บุตรอสูรบรรพกาล ตอนที่ 185 ข้ามเขต
“หม…” ขณะเดินทางเข้าไปยังเขตอสูรผาไร้ก้น อยู่ๆอสูรปักเป้าก็หยุดตามไปจูเหวินเสียอย่างนั้น ซึ่งกว่าไปจูเหวินจะรู้ตัว ออสูรปักเป้าก็ลอยห่างออกไปหลายร้อยเมตรแล้ว
“มีอะไรหรือเปล่านะ”ไปจูเหวินขมวดคิ้วพลางใช้ดวงตาสีน้ําเงินเพ่งมองจากระยะไกล อสูรปักเป้าตอนนี้ลอยเฉยๆอยู่บนท้องฟ้า ไม่แม้แต่จะตามไปจูเหวินมาเหมือนปกติ แต่เพราะอสุรปักเป้าลอยอยู่สูงมาก แถมจะให้คุยกันก็ไม่ได้ไปจู เหวินเลยได้แต่ปล่อยให้อสูรปักเป้าลอยอยู่ตรงนั้นไปก่อน
“กลิ่นอายอสูรรุนแรงมาก” อสูรหมีขาวว่าพลางชะลอผี เท้าลงอาจจะเพราะใกล้จะถึงขอบหน้าผาแล้ว เหล่าอสูรงสามารถสัมผัสพลังของพวกท่านน้าได้ แถมพวกท่านน้าไม่เหมือนอสูรปักเป้าหรือมารดาของมันที่ไม่ได้ปล่อย พลังออกมาสร้างเขตอสูร เพราะพวกท่านน้าต่างมีเขตอสูรเป็นของตนเองแต่แรกแล้ว แต่จะว่าไปอสูรบรรพกาลแต่เดิมทั้ง 3 ตนทําไมถึงไม่ได้สร้างเขตอสูรของตนเองกันนะ….
“นายน้อย ท่านแน่ใจนะว่าพวกเรามาถูกทาง” อสูรกบถามพลางกระโดดขึ้นมาข้างๆหลินหลินอย่างยากลําบากพวกมันต่างเป็นอสูรระดับสูง ยิ่งหมีขาวเป็นอสูรระดับมายา ขั้นที่ 9 เรียกได้ว่าเป็นราชาของเขตอสุรที่หาได้ยากมากแล้ว แต่พลังที่ออกมาจากเขตอสุรผาไร้ก้นนั้นยังมากกว่าตัวมันเอ งเสียอีก
“ไม่ผิดหรอก เป็นที่นี่แน่ๆ”ไปจูเหวินยิ้มพลางลุกขึ้นยืนบนหลังของหลินหลินอีกที
พรึบ! พริบตานั้นตรงหน้าของเหล่าอสูรก็ปรากฏเงาดําขนาดใหญ่บดบังแสงอาทิตย์จนมิดเงาของตัวมันทาบเอาทั้งฝูงของอสูรที่แต่เดิมก็ตัวใหญ่มากแล้วจนแสงอาทิตย์ไม่ อาดสาดส่องกระทบพวกมันได้เลยแม้แต่ตัวเดียว
“อีก…”อสูรหมีขาวเหงื่อแตกพลักเพราะพลังอสูรที่ตรงเข้ามาเล่นงานพวกมัน
“จูเอ๋อ….”ไก่ฟ้าหงอนทองว่าพลางพุ่งตรงมาทางหลินหลินด้วยความเร็วสูง อสูรนึกษาขนาดยักษ์ที่พุ่งมาทําเอาแขกคนอื่นๆต่างตื่นตกใจเป็นอย่างมากโดยเฉพาะต้าชิงและต้าเฉินที่พึ่งเคยมาเป็นครั้งแรก
“เจ้าโตขึ้นมากเลย เราไม่ได้เจอกันกี่ปีแล้วนะ 5 ปี หรีอว่า 10 ปี”อยู่ๆอสูรรักษาขนาดมหึมาก็กลายร่างเป็นมนุษย์รูปร่างอ้วนท้วมอย่างรวดเร็ว แถมยังตรงเข้าไปกอดไปจู เหวินอีกต่างหาก
“ท่านน้า ครั้งล่าสุดที่ข้ามาหาท่านก็ไม่กี่เดือนเอง”ไปจูเหวินตอบพลางยิ้มเจื่อนๆ
“สําหรับข้ามันเหมือนเป็นสิบๆปีเลยนี่นา”ไก่ฟ้าหงอนทองว่าพลางขยี้ผมของไปจูเหวินอย่างเอ็นดู
