รถมาสด้าสีขาวค่อยๆเคลื่อนตัวเข้ามาในเขตที่อยู่อาศัยใกล้กับแม่น้ำ ลี่ชุย เวลานี้ผู้อยู่อาศัยส่วนใหญ่นั้นได้เข้านอนกันไปจนหมดแล้ว แต่มันก็ยังมีบ้านอยู่ไม่กี่หลังที่เปิดไฟอยู่ และมีเสียงของผู้ชายและผู้หญิงหัวเราะกันอยู่เป็นระยะๆ
เหอ หร่วนเหลียง ขับรถคนเดียวด้วยอารมณ์ที่ดีและฮัมเพลงไปตามเสียงเพลงที่เล่นในรถ เขาเหลือบไปมองถุงแป้งบนที่อยู่ตรงที่นั่งผู้โดยสาร และมีรอยยิ้มปรากฏขึ้นมาบนใบหน้าหนาของเขาพร้อมกับนึกถึงค่ำคืนที่ผ่านมา ในเวลานี้เขายังไม่รู้ตัวด้วยซ้ำว่าโทรศัพท์มือถือของเขาถูกขโมยไป
“ไอเจ้าสิ่งนี้มันดีจริงๆ!”
นับตั้งแต่ที่เขาได้เข้ามาดูแลธุรกิจยาไอซ์ เขาก็ไม่เคยกังวลเลยว่ามันจะไม่มีสาวสวยมาคอยปรนนิบัติเขาในยามค่ำคืน ในทุกปีโรงพยาบาลจะรับสมัครกลุ่มพยาบาลกลุ่มเล็กๆอยู่เป็นระยะๆ ในหมู่พวกเขานั้นมักจะมีสาวโสดจำนวนมากที่อายุน้อยและบอบบาง … ตราบเท่าที่มีคุณสมบัติตรงตามข้อกำหนดพวกเธอเหล่านั้นก็จะกลายมาเป็นเป้าหมายของการตามล่าของเขาในทันที
หากเขาล้มเหลวในการเกลี้ยกล่อมหญิงสาวที่ยุติธรรมเหล่านั้น ไม่ว่าจะเป็นการสนับสนุนหรือการบีบบังคับ เขาก็จะหันไปใช้ตัวเลือกที่ดำมืด เมื่อใช้ตัวเลือกนี้เขาก็จะแอบใส่ยาลงไปในเครื่องดื่มในช่วงกิจกรรมทางสังคมของโรงพยาบาล และค่อยๆเพิ่มปริมาณของยาโดยที่พวกเธอไม่รู้ตัว โดยปกติแล้วภายในเวลาไม่กี่เดือนพวกเธอก็จะกลายมาเป็นของเล่นในมือของเขา มันง่ายมากเพราะไม่ว่าเหยื่อพวกนั้นจะมีความมุ่งมั่นมากเพียงใด พวกเธอก็ไม่สามารถที่จะรับมือได้กับอาการขาดยาได้ เมื่อได้ลิ้มรสมันไปแล้ว
“ทิวทัศน์ที่สวยงามไม่ตรงกับความฝัน เพราะดอกหญ้ามีกลิ่นหอมในความฝัน…”
เหอ หร่วนเหลียง โยกตัวไปมาตามเสียงเพลงขณะขับรถ ตอนนี้เขารู้สึกมีความสุขกับการใช้ชีวิตในตอนนี้มาก หลังๆมานี้เขาแทบที่จะไม่กลับบ้านเลย เพราะเขาไม่อยากจะกลับไปเห็นใบหน้าอันแก่ชราของภรรยาของเขา
หลังจากนั้นไม่นานรถมาสด้าสีขาวก็มาถึงที่หมาย และค่อยๆเคลื่อนตัวเข้าไปในโรงจอดรถใต้ดิน …
