[ติดตามข่าวสารได้ที่เพจ : จักรพรรดิ์เทพมังกร]
บทที่ 509 : หนุ่มเพลย์บอยผู้น่าสงสาร!
ตึ้ก.. ตึ้ก.. เสียงหัวใจของหลินเมิ่งหานที่เต้นแรงและเร็ว
หลินเมิ่งหานตื่นเต้นอย่างมากจนต้องกำมือทั้งสองข้างไว้แน่น เล็บยาวของเธอจิกลงไปบนเนื้อนุ่มบนฝ่ามือ เพื่อให้มั่นใจว่าสิ่งที่เธอได้ยินนั้นไม่ใช่ความฝัน แต่มันคือความจริง!
‘การแต่งงานยกเลิกได้ด้วยหรือ?! นี่.. นี่มันเป็นไปได้ยังไง? ทำไมหลงเทียนเจียวถึงได้ยอมยกเลิกการแต่งงานง่ายๆแบบนี้?”
หลินเมิ่งหานรู้สึกเจ็บปวดกลางฝ่ามือทั้งสองข้าง แต่เธอก็ยังคงไม่อยากจะเชื่อในสิ่งที่ได้ยิน เธอตื่นเต้น และตื่นเต้นอย่างที่สุด แต่ในใจกลับหวาดกลัวกับสิ่งที่จะตามมาในวันข้างหน้า!
ก่อนหน้านี้หลินเมิ่งหานยังรู้สึกผิด และสงสารหลงเทียนเจียวอยู่บ้าง แต่ตอนนี้ความรู้สึกทั้งสองอย่างได้หายไปหมดสิ้นแล้ว เหลือเพียงความรู้สึกรังเกียจเหยียดหยันในหัวใจของเธอเท่านั้น!
ที่แท้คุณชายหลงหนุ่มเพลย์บอยกลับกลายเป็นคนเช่นนี้เอง!
เมื่อครู่เขาเพิ่งจะอวดอ้างว่ารักใคร่ชอบพอเธอมากเพียงใด คำพูดเหล่านั้นยังคงก้องอยู่ในหูของเธอ แต่เพียงแค่พริบตาเดียวกลับยกเลิกการแต่งงาน นี่จิตใจของเขาทำด้วยอะไร? ช่างน่าอายเสียจริงๆ!
หากวันนี้ไม่มีเรื่องบังเอิญเช่นนี้เกิดขึ้น อีกสองสามเดือนข้างหน้าเธอก็คงต้องหนีจากหลิงหยุนไปเข้าพิธีแต่งงาน และแต่งกับคนไร้หัวใจเช่นหลงเทียนเจียว ผู้ที่คิดถึงแต่ผลประโยชน์ และฐานะของตัวเอง หากเป็นเช่นนี้ ชีวิตของเธอจะขมขื่น และน่าสมเพชเพียงใด?
ในขณะที่หลินเมิ่งหานทั้งตื่นเต้นและหวาดกลัว แต่หลิงหยุนกลับนึกเหยียดหยัน และรังเกียจอยู่ในใจ!
หลิงหยุนรู้สึกสับสน และแอบคิดในใจว่าเขาไม่สามารถประมาทตระกูลหลงได้ และไม่ควรประเมินตระกูลหลงต่ำจนเกินไป!
