หู่ ซัวหรง ที่กำลังทำงานอยู่ เมื่อเธอทราบข่าวของ ซุนยู้ ที่กระโดดลงมาจากตึก เธอก็รีบวิ่งมาที่ห้องฉุกเฉินโดยเร็วที่สุด เมื่อเธอมาถึงที่ประตูห้องฉุกเฉิน เธอก็ทรุดตัวนั่งลงบนพื้นร้องไห้ออกมาด้วยความเศร้าโศกในทันที
เสี่ยวหลัวก้าวเดินไปข้างหน้าและมองเธอจากที่สูงอย่างเย็นชา “เธอน่าจะรู้เหตุผล บอกฉันมา!”
มันไม่ใช่การสอบถาม แต่มันเป็นคำสั่ง
หู่ ซัวหรง เงยหน้าขึ้นแล้วตอบกลับอย่างสะอึกสะอื้น: “มันเป็น เหอ หร่วนเหลียง!”
ใบหน้าของ เสี่ยวรุ่ยอิง เปลี่ยนไปในทันที
ดวงตาของถังเหรินเบิกกว้าง เขาไม่อยากจะเชื่อเลยว่า ผู้อำนวยการ เหอ หร่วนเหลียง จะมีส่วนเกี่ยวข้องในเหตุการณ์ของซุนยู้
หู่ ซัวหรง สูญเสียการควบคุมอารมณ์ของเธอ และหลั่งน้ำตาออกมา พร้อมกับพูดออกมาอย่างขมขื่นด้วยน้ำเสียงแห่งความเกลียดชังว่า: “เหอ หร่วนเหลียง มันไม่ใช่มนุษย์ มันเป็นสัตว์เดรัจฉาน มันจงใจทำให้เราติดยาและบังคับให้เรากลายเป็น ของเล่นของมัน ยู้ยู้ ต่อสู้กับมัน แต่ทุกครั้งที่ไม่ได้เสพยา เธอก็อดไม่ได้ที่จะขอร้องขอซื้อยาจากมันเพิ่ม มันทำร้าย ยู้ยู้และฉัน และมันก็ได้ทำร้ายหญิงสาวหลายคนในโรงพยาบาลแห่งนี้ด้วย”
อะไรนะ?!
การเปิดเผยความจริงนี้ มันน่าตกใจมากจนเกินไป มันทำให้ทั้ง เสี่ยวรุ่ยอิง และ ถังเหริน ตกตะลึง มันไม่น่าแปลกใจเลยที่ ซุนยู้ จะไปโรงแรมแห่งนั้นกับ เหอ หร่วนเหลียง และมันก็ไม่น่าแปลกใจเลยที่ ซุนยู้ เริ่มร้องไห้หลังจากที่ได้ยินคำพูดจาก เหอ หร่วนเหลียง เพียงไม่กี่คำ ในงานเลี้ยงเทศกาลฤดูใบไม้ร่วง และได้ปฏิเสธข้อเสี่ยวหลัวพร้อมกับวิ่งหนีไป มันไม่น่าแปลกใจเลย…ที่นี่คือสาเหตุของการกระทำทั้งหมดของเธอ
“ทุกอย่างมันกลับเป็นอย่างนี้…”
เสี่ยวหลัวหัวเราะออกมา ใบหน้าของเขามืดมนขึ้นเรื่อยๆ พร้อมกับกำหมัดแน่น
ทันใดนั้นเสี่ยวหลัวก็ถามขึ้นมาในทันทีว่า “แล้ว เหอ หร่วนเหลียง มันไปอยู่ที่ไหน!”
