ข่มขู่!
“ในฐานะที่เป็นหมากตัวนึงในการล้างแค้นของหลิวฮ่วน…ไม่คิดเลยว่ากระทั่งเจ้าตายไปแล้ว โจวฉียังไม่แม้แต่จะดูดำดูดีศพเจ้าด้วยซ้ำ ช่างน่าเศร้าอะไรเช่นนี้…”
หลังจากที่ปลดแหวนพื้นที่ของเฝิงฟ่าน และริบของมีค่าจากร่างอีกฝ่ายมาหมดแล้ว ต้วนหลิงเทียนก็มองร่างไร้วิญญาณของเฝิงฟ่านด้วยสายตาซับซ้อนครู่หนึ่ง ก่อนที่จะหันหลังเตรียมเดินผ่านฝูงชนเพื่อกลับบ้าน
ฝูงชนก็เปิดทางให้เขาได้เดินสะดวก
ถึงแม้ว่าจะมีศิษย์ฝ่ายนอกมากมายที่แทงข้างเฝิงฟ่านกับต้วนหลิงเทียน จนต้องเสียคะแนนอุทิศไปแทบหมดตัว แต่พวกมันก็ไม่มีใครโทษต้วนหลิงเทียนแม้แต่น้อย
ในสายตาของพวกมันนั้น ที่พวกมันแพ้ล้วนเป็นเพราะเฝิงฟ่านไม่เอาไหนใช้การไม่ได้เอง!
ที่พวกมันกล้าทุ่มแทงเดิมพันข้างเฝิงฟ่านนั้น เพราะอีกฝ่ายได้ชื่อว่าแข็งแกร่งที่สุดในศิษย์ฝ่ายนอก ทั้งยังติดอันดับในรายนามปฐพี พวกมันจึงคิดว่าเฝิงฟ่านสมควรเอาชนะต้วนหลิงเทียนผู้เป็นศิษย์ใหม่เข้าสำนักมาแค่ 2 เดือนได้แน่นอน!
ทว่าผลลัพธ์ที่ออกมา เป็นอะไรที่พวกมันคาดไม่ถึงจริงๆ
ต้วนหลิงเทียนศิษย์ใหม่ฝ่ายนอกที่พึ่งเข้าร่วมสำนักได้ 2 เดือน กลับสังหารยอดฝีมืออย่างเฝิงฟ่านที่ติดอันดับรายนามปฐพี จนมีชื่อเสียงโด่งดังมานานในฝ่ายนอกของสำนักจันทร์จรัสแสงได้เสียอย่างนั้น!
“ต้วนหลิงเทียน หากเจ้าว่างเมื่อไหร่ก็จงรีบไปหาข้าที่คฤหาสน์ แล้วคืนเดิมพันที่ข้าแทงข้างเฝิงฟ่านกลับมาเสียให้หมด หาไม่แล้ว…เหอะ!”
ในขณะที่ต้วนหลิงเทียนกำลังเดินกลับ น้ำเสียงไม่เป็นมิตรผ่านปราณแท้หนึ่งก็ส่งตรงถึงหูเขา
และเสียงข่มขู่นี้ก็ไม่ได้แปลกหูต้วนหลิงเทียนแต่อย่างไร
ครู่ต่อมาร่างต้วนหลิงเทียนก็หยุดลง หันกลับมาว่ายตาไปยังกลุ่มอาวุโสฝ่ายนอก ไม่นานก็หยุดที่ร่างหวงเฉิง อาวุโสฝ่ายนอกที่แทงเดิมพันข้างเฝิงฟ่านกับเขาอย่างหนักเมื่อวานด้วยสายตาไม่แยแส
“เจ้ากลับกล้ามองข้าด้วยสายตาเช่นนั้นต่อหน้าผู้คนมากมายงั้นเหรอ…หากเจ้าไม่ส่งคะแนนอุทิศให้ข้าล้านแต้ม ข้าจักไม่ปล่อยเจ้าไปแน่!”
เมื่อเห็นว่าต้วนหลิงเทียนกล้าหันมามองมันด้วยสายตาราวกับไม่เห็นหัวต่อหน้าผู้คน หวงเฉิงถึงกับของขึ้นทันใด
และมันก็ไม่รอช้า กล่าววาจาข่มขู่หมายรีดไถคะแนนอุทิศจากต้วนหลิงเทียนถึง 1,000,000 แต้มทันที!
