ตอนที่ 201.1 กรรมใดใครก่อ กรรมนั้นย่อมคืนสนอง (1)

ยอดหญิงอันดับหนึ่ง

ท่าน​อ๋อง​วาง​นาง​ลง​บน​เตียง​ขนาดใหญ่​อย่าง​แผ่วเบา​ ​ใบหน้า​หล่อเหลา​เงย​ขึ้น​เล็กน้อย​ ​นัยน์ตา​ร้อนผ่าว​ ​ยกมือ​ขึ้น​ปลด​กระดุม​หยก​บน​เสื้อคลุม​ของ​ตน​ออก

อวิ​๋น​หว่าน​ชิ่น​กำลังดี​ใจ​ที่​น้องชาย​สามารถ​อยู่​ต่อ​ใน​จวน​อ๋อง​ได้​ ​ถึง​เพิ่ง​ได้สติ​ ​และ​จู่ๆ​ ​ก็​พลัน​นึกถึง​ ​คำพูด​ของ​เขา​ที่ว่า​จะ​สั่งสอน​ตน​เมื่อ​ตอน​อยู่​ที่​ตำหนัก​ของ​พระสนม​เอก​ ​นาง​รีบ​ลุกขึ้น​มา​ห้าม​ ​“​ท่าน​อ๋อง​ ​ท่าน​จะ​ทำ​อะไร​ ​ท่าน​อ๋อง​ใจเย็น​ก่อน​”

ซ​ย่า​โหว​ซื่อ​ถิง​เห็นท่า​ทาง​นาง​เหมือน​เจอ​ผี​อย่างไร​อย่างนั้น​ถึงกับ​อด​ยิ้ม​ไม่ได้​ ​พอค​ลายมือ​ลง​ ​กระดุม​เม็ด​สุดท้าย​ก็​ถูก​ปลดออก​แล้ว​เสื้อคลุม​ก็​ไหล​ตกลง​ไป

เสื้อชั้นใน​ตัว​บาง​สีขาว​นวล​แนบ​อยู่​บน​ตัว​ของ​ชาย​ร่าง​สูง​ ​กล้ามเนื้อ​แขน​และ​หน้าอก​แข็งแกร่ง​เป็น​มัด​ๆ​ ​มีกลิ่น​ขี้ผึ้ง​หอม​จางๆ​ ​ลอย​ขึ้น​มา​ ​นี่​เป็น​ร่างกาย​ของ​ชายหนุ่ม​ที่​มี​ความแข็ง​แกร่ง

หาก​เห็น​สภาพ​เช่นนี้​ ​เดา​แทบ​ไม่​ออก​เลย​ว่า​เขา​มี​โรคประจำตัว​บางอย่าง​อยู่​ด้วย

อวิ​๋น​หว่าน​ชิ่น​เห็น​เขา​เข้ามา​ใกล้​ ​ก้าว​เท้า​เหยียบ​ขึ้น​ตั่ง​ ​สติ​ของ​นาง​กลับมา​อีกครั้ง​ ​แต่​สายตา​กลับ​มอง​ลง​ไป​จน​อด​ไม่ได้​ที่จะ​กลืนน้ำลาย​อึก​ใหญ่​ ​แม้แต่​ใบ​หูก​็​เริ่ม​ร้อนผ่าว​ขึ้น​มา​เช่นกัน

ชุด​นี้​แนบเนื้อ​เกินไป​แล้ว​ ​มัน​แนบ​จน​เผย​ให้​เห็น​ส่วน​เว้า​โครง​ทุก​ส่วน​ของ​ร่างกาย​ของ​เขา​ ​โดยเฉพาะ​…​ส่วน​เว้า​นูน

นี่​เขา​ตั้งใจ​ทำ​เช่นนี้​ใช่​หรือไม่​ ​ก่อน​ไป​เยี​่​ยน​หยาง​ ​นาง​เคย​เห็น​ชุดนอน​ที่​เขา​ใส่​ทุกคืน​ ​แต่​เป็น​ชุด​โคร่ง​ๆ​ ​ปิด​ทุก​สัดส่วน​ ​ไม่ได้​ยั่วยวน​ขนาด​นี้

“​ตาของ​เจ้า​กำลัง​มอง​ที่ใด​กัน​นะ​”​ ​ท่าน​อ๋อง​พูด​ด้วย​เสียง​นุ่มนวล

​นาง​รีบ​หลบตา​และ​ปฏิเสธ​อย่าง​มีพิ​รุธ​ ​“​ข้า​ไม่ได้​มอง​อะไร​เสียหน่อย​”