“จริงสิท่านน้า ข้าพาอสูรพวกนี้มาจากอาราจักรซู ข้าอยากฝากพวกมันให้อาศัยอยู่ในเขตอสูรผาไร้ก้นด้วยได้หรือไม่”ไปจูเหวินถามพลางมอองน้าของมัน
“ทําไมจะไม่ได้ละ มาเถอะเข้ามาๆ “ไก่ฟ้าหงอนทองว่าพลางนั่งปุกลงบนหลังของหลินหลิน หากให้มันบินกลับไปเองคงใช้เวลาไม่กี่อึดใจ แบบนั้นมันได้โดนพวกราชาตนอื่นแย่ง พูดคุยกับไปจูเหวินเป็นแน่
“จูเอ๋อ เจ้ากลับมาแล้ว” แม้ไก่ฟ้าหงอนทองจะพยายามถ่วงเวลา แต่เหล่าราชาผู้มีประสาทสัมผัสเฉียบแหลมต่างทราบทันทีว่าไปจูเหวินกลับมาแล้ว แน่นอนว่าพยัคฆ์อัสนี นั้นย่อมมาไวที่สุดแม้จะไม่ทราบว่าทําไมน้าไก่ฟ้าถึงมาก่อน ก็ตาม
“จูเอ๋อ คิดถึงเจ้าจังเลย” จิ้งจอกเหมันต์ว่าพลางตรงเข้ามากอดไปจูเหวินเสียตัวกลม ขนหางทั้ง 9 ของนางเข้ามาโอบล้อมไปจูเหวินเอาไว้จนแทบจะกลายเป็นลูกบอลเลยที่เดียว
“ต้าชิงกับต้าเฉินที่พึ่งเคยมาเขตอสูรผาไร้กันเป็นครั้งแรกต่างมองด้วยความประหลาดใจ เหล่าอสูรมากมายต่างพากันมาต้อนรับราวกับพวกมันเป็นแขกผู้ทรงเกียร ติไม่มีผิด แม้แต่ราชาอสูรที่พวกมันหวาดกลัวยังไม่อาจทําเรื่องเช่นนี้ได้ นี่นายน้อยของพวกมันเป็นคนน่าเหลือเชื่อขนาดไหนกันแน่
“ท่านน้า…ทําไมเขตอสูรของพวกท่านถึงเปลี่ยนไปล่ะ” ขณะหลินหลินเดินมาถึงของหน้าผา อยู่ๆไปจูเหวิ นก็มองเห็นความเปลี่ยนแปลงของเขตอสูร โดนแต่เดิมเขตอสูรจะแบ่งเป็น 6 เขตคือ ปาเมฆาอัสนีปาวัฒนะภูเขาดํา เทือกเขาหิมะสันเขาทองคํา และ เขตของมารดามันที่เป็นที่ นที่รกร้าง แต่ยามนี้แม้ทั้ง 6 เขตจะยังคงสภาพเดิมเอาไว้ แต่เหมือนว่าเขตทั้ง 6 จะเริ่มเลื่อมล้ําเข้าหากันอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน
“เรื่องนั้น “น้าจิ้งจอกว่าพลางลูบหัวไปจูเหวินเบาๆ
“พวกเราตัดสินใจรวมเขตอสูรเป็นเขตเดียว แล้วให้มังกรธรณีเป็นราชาของเขตอสูรนี้ไปเลย” พยัคฆ์อัสนี้ตอบเพรตั้งแต่เลื่อนขึ้นมาเป็นระดับบรรพกาล พลังของพวกมัน ก็แกร่งกล้าขึ้นจนพื้นที่เขตอสูรของแต่ละตนเริ่มขายออกจนไม่อาจอยู่ร่วมกันได้อย่างเคย สุดท้ายพวกมันเลยตัดสินใจยกมังกรธรณีขึ้นมาเป็นราชาแล้วลดตัวลงเป็นเพียงอสูรในเขตเท่านั้น
“พวกท่านยอมด้วยงั้นหรือ”ไปจูเหวินถามเพราะตั้งแต่เด็กจนโตไปจูเหวินเห็นพวกท่านน้ากัดกันตลอดไม่เคยยอมกัน เลยจึงรู้สึกแปลกใจไม่น้อยที่พวกท่านน้ายอมตกลงได้
“ช่วยไม่ได้นี่นา ก็มีเจ้านั่นเป็นฝั่งเป็นฝาอยู่ตนเดียว”ราชสีห์เพลิงตอบพลางยักไหล่อย่างช่วยไม่ได้ แม้ความจริงพวกมันจะคิดแบบนี้มาตั้งแต่สู้กับหวงหลงมังกรทองแล้วก็ตาม