ในฐานะที่เป็นย่านที่อยู่อาศัยของคนชนชั้นนำของ เจียงเฉิง ผู้อยู่อาศัยที่อยู่ใกล้กับริมแม่น้ำลี่ชุย นั้นมาจากครอบครัวที่ร่ำรวย โรงจอดรถมันเต็มไปด้วยรถหรูราคาแพงราคาหลายแสนหรือหลายล้านหยวน รถมาสด้าสีขาวของ เหอ หร่วนเหลียง นั้นดูเหมือนจะไม่ได้เข้าพวกกับพวก รถสปอร์ตที่อยู่ในที่แห่งนี้เลยแม้แต่น้อย แต่มันจะเปลี่ยนไปในไม่ช้าเขาคิดกับตัวเอง
เมื่อ เหอ หร่วนเหลียงจอดรถ เขาก็มองไปรอบๆเพื่อหาโทรศัพท์มือถือของเขา แต่ก็ไม่มีพบเงาของโทรศัพท์ของเขาเลย จากนั้นเขาก็ก้าวออกมาจากรถครึ่งลำตัว แล้วกลับเข้าไปใหม่โดยที่ก้นของเขายื่นออกมาและค้นหาภายในรถอย่างละเอียดอีกครั้ง แต่มันก็ยังไม่พบอะไร
หลังจากครุ่นคิดย้อนดูกิจกรรมของตัวเองในเย็นวันนี้อย่างระมัดระวังและทันใดนั้นเอง เขาก็จำได้ว่ามีชายคนหนึ่งชนเขาขณะที่เขากำลังเดินเล่นอยู่ในบาร์แห่งหนึ่ง เขาจำได้แม้กระทั่งว่าเขาตะโกนใส่คนแปลกหน้าที่เดินเข้ามาชนเขา ตอนนี้เขาเพิ่งจะรู้ตัวว่าโทรศัพท์ของเขามันอาจถูกคนคนนั้นขโมยไป
“เชี้…ยเอ้ย!!”
อารมณ์ที่ร่าเริงของเขาหายไปในทันที เหอ หร่วนเหลียง ตะโกนออกมาเสียงดังด้วยความหงุดหงิดและเตะยางรถของเขา พร้อมกับสาปแช่งไอโจรคนนั้นออกมาว่า“ไอ้สารเลวเอ้ย อย่าให้ฉันเจอกับแกอีกนะ! ถ้าฉันเจอแกอีกฉันจะฆ่าแกแน่!”
เหอ หร่วนเหลียง กระแทกประตูรถอย่างแรงและกดที่กุญแจเพื่อล็อครถอย่างหงุดหงิด
คลิก. คลิก. คลิก.
จากนั้นไฟในที่จอดรถใต้ดินก็ดับลงไปทีละดวง ผ่านไปไม่ถึงหนึ่งลมหายใจที่จอดรถทั้งหมดก็ตกอยู่ในความมืดสนิท จากนั้นไฟฉุกเฉินก็เปิดขึ้นมาโดยอัตโนมัติและสะท้อนแสงในความมืด
อย่างไรก็ตามความมืดนั้นมันก็ยังคงน่ากลัวอยู่ดี แสงของไฟฉุกเฉินนั้นมันสลัวรางเสมือนกับดวงตาของคนง่วงนอนซึ่งมันอาจจะดับลงไปเมื่อใดก็ได้
ในความมืดบรรยาอากาศที่น่าขนลุกดูเหมือนกับว่ามันจะแทรกซึมผ่านบริเวณลานจอดรถที่กว้างใหญ่นี้
อึก
เหอ หร่วนเหลียง กลืนน้ำลายลงไป ก่อนจะสงบสติอารมณ์ของตัวเอง จากนั้นเขาก็ด่าออกมาอีกครั้ง คราวนี้เขาพูดออกมาด้วยความรำคาญว่า“ไฟฟ้าในโรงรถนี้มีปัญหาอีกแล้ว ระบบไฟฟ้าที่นี่มันขยะจริงๆ ถ้าฉันไม่ส่งเรื่องร้องเรียนไปยังผู้บริหารในวันพรุ่งนี้หละก็ อย่ามาเรียกฉันว่าคนสกุลเหอ!”