​ที่​ตรงนี้​ไม่มี​เงิน​สาม​ร้อย​ตำลึง[1] ​สินะ​ ​พอนาง​พูดเสร​็​จก​็​โกรธ​จน​หน้า​เขียว​ ​แล้วก็​เป็นไปตาม​คาด​ ​เขา​หัวเราะเยาะ

​นาง​กำลังจะ​แก้ตัว​ ​แต่​ท่าน​อ๋อง​ก็​นั่งลง​บน​เตียง​พลาง​เอื้อมมือ​ดับไฟ​ตะเกียง​สุดท้าย​ ​จากนั้น​ก็​เอื้อมมือ​ปลด​ม่าน​ที่​ผูก​กับ​เสา​เตียง​ ​แล้ว​ผ้าม่าน​สีแดง​สด​ก็​ปิดกั้น​โลก​ทั้งสอง​ใบ​เอาไว้

​บน​เตียงนอน​ ​มีเสียง​ลมหายใจ​ร้อนแรง​ ​นาง​มองเห็น​สีหน้า​ของ​เขา​ไม่ชัด​มาก​ ​แต่​ก็​ตกลง​สู่​สงคราม​นั้น​ด้วย​เช่นกัน​ ​แต่งงาน​กัน​มานา​นข​นาด​นี้​ ​แต่​ยัง​ไม่เคย​ทำ​เรื่อง​นั้น​สักที​ ​จะ​ปล่อย​เป็น​อย่างนี้​ไป​ตลอด​เกรง​ว่า​ก็​คง​ไม่ได้​ ​แต่​ถ้า​นึก​สนุก​เพียง​ชั่ววูบ​จน​เกิด​สิ่งใด​ขึ้นกับ​ร่างกาย​ของ​เขา​ล่ะ​ ​จะ​ทำ​อย่างไร

​ขณะ​กำลัง​สับสน​อยู่​ใน​ใจ​ ​เขา​ก็​พลิกตัว​นอนลง​จากนั้น​ก็​ให้​นาง​เข้ามา​อยู่​ใน​ผ้าห่ม​ ​โดย​เอน​หัว​ของ​นาง​มา​ไว้​ที่​อ้อมกอด​พลาง​เอ่ย​ว่า​ ​“​นอน​กัน​เถอะ​”

​นะ​…​นอน​ ​อวิ​๋น​หว่าน​ชิ่น​งงงวย​สับสน​เล็กน้อย​ ​เงยหน้า​ขึ้น​มองหน้า​เขา​โดย​มีแสง​เทียน​อ่อน​ๆ​ ​จาก​บริเวณ​ไม่​ไกล​ส่องแสง​ให้​ ​ใบหน้า​ที่​ดู​เหนื่อยล้า​กับ​ดวงตา​ที่​ปิด​สนิท​และ​ขน​ตา​ที่​ไม่​ขยับ​ ​นาง​ครุ่นคิด​อยู่​พัก​หนึ่ง​ถึง​เข้าใจ​ว่า​เขา​คงจะ​นอน​แล้ว​จริงๆ

​นาง​รู้สึก​โล่งใจ​ ​ตน​อาจจะ​คิดมาก​ไป​เอง​ ​ทั้ง​ร่างกาย​ก็​รู้สึก​ผ่อนคลาย​ลงมาก​ ​นาง​ยื่น​แขน​ออก​ไป​ ​โอบ​เอว​อัน​แข็งแรง​ของ​เขา​เอาไว้​ ​ขดตัว​อยู่​ใน​ท่าที​่​รู้สึก​สบาย​ที่สุด​ ​พอ​หลับตา​ก็​รู้สึก​ว่า​เขา​มาก​ระ​ซิบ​ข้าง​หู​ ​”​วันนี้​ข้า​ยอม​ปล่อย​เจ้า​ไป​ก่อน​ ​อีก​สอง​วัน​เจ้า​จะ​ไม่​โชคดี​เช่น​วันนี้​แน่​”