“เป็นฝั่งเป็นฝา…”ไปจูเหวินกระพริบตาปริบๆพลางหันไปมองพวกท่านน้าทั้ง
“จะว่ายังไงดีล่ะตอนนี้เจ้ากําลังจะได้น้องต่างสายเลือดแล้วละนะ”จิ้งจอกเหมันต์ว่าพลางหัวเราะเก้อๆ
“น้อง!”ไปจูเหวินเบิกตากว้างอย่างตกใจ เมื่อไหร่กัน หรือว่าจะเป็นราชินีมังกร
“เจ้าไม่ต้องร้อนรนไปหรอก กว่าไข่จะฟักก็คงอีกนับปี”ไก่ฟ้าหงอนทองว่าพลางหัวเราะเมื่อเห็นท่าที่ตกใจของไปจูเหวิ
“ข้าอยากเห็น”ไปจูเหวินว่าพลางมองมาทางน้าไก่ฟ้า
“ท่านน้า ท่านพาข้าไปหาท่านน้ามังกรหน่อย”ไปจูเหวินว่าพลางยิ้มกว้าง เรื่องเช่นนี้นับเป็นข่าวดีอย่างไม่ต้องสงสัยเลย
“ได้ พวกเจ้าขึ้นมาให้หมดเลย”ไก่ฟ้าหงอนทองว่าพลางแปลงกายเป็นไก่ฟ้าขนาดมหึมาอีกครั้ง โดยก่อนจะไปเหล่าราชาได้บอกให้เหล่าอสูรที่พึ่งเข้ามาใหม่สามารถแยกย้ายกันหาที่อยู่อาศัยตามที่ตนเองต้องการได้เลย
พรึบ! ร่างของไก่ฟ้าหงอนทองทะยานไปข้างหน้าอย่างรวดเร็วเพียงไม่กี่อึดใจพวกมันก็ได้เห็นต้นท้อของมังกรทองที่ตั้งอยู่กลางเขตอสูรได้แล้ว
“กลายเป็นเมืองไปแล้ว”ไปจูเหวินขมวดคิ้วพลางมองเขตอสูรที่อยู่ตรงหน้า ยามนี้เขตอสูรปรากกสิ่งก่อสร้างคล้ายๆปราสาทขึ้นมาล้อมต้นท้อของมังกรทองเอาไว้ แถมรอบข้างยังมีสวนท้อจํานวนมากจนทําเอาตรงกลางระหว่างเขตอสูร เก่ากลายเป็นสวนสีชมพูไปทั้งแถบนอกจากนี้ภายในเขตต้นท้อยังมีบ้านเรือนจํานวนหนึ่งถูกสร้างขึ้นมาใหม่อีกต่างหากราวกับว่ามันกลายเป็นถิ่นที่อยู่ของมนุษย์ไปเสียแล้ว
“ร่างหลักของพวกเรามีรูปร่างเป็นมนุษย์ไปแล้ว พวกเราเลยลองสร้างที่อยู่แบบมนุษย์ดู” พยัคฆ์อัสนี้เห็นไปงูเหวินประหลาดใจกับเมืองในเขตอสูรมาก มันเลยเล่าให้ฟังโดยพวกมันอาศัยเหล่าอสูรที่เคยออกไปหาข้อมูลในโลกมนุษย์มาสร้า งเมืองจําลองขึ้นมาโดยให้รางวัลพวกมันด้วยการให้อยู่อา ศัยในเขตเมืองด้วย
“ถึงแล้ว”ไก่ฟ้าหงอนทองว่าพลางร่อนลงมาที่ใต้ต้นท้อต้นใหญ่ที่สุดหรือก็คือต้นท้อของมังกรทองนั่นเอง
“นายน้อย ท่านกลับมาแล้ว” คนที่ไปจูเหวินเจอทันทีเมื่ออลงมายังเขตต้นท้อคือราชินีมังกรที่อยู่ในร่างของมนุษย์ตัวนางยามนี้ระดับพลังขึ้นมาเป็นระดับมายาแล้ว ช่างน่าเห ลือเชื่อจริงๆ
“ท่าน…”ไปจูเหวินลังเลอยู่ครู่หนึ่งไม่รู้จะเรียกนางว่าอะ
“เจ้าเรียกนางว่าน้าสะใภ้ก็ได้”จิ้งจอกเหมันต์ยิ้มพลางตอบคําถามที่ไปจูเหวินกําลังจะถามออกมาก่อน
