ตอนที่ 190 หินวิญญาณ
“เครื่องดนตรีนี้เรียกว่าอะไรหรอ?” หยวนถามหลังจากเห็นเครื่องดนตรีที่มีลักษณะคล้ายกีตาร์
“เครื่องดนตรีนี้เรียกว่า “ผีผา*”เฟยยู่หยานตอบอย่างรวดเร็ว
“ผีผา..มันจะเหมือนกับกีตาร์หรือเปล่านะ…” หยวนสงสัยกับตัวเอง ขณะที่เขาเดินไปรอบๆห้อง เพื่อชมเครื่องดนตรีที่ประดิษฐ์ขึ้นอย่างสวยงามภายในตู้โชว์
หลังจากใช้เวลาสองสามนาที่ในห้องผีผา จากนั้นพวกเขาก็เดินไปอีกห้องหนึ่ง
“เครื่องดนตรีนี้คล้ายไวโอลินเลย…” หยวนพึมพําหลังจากเห็นเครื่องดนตรีรูปตะลุมพุกด้ามบางและยังมีคันธนูอยู่ข้างๆมันเหมือนกับไวโอลิน
“ข้าไม่เคยได้ยินเรื่อง “ไวโอลิน” แต่เครื่องดนตรีชนิดนี้เรียกว่าเอ้อร์หู เจ้าวางมันไว้ที่ต้นขาและใช้คันธนูนั้นสีกับสาย” เฟยยู่หยานอธิบายสั้นๆให้เขาฟัง
“ข้าเข้าใจแล้ว…” หยวนพยักหน้า
ในเวลาต่อมาพวกเขาออกจากห้องแสดงเอ้อร์หู และเข้าไปในห้องสุดท้ายในอาคาร
“เจ้ารู้จักเครื่องดนตรีเหล่านี้หรือไม่ศิษย์หยวน” เฟยยู่หยานถามเขาด้วยน้ําเสียงประชดประชันภายในห้องที่เต็มไปด้วยพิณ
หยวนยิ้มและพูดเล่นกับเธอ
“ข้าไม่รู้ แต่พวกมันดูคุ้นเคยมาก”
“ยังไงก็ดูพิณตรงนี้ส” จากนั้นเฟยยู่หยานก็ชี้ไปที่พิณในตู้โชว์ชิ้นหนึ่งและพูดต่อว่า
“นี่คือพิณระดับสวรรค์ที่ทําจากหยกน้ําแข็งซึ่งเป็นวัสดุที่หายากมากและมีข่าวลือว่าครั้งหนึ่งเคยเป็นของเทพธิดาพิณจนได้รับการขนานนามว่าพันธนาการชั่วนิรันดร์”
“เทพธิดาพิณนี้เป็นคนแบบไหนกันนะ?” หยวนถามโดยรู้สึกสนใจตัวบุคคลมากกว่าพิณ
“ผู้เชี่ยวชาญพิณอันดับหนึ่งของโลกนี้ คนเล่นพิณรู้จักกันดี และไม่มีใครแม้แต่จะกล้าเรียกตัวเองว่าเป็นอันดับหนึ่งแทนที่เธอเมื่อได้เห็นเธอเล่นกับตาของตัวเองราวกับว่าเธอสามารถทําให้ดนตรีและโน็ตแต่ละตัวของเธ อนั้นมีชีวิตขึ้นมา”
“ทําให้ดนตรีมีชีวิต….ข้านึกไม่ถึงว่าจะมีใครกล้ากล่าวอ้างเช่นนั้น..” หยวนส่ายหัว
“นั่นเป็นเพียงตํานาน แต่ถ้าเทพธิดาพิณมีจริงข้าก็อยากเจอคนแบบเธอ” เฟยยู่หยานถอนหายใจด้วยความรู้สึกโหยหาในดวงตาของเธอ
“บางทีหยวนอาจจะกลายเป็นเทพเจ้าพิณในใดวันหนึ่งก็ได้” ซวนหวู่ฮั่นพูดด้วยน้ําเสียงติดตลก
“เทพเจ้าพิณ?” เฟยยู่หยานมองหยวนด้วยสีหน้าแปลกๆเพราะเธอพยายามจินตนาการว่าหยวนจะกลายเป็นเทพเจ้าพิณแต่เธอไม่สามารถจินตนาการถึงภาพเช่นนั้นได้ไม่ว่าเธอจะพยายามแค่ไหนก็ตาม
“ยังไงก็ลองดูรอบๆกันต่อเถอะ หลังจากเราดูห้องเหล่านี้เสร็จแล้วเราสามารถไปดูที่ร้านของพวกเขาและดูว่ามีอะไรให้ซื้อหรือไม่” เฟยยู่หยานกล่าว
พวกเขากลับไปดูที่พิณในเวลาต่อมา ในขณะที่เฟยยู่หยานให้บทเรียนเกี่ยวกับประวัติของพิณแต่ละตัวกับหยวนจนเกือบจะทั้งหมดที่นั้น
ถ้าเฟยยู่หยานเปลี่ยนเครื่องแบบศิษย์ของเธอเป็นเครื่องแบบชุดทํางานในสถานที่แห่งนี้ แขกจะไม่มีทางรู้เลย
ต่อมาเฟยยู่หยานก็พาพวกเขาออกจากห้องพิณก่อนจะพาพวกเขาไปที่ลานกว้างหลังร้าน
ภายในลานมีตู้โชว์ประมาณ 12 ตู้วางเรียงกันอย่างเป็นระเบียบและภายในตู้โชว์เหล่านี้มีเครื่องดนตรีที่มีป้ายราคาติดอยู่
