ตอนที่ 379 อาวุธลับซิวหลัว

ท่านอ๋องผู้โหดร้ายกับหมอปีศาจ

— ตูม!  ตูม!  ตูม! —

ทุกที่ที่มังกรเพลิงสีแดงไปถึง พวกเขาไม่อาจต้านทานได้

“วิ่ง!” พวกเขาถูกมังกรเพลิงสังหารทำให้ได้รับบาดอย่างเจ็บสาหัส ความคิดเดียวในตอนนี้ก็คือวิ่งหนีไป

ร่างสีม่วงพุ่งเข้ามาปิดกั้นเส้นทางด้านหลังของพวกเขาอย่างรวดเร็ว ทันใดนั้นฝ่ามือตบลงมา “ทักษะตี้ซวน!”

— ปัง!  ปัง!  ปัง! —

พวกเขากระอักเลือดขณะที่ร่างเอียงตกลงไปในน้ำทะเล พวกเขาร้องโหยหวนอยู่ในใจ ‘สตรีวิปริตผู้นี้มาจากที่ใดกัน ?!’

คนเรือก็ตกใจเช่นกัน ดูท่าเขาจะกังวลไปเสียเปล่าแล้ว แม่นางร่างน้อยผู้นี้เก่งยิ่งนัก

— พรืด! —

คนพวกนั้นที่ประสงค์จะได้สตรีงามมาครอบครองข้างกายต้องตกอยู่ในสภาพ ‘ลูกหมาตกน้ำ’

มู่เฉียนซีเวลานี้ไม่รอช้า นางกระโดดลงไปดิ้นรนอยู่ในน้ำทะเล นางนั้นใจดีช่วยพวกเขาขึ้นมา แต่เมื่อพวกเขาเห็นนางพลันเบิกตากว้างดวงตาปูดโปนราวกับเห็นผีสางอย่างไรอย่างนั้น พวกเขาไม่มีอารมณ์ที่จะชื่นชมความงามของสตรีนางนี้อีกต่อไปแล้ว

“มะ… แม่นาง ไว้ชีวิตข้าด้วยเถิด”

“พวกเราไม่กล้าอีกแล้ว”

“ใช่แล้ว ใช่ ๆ…”

มู่เฉียนซีจ้องมองไปที่พวกเขาอย่างเกียจคร้าน นางกล่าวช้า ๆ “ทั่วทั้งเขตทะเลอั้นเจียวเป็นทะเลที่วุ่นวายที่สุดในรอบ ๆ ทวีปเซี่ยโจว นี่เป็นสถานที่หนึ่งที่มีทั้งคนดีคนเลวปะปนกัน แต่น่าจะมีคนที่เป็นใหญ่กว่าผู้อื่น บอกข้ามาว่าใครคือคนที่มีอำนาจมากที่สุดในเขตทะเลอั้นเจียว ?”

นางกําลังตามหาหม้อเทพนิรันดร์ หุบเขาหมอเทวดาก็กําลังตามหาอยู่เช่นกัน คู่ต่อสู้ของนางคือทั้งหุบเขาหมอเทวดา หากนางคนเดียวตามหาในเขตทะเลทั้งสามแห่งอย่างช้า ๆ นางก็ไม่รู้ว่าจะหามันเจอเมื่อใด

ดังนั้น จำเป็นยิ่งนักที่นางจะต้องพึ่งพากองกําลังพื้นเมืองที่คุ้นเคยกับสามพื้นที่ทะเล

หนึ่งในพวกเขากล่าวว่า “ผู้นำของเขตทะเลอั้นเจียวของพวกเราคือ ท่านผู้นำเมี่ยอวิ๋น”

“ข้าคิดว่าพวกเจ้าคงรู้ว่าเขาอยู่ที่ไหน” มู่เฉียนซีแค่นเสียง

“รู้ เรารู้!”

