เล่ม 11 เล่มที่ 11 ตอนที่ 316 หากเจ้าสุขสำราญดี นั่นคือวันที่แจ่มใส

สนมโง่เจ้าจะหนีไปไหน

เวลาล่วงเลยไปทุกขณะ ทว่าซูจิ่นซียังคงไม่มีการเคลื่อนไหว

นางมีท่าทีดั่งพระแม่กวนอิมที่มองลงมายังโลกมนุษย์ ใบหน้าแสดงออกอย่างสงบนิ่งราวกับไร้ซึ่งลมหายใจ

ฮูหยินปี้กับซูอวี้รู้สึกตึงเครียดยิ่งกว่าเดิม

หลายครั้งที่ซูอวี้คิดว่าซูจิ่นซีพิษกำเริบจนหมดสติไป เขาคอยยื่นมือออกไปทดสอบลมหายใจใต้จมูกของซูจิ่นซี แต่เมื่อยื่นมือออกไปได้ครึ่งหนึ่งก็ชักมือกลับมา

พี่จิ่นซี ท่านต้องไม่เป็นอันใด ท่านจะต้องไม่เป็นอันใด จะต้องไม่เป็นอันใด ซูอวี้เฝ้าท่องประโยคนี้ในใจอย่างเงียบงัน

หลังจากผ่านไปกว่าสองชั่วยาม จู่ๆ ซูจิ่นซีก็ลืมตาขึ้น ‘อ้วก’ นางอาเจียนออกมาเป็นเลือด

ฮูหยินปี้กับซูอวี้รีบเดินเข้ามาหาซูจิ่นซี

“พี่จิ่นซี ท่านรู้สึกอย่างไรบ้าง? ทั่วทั้งร่างกายรู้สึกไม่สบายอย่างมากใช่หรือไม่”

ซูอวี้วิ่งมาข้างกายซูจิ่นซีเป็นคนแรก พร้อมกับจับมือตรวจชีพจรให้ซูจิ่นซี

“ข้าไม่เป็นอันใด” ซูจิ่นซีเผยรอยยิ้มดีใจที่มุมปาก

ขณะที่อาเจียนเลือดพิษออกมา ทันใดนั้นระบบถอนพิษก็ตรวจสอบส่วนประกอบของสารพิษออกมาได้ ชื่อของส่วนประกอบทุกตัวล้วนอยู่ในสมองของนาง

ซูอวี้กับฮูหยินปี้ประคองซูจิ่นซีให้ยืนขึ้น ซูจิ่นซีเดินไปด้านข้างหลานเยวี่ยหลี เพื่อตรวจชีพจรให้นาง

ชีพจรทรงตัวมาก

อย่างไรก็ตาม เด็กคนนี้ช่างอดทนเสียจริง ซูจิ่นซีทดลองสารพิษด้วยตนเอง จึงรู้ว่าอาการพิษกำเริบนั้นเจ็บปวดทรมานอย่างแสนสาหัส ทว่าเด็กคนนี้กลับอดทนไม่สิ้นหวัง แม้หมดสติก็ยังอดทนกัดฟันแน่น

สิ่งนี้ช่างคล้ายกับความดื้อรั้นของซูอวี้อย่างมาก

ซูจิ่นซีคิดพลางอดหันไปมองซูอวี้ไม่ได้

ซูอวี้ไม่รู้ว่าในใจของซูจิ่นซีกำลังคิดอันใด

“พี่จิ่นซี ท่านต้องการอันใด? ”

“ให้คนนำกระดาษและพู่กันมา ข้าจะเขียนเทียบยาถอนพิษ”

ซูอวี้รีบออกจากประตูไปหากระดาษและพู่กัน ครู่หนึ่ง บ่าวรับใช้ของจวนสกุลหลานก็นำกระดาษและพู่กันมา

ซูจิ่นซีรีบเขียนอย่างรวดเร็ว ไม่นานก็เขียนเทียบยาออกมาแผ่นหนึ่งและส่งให้กับซูอวี้ “ไปหาตัวยาตามเทียบยานี้ มีเวลาเพียงห้าวันเท่านั้น หลังจากหาตัวยามาได้ก็นำมาให้ข้า ข้าจะปรุงยาถอนพิษ”

ซูอวี้มองดูเทียบยานั้นแล้วก็อดขมวดคิ้วไม่ได้

“เช่นไร? มีปัญหาอันใดหรือ? ”

“พี่จิ่นซี สมุนไพรจำนวนมากในเทียบยานี้ เป็นสมุนไพรที่หายากยิ่งนัก! ยังมี ยาเชียนเหนียนเจี้ยน สือชีจ่ง หลิวจี้หนู ข้าล้วนไม่เคยได้ยินมาก่อน”

กระทั่งซูอวี้ก็ยังไม่เคยได้ยินมาก่อนอย่างนั้นหรือ?

