ตอนที่ 200.2 หลี่ว์ชีเอ๋อร์โดนขู่ (2)

ยอดหญิงอันดับหนึ่ง

เพียงแค่​ว่า​ชาติที่แล้ว​ศัตรู​ของ​เหลียน​เหนียง​ไม่ใช่​ตน​ก็​เท่านั้น

นาง​คง​คิด​ว่ายั​งมี​ความโชคดี​เหลืออยู่​สินะ

​ต่อจากนี้​ไป​ ​มัน​จะ​ไม่มี​ครั้ง​ต่อไป​อีก

​ก่อน​ตะวัน​จะ​ตกดิน​ ​เกา​จ๋าง​สื่อ​เข้ามา​แจ้ง​ว่า​มี​จดหมาย​จาก​พระราชวัง​ ​เกรง​ว่า​องค์​ชาย​สาม​คงจะ​กลับ​ดึก​อีก

​ก่อนหน้านี้​อวิ​๋น​หว่าน​ชิ่น​ก็ได้​ยิน​มาบ​้าง​ ​ตั้งแต่​ท่าน​อ๋อง​เข้า​รับ​ตำแหน่ง​ก็​แทบจะ​อยู่​แต่​ใน​วัง​ ​บางครั้ง​ก็​ค้าง​ที่​พระราชวัง​ ​ท่าน​อ๋อง​ที่​ทำหน้าที่​สำเร็จ​ราชการ​แทน​จะ​มี​ห้องทำงาน​และ​ห้องนอน​ใน​พระราชวัง​โดยเฉพาะ​ก็​นับว่า​สะดวก​พอสมควร​ ​แต่​ช่วงนี้​อาการ​ประชวร​ของ​ฝ่า​บาท​หนัก​ขึ้น​กว่า​เดิม​ ​ท่าน​อ๋อง​ดูแล​งาน​ราชการ​ ​แม้​จะ​ได้รับ​ยกเว้น​การปรนนิบัติ​ก็ตาม​ ​แต่​พอ​เสร็จ​ภารกิจ​ท่าน​ก็​ต้อง​ไป​ที่​พระที่นั่ง​หย่าง​ซิน​เตี้ยน​ ​เมื่อ​เป็น​เช่นนี้​เท้า​ของ​ท่าน​อ๋อง​จึง​แทบจะ​ไม่​ย่ำ​ลงพื้น​ของ​จวน​อ๋อง​เลย

​อวิ​๋น​หว่าน​ชิ่น​รับทราบ​แล้ว​ ​เมื่อ​ทานอาหาร​เย็น​ง่ายๆ​ ​เสร็จ​ก็​เดิน​ไปดู​น้องชาย​ที่​ห้องรับแขก​เสียหน่อย​ ​จากนั้น​ก็​สั่ง​บ่าว​รับใช้​ทั้ง​สี่​คน​ด้วยตัวเอง​ว่า​ให้​ดูแล​คุณชาย​อวิ​๋น​ให้​ดี

​บ่าว​รับใช้​ทุกคน​รู้ดี​ว่า​จิ​่นจ​้​งคื​อพี​่​น้อง​ท้อง​เดียวกัน​ของ​พระ​ชายา​เอก​ ​พวกเขา​จะ​ไม่ใส่ใจ​ได้​อย่างไร​พลัน​พยักหน้า​หงึกๆ

​อวิ​๋น​หว่าน​ชิ่น​ตรวจดู​หนังสือ​ที่​เพิ่ง​ซื้อ​มา​ใหม่​ ​ทั้ง​ยัง​ถาม​อวิ​๋น​จิ​่นจ​้ง​ว่ายัง​ขาดเหลือ​อะไร​อีก​หรือไม่​ ​หาก​มีสิ​่ง​ใด​ก็​ให้​แจ้ง​มอมอ​ข้าง​กาย​ ​หรือ​จะ​บอก​กับ​ตน​โดยตรง​เลย​ก็​ย่อม​ได้

