ตอนที่ 1449 ใครสอบสวนใครกันแน่ (1)
พวกผู้ลี้ภัยที่ปากโป้งอยากจะเข้าไปขอโทษจวินอู๋เสีย แต่ก็ไม่กล้าเผชิญหน้ากับนาง ก่อนที่จวินอู๋เสียจะเอาหลักฐานออกมา พวกเขาบางคนก็เชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่ง และบางคนก็เชื่อคำพูดของเจ้าเมืองไปซะเต็มที่แล้ว ทุกคนต่างถูกตบหน้ากันทั้งนั้น พวกเขารู้สึกว่าตอนนี้พวกเขาไม่มีความกล้าที่จะพูดกับจวินอู๋เสียแล้ว
จวินอู๋เสียไม่ได้พูดอะไร นางแค่หันหลังเดินจากไป พวกผู้ลี้ภัยที่ถูกทิ้งไว้ข้างหลังไม่สามารถทำอะไรได้นอกจากมองตามหลังของจวินอู๋เสียขณะที่นางออกจากที่นั่น
เจ้าเมืองสาปแช่งด่าทอไปตลอดทาง ครั้งนี้เขารู้สึกอัปยศอดสูมาก ไม่เพียงไม่สามารถยึดเอาหอพักพวกนั้นจากจวินอู๋เสีย แต่ยังถูกบังคับให้เปิดโปงตัวเองต่อหน้าผู้ลี้ภัยพวกนั้นด้วย ทำให้เจ้าเมืองยิ่งโกรธมากขึ้นไปอีก
“ไอ้พวกขยะไร้ประโยชน์! คนถูกฆ่าไปตั้งหลายคน พวกเจ้ากลับหาเบาะแสไม่เจอเลยสักอย่าง! ยังจะมายืนบื้ออยู่ตรงนี้อีก!? ไปให้พ้นหน้าข้าเดี๋ยวนี้! เห็นพวกเจ้าแล้วข้าหงุดหงิด!” เจ้าเมืองตะโกนด่าพวกทหารพร้อมกับกระทืบเท้าเข้าไปในจวนเจ้าเมือง
ในจวนเจ้าเมืองยังคงเงียบสงบ เจ้าเมืองกลับมาแล้วแต่เขายังไม่เห็นคนรับใช้วิ่งเข้ามาทักทายเลยสักคน ทำให้เขาที่โกรธอยู่แล้วยิ่งโกรธมากขึ้น
“คนในจวนตายกันหมดแล้วหรือไง! ยังไม่โผล่หัวออกมาอีก!” เจ้าเมืองตะโกนเสียงดังขณะเดินเข้าไปในห้องโถง แต่พอก้าวเท้าเข้าไปในห้องโถง เขาก็ตัวแข็งทื่อทันที!
ผู้เยาว์ที่มีใบหน้าละเอียดอ่อนบอบบางคนหนึ่งนั่งอยู่บนเก้าอี้ในห้องโถงใหญ่ เด็กหนุ่มคนนั้นก็คือจวินอู๋เสียที่เขาเพิ่งพบที่ทางเหนือของเมืองไม่ใช่หรือ!!
เจ้าเมืองใจหายวาบทันที!
เขาอยากจะวิ่งหนีออกไปทางประตู แต่เย่ฉาก็เข้ามาทางด้านหลังของเขาอย่างเงียบๆ และยกเท้าถีบเข้าที่หลังของเจ้าเมืองอย่างไร้ความปราณี ส่งให้เจ้าเมืองกระเด็นไปล้มหน้าคว่ำอยู่ตรงหน้าจวินอู๋เสีย
“พวก……พวกเจ้าจะทำอะไร! ข้าคือเจ้าเมืองชิงเฟิงนะ! พวกเจ้าจะมาก่อเรื่องไม่ได้!!” เจ้าเมืองล้มลงไปอย่างแรง เขาเงยหน้าขึ้นมองจวินอู๋เสียที่นั่งไขว้ขาจิบชาอยู่ที่เก้าอี้
จวินอู๋เสียเหลือบสายตาขึ้นมองเจ้าเมืองที่หน้าซีดขาว ก่อนจะวางถ้วยชาที่นางถืออยู่ลงบนโต๊ะอย่างช้าๆ
“ท่านเจ้าเมือง เมื่อกี้ยังวางอำนาจบาตรใหญ่อยู่เลยไม่ใช่หรือ? ทำไมตอนนี้สีหน้าดูไม่ดีเลยล่ะ? ก็เห็นว่าเจ้ามีข้อกล่าวหาที่อยากจะโยนใส่หัวข้าตั้งเยอะแยะ ข้าก็เลยมาที่นี่ เจ้าจะได้มีโอกาสซักถามข้าอย่างละเอียด ไม่ดีหรือไง?” จวินอู๋เสียหรี่ตา น้ำเสียงของนางเบามาก แต่พอคำพูดพวกนั้นเข้าหูของเจ้าเมือง พวกมันกลับฟังเหมือนเสียงกระซิบจากปีศาจ ส่งความหนาวเย็นแล่นไปตามกระดูกสันหลัง
“เจ้า……เจ้า……เจ้าจะทำอะไร……” เจ้าเมืองลุกลี้ลุกลนจะลุกขึ้น แต่ก่อนที่เขาจะทรงตัวได้ เย่ฉาก็เตะเขาอีกครั้งที่ข้อเข่า ทำให้เขาล้มลงเข่ากระแทกพื้นตรงหน้าจวินอู๋เสีย
ข้อเข่าของเขาปวดเหมือนโดนเย่ฉาเตะหักไปแล้ว เหงื่อเม็ดใหญ่ๆไหลลงมาจากหน้าผากของเจ้าเมืองขณะที่พยายามจะขยับตัว
“ถ้าเจ้าคุกเข่าดีๆไม่ได้ ข้าก็ไม่รังเกียจที่จะหักขาเจ้าทั้งสองข้างหรอกนะ ให้เจ้าคุกเข่าไปตลอดชีวิตเลย” เสียงเย็นชาของจวินอู๋เสียดังขึ้นราวกับสายฟ้าฟาดเข้าใส่หัวใจของเจ้าเมือง เขากลัวมากจนไม่กล้าขยับตัวแม้แต่นิดเดียว
จวินอู๋เสียมองเจ้าเมืองด้วยความพอใจ แล้วพูดอย่างเย็นชาว่า “เอาล่ะ เริ่มสอบปากคำได้แล้ว”
เจ้าเมืองอยากจะร้องไห้ เขาไม่เคยสอบปากคำใครในลักษณะนี้มาก่อนเลยในชีวิต เขาต้องคุกเข่าอยู่ที่พื้น ขณะที่คนถูกสอบปากคำนั่งอยู่บนเก้าอี้ตรงหน้าเขา มองลงมาจากจุดที่สูงกว่า
จวินอู๋เสียเอามือเท้าคางและหรี่ตามองเขา จากนั้นก็ถามว่า “ลั่วซีให้เจ้ามาสร้างปัญหาให้ข้างั้นหรือ?”