เห็นได้ชัดว่ามันมองต้วนหลิงเทียนเป็นแค่แพะอ้วนตัวหนึ่งเท่านั้น
อย่างไรก็ตามพอได้ยินเสียงขู่ข่มรอบนี้ของหวงเฉิง ต้วนหลิงเทียนกลับแย้มยิ้มออกมาหน้าระรื่นทันที
“เมื่อวานนี้เป็นท่านมาหาข้าด้วยตัวเอง และเลือกจะแทงเดิมพันกับข้า 360,000 คะแนนอุทิศ…แต่ตอนนี้ไม่เพียงแต่ท่านไม่ยอมรับความพ่ายแพ้ แต่ท่านกลับขู่ให้ข้าคืนคะแนนอุทิศ 360,000 แต้มที่ท่านลงเดิมพัน! ขอถามท่านสักคำ นี่ท่านยังมีศักดิ์ศรีของอาวุโสฝ่ายนอกหลงเหลืออยู่หรือไม่? ถึงได้คิดบีบคั้นข้าด้วยอำนาจมิชอบแบบนี้! หรือที่แท้สำนักจันทร์จรัสแสงมันไร้กฏเกณฑ์ถึงขนาดนั้นเชียวหรือ?”
ต้วนหลิงเทียนหรี่ตามองหวงเฉิงทั้งกล่าวโพล่งคำออกมาเสียงดังฟังชัดท่ามกลางผู้คนมากมายในลานฝึกซ้อม
ด้วยความที่กล่าววาจาออกมาระรัวรวดเดียวจบคำ จึงทำให้หวงเฉิงไม่ทันได้ตอบสนองเรื่องราว ยังคล้ายอื้ออึงไปอยู่บ้าง!
และพอมันรู้สึกตัว ก็พบว่าตอนนี้สายตานับร้อยๆคู่กำลังหันมามองที่มันเขม็ง ทำให้สีหน้าแววตามันเปลี่ยนไปทันใด
“อาวุโสหวง ที่ต้วนหลิงเทียนกล่าวมานั่นใช่เรื่องจริงหรือไม่?”
อาวุโสฝ่ายนอกคนหนึ่งที่ยืนข้างหวงเฉิง ขมวดคิ้วเป็นปมกล่าวถามออกมาเสียงแข็ง “หากจริง ท่านก็ล้ำเส้นไปหน่อยแล้ว!”
“นั่นสิอาวุโสหวง อย่างไรท่านก็เป็นถึงอาวุโส! ถือเป็นหน้าตาของฝ่ายนอกสำนักจันทร์จรัสแสง…ลำพังตัวท่านเสื่อมเสียมิว่า แต่อย่าได้พาลให้พวกเราอาวุโสฝ่ายนอกเสื่อมเสียไปกับท่านด้วย!”
อาวุโสอีกคนก็กล่าวเสริมออกมา
“ถ้าเป็นข้า เมื่อแพ้ก็ต้องยอมรับว่าแพ้ถึงแม้จักไม่เต็มใจเพียงใดก็ตาม…อาวุโสหวง หากท่านข่มขู่ต้วนหลิงเทียนเช่นนี้จริงๆ ข้าว่าท่านต้องไปอบรมบ่มนิสัยที่โถงคุมกฏสักหน่อยแล้ว”
อาวุโสฝ่ายนอกอีกคนได้ทีก็กล่าวออกมาด้วยน้ำเสียงเย้ยหยัน
หลังจากได้ยินวาจาเสียดสีทั้งตำหนิจากเหล่าอาวุโส หวงเฉิงถึงกับหัวร้อน โพล่งคำออกมาอย่างฉุนเฉียว “คนยืนพูดมิปวดเอว!” หลังจากนั้นมันก็หันไปจ้องต้วนหลิงเทียปานจะกินเลือดเนื้อ “ต้วนหลิงเทียน! เจ้ากล้าดีอย่างไรถึงได้กล่าววาจาใส่ร้ายข้าเช่นนี้ ถึงแม้ 360,000 คะแนนอุทิศจักมิใช่น้อย แต่ข้าก็มิได้ติดใจอันใดขนาดนั้น”
เมื่อถูกฝูงชนเพ่งเล็งทั้งคล้ายกำลังจะรุมประณามมันเต็มที หวงเฉิงแน่นอนว่าย่อมไม่กล้ารับ
หาไม่แล้วตำแหน่งอาวุโสฝ่ายนอกของมันคงได้หลุดลอยแน่แท้!
