บทที่ 118 เสี่ยงเซียมซ

อยากง้อเหรอ คุณสามี(เก่า)

คุณท่านตกใจไม่น้อย ไม่รู้ว่าควรดีใจหรือเสียใจดี

หลานชายของเขาคนนี้ที่ได้รับการอบรมมาสูงและไม่เชื่อในเรื่องพระเจ้า กลับตกปากรับคำว่าจะไปเสี่ยงเซียมซีทำนายดวง ดูก็รู้แล้วว่าเขาอยากที่จะรู้ว่าโชคชะตาของตัวเองกับหลินจือว่าหลังจากนี้จะเป็นยังไง

หรือยิ่งไปกว่านั้นก็คือ เขาปรารถนาที่จะได้ฟังคำตอบที่ดี ถ้าเป็นอย่างนั้นก็จะได้คลี่คลายความทรมานที่อยู่ในใจเขาตอนนี้

สี่ปีที่ผ่านมานี้ในที่สุดหลานชายของตัวเองก็เห็นความดีของหลินจือและรู้จักถึงความสำคัญของหลินจือด้วย คุณปู่ควรที่จะดีใจ

แต่พอคิดได้ขึ้นมาอีกหลินจือตอนนี้กำลังคบอยู่กับเจเทาวน์ ไม่แน่ว่าหลานชายตัวเองอาจไม่มีโอกาสอีกแล้วก็ได้ คุณท่านก็ให้รู้สึกเสียใจขึ้นมา

แต่ไม่นานคุณท่านก็ทำอารมณ์ให้กลับมาเป็นปกติ เขากำชับเทาเท่ว่า “งั้นเดี๋ยวแกขึ้นเขาไปกับฉันนะ อย่าเพิ่งไปบริษัท”

เทาเท่พูดอย่างไม่เข้าใจ “ขึ้นเขา?”

“ใช่น่ะสิ ไปเข้าวัดเสี่ยงเซียมซีทำนายดวง” คุณท่านอธิบาย “เจ้าอาวาสของวัดที่อยู่บนเขาเป็นเพื่อนสนิทฉันเอง ไปให้เขาดูให้เหมาะสมที่สุดแล้วล่ะ หนึ่งคือดูแม่น สองคือท่านสามารถเก็บเป็นความลับให้พวกเราได้”

เทาเท่ทำได้แค่ตกปากรับคำ

สถานที่ที่คุณท่านอยู่มีทิวทัศน์งดงามจับตา ไม่ไกลกันมากก็มีเขาอยู่ลูกนึง เป็นเขาท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงของเมืองเจสเวิร์ด

ได้ยินมาว่าวัดที่อยู่บนเขาตะเกียงธูปยังมีเยอะมาก ตลอดทั้งปีมานี้คุณท่านใช้ชีวิตอยู่คนเดียว ไม่มีอะไรทำก็ขึ้นเขาไปหาเจ้าอาวาสที่วัดเพื่อเล่นหมากรุก ไปมาหาสู่กันจนกลายเป็นเพื่อนสนิท

ตอนที่คนทั้งสองมาถึงที่วัด พระทุกองค์ในวัดเพิ่งจะสวดทำวัตรเช้าเสร็จ พอเห็นคุณท่านมาก็รีบเชื้อเชิญให้เขาไปที่ด้านหลังวัด

บริเวณรอบๆวัดตลบอบอวลไปด้วยกลิ่นธูป ในวัดมีต้นไม้หลายต้นที่สูงระฟ้า

เทาเท่ขมวดคิ้วเล็กน้อย เขาจะพูดได้ไหมว่าจริงๆแล้วเขาไม่ชอบสถานที่ที่ดูงมงายแบบนี้เลยสนิท? แต่ก็ไม่รู้ว่าทำไมเมื่อกี้ตัวเองถึงได้ตกปากรับคำกับคุณท่านว่าจะมาดูดวง

เทาเท่กลายเป็นคนที่ฝากชีวิตเอากับสถานที่แบบนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่ แต่ว่าก็ได้มาแล้วจึงทำได้แค่ตามคุณท่านไปเจอท่านเจ้าอาวาสนั้น

อายุของท่านเจ้าอาวาสกับคุณท่านนั้นใกล้เคียงกันมาก เคราเป็นสีขาวหมดแล้ว ท่าทางดูมีเมตตา

หลังจากที่คุณท่านอธิบายถึงการมาแล้ว พระนั้นก็ลูบเคลาไปมา ยื่นกระบอกไม้เซียมซีส่งให้เทาเท่ ให้เขาหยิบมาอันนึง