— ปับ!  ปับ!  ปับ! —

ยาพิษหลายเม็ดถูกยัดเข้าไปในปากของพวกเขา มู่เฉียนซีกล่าวอย่างเย็นชา “ฮิ ๆ ในเมื่อรู้ เช่นนั้นก็พาข้าไปเสียดี ๆ  ไม่อย่างนั้นแล้ว การที่พิษเข้าตัวจะนำพาให้ตนถึงแก่ความตาย รสชาติของมันคงไม่ได้ดีนัก ข้ารับรองเลย”

“ได้!” พวกเขาพยักหน้าอย่างเร่งรีบ

คนเหล่านี้นําทางมาอย่างว่าง่าย  ในที่สุดก็มาถึงจุดหมาย พวกเขาชี้ไปด้านหน้า  กล่าวว่า “ข้างหน้านี้… ข้างหน้านี้คือเกาะส่วนตัวของท่านผู้นำเมี่ยอวิ๋น”

มู่เฉียนซีดันร่างพวกเขาทั้งหลายให้นำไปและนางเตรียมตัวขึ้นไปยังเกาะ  ขณะนั้นเอง คนเรือกล่าวขึ้นมา “แม่นาง ช้าก่อน…  ข้าแล่นเรือในทะเลมาหลายปี  ข้าเคยได้ยินตํานานของเกาะนี้มาก่อน นี่คือเกาะซิวหลัว แม้แต่ระดับจักรพรรดิเข้าไปก็ไม่สามารถรอดชีวิตออกมาได้ สตรีอายุยังน้อยและพลังระดับเจ้า ช่างน่าเสียดาย อย่างไรเจ้าก็อย่าเข้าไปเสี่ยงเลย”

เมื่อได้ยินคํากล่าวเตือนของคนเรือ สีหน้าของคนเหล่านั้นก็ขาวโพลนด้วยเพราะเกิดความกลัวขึ้นมา

ทว่ามู่เฉียนซีกลับมีท่าทางปกติ นางกล่าวอย่างเย็นชา “พวกเจ้าคิดอยากให้ข้าเข้าไปตายข้างในแล้วพวกเจ้าก็จะรอดชีวิตได้ใช่หรือไม่ ?”

พวกเขาร้องไห้ ละล่ำละลักกล่าวว่า “ฮือ พวกข้าจะกล้าหลอกลวงเจ้าได้อย่างไรเล่า ? ท่านผู้นำเมี่ยอวิ๋นอยู่บนเกาะแห่งนี้  เพียงแต่เกาะนี้น่ากลัวมากอย่างแท้จริงดังที่ผู้เฒ่าคนเรือผู้นั้นกล่าวไว้  พวกข้าขอกลับไปได้หรือไม่ ?  เมื่อท่านผู้นำเมี่ยอวิ๋นออกมาแล้ว ถึงเวลานั้นเจ้าก็ไปหาเขา”

มู่เฉียนซี “ข้าไม่มีเวลาเหลือเฟือเพียงนั้น ในเมื่อเขาอยู่ข้างใน เช่นนั้นพวกเจ้าก็นำทางข้าไปโดยเร็ว”

“ฮือ แม่นาง เจ้าไว้ชีวิตพวกข้าเถอะ! เข้าไปอาจจะตายได้”

มู่เฉียนซีจะปล่อยพวกเขาไปอย่างง่ายดายเช่นนั้นได้อย่างไร  นางส่ายหน้า จับพวกเขาไว้และเดินเข้าไปข้างในอย่างไม่กลัวเกรง

เมื่อพวกเขาก้าวเข้าสู่เกาะแห่งนี้ในอึดใจต่อมา อาวุธลับนับไม่ถ้วนก็ลอยเข้าใส่ทันที!  ความเร็วของอาวุธลับนี้ไม่ได้จัดว่าเร็วมากนัก มู่เฉียนซีใช้ย่างก้าวพันเงาเพื่อหลบหลีกมัน

ทว่าคนอื่น ๆ บางคนไม่ได้โชคดีหรือมีความสามารถอย่างนาง ความรวดเร็วของพวกเขาไม่เพียงพอ หลบหลีกช้าไปเพียงก้าวเดียวก็ถือว่าไม่ทันได้หลบแล้ว  เคราะห์ร้ายนัก มันไม่ใช่แค่เพียงได้รับบาดเจ็บสาหัส แต่พวกเขาที่หลบไม่ทันถูกฆ่าตายโดยการโจมตีเดียว พวกเขาสำลักฟองสีขาวออกมาด้วยความกลัวและสลบไป มู่เฉียนซีมองไปที่เกาะข้างหน้าที่มืดสนิท นางเข้าใจดีว่าเกาะนี้จะกลายเป็นเส้นทางซิวหลัวที่จำต้องตายหากไม่ระวังตัว เพราะเกาะนี้เต็มไปด้วยอาวุธลับที่เป็นอันตรายมากมาย