“ใส่ร้าย?”
ต้วนหลิงเทียนแสยะยิ้มเย็น “อาวุโสหวงเฉิง ข้าท่านไม่เคยรู้จักมักคุ้นอะไรกันมาก่อนจนถึงเมื่อวาน…ทำไมข้าต้องไปใส่ร้ายท่าน? ที่ท่านฉุนเฉียวอยู่นี่…อย่าได้บอกข้าเชียวว่าทั้งหมดเป็นเพราะคะแนนอุทิศที่ท่านทุ่มแทงเดิมพันกับข้ามา 360,000 แต้มเมื่อวาน…”
“อันที่จริงข้าคิดว่ากับอีแค่ 360,000 คะแนนอุทิศที่ท่านเสียไปคงไม่ถือว่ามากมายอะไร… เพราะหากเทียบกับผู้ดูแลเติ้งเหว่ย ที่ต้องทุกข์ระทมเพราะเสียไป 150,000 คะแนนอุทิศ และจำนวนดังกล่าวนั้นแทบจะเป็นทั้งหมดที่มีด้วยซ้ำ แต่กระทั่งผู้ดูแลเติ้งที่แทบหมดตัวยังไม่ขู่ข้าเลย…”
“หากเทียบกันแล้ว…ดูเหมือนวุฒิภาวะทางอารมณ์ท่านจะอ่อนด้อยกว่าเสียอีก”
หลังกล่าวจบคำ ต้วนหลิงเทียนก็ส่ายหัวไปมาเบาๆ
ได้ยินวาจาที่คล้ายจะ ‘ยกย่อง’ นี้ของต้วนหลิงเทียน เติ้งเหว่ยไม่เพียงไม่ยินดี แต่ยังแทบกระอักเลือดตาย!
คะแนนอุทิศ 150,000 แต้มนั้น เรียกว่าเป็นทุกสิ่งสำหรับมันแล้วจริงๆ
เพราะในบัตรแก้วของมันตอนนี้เหลือคะแนนอุทิศแค่หลักพันเท่านั้น
แต่ไหนเลยจะกล่าวว่ามันไม่สนใจและเจ็บแค้นได้
เหตุผลที่มันไม่ได้ข่มขู่ต้วนหลิงเทียนนั้น เพราะมันรู้ดีว่าทั้งหมดมันไร้ประโยชน์! มันทำได้แค่คอยมองหาโอกาสอันดีที่จะฆ่าต้วนหลิงเทียนให้ตาย และช่วงชิงบัตรแก้วของต้วนหลิงเทียนมาภายหลัง!!
เพราะหลังจากนั้นไม่เพียงแต่มันจะได้คะแนนอุทิศ 150,000 แต้มคืน แต่ยังได้คะแนนอุทิศ 3,000,000 ที่อยู่ในบัตรของต้วนหลิงเทียนอีกด้วย
“เจ้า…!”
สีหน้าหวงเฉิงมืดมนลงทันใด มันฮึดอัดคล้ายคิดกล่าวคำใดบางอย่าง ทว่าต้วนหลิงเทียนพลันกล่าวขัดขึ้นมาเสียก่อน “ผู้อาวุโสหวงเฉิง ต่อให้ท่านจะเป็นอาวุโสฝ่ายนอก แต่ก็อย่าได้คิดว่าจะใช้อำนาจมิชอบของท่านมาบีบคั้นข้าได้! ข้าไม่คิดคืนให้ท่าน และไม่ต้องกล่าวถึงเรื่องที่ท่านคิดรีดไถข้า 1,000,000 คะแนนอุทิศอะไรนั่นด้วยซ้ำ!!”
1,000,000 คะแนนอุทิศ!
ทันทีที่ต้วนหลิงเทียนกล่าววาจานี้ ทุกผู้คนก็มองหวงเฉิงด้วยสายตาที่ต่างออกไปทันที
ตราบใดที่ไม่ใช่คนโง่ ย่อมรู้ดีว่าไม่พ้นเป็นหวงเฉิงขู่จะเอาคะแนนอุทิศ 1,000,000 แต้มจากต้วนหลิงเทียนอีกเป็นแน่!
“เฮอะ! นี่น่ะเหรออาวุโสฝ่ายนอก! กล้าปล้นผู้คนกลางวันแสกๆเช่นนี้เลย?”
“นั่นสิ! แม้ข้าจะเป็นแค่ศิษย์ฝ่ายนอกธรรมดาๆ แต่ยามข้าแพ้ข้ายังยอมรับว่าแพ้! นี่ต้องเติบโตมาในสังคมเช่นไรกัน…กลับกล้าใช้ฐานะอาวุโสฝ่ายนอกมาบีบคั้นหมายรีดไถคะแนนอุทิศของศิษย์คนหนึ่ง! แถมยังกล้ารีดไถต้วนหลิงเทียนถึง 1,000,000 คะแนนอุทิศ!!”
“นี่ยังมิใช่คิดจับเสือมือเปล่าหรือไร? ใต้หล้ามีเรื่องดีๆพรรค์นี้อยู่ด้วย?”
……
เหล่าศิษย์ฝ่ายนอกที่เสียเดิมพันกล่าววาจาด่าทอออกมาไม่หยุด จังหวะนี้พวกมันไม่สนอีกต่อไปว่าหวงเฉิงนั่นมีตำแหน่งอาวุโสอะไรหรือไม่ พวกมันขอเพียงได้ด่าระบายอารมณ์ออกมาก็พอ
หวงเฉิงถึงกับตะลึงลานไปใหญ่แล้ว!
ตอนนี้สถานการณ์ได้บานปลายเกินที่มันจะควบคุมได้อีกต่อไป
“ต้วนหลิงเทียน! เจ้ารู้หรือไม่ว่าในสำนักจันทร์จรัสแสงแห่งนี้ การใส่ร้ายผู้อาวุโสมีโทษร้ายแรงเพียงใด!!”
สุดท้ายหวงเฉิงก็ทำได้แค่ตะโกนออกมาเสียงกร้าว!
ในน้ำเสียงแข็งกร้าวดังกล่าวยังแฝงปราณแท้ ทำให้ดังสนั่นนัก สามารถสยบทุกเสียงในลานฝึกซ้อมได้ชะงัด
“ใส่ร้าย?”
ต้วนหลิงเทียนแค่นคำเย้ยหยัน “หึ! อาวุโสหวง…คำก็ใส่ร้ายสองคำก็ใส่ร้าย ข้าล่ะสงสัยนักว่าท่านกล้ากล่าวคำสาบานต่อทัณฑ์สวรรค์เก้าเก้าหรือไม่ ว่าท่านไม่ได้ขู่ข้า?”
“เหอะ! ข้ายังกล่าวไม่ชัดหรือไรว่ามิเคยขู่เจ้า?! แล้วนี่เจ้าคิดว่าเจ้าเป็นใคร คู่ควรให้ข้ากล่าววาจาสาบานเพราะเจ้างั้นรึ?”
หวงเฉิงแค่นเสียงเย็น สีหน้าท่าทีเผยความดูแคลนออกมาโต้งๆ
“อ่านั่นสินะ ท่านเป็นถึงผู้อาวุโสฝ่ายนอกที่น่าเกรงขาม…ข้าคงไม่คู่ควรที่จะให้ท่านกล่าวคำสาบานเพื่อข้า ถ้างั้นข้าจะกล่าวคำสาบานเอง…! หากข้าต้วนหลิงเทียนกล่าววาจาโป้ปดเรื่องที่ท่านข่มขู่หมายเอาคะแนนอุทิศกลับ รวมทั้งเรื่องที่ท่านคิดรีดไถคะแนนอุทิศ 1,000,000 แต้มจากข้าแม้ครึ่งคำ! ข้ายินดีให้อัสนีทัณฑ์สวรรค์เก้าเก้าพิฆาตร่างตายตก!!”
