้ง​ยัง​ได้ยิน​เสียง​หายใจ​ของ​สตรี​ลาง​ๆ​ ​สีหน้า​ก็​แดงก่ำ

​องค์​ชาย​สาม​ใจร้อน​เสียนี​่​อะไร​ ​เหอะ​

​แต่ทว่า​ ​ข้าวใหม่ปลามัน​ห่าง​กัน​นาน​เยี่ยง​นี้​ ​ไม่​ง่าย​เลย​ที่จะ​ได้​เจอกัน​สักครั้ง​หนึ่ง​ ​ทำ​เรื่อง​พรรค์​นี้​ก็​เป็นเรื่อง​ปกติ

​จาง​เต​๋อ​ไห่​นึก​ภาพ​ที่​ไม่​ควร​นึก​ใน​สมอง​เพิ่มมากขึ้น​เรื่อง​ๆ​ ​ใบหน้า​แดง​ราวกับ​ตับ​หมู​ ​เขิน​จน​ไม่​สามารถ​เข้าใกล้​ประตู​ได้​ ​จึง​รีบ​เดินลง​ไปรอ​ตรง​ทางเข้า​ประตู

ภายใน​ห้อง​เอ๋อร​์​ฝาง​ ​อวิ​๋น​หว่าน​ชิ่น​โดน​ท่าน​อ๋อง​โจมตี​เข้า​ ​นาง​จับ​ริมฝีปาก​ของ​ตนเอง​ ​รู้สึก​ว่า​จะ​บวม​ขึ้น​มา​เล็กน้อย​ ​ดู​บุรุษ​ผู้​นี้​ท่าทาง​ไม่รู้​ร้อน​รู้​หนาว​พอได้​ชิม​ของหวาน​เข้า​หน่อย​ก็​เตรียมการ​ไว้​พร้อม​ตลอด​ ​ชัก​โกรธ​ขึ้น​มา​แล้ว​ ​ไม่​ให้​ตั้งตัว​เลย​สักครั้ง​!​ ​จะ​ชิน​ได้​เยี่ยง​ไร​กัน

สายตา​จ้องมอง​ไป​ที่​ชุด​คลุม​ของ​เขา​ ​สมาธิ​ของ​นาง​เตลิด​หาย​ไป​หมด​ ​ยกมือ​ขึ้น​สัมผัส​ลูบไล้​ไป​ตาม​ผ้า​ดิ้น​ทอง​ปัก​ลาย​มังกร​บน​อก​ของ​เขา​

นี่​คง​เป็น​ชุด​ที่​ใส่​เวลา​ออก​ราชการ​ ​คล้าย​กับ​ว่า​มี​เพียง​องค์​ชาย​ที่​สำเร็จ​ราชการ​แทน​ถึง​จะ​มีสิทธิ์​สวม​ชุด​นี้​ได้

ข้าหลวง​ของ​ตำหนัก​ทอผ้า​มา​วัด​ตัว​เขา​ถึง​จวน​อ๋อง​ ​ชุด​สีดำ​ทอง​ตัด​เข้ารูป​ ​ทุก​ซอก​มุม​เย็บ​เข้ากัน​พอดี​กับ​สรีระ​ ​เผย​ให้​เห็น​ร่างกาย​สง่าผ่าเผย​และ​แข็งแรง​กำยำ​ ​สวม​ด้วย​เข็มขัด​ไว้ทุกข์​สีขาว​ ​เอ่ย​อย่าง​ไม่​อ้อมค้อม​ทุกอย่าง​เข้ากัน​และสง่า​ยิ่งนัก

หากว่า​จะ​มอง​ใคร​คนใดคนหนึ่ง​ว่า​ในอนาคต​จะ​เป็น​เช่นไร​ ​ก็​คง​ต้อง​ดู​ว่า​เขา​ตอนนี้​ปฏิบัติตน​เช่นไร​ ​ถึง​จะ​มองออก​ได้​อย่างชัดเจน

เขา​เดิน​มาถึง​ขั้น​นี้​แล้ว​จริงๆ

ใน​โลก​นี้​การ​เป็น​โอรส​ของ​ฮ่องเต้​นับว่า​เป็นเกียรติ​ถึงแม้​ภาพรวม​แล้ว​จะ​ยัง​ไม่มี​ตำแหน่ง​ใดๆ​ ​แต่ทว่า​หากว่า​ยัง​ไป​ไม่​ถึง​ตำแหน่ง​สูงสุด​ ​ก็​เป็น​เหมือน​ตำแหน่ง​ที่​ต้อง​เหยียบย่ำ​บน​พื้นน้ำ​แข็ง​

