“ถ้าข้าจำไม่ผิดละก็ สงครามที่เขาสูบวิญญาณครั้งที่แล้ว จอมมารของพวกเจ้าทำร้ายหัวหน้าเผ่าของพวกเราจนบาดเจ็บไม่น้อย หัวหน้ากองธงกล้วยไม้คงยังไม่ลืมกระมัง”

หัวหน้ากองธงกล้วยไม้ไม่พูดอะไร

สงครามใหญ่ครั้งที่แล้ว เป็นจอมมารที่ลงมือไปจริงๆ

เพื่อเอาใจผู้หญิงแล้ว ท่านจอมมารของพวกเขาถึงกับยอมปล่อยโอกาสที่จะได้ล้อมโจมตีเย่จิ่งหาน กลับไปช่วยเย่จิ่งหานสู้ รวมพลังกันทำร้ายเวินเส้าหยี หัวหน้าเผ่าของเผ่าเทียนเฟิ่นจนสาหัส

ผู้อาวุโสหยุนเฟยเย่ยิ่งรู้สึกโมโหมาก”การมาหาสมบัติที่ภูเขาน้ำเต้าครั้งนี้ ผู้มีอำนาจทุกฝ่ายได้ให้คำปฏิญาณที่ชัดเจนแล้ว เข้าไปถึงปากปล่องภูเขาน้ำเต้าค่อยแย่งชิงกัน ก่อนจะเข้าไปถึงปากปล่องภูเขาน้ำเต้า ไม่ว่าใครก็ห้ามต่อสู้กันโดยส่วนตัว และวางอุบายหลอกล่ออีกฝ่ายอย่างเด็ดขาด แต่เผ่าปีศาจของพวกเจ้าช่างหน้าไม่อายจริงๆ นี่ยังไม่ทันเข้าไปถึงปากปล่องภูเขาน้ำเต้า ก็อยากจะเอาเปรียบผู้อื่นเสียแล้ว”

ที่สำคัญที่สุดคือ ทุกอย่างล้วนเป็นแผนการชั่วของพวกเขา พวกเขาแค่อยากจะดึงเผ่าเทียนเฟิ่นมาเป็นแพะรับบาปเท่านั้น

หัวหน้ากองธงกล้วยไม้กับหัวหน้ากองธงโบตั๋นได้ยินแล้วรู้สึกมึนงงเล็กน้อย ต่างก็ไม่ค่อยเข้าใจว่าผู้อาวุโสหยุนเฟยเย่หมายถึงอะไร

ผู้อาวุโสหยุนเฟยเย่ก็ไม่อยากจะพูดมาก “ปล่อยคนในถังเหล็กออกมา พวกเราต้องการตัวเขาเท่านั้น”

หัวหน้ากองธงกล้วยไม้เข้าใจขึ้นมาทันที “ผู้อาวุโสหยุนอายุปูนนี้แล้วแต่มีรสนิยมเช่นนี้ ฮึ คนอื่นข้าสามารถมอบให้กับผู้อาวุโสหยุนได้ แต่คนที่อยู่ในถังไม้ ต้องขออภัยหากข้าไม่สามารถตอบตกลงได้ เพราะว่าข้าได้มอบเขาให้กับหัวหน้ากองธงโบตั๋นแล้ว ”

“รสนิยมอะไรกัน ข้าจะบอกเจ้าให้ ถ้าหากวันนี้เจ้าไม่มอบคนที่อยู่ในถังเหล็กคนนั้นให้ข้า เผ่าเทียนเฟิ่นของพวกเราสาบานว่าจะไม่ปล่อยพวกเจ้าไปแน่”

หัวหน้ากองธงกล้วยไม้กับหัวหน้ากองธงโบตั๋นต่างก็คิดว่าตัวเองแสดงออกด้วยท่าทีที่ดีที่สุดแล้ว แต่คนของเผ่าเทียนเฟิ่นกลับบีบบังคับไม่เลิก ทำให้รู้สึกน่าโมโหจริงๆ

“เจ้าคิดว่าเผ่าปีศาจของพวกเรากลัวพวกเจ้าหรืออย่างไร”