ตอนนี้ เหอ หร่วนเหลียง ไม่ได้แสดงท่าทีสงบเสงี่ยมเหมือนกับผู้อำนวยการโรงพยาบาลที่อ่อนโยนอีกต่อไป เขาถอดรูปลักษณ์ที่จอมปลอมพวกนั้นออกไปจนหมดและเผยให้เห็นถึงลักษณะนิสัยที่แท้จริงของเขา
“เหอ หร่วนเหลียง!”
ทันใดนั้นเอง มันก็มีเสียดังขึ้นในโรงจอดรถชั้นใต้ดินที่เงียบสงัด จนมันทำให้เกิดเสียงสะท้อนไปทั่วทั้งโรงรถที่กว้างใหญ่ น้ำเสียงนั้นมันเย็นชาและไร้อารมณ์ราวกับว่ามันมาจากขุมนรก!
“ใคร?”
เหอ หร่วนเหลียง กระโดดขึ้นด้วยความตกใจพร้อมหับหันหน้าไปยังทิศทางของเสียง
ในแสงที่สลัวราง มันสามารถทำให้ เหอ หร่วนเหลียง เห็นร่างที่สวมเสื้อคลุมสีเทากางเกงขายาวสีดำและรองเท้าผ้าใบสีขาวที่ค่อยๆเดินออกมาจากความมืด และเดินเข้ามาหาเขาอย่างช้าๆ ในมือของชายคนนั้นถือมีดสั้นเล่มหนึ่งที่กำลังควงเล่นอยู่ในมือ
ฆ่า!
จิตสังหารอันรุนแรงมันได้หลั่งไหลออกมาจากบุคคลผู้นั้น
เหอ หร่วนเหลียง รู้สึกได้ถึงอุณหภูมิของโรงจอดรถชั้นใต้ดินที่ลดต่ำลงจนถึงจุดเยือกแข็งในพริบตา ซึ่งทำให้เขาตัวสั่นเทาด้วยความกลัว
เหอ หร่วนเหลียง ร้องเรียกชายคนนั้นที่กำลังเดินเข้ามาด้วยน้ำเสียงที่สั่นเครือว่า“ใคร…คุณเป็นใคร คุณกำลังวางแผนที่จะทำอะไร”
ภายใต้แสงที่สลัวราง มันทำให้ เหอ หร่วนเหลียง ไม่สามารถมองเห็นใบหน้าของบุคคลผู้นั้นได้เลย
ร่างในเสื้อคลุมสีเทายังคงเงียบ แต่ทันใดนั้นเองร่างนั้นก็เร่งฝีเท้าขึ้นมา ดั่งเช่นหมาป่าที่หิวโหยที่กำลังออกล่าเหยื่อ ฝ่าความมืดมาหาเขาด้วยความเร็วที่น่าหวาดหวั่น
เหอ หร่วนเหลียง ตกใจกลัวจนทำอะไรไม่ถูก การเคลื่อนไหวที่ว่องไวเช่นนี้มันราวกับเป็นภูติผีปีศาจ!
“ปัง ~”
เมื่อร่างนั้นอยู่ห่างออกไปสามสี่เมตร ร่างในเสื้อคลุมสีเทาก็เหยียบลงบนพื้นด้วยเท้าทั้งสองข้างอย่างรุนแรง ด้วยความช่วยเหลือของพลังอันมหาศาลนี้ ร่างกายของชายในเสื้อคลุ่มจึงหมุนตัว 360 องศากลางราวกับพายุเฮอริเคน และกำลังใกล้เข้ามาหา เหอ หร่วนเหลียง อย่างรวดเร็ว มีดสั้นในมือของร่างนั้น พุ่งตรงผ่านอากาศราวกับสัตว์ร้ายแทงลึกลงไปที่ไหล่ซ้ายของ เหอ หร่วนเหลียง ในทันที
ฉึก!