หากไม่นับเรื่องวรยุทธ และกำลังภายในของหลงเทียนยู่ และหลงเทียนเจียว เพียงแค่ความอดทนของทั้งคู่นั้น ก็นับว่าสามารถเป็นผู้กุมหางเสือของตระกูลหลงในรุ่นต่อไปได้อย่างแน่นอน
และหากเทียบกับซันจิ้งซึ่งเป็นทายาทของตระกูลซัน กับทายาทตระกูลหลงแล้วล่ะก็ นับว่าคุณสมบัติต่างกันราวฟ้ากับดินเลยทีเดียว! แน่นอนว่าส่วนหนึ่งเป็นเรื่องของอายุ และการอบรม
หลงเทียนยู่นั้นนับว่าเป็นคนที่อ่อนน้อมกว่าหลงเทียนเจียว อย่างน้อยหลงเทียนยู่ก็ดีมีความจริงใจมากกว่าหลงเทียนเจียว เรื่องนี้หลิงหยุนรับรู้ได้อย่างชัดเจน
หลงเทียนเจียวบอกว่าการแต่งงานกับหลินเมิ่งหานนั้นเป็นหน้าที่รับผิดชอบที่ได้รับจากตระกูล และเขาก็ต้องทำตามอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
แต่เมื่อรู้ว่าหลินเมิ่งหานมีหลิงหยุนอยู่ในใจ เขากลับประกาศยกเลิกการแต่งงานในที่เกิดเหตุ อีกทั้งยังอวยพรให้พวกเขาทั้งคู่อยู่กันจนแก่เฒ่า..
พูดง่ายๆก็คือว่า.. การหมั้นหมายเกิดจากการบังคับ การยกเลิกการหมั้นหมายจึงเป็นการตัดความอึดอัดที่มีระหว่างหลิงหยุนกับหลงเทียนเจียวทิ้งไป อีกทั้งหลงเทียนเจียวยังจะถูกมองว่าเป็นสุภาพบุรุษที่แท้จริงอีกด้วย
‘คนของตระกูลหลงไม่ธรรมดาเลยจริงๆ เยี่ยมมาก!’ หลิงหยุนได้แต่นึกระมัดระวังอยู่ในใจ
หลงเทียนเจียวนั้นดูเหมือนจะไม่มีอะไร แต่หากใครแยกแยะไม่ได้ หรือตามเล่ห์เหลี่ยมของเขาไม่ทัน ก็คงจะเดินเข้าไปหาพร้อมกับจับมือเขาด้วยความขอบคุณ และซาบซึ้งในน้ำใจของเขาอย่างแน่นอน..
แต่โชคร้ายที่คนยืนอยู่ต่อหน้าหลงเทียนเจียวคือ.. หลิงหยุน!
การที่หลิงหยุนตบหน้าหลงเทียนเจียวจนเลือดกลบปาก และเตะเขาจนลอยออกไปไกลนั้น นับได้ว่าเป็นการสร้างความอัปยศให้กับเขาอย่างที่สุดแล้ว แต่หลงเทียนเจียวที่หน้าบวมเป็นซาลาเปากลับไม่ตอบโต้ อีกทั้งยังยกเลิกสัญญาการแต่งงาน และยังเอ่ยชื่นชมหลิงหยุนอีกด้วย หากหลิงหยุนไม่ได้เตรียมตัวมาดี เขาก็คงจะต้องหลงกลไปแล้วเช่นกัน!
แต่จะว่าไป.. หากหลงเทียนเจียวไม่ประกาศยกเลิกการแต่งงาน เขาจะมีความสามารถหยุดหลิงหยุนกับหลินเมิ่งหานได้อย่างนั้นหรือ? หลิงหยุนไม่ด้รู้สึกผิด และไม่ได้รู้สึกใดๆกับคำชมของหลงเทียนเจียว เพราะหลิงหยุนไม่ได้โง่!
หลงเทียนได้หว่านเมล็ดแห่งความถูกต้อง และพูดจาภาษาดอกไม้อยู่นาน อีกทั้งยังเป็นฝ่ายยกเลิกการแต่งงาน แต่กลับไม่มีใครสักคนที่ซาบซึ้งในการกระทำของเขา หรือพูดอะไรเลยแม้แต่คนเดียว เขาจึงได้แต่อึ้ง..
และเพื่อเป็นการแก้เก้อ.. หลงเทียนเจียวจึงยกมือขึ้นชี้ไปที่รถสปอร์ตซึ่งจอดอยู่หน้าบ้าน พร้อมกับพูดขึ้นว่า
“น้องหลิง.. น้องหลิน.. รถ Bentley Continental GTC คันนั้น เพื่อนของข้าเพิ่งจะมอบให้ตอนที่มาถึงจิงฉู นี่เป็นรถมือหนึ่ง ยังไม่เคยมีใครใช้มาก่อน หากทั้งพวกเจ้าทั้งสองคนไม่รังเกียจ ข้าขอมอบรถสปอร์ตคันนี้ให้พวกเจ้า.. พวกเจ้าจะว่าอย่างไร?”