เปลวไฟแห่งสงครามถูกกระตุ้นให้ลุกไหม้ขึ้นมา

กู้ชูหน่วนยิ้มเย็น

คนเหล่านี้ไม่มีอะไรดีเลย ตายอยู่ที่นี่ทั้งหมดดีที่สุด

“ไป พวกเราอ้อมไปทางด้านหลัง”

“ขอรับ”

ฝูกวงอดที่จะรู้สึกชื่นชมความคิดของนายหญิงไม่ได้

มีเพียงนางเท่านั้นที่คิดได้ ให้เขาปลอมตัวเป็นคนของเผ่าปีศาจ จงใจเปิดเผยความลับให้เผ่าเทียนเฟิ่นรู้ บอกว่าคนของเผ่าปีศาจกำลังสอบสวนนักโทษที่ชื่อเย่เฟิงด้วยการทรมานในถังเหล็ก เพราะเย่เฟิงเป็นเพื่อนของกู้ชูหน่วน เขารู้ว่ากระดิ่งทลายวิญญาณอยู่ที่ใด และได้รวบรวมแผนที่กระดิ่งทลายวิญญาณจนครบแล้ว กระทั่งรู้วิธีที่จะเข้าไปยังปากปล่องภูเขาน้ำเต้า

ที่สำคัญที่สุดคือ ยังให้เขาจงใจปล่อยข่าวลือ บอกว่ามุกมังกรอยู่ที่ทะเลโลหิตในภูเขาน้ำเต้า เป็นข่าวที่คนของเผ่าปีศาจจงใจสร้างขึ้นมา เพราะปากปล่องภูเขาน้ำเต้าอันตราย พวกเขาไม่กล้าไปเสี่ยงด้วยตนเอง ด้วยเหตุนี้จึงดึงผู้ที่มีพลังยิ่งใหญ่มาทดสอบเส้นทางให้พวกเขา เป็นตัวตายตัวแทน ยังด่าคนของเผ่าเทียนเฟิ่นอย่างสาดเสียเทเสียอีกด้วย

และเป็นไปตามคาด คนของเผ่าเทียนเฟิ่นติดกับดัก และโกรธจนต้องกัดฟันกรอด

เผ่าเทียนเฟิ่นกับเผ่าปีศาจทะเลาะกันอย่างดุเดือด

กู้ชูหน่วนหยิบหินก้อนหนึ่งขึ้นมา โยนไปที่ศีรษะของผู้อาวุโสหยุนเฟยเย่อย่างแรง ร้องตะโกนขึ้นว่า”ตาเฒ่าชั่วช้าของเผาเทียนเฟิ่น เจ้ากล้าเหยียดหยามหัวหน้ากองธงของพวกเรา ระวังข้าจะเอาชีวิตเจ้า”

หินก้อนนั้นกระแทกไปที่หน้าผากของเขา บวมขึ้นเป็นก้อนในทันตา บวกกับคำพูดของนาง ผู้อาวุโสหยุนเฟยเย่หยิบอาวุธขึ้นมาก่อน พุ่งเข้าไปทำร้ายหัวหน้ากองธงกล้วยไม้

หัวหน้ากองธงกล้วยไม้ขมวดคิ้ว

ยังคิดจะตรวจสอบก่อนว่าลูกน้องคนใดลงมือก่อน แต่ผู้อาวุโสหยุนเฟยเย่ได้พุ่งเข้ามาแล้ว

“ตาเฒ่า ข้าทนเจ้ามามากพอแล้ว ถ้าหากเจ้าลงมืออีกครั้ง ระวังข้าจะไม่เกรงใจ”

“เจ้าคนวิปริต ข้าทนเจ้ามานานกว่า เจ้ามันคนหยาบคายที่น่ารังเกียจ หน้าตาน่าเกลียดก็แล้วไปเถอะ ยังจะฝันกลางวันอยู่ได้ คิดว่านอนกับทาสบำเรออายุน้อยหน้าตาดี จะทำให้ตัวเองกลายเป็นหนุ่มหล่อไร้เทียมทานอย่างนั้นหรือ ถุย”

สีหน้าของหัวหน้ากองธงกล้วยไม้ไม่น่าดูขึ้นเรื่อย ๆ ไฟโทสะถูกเขาปลุกจนลุกโชนขึ้นมา

“ปัง……”

สองฝ่ามือปะทะกัน ท้องฟ้าเปลี่ยนสีทันควัน