ไม่เพียงเท่านั้น อาวุธลับเหล่านี้ยังมีพิษร้ายแรงที่ปกคลุมอยู่  แต่อย่างไรก็ตาม นางรู้สึกได้ว่าฝ่ายตรงข้ามเป็นยอดฝีมือที่ถนัดการใช้อาวุธลับแต่ไม่ค่อยถนัดในเรื่องพิษ ด้วยเพราะอาวุธลับที่พุ่งเข้ามาโจมตีทำให้นางรู้ว่าเจ้าของอาวุธไม่ใช่ยอดฝีมือที่ใช้ยาพิษชำนาญ นางเห็นชัดว่าพิษเหล่านี้ไม่ค่อยเป็นที่นิยมนัก

มู่เฉียนซีกล่าวขึ้นว่า “พวกเจ้าไม่มีประโยชน์อะไรแล้ว ไปรอข้างนอกไป!  แต่หากข้าไม่สามารถมีชีวิตรอดออกมาได้ พิษบนตัวเจ้าก็จะระเบิดออกมา ดูแลตัวเองก็แล้วกัน”

พวกเขาทั้งหลายนั้น ไม่ง่ายเลยที่จะรอดชีวิตได้ และต้องตกใจอีกครั้งเมื่อได้ยินคํากล่าวที่เหมือนตัดสินชะตากรรมของพวกเขาจากปากมู่เฉียนซี

พวกเขาตะโกนก้อง “แม่นาง เจ้าต้องกลับมามีชีวิตให้ได้ ข้ายังมีแม่ที่อายุร้อยปีต้องดูแล และมีบุตรชายเพิ่งจะเกิดได้เพียงหนึ่งเดือน ไม่อยากที่จะต้องตายเร็วเช่นนั้นเลย”

เมื่อพวกเขาได้สติ มู่เฉียนซีก็หายไปจากสายตาของพวกเขาเสียแล้ว

— ฟึ่บ!  ฟึ่บ! —

อาวุธลับนับไม่ถ้วนพุ่งมาราวกับห่าฝนที่ผสมกันทั้งแนวตั้งแนวนอน มู่เฉียนซีรีบหลบการโจมตีทันที ความเร็วของอาวุธลับนี้ไม่สามารถทําร้ายนางได้  และนางก็ตัดสินใจที่จะใช้พิษโจมตีพิษ  ทันใดนั้นบางอย่างที่ซ่อนในแขนเสื้อของนางลอยออกไปขวางอาวุธลับที่ลอยออกมา

— แกร๊ง! —

อุปกรณ์อาวุธลับเหล่านี้ จัดให้พวกองครักษ์เงาแบบเต็มชุดชุดหนึ่ง ส่วนที่นางนั้นยังมีอยู่อีกหลายชุด เพียงแต่ว่าปกติแล้วนางไม่ค่อยได้นำออกมาใช้

เวลานี้นางได้พบกับผู้เชี่ยวชาญการใช้อาวุธลับ มู่เฉียนซีไม่รังเกียจที่จะประลองฝีมือกับเขาสักหน่อย

เงาร่างสีม่วงเคลื่อนไหวรวดเร็วราวสายฟ้าแลบ เกาะแห่งนี้ทุกทิศทางเต็มไปด้วยกับดักซุ่มโจมตี  ทุก ๆ จุดนางต้องระวังตัวอย่างมีสมาธิ

เวลานี้นางตระหนักแล้วว่าที่แห่งนี้อันตรายอย่างแท้จริง หากราชาแห่งภูตระดับหนึ่งธรรมดา ๆ บุกเข้ามาคงต้องตายอย่างแน่นอน  แต่ว่านี่คือมู่เฉียนซีผู้ซึ่งสามารถลงมือโจมตีในด้านนี้ได้เช่นกัน ดังนั้นการต่อสู้จึงเริ่มขึ้น

— ปัง! —

หลบ  พุ่ง  ทําลาย  ในหนึ่งลมหายใจราวกับเมฆและสายน้ำที่ลื่นไหลอย่างคล่องแคล่ว

ยิ่งเข้าไปลึกมากเท่าไหร่ มู่เฉียนซีก็ชื่นชมความเก่งกาจของอาวุธลับของเจ้าของเกาะนี้มากเท่านั้น

ร้ายกาจดีแท้!