​อวิ​๋น​จิ​่งจ​้ง​วาง​แขน​ลงนั่ง​บน​เก้าอี้​ข้าง​โต๊ะ​หนังสือ​ ​แกว่ง​ขา​สอง​ข้าง​ไปมา​ ​“​ท่าน​พี่​ช่าง​ขี้บ่น​เสีย​จริง​ ​ข้า​รู้​แล้ว​น่า​”

​ชูซ​ย่า​ยิ้ม​พลาง​เอ่ย​เตือน​ ​“​คุณชาย​อวิ​๋น​ ​อยู่​ที่​จวน​อ๋อง​ไม่​เหมือน​อยู่​จวน​อวิ​๋​นนะ​เจ้า​คะ​ ​เวลา​ที่​เจอ​พระ​ชายา​เป็นการ​ส่วนตัว​เรียกว่า​ท่าน​พี่​ได้​ ​แต่​ถ้าหาก​มี​คนนอก​อยู่​ด้วย​จะ​ต้อง​เรียกว่า​เหนียง​เหนียง​นะ​เจ้า​คะ​”

​อวิ​๋น​จิ​่นจ​้ง​ลูบ​ตรง​ท้ายทอย​และ​เรียนรู้​อย่าง​ไว​ ​“​ขอรับ​ ​เหนียง​เหนียง​”

​อวิ​๋น​หว่าน​ชิ่น​เหลือบเห็น​หนังสือ​ที่​เพิ่ง​ซื้อ​มา​ใหม่​วาง​เป็นกอง​อยู่​บน​โต๊ะ​ ​มี​การ​เปิด​ไว้​แล้ว​ ​สงสัย​ก่อนที่​ตน​จะ​มา​ ​น้องชาย​คง​กำลัง​อ่านหนังสือ​อยู่

​อวิ​๋น​จิ​่นจ​้ง​เอ่ย​ด้วย​ความเกรงใจ​ ​“​ท่าน​พ่อ​ลา​เรียน​ที่กั​๋​วจื​่อ​เจียน​ให้​ข้า​ ​ข้า​เลย​ขาดเรียน​หลาย​วิชา​ ​หลังจากนั้น​ ​ข้า​ก็​ย้าย​ไป​อยู่​โรง​หมอ​รักษา​กระดูก​ที่อยู่​ข้างๆ​ ​อีก​ ​ไม่​สะดวก​พก​สิ่งของ​ไป​ด้วย​ ​จึง​ไม่ได้​อ่านหนังสือ​มา​หลาย​วัน​ ​ตอนนี้​ข้า​เลย​ต้อง​รีบ​ทบทวน​เสียหน่อย​ ​เฉา​จี้​จิ​่ว​บอก​ไว้​แล้ว​ว่า​ปีนี​้​จะ​ส่ง​ข้า​เข้าร่วม​การ​สอบ​ชิว​เหวย[1]…​ข้า​ไม่​อยาก​ทำให้​อาจารย์​ผิดหวัง​”​ ​ชะงัก​ไป​ครู่หนึ่ง​ ​ก็​ส่งสายตา​ประกาย​แวววับ​ ​นัยน์ตา​ดู​เขินอาย​เล็กน้อย​ ​พลาง​เอ่ย​ด้วย​เสียงทุ้ม​ต่ำ​เกือบ​ฟัง​ไม่ได้ความ​ว่า​ ​“​รวมถึง​ท่าน​พี่​ด้วย​”

​เมื่อ​ชาติที่แล้ว​เป็น​เด็กผู้ชาย​เกเร​ไม่เอาไหน​ ​แต่​ใน​ชาติ​นี้​ไม่รู้​ว่า​กลายเป็น​เด็ก​มุ่ง​มานะ​ขนาด​นี้​ตั้งแต่​เมื่อไหร่​ ​อวิ​๋น​หว่าน​ชิ่น​รู้สึก​ว่า​ตน​ควร​ดีใจ​และ​ตื้นตันใจ​ ​แต่​ไม่รู้​ทำไม​ถึง​ไม่​เป็น​เช่นนั้น​ ​นาง​มอง​ที่​แขน​และ​ใบหน้า​ที่​มีบาด​แผล​ของ​จิ​่นจ​้ง​ ​แล้ว​ระงับอารมณ์​ของ​ตน​ไว้​ ​พยายาม​เอ่ย​ด้วย​น้ำเสียง​ที่​นุ่มนวล​ ​“​ขยัน​ไม่ผิด​ ​แต่ว่า​บาดแผล​ของ​เจ้า​อยู่​ที่​มือ​ข้าง​ขวา​พอดี​ ​ก็​อย่า​ฝืน​ใช้งาน​หนัก​ล่ะ​เข้าใจ​ไหม​”