เทาเท่ทนหยิบออกมาไม้นึง พระตั้งใจดูอยู่ชั่วครู่

หลังจากที่ผ่านไปสักพักก็เอาเซียมซีที่อยู่ในมือให้เขา แล้วอ่านออกเสียงขึ้นมาว่า “ที่ลานบานเต็มไปด้วยเศษดอกไม้ ลดม่านลงเพื่ออยู่ในห้องนั้น ทนเห็นฤดูใบไม้ผลิที่ล่วงเลยไปไม่ได้ ดอกหญ้าค่อยๆลับขอบฟ้าไป คนที่อาลัยอาวรณ์อยู่ไกลสุดขอบฟ้า ช่างแสนเจ็บปวด”

“พ่อหนุ่ม นี่เป็นคำนายเซียมซี พ่อหนุ่มกับเด็กผู้หญิง ได้พบกันแต่ไม่มีวาสนาต่อกัน”

“ทำใจเสียเถิดพ่อหนุ่ม หาคนอื่นเถอะ”

หลังจากที่พระพูดจบ คุณท่านก็รีบร้อนขึ้นมาก่อน หยิบไม้เซียมซีเพื่อดูอักษรที่อยู่บนนั้นอย่างละเอียด

ไม่ใช่คำที่ดีจริงๆ……

“ไร้สาระ!” หลังจากที่เทาเท่เงียบอยู่นานเขาโกรธและลุกขึ้นยืน หันตัวออกไปอย่างไม่เกรงใจ

เซียมซีเสี่ยงทายบ้าอะไร เขาให้รู้สึกเสียใจที่มากับคุณท่านที่นี่

ดวงชะตาของเขาตัวเขาเองเป็นคนกำหนด โชคชะตาของเขากับหลินจือเขาก็เป็นคนกำหนดเอง

“นี่ๆ ไอ้หลานบ้า!” คุณท่านด่าตามหลังเขา “ทำไมไม่มีมารยาทอย่างนี้ล่ะ!”

เทาเท่คร้านที่จะสนใจ ก้าวขายาวเดินออกจากประตู

วัดบ้าอะไร!

วันหลังเขาจะไม่มาเหยียบที่นี่อีกเลย!

คุณปู่เดินตามหลังออกมาแล้วพูดอย่างไม่พอใจว่า “แกหงุดหงิดอะไรนักหนา?”

“เซียมซีแกก็เป็นคนจับเอง ท่านเจ้าอาวาสแค่ช่วยอ่านคำเสี่ยงทายให้เท่านั้น แกโกรธอะไร?”

“จะว่าไปเรื่องของความรู้สึกก็ต้องให้ความสำคัญกับพรหมลิขิตอยู่แล้ว พรหมลิขิตดีๆแต่แกพลาดเอง ตอนนี้รับไม่ได้ขึ้นมามันจะมีประโยชน์อะไร?”

เดิมทีเทาเท่อารมณ์ไม่ดีอยู่แล้ว คำพูดของคุณท่านไปสะกิดต่อมในใจของเขา เขาเลยพูดขึ้นว่า “ผมจะกลับแล้วนะ คุณปู่จะลงเขาไหม?”

คุณท่านพูดอย่างไม่สบอารมณ์ “แกไสหัวไปเถอะ ฉันจะเล่นหมากรุกกับเจ้าอาวาสสักหน่อย”

เทาเท่ก็เข้าไปนั่งในรถไม่หันกลับมามอง ให้คนขับรถพาเขาส่งลงเขา

เพราะคำทำนายของเมื่อเช้า อารมณ์ของเทาเท่เลยไม่ดีทั้งวัน

หลังจากที่เข้าบริษัทแล้ว จอนห์กับควีนต่างก็ไม่กล้าสักถามอะไรเขา คนทั้งสองเห็นข่าวที่หลินจือกับเจเทาวน์คบกันแล้ว แม้ว่าคนทั้งสองจะตกใจ แต่ก็ทำได้แค่ยอมรับมัน

ควีนยังตั้งใจโทรหาหลินจือเพื่อถามไถ่ หลินจือก็ยอมรับว่าคบกันจริง

ควีนก็ให้รู้สึกเสียใจไปด้วย ในฐานะที่เป็นคนสนิทของเทาเท่ เธอก็หวังให้หลินจือกับเทาเท่กลับมาเป็นเหมือนเดิม

แต่ว่าเรื่องของความรักก็ทำได้แค่เคารพการตัดสินใจของเจ้าของเรื่องไม่ใช่หรอ?

