ตอนที่ 383 ปลาหมึกสีโปร่งใส

ท่านอ๋องผู้โหดร้ายกับหมอปีศาจ

“คุณหนูใหญ่อวิ๋นเฟิ้งแห่งสำนักอวิ๋นเยียนทำร้ายญาติสนิทและรักเป็นที่สุดของข้า แม้สำนักอวิ๋นเยียนจะถูกทำลายสักหมื่นครั้งก็ชดใช้ไม่พอ” มู่เฉียนซีกล่าวด้วยเสียงเย็นชา

ดวงตาของเมี่ยอวิ๋นฉายแววหมองหม่น ญาติสนิททุกคนของเขาทิ้งเขาไปเมื่อนานมาแล้ว ทั้งหมดเป็นเพราะสํานักอวิ๋นเยียนล้วน ๆ

“มู่เฉียนซี ข้านั้นยินดีที่จะติดตามเจ้า นับแต่วันนี้ไปชีวิตข้านี้เป็นของเจ้าแล้ว” เมี่ยอวิ๋นย่อขาข้างหนึ่งลงกับพื้น

แม้ความแข็งแกร่งของสตรีตรงหน้านั้นจะยังไม่ถึงระดับจักรพรรดิ แต่พลังที่นางมีอยู่ ทําให้เขามองเห็นความหวังในการแก้แค้น

มู่เฉียนซี “เมื่อข้าพบสิ่งที่ข้ากําลังตามหาแล้ว การแก้แค้นต่อสำนักอวิ๋นเยียนจะถูกยกระดับ ข้าว่าเจ้าคงมีความสนใจที่จะเข้าร่วม”

“ใช่ ข้าจะต้องช่วยให้นายท่านหาของสิ่งนั้นจนพบอย่างแน่นอน”

มู่เฉียนซีได้แผนที่มาครึ่งหนึ่ง ในขณะที่หุบเขาหมอเทวดาได้แผนที่ไปสองแผ่น  ทว่าต่อให้คิดจนหัวสมองของพวกเขาระเบิดออกก็หาสถานที่อย่างแม่นยำไม่พบ

ผืนทะเล… รู้เพียงแค่ว่าผืนทะเลนั้นอยู่รอบ ๆ ของทวีปเซี่ยโจว และไม่มีรายละเอียดอะไรเพิ่มเติมไปกว่านั้นอีกแล้ว

ในทะเลทั้งสามเขตนั้น ล้วนมีคนค้นพบและขุดสมบัติล้ำค่ามากมาย แต่สำหรับของวิเศษโบราณอย่างหม้อเทพนิรันดร์ คนพวกนั้นไม่มีทางที่จะหาได้พบเลย

มู่เฉียนซีกล่าวกับตัวเอง หรือว่าจะต้องเข้าไปฆ่าฟันกับคนระดับมหาจักรพรรดิเพื่อแย่งชิงแผนที่จริง ๆ ? แต่ว่านั่นมันเสี่ยงเกินไป

“ท่านผู้นำเมี่ยอวิ๋น แย่แล้วแย่แล้ว! พวกเราได้เจอสถานที่แปลกประหลาดในใต้ทะเลลึก แต่เราก็ได้เจอเข้ากับสัตว์วิญญาณแห่งก้นทะเลที่แข็งแกร่งนัก พวกเราถูกมันขัดขวางเอาไว้”

มู่เฉียนซี “เช่นนั้นก็ไปช่วยกันก่อน”

“อ๊าก!  อ๊าก!  อ๊าก!” เสียงร้องโหยหวนลอยออกมาเป็นช่วง ๆ

ที่ใต้ท้องทะเลมีปลาหมึกยักษ์สีใสตัวหนึ่ง มันอยู่ติดกับที่ที่เราจะเข้าไปและขัดขวางคนที่จะเข้าไปตรงนั้น แต่ว่ามันไม่ได้ฆ่าพวกเขา เพียงแค่หยอกพวกเขาเล่น ๆ ทว่านั่นทำให้พวกเขาทรมานเสียจนแทบสลบไสล

“ปลาหมึกตัวนี้แปลกประหลาดอยู่บ้าง อย่างน้อยคงเป็นสัตว์ศักดิ์สิทธิ์ระดับสาม พวกเจ้าสองคนใครจะไป ?” มู่เฉียนซีถามขึ้นมา