บุรุษ​ผู้​นี้​ ​แม้ว่า​ยัง​เดิน​ไป​ไม่​ถึง​ยอดเขา​แต่​ก็​เริ่ม​มี​เค้า​ลาง​แล้ว

จู่ๆ​ ​นาง​ก็​ใจลอย​ ​การ​มี​ร่มเงา​ให้​พักพิง​เป็น​สิ่ง​ที่​สตรีทุ​กคน​ใฝ่ฝัน​ ​ตอนนี้​นาง​ควรจะ​ดีใจ​สิ​!

ซ​ย่า​โหว​ซื่อ​ถิง​เห็น​นาง​ลูบ​สัมผัส​ก็​ตกใจ​ขึ้น​มา​ ​คว้า​มือจับ​มือ​น้อย​บน​อก​เอาไว้​ ​หายใจ​ติดขัด​ ​“​เมื่อ​ครู่​ยัง​ไม่เห็น​ดีใจ​ ​ตอนนี้​กลับมา​ยั่ว​ข้า​”​ ​ม้วน​มือจับ​มือ​น้อย​ของ​นาง​ที่​เล็ก​กว่า​ครึ่งหนึ่ง

“​ท่าน​ว่าราชการ​แล้ว​จริงๆ​ ​หรือ​ ​พร้อมกับ​จิ​่ง​หยาง​อ๋อง​และ​สมุหนายก​อวี​้​?​”​ ​ยาก​นัก​ที่จะ​เห็น​ว่านาง​ไม่​โต้แย้ง​ตน​

เขา​คิด​ว่านาง​ไม่ได้​ดีใจ​มาก​นัก​ ​ยื่นมือ​ลูบไล้​ผม​นาง​ ​เอ่ย​เสียง​เบา​ ​“​อืม​”​ ​เสียง​หยุด​ไป​ครู่หนึ่ง​ ​“​แต่ว่า​ ​ไม่ได้​ทำงาน​กับ​พวกเขา​ ​ข้า​เป็น​หัวหน้า​”

นัยน์ตา​เขา​เต็มไปด้วย​คำ​ว่า​เขา​ไม่ใช่​เด็กเมื่อวานซืน​แล้ว​ ​เขา​เดิน​มาถึง​จุด​นี้​แล้ว​ ​เดิน​มาถึง​ราชสำนัก​แล้ว​ ​อำนาจ​ของ​เขา​จะ​ยิ่ง​เพิ่มขึ้น​ ​นับจากนี้​ชีวิต​จะ​ดีขึ้น​เรื่อยๆ​ ​จะ​ไม่​ทำให้​นาง​ต้อง​ลำบาก​หรือ​น้อยใจ​แม้แต่​นิด​อีกแล้ว

นาง​เอ่ย​ ​“​อ้อ​”

เขา​เงียบ​อยู่​สักพัก​ ​คว้า​มือ​ของ​นาง​ไว้​ ​“​ไป​กัน​เถอะ​”​ ​เขา​รู้​ว่า​ต้อง​ทำ​เยี่ยง​ไร​นาง​ถึง​จะ​สบายใจ

นาง​รู้​ว่า​เขา​จะ​พา​ไป​ที่ไหน​ ​จึง​ยื่นมือ​รั้ง​มือ​เขา​ไว้​ ​“​ยัง​ไม่​ไป​นะ​เพ​คะ​”

ซ​ย่า​โหว​ซื่อ​ถิง​รู้​ว่านาง​พะ​ว้า​พะวง​เสด็จ​แม่​ ​เกรง​ว่า​จะ​ทำให้​แม่​ลูก​มีปัญหา​กัน​ ​เขา​จ้องมอง​นาง​ ​“​ทาง​เสด็จ​แม่​ ​เจ้า​ไม่ต้อง​ห่วง​ไป​ ​นาง​ไม่ใช่​คนเลว​ร้าย​ ​จริงๆ​ ​แล้ว​นาง​ชอบ​เจ้า​โดยตลอด​ ​แต่ว่า​ครั้งนี้​ไม่รู้​ว่า​เป็น​เยี่ยง​ไร​ถึง​เลอะเลือน​ไป​ ​ครั้งหน้า​ข้า​จะ​โน้มน้าว​นาง​เอง​”​