ร่างกายของ หู่ ซัวหรง สั่นสะท้าน เธอเห็นได้อย่างชัดเจนเลยว่า มันมีเจตนาฆ่าปรากฏอยู่นัยน์ดวงตาของเสี่ยวหลัว
“เธอน่าจะเคยไปที่ของมันมาก่อนใช่ไหม” เสี่ยวหลัว ถามอย่างเย็นชา
หู่ ซัวหรง พยักหน้า: “เขามีบ้านอยู่ริมแม่น้ำ ลี่ชุย ซึ่งเขาได้ซื้อโดยที่ไม่ได้บอกกับภรรยาของเขา มันถูกใช้เป็นพิเศษสำหรับ … ”
“อยู่ที่ตึกไหน และชั้นอะไร?” เสี่ยวหลัว ขัดจังหวะคำพูดของเธอและถามในสิ่งที่เขาต้องการในทันที
“อาคาร c อาคารที่ 9 ชั้นที่ 7”
“แล้วที่อยู่อาศัยของภรรยาของมันหละอยู่ที่ไหน”
“ชั้น 3 อาคาร 6 บล็อก b ใกล้กับสวนสาธารณะหงฉี”
เมื่อได้รับที่อยู่ทั้งสองที่นี้ เสี่ยวหลัวก็หันหลังแล้วเดินออกไปในทันที
“พี่ชาย พี่จะไปไหน อย่าทำอะไรโง่ๆนะ !” เสี่ยวรุ่ยอิง หยุดเขา
ถังเหริน พูดเสริมในทันที:“ใช่แล้ว โทรหาตำรวจกันเถอะ ให้ตำรวจเจียงเฉิง จัดการเรื่องนี้”
“ไม่ต้องกังวล พี่แค่อยากออกไปเดินเล่น”
เสี่ยวหลัวหันมายิ้มให้กับพวกเขา ก่อนที่เขาจะเดินจากไป โดยที่ไม่ได้พูดอะไรออกมาเป็นคำที่สอง
ลึกๆแล้ว เสี่ยวรุ่ยอิง ก็ยังคงเป็นกังวล ถ้าพี่ชายของเธอทำผิดกฎหมายเพราะซุนยู้ เธอจะไม่มีทางให้อภัยตัวเองได้แน่
……
กู่ กุ้ยหลิน มาถึงที่หน้าห้องฉุกเฉิน ไม่นานหลังจากที่ เสี่ยวหลัว จากไป
หลังจากที่เห็น เสี่ยวรุ่ยอิง น้องสาวของ เสี่ยวหลัว ตามคำให้การของคนขับรถแท็กซี่ที่ให้การไว้ก่อนหน้านี้ การคาดเดาของเธอได้รับการพิสูจน์แล้วว่ามันถูกต้อง ผู้โดยสารแปลกหน้าคนนั้นก็คือเสี่ยวหลัวจริงๆ
“เสี่ยวหลัวพี่ชายของคุณ ไปอยู่ที่ไหนแล้ว”
กู่ กุ้ยหลิน ถาม เสี่ยวรุ่ยอิง โดยตรงเมื่อเธอมาถึง
เสี่ยวรุ่ยอิง ตกใจเล็กน้อยกับคำถามที่เกิดขึ้นอย่างกะทันหัน เธอมองไปที่ตำรวจอย่างสงสัยว่าตำรวจหญิงคนนี้รู้ได้อย่างไรว่าเธอเป็นใคร เมื่อมองไปที่สีหน้าที่เคร่งเครียดของ ตำรวจ ที่ยืนอยู่ข้างหลังของ กู่ กุ้ยหลิน เธอก็ตัดสินใจร่วมมือมือ:“พี่…พี่เพิ่งจากไป…”
“เขาไปไหน” กู่ กุ้ยหลิน ถามอย่างเร่งรีบ
“พี่ออกไปเดินเล่น” เสี่ยวรุ่ยอิง พูด
“เดินเล่น?”
กู่ กุ้ยหลิน ไม่เชื่อคำแก้ตัวนี้และถามอีกครั้งว่า“ เสี่ยวหลัว มีลักษณะยังไงก่อนที่เขาจะจากไป? มีอะไรแปลกๆไหม เช่นขอที่อยู่บ้านของผู้อำนวยการโรงพยาบาล เหอ หร่วนเหลียง?”
เสี่ยวรุ่ยอิง และ ถังเหริน ยืนนิ่งตะลึง จิตใจของพวกเขาเต็มไปด้วยความสับสน พวกเขาตั้งคำถามกับตัวเองว่ามันมีเรื่องอะไรเกิดขึ้นกันแน่ ทำไมตำรวจของเจียงเฉิง ถึงได้คุ้นเคยกับพี่ชายของพวกเขา ราวกับว่าพวกเขาคอยจับตาดูเสี่ยวหลัวอยู่อย่างไรอย่างนั้น
จากสายตาของพวกเขา กู่ กุ้ยหลิน ก็ได้คำตอบที่เธอต้องการแล้ว
เธอออกคำสั่งไปยัง หวัง ฮันเหียน ในทันที“แจ้งสำนักงานใหญ่ ค้นหาตำแหน่งของโทรศัพท์มือถือของ เหอ หร่วนเหลียง และค้นหาเขาให้ได้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้”
“รับทราบ!”.