ในเมื่อยกเลิกาการแต่งงานไปแล้ว หลงเทียนเจียวเกรงว่าจะยังทำให้หลิงหยุนพอใจไม่ได้ และแน่นอนว่าไม่ควรเรียกชื่อเมิ่งหานอีก และควรจะเรียกแซ่ของนางแทน..
รถ Bentley Continental GTC Roadster คันนี้ เป็นรถขับเคลื่อนสี่ล้อ มีระบบกันกระเทือนทุกล้อ เป็นเครื่องทวินเทอร์โบเบนซินฉีดเชื้อเพลิงโดยตรง 6 จังหวะ 12 สูบ อัตราการเร่ง 4.8 วินาที/100 กม. ทำความเร็วสูงสุดได้ 318 กม./ชม. นับว่าเป็นรถโดยสาร 4 ที่นั่งที่ขับเคลื่อนได้เร็วที่สุดก็ว่าได้
หลิงหยุนไม่มีความรู้เรื่องรถ แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าหลินเมิ่งหานจะไม่มีด้วย ทันทีที่ได้ยิน ปฏิกิริยาแรกของเธอคือต้องการปฏิเสธ และกำลังจะพูดออกไปว่า ‘ไม่’ แต่จู่ๆก็นึกขึ้นได้ว่าหลิงหยุนมีอุปนิสัยเช่นไร เธอจึงได้แต่นิ่งเงียบ และหันหน้าไปทางหลิงหยุนอย่างวิตกกังวล
หลินเมิ่งหานไม่ต้องการพูดกับหลงเทียนเจียว และแทบจะไม่ต้องการยุ่งเกี่ยวอะไรกับเขาอีก!
หลิงหยุนที่ยังคงมีท่าทีสงบนิ่ง ในที่สุดก็ยิ้มเล็กน้อย และพูดขึ้นว่า “ข้าไม่ต้องการ.. รถสปอร์ตพวกนี้ข้ามีหมดแล้ว แล้วก็ไม่ได้ด้อยไปกว่ารถของเจ้า!”
ตอนนี้หลิงหยุนมีรถสปอร์ตมากมายถึงสิบสี่คัน และอย่างน้อยสี่คันก็ไม่ได้ด้อยไปกว่า Bentley คันนี้เลย
แต่การที่ไม่หาผลประโยชน์เลย ก็ดูจะไม่ใช่นิสัยของหลิงหยุนเช่นกัน แม้หลิงหยุนจะขึ้นชื่อว่าหน้าด้าน แต่ก็มีขีดจำกัด และเพดานของตนเองเช่นกัน
สาเหตุที่หลิงหยุนปฏิเสธไม่รับรถสปอร์ตของหลงเทียนเจียวนั้นก็เพราะว่า เขารู้จักหลินเมิ่งหานดี หากเขารับรถคันนี้ไว้ รถคันนี้จะไม่ต่างจากหนามที่เป็นตัวแทนของหลงเทียนเจียว ที่คอยทิ่มแทงเธอให้รู้สึกรำคาญใจ และหลิงหยุนเองก็ไม่ต้องการให้หนามนี้อยู่ที่นี่!
ผู้หญิงของเขาก็คือผู้หญิงของเขา! เขาจะดูแลด้วยตัวเอง..