ในที่สุด​นาง​ก็​เอ่ย​พูด​ขึ้น​มา​ ​“​หม่อมฉัน​รู้สึก​ว่า​เสด็จ​แม่​แค้น​หม่อมฉัน​แล้ว​ล่ะ​เพ​คะ​”

เขามอง​นาง​ด้วย​ความสงสัย

นาง​เริ่ม​เอ่ย​ถาม​ก่อน​ ​“​เรื่อง​ที่​ฮองเฮา​สวรรคต​ ​ท่าน​ได้ยิน​ข่าวลือ​อะไร​หรือไม่​”

ว่า​ราชกิจ​ ​ข่าวลือ​จาก​พวก​ขุนนาง​ ​หลาย​วัน​มานี​้​มี​หรือ​ที่​เขา​จะ​ไม่รู้​ ​แต่​ทำ​เพียงแค่​ไม่รู้​เสีย​ก็​จบ​ ​จริงๆ​ ​แล้ว​เขา​เอง​ก็​สงสัย​อยู่​เหมือนกัน​ ​แต่ทว่า​พอ​ไป​ถาม​เหยาฝู​โซ่​วก​็​พูด​ได้​ไม่ชัด​เจน​ ​หลังจากนั้น​ก็​ไป​ตำหนัก​ซือ​ฝา​หา​ผู้คุม​ข้าหลวง​ ​พวกเขา​ก็​ปิดปาก​กัน​สนิท

สุดท้าย​ ​ศพ​ของ​ฮองเฮา​ถูก​ส่ง​ไป​ฝั่ง​นอกเมือง​ระหว่างทาง​ไป​สุสาน​ ​ซือ​เหยา​อัน​ก็ได้​ติดสินบน​ข้าหลวง​ ​ถึง​ได้​ทราบ​ว่า​หลังจากที่​ฮองเฮา​สวรรคต​ ​ได้​ถูก​คน​ของ​ฮ่องเต้​จัดการ​ทำความสะอาด​อีกครั้ง​ ​เยี่ยง​นี้​ก็​ไม่มี​อะไร​น่าแปลก​ ​แต่ทว่า​ได้​แต่งหน้า​โดยเฉพาะ​แต่ง​ที่​บริเวณ​ท้อง​ ​เหตุนี้​ทำให้​เขา​ยิ่ง​สงสัย

ได้ยิน​ที่​อวิ​๋น​หว่า​ชิ่น​เอ่ย​ถาม​ ​เขา​ก็​นึก​ขึ้น​มา​ได้​ ​ได้ยิน​มา​ว่า​ก่อนที่​เจี่ยง​ฮองเฮา​จะ​สวรรคต​ ​นาง​เคย​ไป​ที่​ตำหนัก​ซือ​ฝากับ​ไท่​จือ​ ​พอนึก​ขึ้น​มา​ได้​สีหน้า​ก็​เปลี่ยน​ ​แต่กลับ​ต้อง​ข่มอารมณ์​เอาไว้​ ​“​อืม​ ​เคย​ได้ยิน​ทำไม​หรือ​”

นาง​เล่า​เหตุการณ์​วันนั้น​ที่​ตำหนัก​ซือ​ฝา​ตั้งแต่​ต้น​จน​จบ​ให้​เขา​ฟัง

ซ​ย่า​โหว​ซื่อ​ถิง​ขณะ​ฟัง​ ​สีหน้า​ก็​เปลี่ยนไป​เล็กน้อย​ ​แต่​ก็​ไม่ได้​มี​ปฎิ​กริยา​มาก​นัก​ ​การ​เสียชีวิต​ของ​เจี่ยง​ฮองเฮา​ไม่​ใช้การ​เสียชีวิต​จาก​โรค​ปกติ​ ​เรื่อง​นี้​เขา​เดา​ได้​ตั้ง​นาน​แล้ว​ไม่รู้​สึก​ตกใจ​อะไร​ ​แต่​แค่นึก​ไม่​ถึงว่า​จะ​รุนแรง​เพียงนี้​ทั้ง​ยัง​ถูก​เสด็จ​พ่อ​ใช้​มีด​แทง​เอง​เสียด​้วย

[1]เอ๋อร​์​ฝาง ​耳​房​ ​คือ​ ​ห้อง​ขนาบ​อยู่​ด้าน​ข้าง​ห้อง​หลัก

[2]กิน​ดี​หมี​หัวใจ​เสือ ​เปรียบ​ว่า​ ​ไม่รู้​จักรั​กตั​วก​ลัว​ตาย​ ​ใจกล้า​บ้าบิ่น