หวัง ฮันเหียน พยักหน้าและหยิบโทรศัพท์ออกมาเพื่อทำตามคำสั่งในทันที
เพื่อเป็นการป้องกันเอาไว้ก่อน กู่ กุ้ยหลิน จึงได้ส่งเจ้าหน้าที่ชั้นต้นไปที่บ้านพักของ เหอ หร่วนเหลียง ที่อยู่ใกล้กับสวนสาธารณะหงฉีในทันที และสั่งให้พวกเขาปกป้อง เหอ หร่วนเหลียง ในทันทีที่พบเขา
“หมายเลขโทรศัพท์มือถือของพี่ชายคุณคืออะไร”กู่ กุ้ยหลิน ยังคงถามต่อไป
เสี่ยวรุ่ยอิง ค้นหาหมายเลขของ เสี่ยวหลัว ในโทรศัพท์มือถือของเธออย่างรวดเร็ว เธอต้องทำในสิ่งที่เธอทำได้เพื่อปกป้องไม่ให้พี่ชายของเธอเดินไปในทางที่ผิด“นี่ค่ะ”
กู่ กุ้ยหลิน โทรไปที่หมายเลขบนโทรศัพท์มือถือในทันที และพบว่าโทรศัพท์มือถือของเขาปิดเครื่องอยู่
“ไอ้บ้าเอ้ย!”
เธอยัดโทรศัพท์กลับเข้าไปในกระเป๋าและหันหลังเดินจากไปในทันที
นี่เป็นการแข่งขันระหว่างเธอกับเสี่ยวหลัว เพื่อค้นหา เหอ หร่วนเหลียง แม้ว่า เหอ หร่วนเหลียง จะสมควรตาย แต่เขาก็ยังคงเป็นพยานปากสำคัญในคดีของเธอ หากเธอจับตัว เหอ หร่วนเหลียง ได้ก่อนที่ เสี่ยวหลัว จะพบเขา เธอก็จะมีหลักฐานที่จะทำลายตลาดค้ายาผิดกฎหมายทั้งหมดภายใน เจียงเฉิง แต่โดยไม่คำนึงถึงข้อเท็จจริงนั้น เธอก็ไม่สามารถปล่อยให้ เสี่ยวหลัว เพิกเฉยต่อกฎหมายและฆ่าชายคนนั้นด้วยความตั้งใจได้
“เดี๋ยวก่อน”
เสียวรุ่ยอิง รีบเข้าไปหยุดเธอและพูดว่า “พี่ชายของฉันเป็นคนดี ถ้าเขาทำผิดกฎหมาย…“เสียงของเธอสั่นเล็กน้อย เธอมีลางสังหรณ์อย่างแรงว่าพี่ชายของเธออาจจะถูกตำรสจ เจียงเฉิง ขึ้นบัญชีดำ เธอเป็นกังวลว่าพี่ชายของเธออาจจะทำผิดกฎหมายของประเทศไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง เธอจึงวิงวอนด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความขอร้องว่า” ฉันขอร้อง คุณโปรดอย่าได้…”
“ไม่มีใครอยู่เหนือกฎหมายของประเทศ!”
