แดนนิรมิตเทพ บทที่ 474
ลุงสุ่ยสีหน้าเคร่งเครียด แอบชั่งน้ำหนักความสามารถของตัวเองกับเหรินเทียนหยู่อยู่ภายในใจ “จากการโจมตีเมื่อกี้ พลังของเขาอย่างน้อยก็อยู่ที่แดนในชั้นสูงสุด!แม้แต่ฉันหากต้องเผชิญหน้ากับฝ่ามืออรหันต์เมื่อกี้นี้ ถึงแม้จะไม่ถูกทำร้ายโจมตี แต่ก็คงไม่สามารถต้านได้ง่ายดายเช่นนี้ ดูแล้วพลังของเขาคงจะอยู่เหนือกว่าฉัน!”

คุณชิวสีหน้าตกตะลึง เหมือนไม่กล้าเชื่อ สายตาที่มองเหริยเทียนหยู่เต็มไปด้วยความตกใจ “เป็นไปได้ยังไง? นายทำลายฝ่ามืออรหันต์ของฉันได้อย่างง่ายดายเช่นนี้?”

“ถึงแม้นายจะอยู่แดนในชั้นสูงสุด ก็ไม่มีทางสามารถทำลายฝ่ามืออรหันต์ของฉันได้ง่ายดายเช่นนี้ นอกจากว่านายจะอยู่ระดับปรมาจารย์แดนแปรภาพ!”

คุณชิวดูเหมือนมีความมั่นใจต่อท่าไม้ตายของตัวเองมาก แม้ความจริงจะวางอยู่ตรงหน้า เขาก็ยังไม่ยอมเชื่อ

ผู้อาวุโสคนนั้นที่เป็นลูกน้องของเหรินเทียนหยู่ ยิ้มเยาะ “หากอยู่ต่อหน้าพลังที่มากพอ ไม่ว่ากระบวนท่าของนายจะเก่งกาจแค่ไหน ก็ไร้ประโยชน์!”

“แม้ว่าคุณท่านของเราจะอยู่แค่ระดับแดนในชั้นสูงสุด แต่กำจัดนาย อย่างมากใช้เพียงแค่สองหมัดก็พอ แล้วยังเป็นรูปแบบที่ไม่ใช้กระบวนท่าใดๆด้วย แค่นาย คิดอยากจะต่อสู้กับคุณท่านของฉัน ฝึกฝนอีกร้อยปีก็ทำไม่ได้!”

คุณชิวถูกเยาะเย้ยจนหน้าแดงก่ำ เหรินเทียนหยู่อายุเพียงแค่สามสิบต้นๆ แต่เขาอายุมากกว่าครึ่งร้อยแล้ว ต่อหน้าผู้มีอิทธิพลในเขตเจียงหนานมากมายเช่นนี้ กลับถูกเด็กรุ่นหลังเอาชนะในหมัดเดียว ต่อไป เขาจะยังมีหน้าอะไรอยู่ที่เขตเจียงหนานต่อไป?

“ไม่ ฉันไม่เชื่อ เอาอีกครั้ง!”

โจวเทียนวั่งที่อยู่ในกลุ่มผู้คนสีหน้าเครียด ตะโกนเสียงเข้มว่า “คุณชิวกลับมา เรื่องแพ้ชนะเป็นเรื่องปกติ อย่าได้ใจร้อน!”

หานักบู๊มาเป็นบอดี้การ์ดไม่ใช่เรื่องง่าย การหานักบู๊แดนในยิ่งหายากขึ้นกว่าเดิม โจวเทียนวั่งไม่อยากให้คุณชิวได้รับบาดเจ็บ ถ้าหากต้องมาตายอยู่ที่นี่ สำหรับเขาแล้วเป็นการสูญเสียที่มากเกินไป

แต่ว่า คุณชิวดื้อรั้นหัวชนฝาไปแล้ว ไม่รับฟังคำห้ามปราบของโจวเทียนวั่งแล้ว

“ไม่ ผมไม่เชื่อ ผมจะลองอีกครั้ง!”

คุณชิวสีหน้าก้าวร้าว มองเหรินเทียนหยู่ที่สีหน้าเรียบเฉยแล้วตะโกนว่า “ไอ้หนุ่ม มาอีกรอบ!”