​อวิ​๋น​จิ​่นจ​้ง​พยักหน้า​ ​“​เรื่อง​พลิก​หนังสือ​และ​ฝน​หมึก​ ​มี​ม่อ​เซียง​ค่อย​ช่วยเหลือ​ข้า​อยู่​ ​หากว่า​อยาก​จะ​เขียน​ข้า​ก็​จะ​เป็น​คนอ่าน​แล้ว​ให้​ม่อ​เซียง​เป็น​คนเขียน​”

​ม่อ​เซียง​ที่​ยืน​อยู่​ข้างๆ​ ​รีบ​เอ่ย​ ​“​เจ้าค่ะ​เหนียง​เหนียง​ ​บ่าว​จะ​ดูแล​คุณชาย​อวิ​๋น​เป็น​อย่างดี​เลย​เจ้าค่ะ​”

​เวลา​ก็​สาย​มาก​แล้ว​ ​อวิ​๋น​หว่าน​ชิ่น​จึง​ลุกขึ้น​เตรียม​กลับ​ ​ตอนที่​ออกจาก​เรือน​ของ​อวิ​๋น​จิ​่นจ​้ง​ ​ท้องฟ้า​เริ่ม​มืด​ ​พระจันทร์​ที่​ถูก​บัง​โดย​เมฆ​เริ่ม​เผย​ให้​เห็น​เป็น​เสี้ยว

​ชูซ​ย่า​จุด​โคมไฟ​และ​เดิน​นำทาง​ ​ทั้งสอง​คน​พากัน​เดิน​กลับ​เรือน​เอก​โดย​มีแสง​สลัว​ของ​ค่ำคืน​และ​แสงไฟ​สีเหลือง​จาก​โคมไฟ​คอย​ส่องสว่าง

​เมื่อ​เดิน​ใกล้​ถึง​เรือน​เอก​ ​ก็​เห็น​เงา​คน​ลับ​ๆ​ ​ล่อ​ๆ​ ​ซ่อน​อยู่​ด้านหลัง​พุ่มไม้​ ​กำลัง​มอง​มาที​่​พวกเขา

​“​บังอาจ​ ​ใคร​กันที่​แอบมอง​เหนียง​เหนียง​!​ ​ยัง​ไม่​ไสหัว​ออกมา​อีก​!​”​ ​ชูซ​ย่า​ยก​ตะเกียง​เดิน​เข้าไป​ ​พอส​่​อง​ก็​เห็น​เป็น​หลี​่ว​์​ชี​เอ๋อร​์​ท่าทาง​ตกใจ​ ​นาง​เดิน​ออกมา​ ​ท่าทาง​คล้าย​ว่า​รอ​อยู่นาน​ ​พอ​เห็น​อวิ​๋น​หว่าน​ชิ่น​ก็​คุกเข่า​ลง​ฟุบ​ ​ ​“​เหนียง​เหนียง​ได้​โปรด​ยกโทษให้​ข้า​ด้วย​ ​ชี​เอ๋อร​์​ไปหา​เหนียง​เหนียง​ที่​เรือน​เอก​แล้ว​ ​แต่​ฉิง​เสวี​่ย​บอกว่า​เหนียง​เหนียง​ไปหา​คุณชาย​อวิ​๋น​ ​ชี​เอ๋อร​์​เลย​รอ​เหนียง​เหนียง​ตรงนี้​ ​ไม่ได้ตั้งใจ​จะ​ทำให้​เหนียง​เหนียง​ตกใจ​นะ​เจ้า​คะ​ ​เหนียง​เหนียง​ได้​โปรด​ยกโทษให้​ข้า​ด้วย​!​”