ต้วนหลิงเทียนหันไปกล่าวกับหวงเฉิงด้วยสีหน้าเฉยเมย ก่อนที่จะลงมือกรีดนิ้วพร้อมกล่าวคำสาบานโดยที่ไม่ทันให้อีกฝ่ายได้ตั้งตัวอะไร และทางด้านหวงเฉิงเมื่อเห็นดังนั้นก็หน้าเปลี่ยนสีทันที!!
เปรี๊ยง! เปรี๊ยง! เปรี๊ยง! เปรี๊ยง! เปรี๊ยง!
……
อัสนีทัณฑ์สวรรค์ลั่นกังวานไปทั่วฟ้า 9 คำรบ ตอบรับคำสัตย์สาบาน!
เมื่อมีเสียงอัสนีลั่นดังจากฟากฟ้า 9 ครั้ง อันหมายความว่าสวรรค์ตอบรับคำสาบานแล้ว หากแต่ต้วนหลิงเทียนยังอยู่ดีไม่ถูกอัสนีสวรรค์พิฆาตตายตก! นั่นก็บ่งบอกให้ผู้คนกระจ่างชัดว่าวาจาของเขาไม่มีผิดแม้ครึ่งคำจริงๆ!!
มาตอนนี้วาจาต้วนหลิงเทียนหรือหวงเฉิงที่น่าเชื่อกว่ากัน ผู้คนก็ตัดสินได้โดยง่าย!
หลังจากนั้นก็มีเสียงโห่ระคนก่นด่าดังขึ้น ไม่นานทุกผู้คนในลานฝึกซ้อมก็เริ่มโห่ไล่หวงเฉิงกันหมด!
ทั้งสายตาที่ทุกคนใช้มองหวงเฉิงนั้น ยิ่งมายิ่งสมเพชถึงที่สุด!
หากใครกล่าวว่าตอนแรกพวกมันยังไม่มั่นใจเต็มสิบส่วนว่าที่ต้วนหลิงเทียนพูดเป็นความจริง ทว่าหลังจากต้วนหลิงเทียนกล่าวสาบานแล้วพวกมันก็เชื่อต้วนหลิงเทียนหมดใจ!
คำสาบานต่อทัณฑ์สวรรค์ไม่มีวันโกหกได้!
เพราะนั่นคือศักดิ์ศรีของสวรรค์!
มีคำกล่าวที่ว่า ฟ้ามีตา…เทพยาดาแลเห็น! นั่นหมายความว่า สวรรค์ได้ทอดมองสรรพสิ่งตลอดเวลา และไม่เคยปราณีผู้ใด!
ตอนนี้เหล่าอาวุโสฝ่ายนอกไม่เว้นต่งชง เริ่มเว้นระยะห่างจากหวงเฉิงกันถ้วนหน้า มีทั้งไม่ตั้งใจและถอยมาโดยไม่ทันได้คิด คล้ายบังเกิดความอับอายที่จะถูกเหมารวมว่าเป็นพวกเดียวกันกับหวงเฉิง เพราะอย่างไรเสียหวงเฉิงก็เป็นอาวุโสฝ่ายนอกคนหนึ่ง
หวงเฉิงหน้าดำคล้ำไปด้วยโทสะ หากแต่มันก็ไร้คำใดจะกล่าวออก
ทันทีที่ต้วนหลิงเทียนกล่าวคำสาบานออกมาแบบนี้ มันก็รู้ตัวดี ว่าตอนนี้ให้มันพูดอะไร…ก็ไม่มีใครคิดเชื่อมันอีกแล้ว!
“ต้วนหลิงเทียน อย่าได้พลาดพลั้งอันใดมาเชียว หากข้าสบโอกาสเมื่อใดข้าจะฆ่าเจ้าให้ตาย!!”
ด้วยโทสะหวงเฉิงพลันถลึงตามองต้วนหลิงเทียนอย่างอาฆาต กล่าววาจาผ่านปราณแท้ไปข่มขู่ต้วนหลิงเทียนอีกรอบ และก็ไม่รั้งรออะไร พุ่งร่างหายลับไปจากสายตาของทุกผู้คนทันที
ได้ยินคำขู่ทิ้งทายของหวงเฉิง ต้วนหลิงเทียนก็ยังคงมีสีหน้าสงบ ไม่ได้ใส่ใจอะไร
ถึงแม้อีกฝ่ายจะไม่ได้ข่มขู่ แต่ด้วยนิสัยของหวงเฉิงแล้ว ต้วนหลิงเทียนรู้ดีว่ามันไม่มีวันปล่อยเขาไปง่ายๆถึงแม้จะส่งมอบ 360,000 คะแนนอุทิศคืนไปแล้วเป็นแน่…
เช่นนั้นแล้วเขายังจะต้องกลัวอะไรมัน?