หัวข้อแฟนสาวลึกลับของเจเทาวน์ยังคงคลุกกรุ่น ช่วงสายเจเทาวน์ไปแถลงข่าวที่บริษัทว่า “ไม่กี่วันมานี้แม่ของเขาไม่สบาย ขอให้เป็นเวลาส่วนตัว งดรบกวน ขอบคุณครับ”

ไม่ได้ปฏิเสธถึงแฟนสาวลึกลับนั้นก็เท่ากับยอมรับโดยนัยแล้ว

หลินจือพักอยู่บ้านเกิดของเจเทาวน์สามวัน หลังจากที่คุณแม่เจนีออกจากโรงพยาบาลเธอก็กลับมา

ข้อหนึ่งเจเทาวน์บอกว่าไม่จำเป็นให้เธออยู่ที่นั่นตลอด แม่เขารู้ว่าเขามีคู่ครองก็พอแล้ว

ข้อสองหลินจือต้องกลับมาเข้าร่วมงานแจกลายเซ็น เธอชอบจอร์แดนนักเขียนและผู้ประพันธ์บทละครในเวลาเดียวกัน ที่เมืองเจสเวิร์ดมีงานแถลงหนังสือ ก่อนหน้านี้นานิส่งบัตรให้ เธอดีใจสุดๆ

หลินจือชอบหนังสือของจอร์แดนตั้งแต่มหาลัย ตอนนั้นนิยายทั้งหมดที่เป็นของจอร์แดนในห้องสมุดได้ถูกเธออ่านจนหมด เพราะนิยายของจอร์แดนโดยรวมแล้วทุกเรื่องได้นำไปสู่การประพันธ์เป็นบทละครโทรทัศน์ เธอดูจบแล้วก็ตามไปดูละครอีก เป็นแฟนคลับตัวยงจริงๆ

หลินจือไม่เพียงแต่ชอบหนังสือของจอร์แดน ยังชอบตัวบุคคลอีกด้วย ทั้งๆที่มีความสามารถเหลือล้นแต่กลับชอบทำตัวเงียบๆเป็นที่สุด

หลินจือเฝ้ารองานแถลงหนังสือครั้งนี้เป็นเพราะเล่มนี้เป็นผลงานประพันธ์เล่มใหม่ของจอร์แดนหลังจากที่เขาห่างหายไปนานและกลับมาเขียนใหม่

ใช่แล้ว สี่ปีที่ผ่านมานี้จอร์แดนไม่ได้ออกหนังสือเล่มใหม่ เขาค่อยๆหายสาบสูญจากสายตาผู้คนไป

ตามที่นานิได้สอบถามข่าวคราวมาจากคนวงในก็ได้ความว่าภรรยาของจอร์แดนป่วย หลายปีมานี้เขาอยู่ดูแลรักษาภรรยามาตลอด

จอร์แดนแต่งงานกับภรรยามาหลายสิบปี ไม่มีลูกชายไม่มีลูกสาว แต่นั่นก็ไม่ได้เป็นอุปสรรคเพราะความสัมพันธ์ของคนทั้งสองยังคงดีเหมือนเก่า

หลังจากที่หลินจือรู้ว่าเพราะเรื่องนี้เองทำให้จอร์แดนห่างหายไป ก็ให้ศรัทธาในตัวจอร์แดนมากยิ่งขึ้น

ผู้ชายคนนึงที่สามารถทิ้งทุกอย่างเพื่อมาอยู่เคียงข้างดูแลภรรยาตอนที่เจออุปสรรค นั่นเป็นความรักที่ดีที่สุดเลยนะ

หลินจือออกจากบ้านก่อนหนึ่งคืน เธอกับเจเทาวน์กลับมาด้วยกันที่บ้านเขา เธอลงครัวทำอาหารอร่อยๆด้วยตัวเอง

แม่ของเจเทาวน์จับมือเธออย่างซาบซึ้งพร้อมพูดชมว่า “บนโลกทำไมถึงมีเด็กหญิงที่ดีแบบนี้ล่ะ? หน้าตาก็สวย นิสัยก็ดี ยังทำอาหารเป็นอีกด้วย”

“ชีวิตของเจเทาวน์ได้พบกับหนู เป็นความโชคดีของเขาจริงๆ!”

หลินจือถูกคุณแม่เจนีชมก็ให้รู้สึกเขินขึ้นมา เจเทาวน์ที่อยู่อีกข้างก็พูดรับต่อว่า “แม่ ยังลืมไปอีกนิดนะครับ ความสามารถด้านประพันธ์ของหลินจือยังเหลือนล้นด้วยนะครับ”

คุณแม่เจนีพูดอย่างหงุดหงิด “ดูสมองของแม่สิลืมจุดสำคัญตรงนี้ไปได้ไง หนูเป็นผู้เขียนบทด้วยนิจ้ะ”

“ได้ยินเจเทาวน์พูดว่าบทละครที่หนูเขียนน่าดูมากๆ แม่จะต้องตามดูละครของหนูแน่นอนจ้ะ”

ในใจของหลินจือจะหาความอบอุ่นกว่านี้ไม่มีอีกแล้ว เติบโตมาในครอบครัวแบบนี้ ไม่น่าล่ะนิสัยของเจเทาวน์ถึงอบอุ่นและเป็นกันเองแบบนี้