​นาง​แอบ​เงยหน้า​มอง​หญิงสาว​ตรงหน้า​ด้วย​ความระมัดระวัง​ ​โดย​มี​ไฟ​คอย​ส่องสว่าง

​ครั้งก่อน​ที่​พบ​หน้า​คือ​ตอนที่​นาง​อยู่​ใน​ตำหนัก​ซาน​ชิง​ภายใน​พระราชวัง​ ​ภายหลัง​ที่​ลบ​เครื่องสำอาง​และ​เปลี่ยนเสื้อ​ผ้า​ ​ทุกคน​ต่าง​พากัน​ตกตะลึง​ไป​กับ​ความงดงาม​นั้น​ ​จนถึง​ตอนนี้​หวี่ว​์​ชี​เอ๋อร​์​ก็​ยัง​ไม่​สามารถ​สลัด​ภาพ​นั้น​ทิ้ง​ได้​ ​ตอนนี้​เมื่อ​ได้​มอง​นาง​อีกครั้ง​ ​นาง​สวมใส่​เสื้อคลุม​สีเทา​หม่น​ ​ทั้ง​เนื้อตัว​คือ​ความสง่า​ที่​ผ่าน​การอาบน้ำ​จัด​แต่ง​มา​แล้ว​ ​ผมเผ้า​พลิ้วส​ไว​ส่งกลิ่น​หอมฟุ้ง​ ​ภายใต้​แสงจันทร์​ ​เผย​ให้​เห็น​แววตา​คู่​นั้น​กำลัง​จับจ้อง​มาที​่​ตน​ราวกับ​เกือบ​รู้​ไป​ถึง​สิ่ง​ที่อยู่​ใน​ห้วง​ลึก​ของ​หัวใจ​ ​จน​หลี​่ว​์​ชี​เอ๋อร​์​ถึงกับ​ตัวสั่น​เล็กน้อย

​“​เจ้า​ลุกขึ้น​เถอะ​”​ ​อวิ​๋น​หว่าน​ชิ่น​เอ่ย​ ​สายตา​ตก​อยู่​ที่นาง​ ​“​มาหา​ข้า​ดึก​เช่นนี้​มีเรื่อง​อะไร​หรือ​”

​หลี​่ว​์​ชี​เอ๋อร​์​รวบรวม​สติ​ ​ลุกขึ้น​พลาง​เอ่ย​ ​“​ชี​เอ๋อร​์​มีส​อง​เรื่อง​เจ้าค่ะ​ ​เรื่อง​ที่หนึ่ง​ต้อง​ขอบพระคุณ​เหนียง​เหนียง​ที่​พาชี​เอ๋อร​์​มาถึง​เมืองหลวง​ ​ทำให้​ชี​เอ๋อร​์​ได้​ใช้ชีวิต​อย่าง​สุขสบาย​ ​เรื่อง​ที่สอง​ ​ก็​คือ​ว่า​…​”​ ​พูด​ไป​ก็​เงยหน้า​มอง​ ​ไม่​เจอกัน​นาน​ ​สายตา​ของ​หญิงสาว​จาก​เมือง​เล็ก​ๆ​ ​ได้​หาย​ไป​หมด​แล้ว​ ​แววตา​นั้น​ราวกับว่า​ได้​ตัดสินใจ​อะไร​บางอย่าง​ไป​แล้ว​ ​“​ข้า​รู้​ว่า​หลังจาก​เหนียง​เหนียง​กลับมา​ ​ท่าน​จะ​ต้อง​จัดแจง​ชีวิต​หลังจากนี้​ให้​กับ​ข้า​…​ข้า​อยาก​ขอ​ความเมตตา​”