หลินเมิ่งหานคิดไม่ถึงว่าหลิงหยุนจะปฏิเสธ เธอทั้งดีใจและมีความสุขอย่างมาก จนถึงกับกอดแขนหลิงหยุนแน่นต่อหน้าหลงเทียนเจียว
หลงเทียนเจียวไม่เคยพบเห็นใครเหมือนเช่นหลิงหยุนมาก่อน น้ำกับน้ำมัน.. ถึงอย่างไรก็เข้ากันไม่ได้อยู่ดี เขาจึงไม่นึกแปลกใจนัก
หากต้องการเปรียบเทียบใจที่แข็งแกร่งดั่งหินผานั้น หลงเทียนเจียวไม่มีทางเทียบหลิงหยุนได้เลยแม้แต่น้อย
“เอ่อ..” หลงเทียนเจียวถึงกับพูดอะไรไม่ออก
จากนั้น หลิงหยุนก็พูดขึ้นด้วยน้ำเสียงราบเรียบ “เจ้าเพิ่งจะทำประตูบ้านข้าพัง กับทำกระถางดอกไม้แตกอีกสองใบ และข้าก็ได้บอกไปแล้วว่าเจ้าต้องจ่ายค่าเสียหายเป็นสิบเท่า เจ้าให้คนเอาเงินไปจ่ายให้กับถังเมิ่ง ตอนนี้ข้ามีธุระต้องทำ.. เจ้าออกไปได้แล้ว..!”
หลิงหยุนไม่สนใจแม้แต่รถ และไม่ต้องการข้องเกี่ยวกับหลงเทียนเจียวไม่ว่าทางใด จึงได้พูดออกไปเช่นนั้น
“น้องหลิง.. เรื่องนั้นสบายใจได้ ไม่มีปัญหาแน่นอน!”
หลงเทียนเจียวได้แต่คิดในใจว่า.. ‘หลิงหยุนเจ้าอย่าคิดว่าข้าจะกลัวเจ้า?’
หากไม่ใช่เพราะเขาได้รับคำสั่งลับมาจากตระกูลแล้วล่ะก็ เพียงแค่มิตรภาพที่เขามีกับกลุ่มมังกร และกลุ่มนภา หากหลงเทียนเจียวเอ่ยปาก พวกเขาก็ต้องส่งยอดฝีมือที่แข็งแกร่งมาสังหารหลิงหยุนเป็นแน่!
แม้หลงเทียนเจียวจะโกรธหลิงหยุนมากเพียงใด แต่สีหน้าของเขากลับมีแต่รอยยิ้ม และแววตาที่เต็มไปด้วยความจริงใจ
“น้องหลิง.. ไม่รู้ว่าเจ้าพอจะมีเวลาไปที่เมืองหลวงสักสองสามวันหรือไม่? ข้าจะได้เตรียมตัวเป็นเจ้าบ้านที่ดีพาเจ้าเที่ยวให้ทั่วเมืองหลวง..”
หลงเทียนเจียวต้องการให้หลิงหยุนไปเป็นแขก และเริ่มคิดหาหนทางติดต่อกับบหลิงหยุน
หลิงหยุนยิ้มเล็กน้อยพร้อมตอบกลับไปว่า “ตอนนี้ข้าไม่มีเวลา ส่วนเรื่องของอนาคตก็ปล่อยให้เป็นเรื่องของอนาคต..!”
หลังจากพูดจบ หลิงหยุนก็เดินโอบร่างที่เย้ายวนของหลินเมิ่งหานกลับเข้าไปในบ้าน โดยไม่สนใจหลงเทียนเจียวเลยแม้แต่นิดเดียว หลิงหยุนไม่แม้แต่จะกล่าวคำร่ำลาด้วยซ้ำไป..
หลงเทียนเจียวมองหลิงหยุนเดินกลับเข้าบ้านไปด้วยใบหน้าที่ยิ้มแย้มสดใส แต่แววตากลับเต็มไปด้วยความเย็นชา และเป็นประกายดุร้ายขึ้นมาวูบหนึ่ง
‘หลิงหยุน.. รอให้ข้ากลับไปสืบหาประวัติของเจ้าเสียก่อนเถอะ แล้วข้าจะหาทางเล่นงานเจ้า ข้าจะทำให้เจ้าต้องร้องขอความเมตตาจากข้าเลยเชียวล่ะ!’