​หมายความว่า​อย่างไร​ ​นาง​แหงนหน้า​ขึ้น​อีกครั้ง​ ​ได้ยิน​เพียง​เสียง​เขา​เอ่ย​ท่ามกลาง​แสง​สลัว​ ​“​ลืม​เรื่อง​ที่​ตนเอง​ทำ​ไว้​แล้ว​หรือ​ ​ไม่ใช่​ว่า​สั่ง​ให้​หมอ​อิง​ไป​เก็บ​พืช​ที่​สวน​แอป​ริคอ​ตมา​ทดลอง​ยา​หรือ​ ​ตอนที่​เจ้า​เข้า​อาราม​ฉาง​ชิง​ไป​ได้​สอง​เดือน​ ​หมอ​อิง​มาบ​อก​ว่า​ได้​ค้นพบ​ยา​หยุด​พิษ​ได้​แล้ว​ ​แม้ว่า​จะ​ยัง​ไม่​สามารถ​กำจัด​ต้น​ต่อ​ของ​โรค​ได้​ ​แต่​ก็​ยับยั้ง​การ​เลือด​ออก​ได้​ ​ประสิทธิภาพ​ดีมาก​เลย​ทีเดียว​ ​หลาย​วัน​มานี​้​กำลัง​สกัด​ให้​บริสุทธิ์​อยู่​ ​อีก​ไม่​กี่​วัน​ก็​คงจะ​เสร็จ​”

​ที่​เขา​พูด​เมื่อวาน​ที่​ตำหนัก​พระสนม​เอก​ ​แต่​พูด​ได้​เพียง​ครึ่งหนึ่ง​คือ​เรื่อง​นี้​เอง​หรือ​ ​นาง​ยัง​ไม่ทัน​ได้สติ​ ​“​เช่นนั้น​ ​หมายความว่า​…​”

​“​หมายความว่า​ทาน​ยาก​่อน​ทำ​อะไร​เช่นนั้น​ ​อาการ​อาจจะ​ไม่​กำเริบ​น่ะ​สิ​”​ ​เขา​เอ่ย​เสียง​เรียบ​ ​เหมือนกับ​กำลัง​พูดว่า​ทาน​ยาก​่อ​นกิ​นข​้าว​หรือ​ทาน​ยาก​่​อนนอ​นอย​่าง​นั้น​ ​ราวกับว่า​มัน​เป็นเรื่อง​ปกติ

​มิน่าล่ะ​เมื่อวาน​เขา​ถึง​ดู​มี​ความมั่นใจ​มาก​ ​เอ่ย​ว่า​หาก​ได้​ออก​ไป​จาก​พระราชวัง​จะ​สั่งสอน​ตน​ ​วันนี้​ยัง​จะ​มายั​่​วอีก​!​ ​ใบหน้า​อวิ​๋น​หว่าน​ชิ่น​ขยับ​เล็กน้อย​ ​คลาย​มือ​ออกจาก​เอว​ของ​เขา​พลาง​ตอบ​ ​“​อ้อ​”

​ท่าน​อ๋อง​รู้​ว่านาง​น่าจะ​เขิน​ ​ที่จริง​ตน​ก็​รู้สึก​ใจเต้น​และ​หน้าแดง​อย่าง​บอก​ไม่​ถูก​ ​แม้ว่า​ก่อนหน้านี้​นาง​จะ​ต้อง​เสียสละ​ผ้า​ปู​เตียง​ไป​หลาย​ผืน​ ​แต่​ความจริง​กลับ​ไม่เคย​มี​อะไร​เกิดขึ้น​…​ ​และ​ไม่รู้​ว่า​พอ​วันนั้น​มาถึง​ ​จะ​ทำให้​นาง​พอใจ​ได้​หรือไม่

​แต่ว่า​ตนเอง​เป็น​สามี​ ​ก็​ต้อง​แสดงออก​ว่า​เป็น​คน​ใจกว้าง​ ​จะ​ทำให้​นาง​ลำบากใจ​ก็​คง​มิได้​ ​ไม่เช่นนั้น​นาง​อาจจะ​ดูถูก​ได้​ ​ตอนนี้​เขา​จับมือ​นาง​และ​กอด​นาง​ไว้​แน่น​ ​ทำเป็น​นิ่ง​สงบ​ ​“​อย่า​ได้​กลัว​ไป​เลย​”

​อย่า​ได้​กลัว​ไป​เลย​ ​คำพูด​นี้​…​พูด​กับ​ตน​งั้น​หรือ​ ​ได้ยิน​มา​ว่า​ท่าน​ยัง​เป็น​องค์​ชาย​สาม​ที่​ไม่มี​**

​อวิ​๋น​หว่าน​ชิ่น​ถูก​กอด​ไว้​แน่น​ก็​ยิ่ง​สั่น​ ​จึง​รีบ​ขยับตัว​เล็กน้อย​ ​เพื่อ​ปกปิด​ความ​เขินอาย

​เจอ​ผีเข้า​หรือ​อย่างไร​ ​นี่​ตน​ยัง​จะ​เขิน​อีก​หรือ​ ​ใช่​ว่า​ไม่เคย​ผ่าน​การ​แต่งงาน​มา​เสียหน่อย​ ​เคย​เข้า​หอ​ ​ทั้ง​ยัง​เคย​มีท​่า​ทาง​หวาน​ย้อย​กับ​เขา​มา​แล้ว​…​ยัง​มี​อะไร​ให้​เขิน​อีก