กู่ กุ้ยหลิน ขัดจังหวะคำพูดของรุ่ยอิง แม้ว่าเธอจะเห็นอกเห็นใจ เสี่ยวรุ่ยอิง แต่เธอก็ยังคงเป็นเจ้าหน้าที่บังคับใช้กฎหมายและเธอก็ไม่สามารถแสดงความรู้สึกและอคติส่วนตัวได้ ดังนั้นเธอจะไม่ปล่อยให้ใครก็ตามที่ฝ่าฝืนกฎหมายเป็นอิสระ มันเป็นภาระหน้าที่และความรับผิดชอบของเธอ มันไม่มีอะไรที่จะเปลี่ยนใจของเธอได้
เสี่ยวรุ่ยอิง ที่ได้ยินคำพูดนั้นเธอก็ทรุดตัวลงไปด้วยความสิ้นหวัง ขณะที่มองตำรวจหญิงคนนั้นเดินออกไปพร้อมกับทีมตำรวจของเธอ ถังเหรินเดินเข้ามาหาเธอ เธอหันมามองและกอดเขาแน่นน้ำตาของเธอไหลรินออกมาพร้อมกับสะอื้นไห้อย่างเงียบๆ
“ฮือฮือ ฉันควรทำอย่างไรดี? ถ้าพี่ชายของฉันทำผิดกฎหมายจริงๆ แล้วฉันควรทำอย่างไรดี? พ่อกับแม่คุณปู่และคุณย่า คงจะเสียใจและเจ็บปวดกันมากแน่”
“ไม่ต้องห่วง พี่ใหญ่จะต้องไม่เป็นอะไร พวกตำรวจ พวกนี้จะต้องเข้าใจผิดแน่ๆ” ถังเหริน ตบไหล่ของเธอเพื่อปลอบใจ
เขาอยู่ตกอยู่ในอาการสับสนและวิตกกังวลเช่นกัน เขาไม่ได้รู้สึกถึงความหวาดกลัวและความทุกข์ทรมานเช่นนี้มาระยะหนึ่งแล้ว แต่เขารู้ว่าในตอนนี้ เสี่ยวรุ่ยอิง ต้องการเขาและเขาก็ต้องเข้มแข็งเพื่อเธอ เขาเป็นผู้ชาย และผู้ชายก็ไม่สมควรที่จะแสดงความอ่อนแอต่อหน้าของตัวเองในช่วงเวลาที่คับขันเช่นนี้แม้ว่าเขาจะโง่ในเวลาปกติก็ตาม!
……
“หัวหน้า เราได้ติดตามตำแหน่งของโทรศัพท์มือถือของ เหอ หร่วนเหลียงผ่าน GPS แล้ว แต่อีกฝ่ายไม่ใช่ เหอ หร่วนเหลียง” หวัง ฮันเหียน รายงานสถานการณ์ปัจจุบันต่อ กู่ กุ้ยหลิน บนรถตำรวจ
กู่ กุ้ยหลิน เลิกคิ้วขึ้น:“คุณหมายความว่าอย่างไร”
“ชายคนนั้นเป็นโจร หลังจากที่ได้สอบถาม ชายคนนั้นได้ขโมยโทรศัพท์มือถือมาจาก เหอ หร่วนเหลียง ที่บาร์แห่งหนึ่ง” หวัง ฮันเหียน ตอบด้วยรอยยิ้มที่บิดเบี้ยว
กู่ กุ้ยหลิน กัดฟันแน่น: “ช่างเป็นเรื่องที่บังเอิญจริงๆ!”
“มันบังเอิญจริงๆ เขาเพิ่งจะขโมยมันมาในช่วงเวลาที่เรากำลังตามหา เหอ หร่วนเหลียง พอดี? เรื่องบังเอิญแบบนี้มันจะเกิดขึ้นในโลกของเราได้ยังไง”
หวัง ฮันเหียน พูดต่อว่า“อย่างไรก็ตาม เราก็ได้ค้นพบเบาะแสอย่างอื่นแล้ว เหอ หร่วนเหลียง เขาไม่ได้มีเพียงทรัพย์สินเพียงแห่งเดียวที่อยู่ใกล้กับสวนสาธารณะหงฉี แต่เขายังมีบ้านอีกหลังที่อยู่ใกล้กับแม่น้ำลี่ชุย เขาซื้อมันภายใต้ชื่อพ่อของเขา เห็นได้ชัดเลยว่าภรรยาของเขาก็ยังไม่รู้เกี่ยวกับสถานที่แห่งนี้ด้วยซ้ำ ดังนั้นผมจึงคิดว่า มันน่าจะเป็นที่ที่เขาเก็บยาเอาไว้”
“ตอนนี้ทีม 1 และทีม 2 กำลังมุ่งหน้าไปที่ สวนสาธารณะหงฉี ใช่ไหม ” กู่ กุ้ยหลิน ถามด้วยสีหน้าที่จริงจัง
“พวกเขากำลังอยู่ระหว่างการเดินทาง”
“บอกพวกเขาให้เปลี่ยนไปที่แม่น้ำ ลี่ชุย”
กู่ กุ้ยหลิน มีความรู้สึกว่า เหอ หร่วนเหลียง จะไม่กลับไปที่บ้านของเขาที่ใกล้กับสวนสาธารณะหงฉี แต่เขาจะมุ่งหน้าไปที่ แม่น้ำ ลี่ชุย แทน จากนั้นเธอก็สั่งคนขับว่า “หันรถกลับ!”