“ท่านน้าสะใภ้ ยินดีที่ได้พบกัน”ราชินีมังกรได้ยินเช่นนั้นก็หน้าแดงเล้กน้อยกลายเป็นนางเสียเองที่ไม่ชินกับการถูกไปจูเหวินเรียกเช่นนั้น
“มาเถอะ มังกรธรณีอยากพบท่านจะตายอยู่แล้ว”ราชินี มังกรตอบพลางยิ้มบางๆความจริงมังกรธรณีอยากออกไปหาไปจูเหวินตั้งแต่แรกแล้ว แต่ด้วยนิสัยของมังกรที่ค่อนข้าง หวงไข่ทําให้มังกรธรณีได้แต่รออยู่ที่ปราสาทเท่านั้น
“จริงสิท่านน้าสะใภ้”ไปจูเหวินว่าพลางมองราชินีมังกรที่กําลังพาตนเองเข้าไปในปราสาท
“เจ้าคะ”ราชินีมังกรตอบรับพลางหันมามองไปจูเหวินราวกับจะถามว่ามันอยากจะพูดอะไร
“ท่านจะเรียกข้าว่าจูเอ๋อเหมือนท่านน้าคนอื่นๆก็ได้นะ”ได้ยินที่ไปจูเหวินพูด ราชินีมังกรก็พลันรู้สึกตื้นตันอย่างมาก นางได้อยู่กับพวกราชามานาน แทบจะโดนกรอกหูอยู่ทุกวันว่าพวกมันรักไปจูเหวินแค่ไหน แม้นางจะวางไข่ให้กับ มังกรธรณีแล้ว แต่หากไปจูเหวินไม่ชอบนางบางที่นางก็อาจจะอยู่ที่นี่ไม่ได้เสียด้วยซ้ํา
“จะ จูเอ๋อ…”ราชินีมังกรว่าพลางหันมามองไปจูเหวิน
“ขอรับท่านน้าสะใภ้”ไปจูเหวินยิ้มรับพลางพยักหน้าอย่างพึงพอใจ แน่นอนว่ามันไม่มีทางเกลียดราชินีมังกรได้หรอก
“ไปกันเถอะ น้าของเจ้ารอแย่แล้ว” ราชินีมังกรว่าพลางเปิดประตูบานหนึ่งในปราสาทออกอย่างรวดเร็วภาย ในนั้นปรากฏร่างของมังกรธรณีที่กําลังยืนอยู่ตรงหน้าไข่ สีแดงสดราวกับดอกกุหลาบโดยมันยังคงปล่อยพลังอสูรออกมารอบๆไม่ขาดอีกต่างหาก
“จูเอ๋อ”มังกรธรณียิ้มพลางเดินมารับไปจูเหวินในทันที
“ท่านน้า ขอแสดงความยินดีด้วยขอรับ”ไปจูเหวินว่าพลางยิ้มกว้าง
“ขอบใจ.มาสิ เข้ามาใกล้ๆ “มังกรธรณีว่าพลางพาไปจูเหวินเข้ามาใกล้ๆไข่ของราชินีมังกร ตัวไข่นั้นมีขนาดใหญ่เก อบจะเท่าๆกับตัวของไปจูเหวินเลยแถมด้านในยังส่งพลังอสูรออกมาไม่ขาดสายอีกต่างหาก ถึงจะยังอยู่ในสภาพไข่แต่ ก็ส่งพลังระดับหยกออกมาแล้วช่างสมกับเป็นไข่ของน้ามังกรจริงๆ
“ลองจับดูสิ”มังกรธรณีว่าพลางโอบไหล่ของไปจูเหวินเบาๆเพียงคําพูดสั้นๆก็แสดงความรักที่มันมีต่อไปจูเหวิ นได้อย่างชัดเจน เพราะนอกจากมันกับราชินีมังกรแล้วมัน ไม่ยอมให้ใครแตะไข่ของมันเลยแม้แต่เราราชาด้วยกัน แต่นั่นก็ดีมากแล้วเพราะอสูรตนอื่นๆแทบจะไม่ได้รับอนุญาตให้เข้ามาในเขตปราสาทเสียด้วยซ้ํา
“เหมือนกําลังดิ้นอยู่เลย” หลังจากเอามือจับไปบนไข่ สีแดงแล้วไปจูเหวินก็สัมผัสได้ถึงจังหวะหัวใจของทารกมังกรภายในไข่ได้อย่างชัดเจนมันทําให้ไปจูเหวินยิ้มและภาวนาว่าอยากให้ไข่ฟักออกมาอย่างปรอดภัย