เลือดสดสีแดงฉาดสาดกระเซ็น ในขณะที่ความเจ็บปวดทรมานพุ่งตรงเข้าสู่สมองของ เหอ หร่วนเหลียง! ด้วยแรงผลักอันทรงพลังนี้มันทำให้ร่างของ เหอ หร่วนเหลียง กระเดนถอยหลังกลับไปราวกับลูกกระสุนปืนใหญ่ในทันที
เหอ หร่วนเหลียง นอนกองอยู่บนพื้นและร้องคร่ำครวญออกมาด้วยความเจ็บปวด ดวงตาของเขาจับจ้องไปที่ร่างที่โจมตีเขาอย่างหวาดกลัว เมื่อร่างนั้นเดินเข้ามาใกล้ รูม่านตาของเขาก็หดตัวลงอย่างรวดเร็ว และใบหน้าของเขาก็แสดงความน่ากลัวอย่างไม่น่าเชื่อออกมา”แก … เป็นแกเองงั้นเหรอ!”
เสี่ยวหลัว จ้องมองไปที่ เหอ หร่วนเหลียง อย่างเย็นชาโดยที่ไม่พูดอะไร
เสี่ยวหลัว ย่อตัวลงพร้อมกับยื่นมีดออกไปแทงที่ร่างของ เหอ หร่วนเหลียง จากนั้นเขาก็หมุนมีดไปตามเข็มนาฬิกา
“อ๊ากกก!”
ความเจ็บปวดทวีความรุนแรงขึ้น เหอ หร่วนเหลียง กรีดร้องออกมาด้วยความโหยหวน เขาพยายามขัดขืนด้วยมือขวาของเขา แต่มือซ้ายของเสี่ยวหลัวก็คว้ามันไว้จนเขาทำอะไรไม่ได้ และมือซ้ายของเขาก็ไม่สามารถที่จะขยับได้เลย ความเจ็บปวดที่เสียดแทงไปถึงหัวใจนี้ มันทำให้เขาได้แต่ดิ้นรนเตะขาอย่างสิ้นหวัง
ในช่วงเวลาที่เสี่ยวหลัวหยุด เหอ หร่วนเหลียง ก็ฉวยโอกาสร้องขอความเมตตาทันที: “อย่าฆ่าฉันเลย ฉัน … ฉันสามารถให้ผลประโยชน์มากมายแก่คุณได้ และฉันยังสามารถนำธุรกิจมากมายมาสู่ หลัวฝาง ของคุณได้ ..”
เขาไม่เคยคิดมาก่อนเลยว่าเจ้าของ หลัวฝาง จะเป็นเพชฌฆาตที่เลือดเย็นเช่นนี้ ถ้าเขารู้มาก่อนเขาจะไม่มีวันแตะต้องซุนยู้เลยแม้แต่ปลายเล็บ
เสี่ยวหลัวโน้มตัวลงไป และพูดที่ข้างหูของ เหอ หร่วนเหลียง ว่า: “ฉันแค่อยากจะฆ่าแกให้ตายตอนนี้!”
เสียงของเสี่ยวหลัวแผ่วเบามาก แต่ทุกพูดมันเต็มไปด้วยเจตนาฆ่าที่รุนแรง
เหอ หร่วนเหลียง ตัวสั่นสะท้านไปจนถึงจิตวิญญาณ เหงื่อเย็นไหลออกมาทั่วร่างกายและใบหน้าของเขาก็ซีดเซียว ทันใดนั้นเขาก็ดูเหมือนจะจับฟางช่วยชีวิตและบังคับตัวเองให้สงบลง “ฉัน … ฉันเป็นคนของแก๊งมังกร ถ้าคุณฆ่าฉัน คุณก็จะถูกไล่ล่าโดยแก๊งมังกรของเรา เจียงเฉิง จะไม่มีที่ยืนสำหรับคุณอีกต่อไป … ”
“แก๊งมังกรอีกแล้ว!”
เสี่ยวหลัว หัวเราะออกมาอย่างเย็นชา ราวกับปีศาจที่กำลังเยาะเย้ย