เมื่อมู่เฉียนซีเดินมาถึงจุดหนึ่งของเกาะที่ดูปกติดีไม่มีอาวุธใดพุ่งมาโจมตี ก็ได้เห็นคนผู้หนึ่งกําลังอาบน้ำอยู่ในสระน้ำ พลันนางรู้สึกได้ถึงอะไรบางอย่าง ร่างกายของเขาเต็มไปด้วยรอยแผลเป็นอันน่ากลัว อีกทั้งใบหน้าก็ดูไม่ธรรมดาเลย

ใบหน้าแววตาของเขาฉายแววเคร่งเครียด  มีศัตรูที่แข็งแกร่งบุกเข้ามา และได้บุกมาถึงครึ่งทางแล้ว

ความแข็งแกร่งของคนที่กำลังอาบน้ำผู้นี้อย่างน้อยก็อยู่ในระดับจักรพรรดิ ดวงตาของเขาฉายแววเย็นยะเยือก เขาอยากจะรู้นักว่าผู้ใดกันที่ไม่รู้จักตายถึงได้บุกเข้ามา

— แครก —

กลไกของเกาะเปลี่ยนไปในพริบตา มู่เฉียนซีพบว่าอาวุธลับเหล่านี้มีพลังการเข่นฆ่าเพิ่มขึ้นอย่างมาก  นางต้องดึงดาบมังกรเพลิงออกมาใช้เสียแล้ว

แม้ว่าอาวุธลับของนางจะไม่เลว แต่วันนี้ได้พบกับผู้เชี่ยวชาญการต่อสู้และการใช้อาวุธลับโดยตรง ดังนั้นนางจึงไม่สามารถพึ่งพาวิธีการโจมตีด้วยยาพิษได้ นางจะต้องแสดงความสามารถที่แท้จริงออกมาให้ได้

— แกร๊ง!  แกร๊ง!  แกร๊ง! —

อาวุธลับถูกส่งออกมาอีกแล้ว ทว่ากระบี่มังกรเพลิงขวางมันไว้

“บุปผาหลั่งสายฝน!”

“วารีสะท้านสวรรค์!”

“มังกรวารีพิฆาต!”

“ทักษะตี้ซวน!”

มู่เฉียนซีเคลื่อนกายไปมาท่ามกลางการโจมตีด้วยอาวุธลับอันน่าสะพรึงกลัว พลังธาตุวารีไหลออกมาอย่างต่อเนื่องและเริ่มตอบโต้กลับ

เมี่ยอวิ๋นมั่นใจอย่างมาก  การโจมตีด้วยอาวุธลับอย่างไม่มีที่สิ้นสุดเช่นนี้เพียงพอที่จะทําให้ระดับจักรพรรดิสิ้นเปลืองพลังได้  แต่มู่เฉียนซีที่พุ่งเข้ามานั้น นางกลับกินยาฟื้นฟูพลังและสู้ยิบตาจนเมี่ยอวิ๋นจำต้องสิ้นเปลืองพลังของอาวุธลับเหล่านี้ไป

เมื่อสิ้นเปลืองพลังจากอาวุธลับจนหมดแล้ว  ยาเม็ดอันทรงพลังของแม่นางที่พุ่งเข้ามาทางเขานั้นยังไม่หมดไป

— แครก —

อาวุธลับระดับกลางถูกใช้ไปเกือบหมดแล้ว มู่เฉียนซีรีบวิ่งเข้าไปด้านในของเกาะอาวุธลับนี้ทันที

คิ้วของเมี่ยอวิ๋นขมวดเข้าหากัน  แม่นางผู้นั้นพุ่งตรงไปที่แกนหลักแล้ว!

.