เมื่อเห็นว่าหวงเฉิงจากไปโดยไม่คิดจะกล่าววาจากล่าวอ้างหรือแก้ตัวอะไร ผู้คนก็โห่ออกมาอีกรอบอย่างรังเกียจ
“หน้าไม่อาย! ช่างไร้ยางอายยิ่งนัก!!”
“ไฉนข้ามิเคยรู้มาก่อนเลยว่าอาวุโสหวงเฉิงกลับเป็นชนชั้นต่ำทรามไร้ยางอายได้ขนาดนี้!”
“ข้าขอบอกไว้เลย ว่าคนพรรค์นี้ไม่คู่ควรกับการเป็นอาวุโสฝ่ายนอกสักนิด! มันแค่ตัวอัปยศ! รังแต่จะสร้างความเสื่อมเสียให้สำนักเท่านั้น!!”
……
เหล่าศิษย์ฝ่ายนอกทั้งหลายเริ่มก่นด่าหวงเฉิงออกมาด้วยความรังเกียจ ทั้งหลายยังอดไม่ได้ที่จะเห็นใจต้วนหลิงเทียนขึ้นมาอยู่บ้าง
“ขอบคุณพี่น้องทุกท่านที่สนับสนุนข้า!”
ต้วนหลิงเทียนเห็นว่าสถานการณ์เริ่มเข้าที่แล้ว ก็ควบเสียงผสานปราณแท้กล่าววาจาออกมาเสียงดังทันที “ข้าเองหลังจากผ่านเรื่องเมื่อครู่มา..ก็พอได้คิดอะไรบางอย่าง การเสียคะแนนอุทิศไปเช่นนี้ สำหรับพวกท่านแล้วก็คงไม่ใช่เรื่องง่ายเช่นกัน…เช่นนั้นนอกจากอาวุโสหวงเฉิงกับผู้ดูแลเติ้งเหว่ยแล้ว ข้าจะคืนคะแนนอุทิศให้ทุกคนเป็นจำนวนครึ่งหนึ่งของที่พวกท่านเดิมพันมา!
“พรุ่งนี้ตอนเที่ยงข้าจะกลับมาที่ลานฝึกซ้อมแห่งนี้ ขอให้พี่น้องทั้งหลายนำใบสัญญาเดิมพัน ที่มีลายนิ้วมือข้าประทับมาหาข้า แล้วข้าจะคืนคะแนนอุทิศให้พี่น้องทั้งหลายครึ่งหนึ่ง!!”
เสียงของต้วนหลิงเทียนดังก้องไปทั่วลานฝึกซ้อม
“จริงหรือ!?”
“ศิษย์พี่ต้วนหลิงเทียนจงเจริญ!”
“ขอบคุณท่านยิ่งนักศิษย์พี่ต้วน!!”
“ศิษย์พี่ต้วนช่างประเสริฐแท้! กลับมีน้ำใจคืนคะแนนอุทิศครึ่งนึงที่พวกเราแทงไป!!”
……
หลังได้ยินคำประกาศของต้วนหลิงเทียน ศิษย์ฝ่ายนอกก็กู่ร้องออกมาด้วยความยินดี รีบขอบคุณทั้งสรรเสริญต้วนหลิงเทียนกันยกใหญ่
เหล่าผู้ดูแลฝ่ายนอกเองที่ฟังอยู่ สองตาก็ถึงกับเปล่งประกายวิบวับออกมา!
“ต้วนหลิงเทียน! ในเมื่อเจ้าคืนให้ผู้อื่น…แล้วไฉนไม่คืนให้ข้าด้วยเล่า!?”
ทันใดนั้นเอง เติ้งเหว่ยพลันตะโกนถามออกมาด้วยน้ำเสียงขุ่นขึ้งหมองใจ