​“​เจ้า​พูด​มา​”​ ​อวิ​๋น​หว่าน​ชิ่น​รู้​ว่านาง​จะ​ร้องขอ​สิ่งใด

​ตาม​คาด​ ​หลี​่ว​์​ชี​เอ๋อร​์​คุกเข่า​อีกครั้ง​ ​“​ชี​เอ๋อร​์​ไม่​อยาก​ไปรับ​ใช้​ที่​จวน​อื่น​ ​ชี​เอ๋อร​์​อายุ​ยัง​ไม่​มาก​และ​ยัง​ไม่​อยาก​ออกเรือน​ด้วย​ ​ตอนนี้​ชี​เอ๋อร​์​อยาก​อยู่​ที่​จวน​อ๋อง​ ​คอย​ปรนนิบัติ​รับใช้​พระ​ชายา​เอก​เท่านั้น​!​”

​พอ​ชูซ​ย่า​ได้ยิน​คิ้ว​ก็​ขมวด​ขึ้น​มาทัน​ที

​ก็​ไม่ได้​โง่งม​นี่​ ​เพราะ​ต่อให้​ไปรับ​ใช้​ใน​จวน​ที่​เก่งกาจ​สัก​เพียง​ไหน​ก็​มิสู​้​คอย​รับใช้​ใน​จวน​อ๋อง​ ​ยิ่งไปกว่านั้น​เจ้านาย​ของ​จวน​นี้​ยัง​เป็น​ผู้​สำ​เสร็จ​ราชการ​แทน​อีก

​ส่วน​การ​จับคู่​…​พี่ชาย​ของ​หลี​่ว​์​ชี​เอ๋อร​์​มีพ​ระ​คุณ​กับ​เหนียง​เหนียง​ ​เหนียง​เหนียง​คง​ไม่​ให้​นาง​ไป​เป็น​อนุภรรยา​แน่​ ​แต่​ด้วย​สถานะ​ของ​หลี​่ว​์​ชี​เอ๋อร​์​หาก​ให้​ไป​เป็น​ภรรยา​เอก​ของ​ใคร​แล้ว​ละ​ก็​ ​ตระกูล​ฝั่ง​ตรงข้าม​ก็​คง​ไม่ได้​สูงส่ง​มาก​ขนาด​นั้น​ ​ตั้งแต่​ที่​ท่าน​อ๋อง​ได้​สำเร็จ​ราชการ​แทน​ ​เดิมที​่​จวน​อ๋อง​ที่​เงียบเหงา​ ​ก็​กลายเป็น​จวน​อ๋อง​ที่​มี​แต่​ข้าราชการชั้นผู้ใหญ่​ ​ขุนน้ำ​ขุนนาง​มาทำ​ที​ขอ​สร้างความสัมพันธ์​ด้วย

​เพียงแค่​นาง​ได้​อยู่​ฝั่ง​ผู้คุม​อำนาจ​ของ​เมืองหลวง​ ​ก็​อาจ​ทำให้​นาง​มีโอกาส​ได้​อยู่​ใน​ตระกูล​ที่​ดี​ก็​เป็นได้

​แม้​จะ​ต้อง​ใช้​วิธีการ​เกาะ​ ​ก็​ต้อง​เกาะ​ไว้​ให้​แน่น

​อวิ​๋น​หว่าน​ชิ่น​พูดตรงๆ​ ​อย่าง​ไม่​อ้อมค้อม​ ​“​ความตั้งใจ​ของ​พี่ชาย​เจ้า​ ​เพียงแค่​อยาก​ให้​เจ้า​มีชีวิต​ที่​สงบสุข​ใน​ทุกๆ​ ​วัน​ก็​พอ​”

​หลี​่ว​์​ชี​เอ๋อร​์​คิด​ตาม​และ​รู้สึก​ขุ่นเคือง​เล็กน้อย​ ​ชีวิต​ที่​สงบสุข​งั้น​เรอะ​ ​แล้ว​เหตุใด​สตรี​ตรงหน้า​ถึง​ไม่​สละ​อำนาจ​ของ​พระ​ชายา​เอก​ ​ทิ้ง​ตราประทับ​แล้วไป​ใช้ชีวิต​เรียบง่าย​สงบสุข​ล่ะ