และนั่นคือความคิดที่แท้จริงของหลงเทียนเจียว!
จะไม่ให้หลงเทียนเจียวเกลียดชังหลิงหยุนได้อย่างไรกัน? สำหรับเขาหลิงหยุนไม่ต่างจากแมลงสาบตัวหนึ่ง แต่เพราะคำสั่งลับของตระกูล เขาจึงต้องกัดฟัน และกลืนเลือดไว้ ได้แต่ฝืนยิ้มสดใสมองหลิงหยุนขโมยคู่หมั้นของตนเองไป อีกทั้งเขายังต้องเป็นฝ่ายยกเลิกการแต่งงานในครั้งนี้..
แม้กระทั่งเขายอมลดตัวยกรถหรูให้เพื่อเป็นการผูกสัมพันธไมตรี แต่หลิงหยุนกลับปฏิเสธ!
การกระทำของหลิงหยุนนั้น เท่ากับเป็นการไม่ไว้หน้าเขาเลยแม้แต่น้อย!
หลิงหยุนที่กำลังจะเดินเข้าบ้านไปนั้น จู่ๆก็หันไปมองหลงเทียนเจียว และพูดขึ้นว่า “หลงเทียนเจียว.. วันนี้ถ้าเจ้ารู้สึกไม่พอใจข้า เจ้าก็กลับมาแก้แค้นข้าได้ตลอดเวลา และข้าก็จะไม่นึกตำหนิเจ้าแม้แต่น้อย!”
‘แต่ข้าจะฆ่าเจ้า!’ และนี่คือคำพูดที่ไม่ได้หลุดออกจากปากของหลิงหยุน
เมื่อเห็นหลิงหยุนหันหน้ากลับมา.. หลงเทียนเจียวก็รีบปรับสีหน้าให้มีความจริงใจและรอยยิ้ม ความเย็นชาและขุ่นเคืองบนใบหน้าเมื่อครู่นี้จางหายไปในทันที เขาตอบหลิงหยุนด้วยรอยยิ้มที่สุดใส
“น้องหลิงเจ้านี่มีอารมณ์ขันไม่เบาเลยทีเดียว.. ข้าจะทำเช่นนั้นได้อย่างไรเล่า?”
ลักยิ้มแก้มซ้ายของหลิงหยุนสั่น และตอบกลับไปเสียงเบา “ถ้าเป็นแบบนั้นก็ดี..”
หลงเทียนเจียวไม่รู้ว่า แม้หลิงหยุนจะหันหลังกลับ แต่เขาก็สามารถใช้จิตหยั่งรู้จับตาดูทุกการเคลื่อนไหวของหลงเทียนเจียวได้ สีหน้าที่เปลี่ยนไปของเขานั้น หลิงหยุนจึงเห็นได้อย่างชัดเจน!
หลงเทียนเจียวผู้น่าสงสาร.. ช่างไม่รู้เลยว่า หลิงหยุนมีกระทั่งตาหลัง และเป็นดวงตาที่เปิดกว้างเสียด้วย!
หลิงหยุนและหลินเมิ่งหานเดินกลับเข้าไปในบ้าน ส่วนหลงเทียนเจียวก็ขับรถออกไป และเสียงเครื่องยนต์ของรถ Bentley ก็ดังกระหึ่ม
“ทำไม่ข้าถึงรู้สึกว่าดวงตาและรูปร่างของหลิงหยุน ช่างคล้ายกับยอดฝีมือลึกลับที่ข้าพบที่อยู่บนเรือลาดตระเวนเมื่อคืนนี้นัก เหมือนมากจริงๆ?!”
“แม้กระทั่งการตบหน้าข้า ก็คล้ายกับที่ยอดฝีมือลึกลับตบหน้าเฉินเจี้ยนโหยว..”
หลงเทียนเจียวได้แต่ลูบไล้ใบหน้าที่บวมเป่งของตัวเอง พร้อมกับพึมพำเบาๆ
และแน่นอนว่า.. ทั้งหมดนี้หลิงหยุนไม่ได้ยิน!