“ฝ่ามืออรหันต์!”

ครั้งนี้ คุณชิวใช้พลังชี่แท้ทั้งหมดในร่างกาย พลังแข็งแกร่งมากกว่าการใช้ฝ่ามืออรหันต์มากกว่าครั้งแรก ถ้าหากว่าถูกลุงสุ่ยเอาชนะ เขาไม่มีอะไรจะเถียง แต่ถ้าหากมาแพ้ให้กับเด็กรุ่นหลัง ศักดิ์ศรีของคุณชิวไม่เหลือเลยจริงๆ!

“ไม่รู้จักชั่วดี!” เหรินเทียนหยู่สายตาเย็นยะเยือก ครั้งนี้ไม่เป็นเพียงแค่ฝ่ายผู้ป้องกัน แต่ก้าวออกไปข้างหน้าก้าวหนึ่ง จากนั้นก็ปล่อยหมัดออกไป

ปึง!

พรูด!

เสียงดังสนั่น คุณชิวกระอักเลือดออกมา กระเด็นลอยออกไป แล้วตกลงที่ขั้นบันไดหน้าประตู จากนั้นก็สลบไป!

เพียงสองหมัด เอาชนะคุณชิวผู้อยู่ระดับแดนในชั้นสมบูรณ์!

ทุกคนต่างตกตะลึง มองดูเหรินเทียนหยู่ ไม่กล้าที่ส่งเสียงใดๆออกมาเลย

“เก่งมากเกินไปแล้ว!”

“หมัดแรกเหมือนว่าเขาจะออมมือแล้ว ไม่งั้นคุณชิวคงไม่สามารถต้านทานหมัดของเขาได้!”

“พระเจ้า เขาเก่งขนาดนี้ งั้นตระกูลมู่หรงก็อันตรายแล้วนะสิ!”

พวกผู้มีชื่อเสียงในเขตเจียงหนานต่างหันไปมองมู่หรงเค่อพร้อมกันโดยไม่ได้นัดหมาย แววตาซับซ้อน มีบางคนแอบถอยหลังเล็กน้อย จงใจเว้นระยะห่างออกมาจากมู่หรงเค่อ

มู่หรงเค่อสีหน้าแข็งกร้าวอย่างที่สุด รีบหันไปมองลุงสุ่ย แล้วพูดเสียงเข้มว่า “ลุงสุ่ยครับ คุณมีความมั่นใจมั้ย?”

ลุงสุ่ยสีหน้าเด็ดเดี่ยว “ถ้าหากเป็นสมัยที่ผมรุ่งโรจน์ โอกาสแพ้ชนะครึ่งๆ แต่ว่าตอนนี้….กระผมทำได้แค่พยายามรั้งเขาไว้เท่านั้น!”

พูดถึงขนาดนี้ ชัดเจนมากที่สุดแล้ว ความหมายของลุงสุ่ยก็คือให้มู่หรงเค่อหนีไป

แต่ว่า ที่นี่ก็คือวิลล่าชิงหลง เป็นฐานทัพใหญ่ของตระกูลมู่หรง แล้วจะหนีไปไหนได้อีก?

แล้วด้านข้างยังมีผู้อาวุโสคนนั้นที่พลังความสามารถอ่อนแอกว่าลุงส่ยเพียงน้อยนิดอีกด้วย คนของตระกูลมู่หรง ไม่มีใครสามารถหนีรอดไปจากเหรินเทียนหยู่ได้

ความหวังเดียวของมู่หรงเค่อในตอนนี้ ก็คือลุงสุ่ยสามารถเอาชนะได้

ลุงสุ่ยหันมองมู่หรงเค่อเป็นครั้งสุดท้าย แววตามีความเศร้าใจ เหมือนกับว่ากำลังบอกลา

“เศษซากสมาคมซานเหอ ข้ามาประลองกับนายเอง!”

ลุงสุ่ยพุ่งตัวเข้าไป หยุดลงตรงหน้าเหรินเทียนหยู่ห้าเมตร ตั้งท่าต่อสู้ แต่กลับเป็นท่าของการป้องกัน