​เหตุใด​สตรี​ตรงหน้า​ถึง​มีชีวิต​ที่​สุขสบาย​ได้​ ​แต่​นาง​กลับ​ต้อง​มีชีวิต​ที่​ไร้​ชีวิตชีวา​และ​ออกเรือน​กับ​คนธรรมดา​ที่​ซื่อตรง​ไร้ความสามารถ​ตลอดชีวิต

​อวิ​๋น​หว่าน​ชิ่น​มอง​นาง​ไว้​ ​นาง​ไม่ได้​เอ่ย​คำ​ใด​แต่​คิ้ว​ที่​ขมวด​ได้​เผย​ทุกสิ่ง​ออกมา​แล้ว​ ​นาง​กำลัง​รู้สึก​ไม่ได้​รับ​ความเป็นธรรม​ ​สีหน้า​ของ​อวิ​๋น​หว่าน​ชิ่น​ไม่​เปลี่ยน​ ​ส่วน​น้ำเสียง​ยังคง​เอ่ย​ด้วย​ความนุ่มนวล​ ​“​ข้า​ไม่มีเหตุผล​อะไร​ที่​ต้อง​จัดการ​ชีวิต​เจ้า​ ​แต่​ข้ามี​อำนาจ​นี้​ก็​เท่านั้น​ ​เพราะ​เจ้า​คือ​คนที​่​ข้า​พาก​ลับ​มาด​้วย​ ​แต่​ตอนนี้​เจ้า​กลับมา​ต่อรอง​กับ​ข้า​ ​หากว่า​เจ้า​ยอม​ฟัง​ข้างั​้น​เจ้า​ก็​อยู่​ที่​จวน​อ๋อง​อีก​สักหน่อย​ ​รอ​ข้า​จัดการ​เสร็จ​แล้ว​ค่อย​ดู​ว่า​จะ​ให้​เจ้า​ไป​ที่ไหน​ ​ข้า​ไม่มีวัน​ทำร้าย​เจ้า​ ​แต่​ถ้าหากว่า​เจ้า​ไม่ยอม​ ​ข้า​ก็​จะ​ให้เงิน​เจ้า​แล้ว​พรุ่งนี้​เจ้า​ก็​ออก​ไป​จาก​จวน​เสีย​”

​น้ำเสียง​อ่อนโยน​นุ่มนวล​ ​แต่กลับ​เป็น​คำพูด​เตือนสติ​ว่า​ ​หาก​ไม่​ทำตาม​คำสั่ง​ ​พรุ่งนี้​ก็​เตรียม​ออก​ไป​จาก​จวน​อ๋อง​ได้​เลย​!

​หลี​่ว​์​ชี​เอ๋อร​์​คิด​ว่านาง​ไม่ถือสา​ตน​ตั้ง​นาน​แล้ว​ ​เวลา​ก็​ผ่าน​มานาน​แล้ว​ ​หาก​ลอง​ขอร้อง​อีก​สักครั้ง​ ​นาง​ก็​น่าจะ​ใจอ่อน​ ​ก็​แค่​เพิ่ม​บ่าว​รับใช้​เข้า​จวน​อ๋อง​อีก​สัก​คน​มัน​จะ​หนักหนา​อะไร​กัน​ ​ตน​เป็น​ถึง​น้องสาว​ของ​ผู้​มีพ​ระ​คุณ​ ​ทั้ง​ยัง​ได้รับ​การฝาก​ฝั่ง​ไว้​ก่อน​สิ้นใจ

​คิดไม่ถึง​เลย​ว่า​ ​จิตใจ​นาง​จะ​แน่วแน่​ถึง​เพียงนี้​ ​อย่างไร​อย่างนั้น​ไม่เปลี่ยนแปลง​ตาม​กาลเวลา

[1] ​การ​สอบ​ชิว​เหวย​ ​หมายถึง​ ​การ​สอบ​บัณฑิต​ชนบท​ ​ซึ่ง​จัด​ขึ้น​ใน​ช่วง​ฤดูใบไม้ร่วง