ซูจิ่นซีสงสัยเล็กน้อย ซูอวี้เรียกได้ว่าเป็นอัจฉริยะทางการแพทย์ เดิมทีแม้แต่หมอเทวดาหวายังชื่นชม ทักษะทางการแพทย์ของเขามีความลึกซึ้งยิ่งนัก

“เจ้าไม่เคยได้ยินมาก่อนจริงหรือ? ลองนึกดูสิ”

ซูอวี้ยังคงส่ายศีรษะ “พี่จิ่นซี ชื่อเหล่านี้ล้วนแปลกประหลาดอย่างมาก อวี้เอ๋อร์ไม่เคยได้ยินมาก่อนจริงๆ ”

ซูจิ่นซีมองไปที่ฮูหยินปี้

ฮูหยินปี้ส่ายศีรษะกลับมา “พระชายา วิชาแพทย์ของหม่อมฉันตื้นเขิน หากอวี้เอ๋อร์ยังไม่เคยได้ยิน หม่อมฉันก็ยิ่งไม่ทราบเพคะ”

แม้ซูจ้งกับฮูหยินปี้จะเป็นผู้สอนวิชาการแพทย์ให้ซูอวี้ ทว่านั่นเป็นเพียงการแนะนำให้ความกระจ่าง ต่อมายังมีหลายสิ่งที่ซูอวี้ศึกษาด้วยตนเองในภายหลัง ดังนั้น แม้ความสามารถเชิงปฏิบัติของซูอวี้ไม่ได้สูงไปกว่าฮูหยินปี้กับซูจ้ง ทว่าความรู้ในด้านทฤษฎีนั้นมีมากกว่าฮูหยินปี้และซูจ้งมาก

ซูจิ่นซีอดขมวดคิ้วแน่นไม่ได้

ใบสั่งยานี้เป็นการวิเคราะห์ส่วนประกอบสารพิษจากระบบถอนพิษ ซึ่งเป็นการวิเคราะห์เพื่อสร้างยาถอนพิษ

พิษที่หลานเยวี่ยหลีได้รับในครั้งนี้ช่างแปลกประหลาดยิ่งนัก อีกทั้งยาถอนพิษที่ระบบวิเคราะห์ออกมาก็มีแต่ชื่อยาสมุนไพรประหลาด พิษนี้เรียกว่า พิษอูเยี่ยถี ชื่อเป็นเหมือนบทกวี กระทั่งซูจิ่นซียังไม่เคยได้ยืนชื่อพิษนี้มาก่อน อย่าว่าแต่ชื่อพิษที่แปลกประหลาดและไม่เคยได้ยิน แม้แต่ยาสมุนไพรที่จำเป็นในการใช้ถอนพิษยังแปลกประหลาดหายากอีกด้วย

ทำอย่างไรดี?

“พี่จิ่นซี ให้ข้าไปหอโอสถเย่าอัน เชิญคุณชายจิ่วมาดีหรือไม่ ทักษะทางการแพทย์ของเขายอดเยี่ยม บางทีเขาอาจทราบอันใดบ้าง”

จิ่วหรง… เมื่อคืนวานซูจิ่นซีพูดออกไปว่าไม่เชื่อถือเขาแล้ว หากวันนี้ไปหาอีก คงไม่ดีกระมัง?

ฮูหยินปี้คิดได้อย่างว่องไว ดูเหมือนนางจะสังเกตเห็นอันใดจากท่าทางขมวดคิ้วอย่างลังเลของซูจิ่นซี

“พระชายา ตอนนี้ท่านทดสอบพิษด้วยตนเอง ท่านก็ได้รับพิษไปด้วย ชีวิตของท่านแขวนอยู่บนเส้นด้ายเช่นเดียวกับแม่นางหลาน พระชายามาจากสกุลซูเช่นกัน ครั้งนี้เชิญคุณชายจิ่วมาช่วยเหลือ ถือว่าจวนสกุลซูติดค้างน้ำใจสำนักแพทย์เทียนอีเหมินหนึ่งครั้ง ต่อไปหากมีโอกาส หม่อมฉันกับอวี้เอ๋อร์ต้องตอบแทนเป็นสองเท่า ไม่ให้พระชายาต้องลำบากใจแน่เพคะ”

ฮูหยินปี้เป็นสตรีที่ฉลาด มีไหวพริบ ทั้งคำพูดยังอ่อนหวาน ซูจิ่นซียิ่งเข้าใจมากขึ้นว่า เหตุใดซูจ้งจึงรักใคร่ฮูหยินปี้

“ดี! ส่งคนไปเชิญมาเถิด! ”