​หรือว่า​ชาติ​นี้​เปลี่ยนเป็น​สาว​ร่าง​บริสุทธิ์​แล้ว​เลย​รู้สึก​เขินอาย​ได้​ง่าย​ขึ้น​งั้น​รึ

​ ​นาง​ก้มหน้า​ลง​บน​อก​ของ​ท่าน​อ๋อง​ ​หลับตา​ลง​ ​สูด​หายใจเข้า​ลึก​ๆ​ ​ไม่นาน​ก็​เข้าสู่​ภวังค์​หลับ​ฝันดี

​เมื่อ​อวิ​๋น​หว่าน​ชิ่น​ตื่นขึ้น​มา​ใน​วันรุ่งขึ้น​ ​ท้องฟ้า​ก็​สว่าง​แล้ว​ ​เอา​มือ​ลูบ​คน​ข้าง​กาย​แต่กลับ​ว่างเปล่า​ ​ทั้ง​ยัง​เก็บ​ที่นอน​อย่างเรียบร้อย​ ​จึง​เรียก​ชูซ​ย่า​เข้ามา​ถาม​ ​ถึง​ได้​รู้​ว่า​เขา​ออก​ไป​ตั้ง​นาน​แล้ว

​ยัง​ไม่​ถึง​ยาม​เหม่า[2] ​ก็​ต้อง​เข้าไป​ว่า​ราชกิจ​ใน​พระราชวัง​ ​จวน​อ๋อง​ห่าง​จาก​วัง​หลวง​ประมาณ​หนึ่ง​ ​หาก​รวม​เปลี่ยน​ชุด​ ​ชำระล้าง​แล้ว​นั้น​ฟ้า​ยัง​ไม่ทัน​สว่าง​ก็​ต้อง​ตื่น​แล้ว​ ​ผนวก​กับ​ตอนนี้​เขา​เป็น​ถึง​ผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์​ ​ก็​ยิ่ง​ต้อง​ปฏิบัติ​ให้​เป็น​แบบอย่าง​ ​ดังนั้น​จะ​ต้อง​ไป​เช้า​กว่า​ขุนนาง​ท่าน​อื่นๆ​ ​ถึง​ครึ่ง​ชั่ว​ยาม

​เขา​ยังคง​เหมือน​แต่ก่อน​ ​ไม่​ปลุก​นาง​ ​ทำ​ทุกอย่าง​เสียง​เบา​ ​จน​นาง​แทบจะ​ไม่รู้​สึก​ใดๆ

​หาก​หรุ​่ย​จือ​อยู่​ที่​จวน​ละ​ก็​ ​จะ​ต้อง​บ่นว่า​ตน​ไม่​ทำหน้าที่​ของ​ภรรยา​อีก​เป็นแน่​ ​แต่ว่า​สิ่ง​ที่​หรุ​่ย​จือ​พูด​ก็​ถูก​ ​อวิ​๋น​หว่าน​ชิ่น​ใส่​ชุด​ไป​ ​เอ่ย​ไป​ ​“​ชูซ​ย่า​ ​ตอนที่​ท่าน​อ๋อง​ตื่น​ไย​ถึง​ไม่​เรียก​ข้า​ ​ครั้งหน้า​ให้​ตะโกนเรียก​ข้า​ด้วย​”

​ชูซ​ย่า​เอ่ย​ตอบ​ ​“​เตรียม​จะ​เรียก​แล้ว​เจ้าค่ะ​ ​แต่​องค์​ชาย​สาม​ห้าม​ไว้​ ​ครั้งหน้า​ข้า​จะ​พยายาม​นะ​เจ้า​คะ​”​

​หลังจากที่​อวิ​๋น​หว่าน​ชิ่น​หวี​ผม​ล้างหน้า​เสร็จ​ ​ก็​พา​เกา​จ๋าง​สื่อ​และ​ชูซ​ย่า​ออกจาก​จวน​ ​ไปรับ​เหยา​กวง​เย​่า​ที่​จวน​นอก​พระราชวัง​ ​ถือโอกาส​ช่วง​เช้า​ตะวันขึ้น​ตรง​ไป​ที่​เรือน​เจ้ากรม​ด้วย