เสี่ยวหง “นายท่าน ข้านั้นเป็นสัตว์ศักดิ์สิทธิ์ที่มีพลังอัคคี การอยู่ใต้ทะเลข้าทำอะไรได้ลำบาก อย่างไรท่านให้เจ้าแมวโง่ไปเถอะ  รอจนเจ้าแมวโง่รับมือไม่ไหว ข้าค่อยออกโรง”

อู๋ตี้ส่งเสียง หึ! อย่างเย็นชาออกมาคำหนึ่ง “เหตุใดข้าจะรับมือไม่อยู่ ? เจ้าคอยแหกตาดูข้าให้ดี ๆ แล้วกัน”

เงาร่างสีขาวราง ๆ เคลื่อนไหวอย่างรวดเร็วอยู่ใต้ทะเล  กรงเล็บแมวของอู๋ตี้ตวัดออกไปเร็วพลัน

— ฟึ่บ! —

ทว่ากรงเล็บแมวไม่สามารถทำอะไรเจ้าปลาหมึงโปร่งใสนั้นได้แม้แต่น้อย อีกทั้งอู๋ตี้ยังโดนพลังพลังหนึ่งดีดกลับออกมาด้วย

อู๋ตี้ตกตะลึง “เป็นไปได้อย่างไรกัน ?!” ดูเหมือนว่าปลาหมึกโปร่งใสตัวนั้นจะพบของเล่นที่น่าสนใจเข้าให้แล้ว จากนั้นหนวดปลาหมึกจำนวนมากพุ่งมาทางอู๋ตี้และล้อมเอาไว้

— หนุบหนับ! —

อู๋ตี้โจมตีอีกครั้ง แต่กรงเล็บแมวของมันกลับไปติดเหนียวหนึบเข้ากับหนวด

— ปุ้ง! —

ด้วยการโจมตีอย่างแข็งแกร่งของปลาหมึกโปร่งใสตัวนี้ อู๋ตี้จำต้องโจมตีด้วยพลังทั้งหมดที่มี ในที่สุดก็สามารถหลุดรอดออกมาจากหนวดของปลาหมึกโปร่งใสนั้นได้

เมื่อเห็นคู่ต่อสู้สู้ยิบตา เจ้าปลาหมึกโปร่งใสดูเหมือนจะเริ่มจริงจังขึ้นมาแล้ว

— พรึ่บ!  พรึ่บ!  พรึ่บ! —

มันปล่อยตัวคนพวกนั้นที่ถูกรัดไว้ออกมา และรวบรวมสมาธิรับมือกับอู๋ตี้

“อย่าได้คิดว่าหนวดของเจ้ามีมากแล้วจะไร้เทียมทาน!  ไสหัวไป!” อู๋ตี้เองก็เริ่มจะคลั่งขึ้นมาแล้ว

ปลาหมึกโปร่งใสตัวนี้สามารถป้องกันการโจมตีของอู๋ตี้ได้ทั้งหมด อีกทั้งยังสามารถโต้กลับ คราวนี้อู๋ตี้ได้พบกับคู่ปรับเข้าเสียแล้ว

— ตูม! —

ไม่รู้ว่าจะต้องติดพันกันจนถึงเมื่อไร มู่เฉียนซีนั้นไม่อยากที่จะเปลืองเวลาไปกับปลาหมึกโปร่งใสตัวนี้อีก

“เสี่ยวหง เจ้าไปช่วยที”

ในฐานะที่มันเป็นสัตว์ศักดิ์สิทธิ์ที่มีพลังอัคคี มันจึงเกลียดการต่อสู้ในที่เปียก ๆ ชื้นแฉะเช่นในน้ำเป็นที่สุด

เปลวเพลิงสีแดงเข้มถูกปลดปล่อยลงไปในน้ำ แต่เห็นได้ชัดว่าพลังทำลายล้างของปลาหมึกโปร่งใสลดลงไปไม่น้อย

“นายท่าน รีบขึ้นไปบนผิวทะเลเร็วเข้า” อู๋ตี้ตะโกนลั่น

การต่อสู้ของสัตว์ศักดิ์สิทธิ์สามตัวที่ใต้ทะเลนั้น เป็นการต่อสู้ชนิดที่ทำเอาคลื่นน้ำปั่นป่วนเลยทีเดียว ส่วนมู่เฉียนซี นางไม่ได้มาร่วมสนุกด้วย นางขึ้นไปบนผิวน้ำแล้ว