“หม่อมฉันจะไปเชิญด้วยตนเองเพคะ! ” ฮูหยินปี้พูด

ซูจิ่นซีพยักหน้าอย่างไม่มีความคิดเห็น ฮูหยินปี้จึงไปเชิญจิ่วหรงด้วยตนเอง

ระหว่างที่ฮูหยินปี้ไปหอโอสถเย่าอัน ซูจิ่นซีก็หาได้มีเวลาว่าง

นอกจากระบบถอนพิษจะแสดงผลเทียบยาถอนพิษใบหนึ่งแล้ว ยังส่งแผนการรักษาเพื่อยับยั้งอาการชั่วคราวอีกด้วย ยาที่ใช้เป็นยาแผนปัจจุบัน สำหรับรักษาตามอาการไม่ได้รักษาที่ต้นเหตุ ทั้งหมดล้วนมีในระบบถอนพิษ

ซูอวี้เดินออกไปด้านนอก เนื่องจากซูจิ่นซีต้องการพักผ่อนเพื่อฟื้นฟูพละกำลัง นางเตรียมยาเม็ดออกมาให้ตนเองทานหนึ่งเม็ด และให้หลานเยวี่ยหลีทานอีกเม็ด

เดิมทีระยะเวลาปกติในการถอนพิษอูเยี่ยถีมีเพียงห้าวัน ทว่าเมื่อทานยาเม็ดนี้เข้าไปแล้ว สามารถยืดเวลาออกไปได้อีกห้าวัน แสดงว่าพวกเขามีเวลาหาตัวยาถอนพิษทั้งหมดสิบวัน หากทุกอย่างราบรื่น เวลาสิบวันก็เพียงพอแล้ว

จากจวนสกุลหลานถึงหอโอสถเย่าอันต้องใช้เวลาครึ่งชั่วยาม ทว่าฮูหยินปี้ใช้รถม้าที่รวดเร็วและมีประสิทธิภาพที่สุด เวลาผ่านไปไม่นาน นางก็กลับมาแล้ว

ทว่า นางไม่ได้นำข่าวดีกลับมา

“พระชายา คนของหอโอสถเย่าอันบอกว่า เช้าวันนี้ คุณชายจิ่วไม่ได้ไปนั่งวินิจฉัยอาการป่วยที่หอโอสถ หม่อมฉันจึงไปที่พักของคุณชายจิ่ว ศิษย์ของสำนักแพทย์เทียนอีเหมินบอกว่า เมื่อคืนก่อน คุณชายจิ่วกลับไปจัดการเรื่องสำคัญที่สำนักแพทย์เทียนอีเหมินเพคะ”

จิ่วหรงกลับไปสำนักแพทย์เทียนอีเหมินแล้ว?

ซูจิ่นซีครุ่นคิดอยู่ชั่วครู่ ไม่รู้ว่ากำลังคิดอันใด

“ทว่าระหว่างทางกลับ หม่อมฉันพบกับหมอหลวงอวิ๋นแห่งสำนักหมอหลวง จึงได้เชิญหมอหลวงอวิ๋นมาเพคะ พระชายา หรือจะให้หมอหลวงอวิ๋นมาช่วยดูอาการดีเพคะ”

อวิ๋นจิ่นกลับมาแล้ว?

เทียบยาก่อนหน้านี้ที่ซูจิ่นซีเขียนออกมามีตัวยาหายากจำนวนมาก หากมีอวิ๋นจิ่นคอยแนะนำ แม้เทียบยาจะแปลกประหลาด ทว่าบางทีเขาอาจรู้จักยาเหล่านี้ก็ได้

“อวิ๋นจิ่นอยู่ที่ใด? ”

“อยู่ข้างนอกเพคะ! ”

“รีบเชิญเข้ามา”

เหมือนเช่นเคย เมื่ออวิ๋นจิ่นเดินเข้าประตูมาก็แย้มยิ้มสดใสให้ซูจิ่นซี ทำให้บรรยากาศในห้องเกิดความอบอุ่นราวกับดอกไม้เบ่งบาน กระทั่งหิมะที่อยู่บนชายคานอกห้องยังได้รับผลกระทบ ละลายกลายเป็นน้ำทันที

ซูจิ่นซีมองรอยยิ้มของอวิ๋นจิ่น ความรู้สึกที่ไม่ได้พบกันมานานก็บังเกิดขึ้น

“กระหม่อมคำนับพระชายา ไม่เจอกันนาน พระชายาทรงมีพลานามัยแข็งแรงดีหรือไม่? ”

ซูจิ่นซีค่อยๆ ยกยิ้มมุมปากให้อวิ๋นจิ่นอย่างสดใส “ไม่เจอกันนานจริงๆ ข้าสบายดี หมอหลวงอวิ๋นสบายดีหรือไม่? ”

หากเจ้าสุขสำราญดี นั่นคือวันที่แจ่มใส

“กระหม่อมสบายดีพ่ะย่ะค่ะ ขอบพระทัยในความปรารถนาดีของพระชายา”