​ในขณะที่​นาง​เพิ่ง​ออกจาก​จวน​ก็ได้​ส่ง​คน​ไป​ที่​กรม​กลาโหม​ไป​แจ้ง​ท่าน​พ่อ​ว่า​ตน​จะ​กลับบ้าน​และ​จะ​พา​หมอ​หลวง​ไป​ตรวจ​อนุ​รอง​ด้วย​ ​พอท​่า​นพ​่อ​ได้ยิน​ว่า​ตน​จะ​กลับ​ไป​ ​คง​รีบ​กลับ​จวน​อย่าง​รีบร้อน​เป็นแน่​ ​เพราะ​เกรง​ว่า​ตน​จะ​กลับ​ไป​ก่อเรื่อง​วุ่น​ๆ​ ​ขึ้น​ใน​จวน

​เป็นไปตาม​คาด​ ​อวิ​๋น​หว่าน​ชิ่น​เดิน​เข้า​จวน​ทาง​ประตู​ใหญ่​ได้​ไม่นาน​ ​อวิ​๋น​เสวียน​ฉั​่ง​ใส่​ชุด​ข้าราชการ​กลับมา​จาก​กรม​อย่างรวดเร็ว​ ​ความโกรธ​ของ​เมื่อวาน​ยัง​ไม่ทัน​หาย​ ​พอ​เห็น​ว่านาง​ยัง​กล้ามา​เหยียบ​ที่​จวน​อีก​ ​อยาก​จะ​ด่า​ก็​ไม่กล้า​ ​สะบัด​แขน​เสื้อ​เอ่ย​เสียงเย็น​ชา​ ​“​ไย​กัน​ ​พระ​ชายา​ฉิน​พาลู​กชาย​ของ​ข้า​ไป​แล้ว​ ​วันนี้​จะ​มารับ​ใคร​ไป​อีก​ล่ะ​ ​ความอดทน​ของ​คน​มี​ขีดจำกัด​ ​หากว่า​วันนี้​เจ้า​ยัง​พาลเกเร​ที่นี่​อีก​ ​ข้า​เอง​ก็​จะ​ไม่สน​ความ​เป็น​พ่อ​ลูก​ ​ยิ่งไปกว่านั้น​ข้า​จะ​ทำให้​ฉิน​อ๋อง​เสียหน้า​อีกด้วย​ ​เจ้า​ต้อง​ไป​ศาลา​ว่าการ​กับ​ข้า​เดี๋ยวนี้​ ​ไป​คุย​กัน​ให้​รู้เรื่อง​!​”

​อวิ​๋น​หว่าน​ชิ่น​ลุกขึ้น​ยืน​ ​ลูบ​แขน​เสื้อ​ขน​สุนัขจิ้งจอก​ ​“​ข้าราชการ​มือสะอาด​ก็​ยาก​ที่จะ​แก้ไข​เรื่อง​ใน​บ้าน​ได้​ ​ท่าน​พ่อ​จะ​ไป​ศาลา​ว่าการ​ไหน​ล่ะ​เจ้า​คะ​ ​แม้แต่​ความผิด​ครั้ง​ใหญ่​ลูก​ก็​ทำ​มา​แล้ว​ ​แค่​รับน้อง​ชาย​ไป​นับเป็น​เรื่องเล็ก​ๆ​ ​คิด​ว่า​ข้า​จะ​ใส่ใจ​หรอก​หรือ​ ​มี​แต่​หน้า​ท่าน​พ่อ​นั่นแหละ​ที่​เสีย​ ​ให้​คน​เขา​รู้กัน​ทั่ว​ว่า​เพื่อ​ปกป้อง​อนุภรรยา​จน​ต้อง​ตีลูก​ภรรยา​เอก​จน​เกือบ​พิการ​ ​ช่าง​น่าสลดใจ​จริงๆ​”

​“​เจ้า​มัน​ลูก​อกตัญญู​ ​วันนี้​กลับมา​เพราะ​อยาก​ทะเลาะ​กับ​ข้า​ต่อ​ใช่​หรือไม่​”​ ​อวิ​๋น​เสวียน​ฉั​่ง​เห็น​สีหน้า​ไร้เหตุผล​ของ​บุตรสาว​ก็​ยิ่ง​โมโห​ ​ต่อให้​มี​เหยาย​่​วน​พั่น​อยู่​ด้วย​เขา​ก็​ไม่สน​สิ่งใด​อีกแล้ว

[1] ​ที่​ตรงนี้​ไม่มี​เงิน​สาม​ร้อย​ตำลึง​ ​เปรียบ​ว่า​ ​อยาก​ปกปิด​ซ่อนเร้น​ ​กลับกลาย​เป็น​เปิดเผย​ให้​รู้

[2]ยาม​เหม่า​ ​คือ​ ​ช่วงเวลา​ ​05:00-06:59​