หยวนเดินเข้าไปใกล้ตู้โชว์ชิ้นหนึ่งที่กําลังจัดแสดงขลุ่ยสีดํา
[ขลุ่ยนกกระจอกดํา]
[ระดับ: โลก]
[คุณภาพ: สูง]
[รายละเอียด: ขลุ่ยไม้ไผ่ที่ท่าจากไม้ไผ่สีดําที่พบในป่านกกระจอกดํา]
[ราคา: 5,000,000 เหรียญทองหรือ 500 หินวิญญาณ]
“ฮะ 5 ล้านทอง?!” กรามของหยวนตกลงเล็กน้อยหลังจากเห็นป้ายราคา
“ว้าวราคาถูกมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งเนื่องจากสมบัติพวกนี้เป็นสมบัติระดับโลกคุณภาพสูง” เฟยยู่หยานปรากฏตัวขึ้นข้างหลังหยวนและกล่าว
“ถูกขนาดนี้เลยเหรอ?” หยวนเลิกคิ้วและถามครู่ต่อมา
“หินวิญญาณคืออะไร”
“หินวิญญาณเป็นแหล่งการฝึกฝนที่สําคัญสําหรับผู้ฝึกฝน ไม่เพียงเท่านั้นหินวิญญาณยังสามารถใช้เป็นสกลเงินได้และ 1 หินวิญญาณนั้นมีมูลค่าประมาณ 10,000 เหรียญทองอย่างไรก็ตามผู้คนยังคงชอบซื้อขายด้วยเหรียญทองเนื่องจากพวกเขาต้องการใช้คริสตัลวิญญาณ เพื่อพัฒนาการฝึกฝนของพวกเขามากกว่า” เฟยยู่หยานอธิบายให้เขาฟัง
“ข้าเข้าใจแล้ว..” หยวนพยักหน้า
“ถ้าเป็นพิณข้าคงซื้อมาแล้วแต่…ข้าไม่เล่นขลุ่ย..” เฟยหยู่หยานส่ายหัวไปมาเมื่อมองไปที่ขลุ่ยนกกระจอกดําก่อนที่จะเดินไปยังตู้โชว์ถัดไปที่กําลังจัดแสดง ของคุณภาพสูงอีกชิ้นหนึ่งสมบัติระดับโลกผีผาสีแดงที่มีป้ายราคา 8 ล้านเหรียญทองหรือ 800 หินวิญญาณ
ไม่กี่นาทีต่อมาเฟยหยู่หยานถอนหายใจเสียงดัง
“ช่างโชคร้ายจริงๆวันนี้ไม่มีเครื่องดนตรีพิณขายเลยสักชิ้น ครั้งสุดท้ายที่ข้ามาที่นี่ยังมีขายตั้ง 3 ชิ้น!”
“นี่คือทั้งหมดแล้วใช่ไหม เราจะไปไหนกันต่อดี” ซวนหวู่ฮั่นกล่าว
“ใครบอกว่าหมดแล้ว เรายังมีร้านอื่นอีกที่ข้าอยากจะพาไปโดยเฉพาะศิษย์หยวน” เฟยยู่หยานกล่าวขณะมองหยวนด้วยรอยยิ้มลึกลับบนใบหน้าของเธอ
“มากับข้า!” เธอพูดก่อนจะเดินออกไป
เมื่อเห็นเช่นนี้หยวนก็รีบตามเธอไปและคนอื่นๆก็เดินตามเขาไป
สองสามนาทีต่อมาพวกเขาก็มาถึงสถานที่ลึกลับและเงียบสงบแห่งหนึ่ง โดยมีทหารยามสองคนยืนอยู่ข้างประตู และนั้นทําให้เกิดความรู้สึกเป็นลางไม่ดี เพราะทั้งสองคนที่ยืนเฝ้าอยู่เป็นยอดนักรบวิญญาณ
“เราอยู่ที่ไหน ทําไมถึงต้องคุมเข้มขนาดนี้!” ซวนหวู่ฮั่นพูดกับเฟยยู่หยาน
“แน่นอนว่านี่ไม่ใช่สถานที่สาธารณะ มีเพียงผู้ที่ติดอันดับหนึ่งในสิบของการแข่งขันพิณครั้งก่อนเท่านั้นที่สามารถมาที่นี่ได้ และตั้งแต่ข้าได้อันดับที่ 7 ข้าจึงได้รับอนุญาตให้เข้าไปข้างในได้และข้าทําได้แค่นําหนึ่งคนไปกับข้าและข้าจะพาศิษย์หยวนไปด้วย”
“เอ๊ะ!? นี่ไม่ยุติธรรมเลย” ซวนหวู่ฮั่นบ่นทันที
“ถ้าเจ้าสามารถเล่นพิณได้ถึงครึ่งหนึ่งของศิษย์หยวนข้าอาจพิจารณาพาเจ้าเข้าไปข้างในในภายหลังได้ มิฉะนั้นมันจะทําให้เวลาและความพยายามของข้าจะเสียเปล่า” เฟยยู่หยานส่ายหัว
“จะ…เจ้า…” ซวนหวู่ฮั่นหรี่ตาของเธอมองไปที่เฟยยู่หยาน แต่เธอก็ไม่สามารถเล่นพิณได้เลยจริงๆเฟยยู่หยานไม่ได้ให้ความสนใจซวนหวู่ฮั่นอีกต่อไปและหันไปมองหยวน
“ตามข้ามา” เธอพูดกับเขา