เย่เฟิงหัวเราะเสียงเย็นอย่างไร้เสียง

ถ้าหากครั้งนี้เขาสามารถมีชีวิตรอดออกไปจากที่นี่ได้ สิ่งที่พวกเขามอบให้เขาทั้งหมด เขาจะทวงมันคืนเป็นพันเท่าหมื่นเท่า

“พวกเจ้าอยากจะทำอะไรข้าก็เชิญ แต่ปล่อยเขาไป”

หัวใจของฮองเฮาฉู่กำลังมีเลือดซิบออกมา

เย่เฟิงเป็นคนดีขนาดนี้ ทำไมคนพวกนี้จึงต้องทรมานเขาอย่างนี้ด้วย

เขาดีถึงขนาดนี้ เคารพในตัวเองถึงเพียงนี้ นางไม่อยากจะคิดจริงๆ ตอนที่เป็นทาสบำเรอคนหนึ่ง ปล่อยให้หัวหน้ากองธงกล้วยไม้ทรมานได้ตามใจ เขาจะเจ็บปวดใจแค่ไหน

เย่เฟิงยิ้มอย่างเย็นชา “ฮูหยิน เย่เฟิงมีชีวิตต้อยต่ำ ไม่คู่ควรที่ท่านจะทำเช่นนี้ ขอโทษ เย่เฟิงมีความสามารถจำกัด ปกป้องท่านไม่ได้”

“ลูกเอ๋ย……”

“ข้าคุ้นเคยกับการทรมานเช่นนี้ตั้งนานแล้ว ไม่ตาย มากสุดก็แค่บาดเจ็บทางกาย รักษาไม่กี่วันก็หายแล้ว ฮูหยินไม่ต้องกังวล”

เขาพูดราวกับสบายใจมาก แต่กลับทำให้ฮองเฮาฉู่ยิ่งรู้สึกสงสารขึ้นไปอีก

มองถังเหล็กที่ดูเย็นยะเยือก เย่เฟิงมองกวาดคนทั้งหมดที่อยู่ตรงนั้น สุดท้ายก็พยายามดิ้นรนให้หลุดพ้นจากพันธนาการที่แน่นหนา เดินตรงไปที่ถังเหล็กทีละก้าว

บนหนามเหล็กยังมีเลือดติดอยู่ไม่น้อย ไม่รู้ว่าเคยมีคนถูกทิ่มแทงอย่างโหดเหี้ยมไปเท่าไหร่แล้ว

เย่เฟิงกลืนความเจ็บปวดทั้งหมดลงไป สูดลมหายใจลึกๆเฮือกหนึ่ง เดินเข้าไปข้างในด้วยตนเอง

“ไม่……ไม่ได้……”

ฮองเฮาฉู่ดิ้นรนเพื่อลุกขึ้นมา

หนามเหล็กเหล่านั้น เหมือนกำลังทิ่มตานางให้รู้สึกเจ็บปวด

หัวหน้ากองธงกล้วยไม้กับหัวหน้ากองธงโบตั๋นคิดไม่ถึงว่าเย่เฟิงจะเต็มใจเดินเข้าไปเองเช่นนี้

ที่จริงแล้ว แม้เขาจะต่อต้าน ก็หนีไม่พ้นชะตากรรมอยู่ดี

“ฮึ ในเมื่อเจ้าอยากจะลิ้มลองขนาดนี้ เช่นนั้นข้าก็จะสนองเจ้า เด็กๆ ปิดประตู”

ประตูถังเหล็กถูกปิดลง ข้างในมีเสียงครางในลำคอส่งออกมา ใต้ถังเหล็ก เลือดสดๆไหลนองออกมา

ฮองเฮาฉู่แทบจะเป็นลม

ด้านบนของภูเขา กู้ชูหน่วนร้อนใจจนเดินวนเวียนไปมา เจ้าพวกสารเลวของเผ่าเทียนเฟิ่น ยังไม่รีบมากันอีก