บนผิวน้ำนั้นเกิดแรงขึ้นอย่างดุเดือด

— โฟ่ว! —

ทันทีที่ฝ่ามือของอู๋ตี้ตบลงมา ก็ได้ดูดเอาน้ำทะเลที่รอบด้านนั้นแห้งขอดไป

สายตาหนึ่งมองกวาดผ่านไปที่ก้นทะเล จากนั้นตะลึงงันในทันที “นั่น! นั่นคือ…”

นางหยิบแผนที่ออกมาดู ภูเขาหินที่อยู่ใต้ทะเลเหมือนกับในแผนที่ไม่มีผิด สถานที่ที่มีหม้อเทพนิรันดร์อยู่ กลับเป็นที่แห่งนี้

ในที่สุดก็หาสถานที่นี้พบ เช่นนั้นเจ้าปลาหมึกโปร่งใสตัวนั้นคงจะเป็นผู้พิทักษ์ดูแลโบราณสถานแห่งนี้ มันไม่ง่ายเลยที่จะต่อกร  ร่างกายของมันนั้นสามารถปัดป้องการโจมตีได้หลากรูปแบบ และการโจมตีด้วยไฟก็ไม่มีผลอะไรกับมัน

มู่เฉียนซีรู้สึกกดดัน นางจึงได้เตรียมลองใช้พิษของนาง

— ฟึ่บ!  ฟึ่บ!  ฟึ่บ! —

เข็มยาจำนวนนับไม่ถ้วนพุ่งทะยานไปยังปลาหมึกโปร่งใสตัวนั้น เมื่อเข็มยาที่คมกริบสัมผัสเข้ากับผิวของปลาหมึกโปร่งใสเข้า เข็มยาก็ลื่นไหลออกไปในทันที

มู่เฉียนซีตกตะลึง ร่างกายของเจ้าหมึกนี่ช่างท้าทายสวรรค์อย่างแท้จริง แม้กระทั่งเข็มยาพิษของนางยังเจาะผิวหนังของมันไม่ได้เลย!

เสี่ยวหงและอู๋ตี้ก็ทำอะไรไม่ได้แล้วในเวลานี้ “นายท่าน เจ้าหมึกนี่จะฆ่าก็ฆ่าไม่ตาย จะไล่ก็ไล่ไม่ไป เราจะทำเช่นไรดี ?”

“ซี…”

ทันใดนั้นเอง เงาร่างสีดำปรากฏตัวขึ้นข้างกายมู่เฉียนซี เขาผู้นี้นำตาข่ายเล็ก ๆ สีดำมายัดใส่ในมือของนาง

“เพ่งพลังวิญญาณเข้าไป เจ้าจะสามารถใช้มันได้” จิ่วเยี่ยกล่าวขึ้น

สายตาของมู่เฉียนซีส่องประกาย สำหรับปลาหมึกชนิดนี้ นางต้องเอาตาข่ายมาจับตัวมันไว้ จากนั้นมาดูกันว่ามันจะทำเช่นไร

ตาข่ายที่จิ่วเยี่ยให้มานี้ นางไม่ได้สงสัยในคุณภาพของมันแม้แต่น้อย และกำลังต้องการของเช่นนี้อยู่พอดี นางจึงไม่เกรงใจจิ่วเยี่ยแล้ว

พลังธาตุวารีไหลเข้าสู่ตาข่ายใหญ่ ๆ นั้น มู่เฉียนซีร้องออกมา “จับไว้!”

ตาข่ายขนาดใหญ่พุ่งตรงไปยังปลาหมึกโปร่งใสและการเคลื่อนไหวของมันก็ถูกจํากัดเอาไว้

— ปึบ!  ปึบ!  ปึบ! —

มันดิ้นรนอย่างดุเดือด แต่ตาข่ายสีดําขนาดใหญ่นั้นที่เดิมทีรัดมันอยู่อย่างสบาย ๆ กลับแน่นขึ้นเรื่อย ๆ

“ฮึ่มมมม!” เจ้าหมึกตัวนี้จนปัญญา มันส่งเสียงคำรามออกมาประหนึ่งเป็นมนุษย์

การร้องในครั้งนี้ของมันช่างดีต่อมันเหลือเกิน เพราะมันเป็นการเรียกสัตว์วิญญาณที่แข็งแกร่งทั้งทะเลมาให้มารวมตัวกันที่นี่ทั้งหมด และตั้งวงล้อมโจมตีพวกมู่เฉียนซี

เสี่ยวหงกล่าวขึ้นด้วยความตกใจ “อะไรกัน มันเรียกพวกมาช่วย แย่แล้ว! นายท่านรีบไปเร็วขอรับ!”

“ที่แห่งนี้ไม่เหมาะสมที่จะอยู่นานนัก”

มู่เฉียนซีรีบกล่าวสั่งตาข่าย “พับเก็บ”

หลังจากเก็บตัวเจ้าปลาหมึกโปร่งใสนี้แล้ว มู่เฉียนซีก็รีบออกไปจากสถานที่อันตรายแห่งนี้ หลังจากนั้น นางก็รู้สึกว่าถึงเวลาที่จะสนทนาเรื่องราวชีวิตกับเจ้าปลาหมึกโปร่งใสตัวนี้แล้ว แต่ว่ามันนั้นกลับยอมที่จะตายแทนที่จะยินยอมสนทนากับนาง มันไม่สนใจใยดีคำขู่ของนางเลย

มู่เฉียนซีเริ่มหมดความอดทน นางโยนเม็ดยาออกมาเม็ดหนึ่ง “เอ้านี่  ถั่วคลุกน้ำตาล เจ้าจะกินหรือไม่ ?”

หลังจากที่ปลาหมึกโปร่งใสกลืนเม็ดยาลงไปแล้ว มันก็เหมือนกับได้พบโลกใบใหม่

ก่อนหน้านี้มันเคยกินแต่สิ่งมีชีวิตที่อยู่ใต้ทะเล ไหนเลยจะเคยได้กินของที่มีส่วนผสมของสมุนไพรวิญญาณเช่นนี้ ในตอนนั้นเอง มันก็ร้องเรียกออกมาอย่างตื่นเต้นว่า “ข้าจะเอาอีก  ข้าจะเอาอีก!”

ในที่สุดก็สามารถจัดการกับเจ้าหมึกนี่ให้นิ่งสงบได้ มู่เฉียนซีให้เม็ดยาไปอีกตามที่มันร้องของอย่างไม่ตระหนี่แม้แต่น้อย

“เอาไปสิ เจ้ากินเต็มที่เลย”

“เอิ้ก!”

ปลาหมึกโปร่งใสเรอออกมา ดวงตาของมันมองมู่เฉียนซี “เจ้าสามารถทำถั่วคลุกน้ำตาลที่รสชาติดีเยี่ยมเช่นนี้ออกมาได้ เช่นนั้นเจ้าจะต้องเป็นผู้ที่นายท่านเฝ้ารอคอยอยู่เป็นแน่แล้ว”

“ข้านั้นเชื่อฟังคำสั่งของนายท่านเพื่อให้ปกป้องทางเข้าที่ตรงนี้ แต่ตอนนี้ถือว่าเจ้าผ่านคุณสมบัติ เช่นนั้นข้าก็จะไม่ขัดขวางเจ้า ข้าอนุญาตให้เจ้าได้เข้าไปในซากสิ่งโบราณเพื่อพบนายท่าน”

“เอาล่ะ สิ่งที่ควรจะกล่าว ข้าก็ได้กล่าวไปหมดแล้ว ข้าจะเอาถั่วนั่นอีก!” ปลาหมึกโปร่งใสยื่นหนวดออกมาราวกับยื่นมือขอ

มู่เฉียนซีขมวดคิ้วเล็กน้อย นางไม่รู้จริง ๆ ว่าเจ้าหมึกใสทำเช่นนี้เพราะหม้อเทพนิรันดร์ยินยอมให้นางเข้าใกล้ซากปรักหักพังแล้วตามที่มันกล่าวจริง ๆ หรือว่าเจ้าหมึกใสทำไปเพราะต้องการที่จะกินเม็ดยาแสนอร่อยของนางอีกกันแน่

.