หัวหน้ากองธงโบตั๋นเอ่ยว่า “เปิดระดับสอง”

สิ้นเสียงคำสั่ง เหล่าฉีโสว่ก็เพิ่มเหล็กปิดประตูทับลงไปอีกชั้น เลือดทะลักออกมาจากข้างในทันที

หัวหน้ากองธงกล้วยไม้อดไม่ได้ที่ปรบมือชอบใจ

“ที่แท้ยิ่งปิดประตูให้แน่นหนา หนามเหล็กก็ทิ่มแทบได้ลึกมากยิ่งขึ้น น่าสนใจ แต่ว่าทำไมข้างในจึงไม่มีเสียง เสี่ยวเฟิงเอ๋อคงไม่ได้ตายอยู่ในนั้นกระมัง”

” เจ้าเพิ่งจะมอบเขาให้กับข้าเมื่อครู่ ทำไมจึงเป็นห่วงเขาเช่นนี้ หรือว่า เจ้ายังปล่อยเขาไม่ลง”

“ข้าแค่กลัวว่าเล่นจนเขาตายแล้ว ก็ไม่สนุกน่ะสิ”ดวงตาของหัวหน้ากองธงกล้วยไม้ไหววูบ สิ่งที่พูดออกมายากจะเดาว่าจริงหรือเท็จ

หัวหน้ากองธงโบตั๋นกำลังยิ้ม แต่รอยยิ้มส่งไปไม่ถึงสายตาของเขา

“วางใจเถอะ เย่เฟิงหน้าตาหล่อเหลาขนาดนี้ ข้าจะปล่อยให้เขาตายได้อย่างไร เขาไม่ตายหรอก ขอแค่เจ้าไม่ลืม ว่าได้มอบเย่เฟิงให้ข้าแล้ว อย่าเสียใจภายหลัง”

“เปิดระดับสาม”

“อืม……”

เย่เฟิงเจ็บปวด ไม่ว่าเขาจะกัดฟันอดทนเพียงใด ก็ยังคงเกิดเสียงในลำคออยู่ดี ว

เจ็บ

เจ็บปวดมาก

ทั่วทั้งร่างกาย นอกจากจุดตายแล้ว แทบจะถูกเหล็กแหลมทิ่มแทงเข้าไปทุกจุด

หนามเหล็กไม่รู้ว่าแช่ยาอะไรมาก่อน แต่ละเล่มเจ็บปวดจนถึงหัวใจ เจ็บยิ่งกว่าถูกสาดเกลือบนแผล

ข้างในมืดสนิท หนามเหล็กยังคงบีบอัดเข้าไปข้างในไม่หยุด ราวกับจะแทงให้ทะลุร่างของเขา

ภาพที่ผ่านมาผุดขึ้นมามโนภาพของเขา

เย่เฟิงกัดริมฝีปากไว้แน่น ไม่กล้าปล่อยให้ตัวเองเปล่งเสียงออกมาแม้แต่น้อย เกรงว่าฮองเฮาฉู่จะเป็นห่วง

“ปล่อยเขา ถ้าหากพวกเจ้าไม่ปล่อยเขา แคว้นฉู่ของข้าจะไม่เลิกจองเวรพวกเจ้า”

“ฮึ เจ้าคิดว่า เจ้าจะสามารถมีชีวิตรอดออกไปจากที่นี่ได้อย่างนั้นหรือ”

เย่เฟิงตกตะลึงในใจ

ถ้าหากเกิดอะไรขึ้นกับฮองเฮาฉู่

เขาไม่อยากจะคิดถึงผลที่จะตามมาเลย

เกลียด ในใจเขามีต้นกล้าต้นหนึ่งเกิดขึ้นมา ค่อยๆเติบใหญ่ สุดท้ายก็พันธนาการร่างของเขา ขยายใหญ่ขึ้นไม่หยุด ขยายใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ……