ภาค 3 ธาตุแท้ของวีรบุรุษ บทที่ 283 กระบี่ตัดชะตา

ตำนานศิษย์พี่เจ้าปฐพี

สือเถี่ยเดินมายังเบื้องหน้าสือซงเทา ร่างสูงใหญ่ของเขาดุจดั่งขุนเขาก็ไม่ปาน

กระนั้นเยี่ยนจ้าวเกอและสวีเฟย กลับล้วนเศร้าโศกในใจ

แม้ว่าแผ่นหลังจะตรงพอควร องคาพยพทั้งห้าแลดวงหน้ายังคงหนักแน่น ทว่าพวกเขาสัมผัสได้ถึงความรู้สึกท้อแท้ไร้กำลังใจอันหาได้ยากจากสือเถี่ย

เขาส่ายศีรษะเล็กน้อย เอ่ยกับเยี่ยนจ้าวเกอว่า “ส่งต่อให้ข้าเถอะ”

ขณะกล่าว เขายื่นมือออกมา ในระหว่างเจตจำนงหมัดผันผวน ก็กดไปบนร่างของสือซงเทา

เยี่ยนจ้าวเกอผงกศีรษะ ปล่อยฝ่ามือออกจากต้นคอสือซงเทา ถอยร่นไปเบื้องหลัง

ทว่าชั่วเสี้ยวขณะที่เจตจำนงหมัดของสือเถี่ยกดสือซงเทาไว้ สีหน้าของสือซงเทาก็พลันแปรผัน!

ยามนี้สีหน้าอารมณ์ของสือเถี่ย เยี่ยนจ้าวเกอ และสวีเฟยต่างก็เปลี่ยนแปลงเล็กน้อยเช่นกัน

มีพลังอันแก่กล้าอย่างยิ่งปะทุออกมาจากภายในกายสือซงเทาในทันใด!

ระหว่างที่สีหน้าสือเถี่ยแปรเปลี่ยนฉับพลัน เจตจำนงหมัดวรยุทธ์เปลี่ยนรูปในชั่วพริบตา แสงวาวโรจน์ใสกระจ่างสาดส่องทั้งสี่ทิศจ้าตา ปกคลุมทั่วร่างสือซงเทา ต้องการระงับพลังเหล่านั้นไว้

ในแววตาสือซงเทาเผยเห็นประกายประหลาดใจ รู้สึกว่าพลังในร่างกายตนกำลังกำเริบ พ่นโลหิตสดออกจากปากบ้าคลั่ง!

ทั้งร่างเขาศีรษะจดปลายเท้าต่างกำลังสั่นเทิ้ม กระดูกทุกท่อน เส้นเลือดทุกสาย จุดลมปราณทุกจุด ล้วนราวกับน้ำป่าไหลทะลักอย่างไรอย่างนั้น

เยี่ยนจ้าวเกอและสวีเฟย เพียงแค่ยืนอยู่ข้างๆ ยังไม่ได้เข้าไปใกล้ ก็รู้สึกถึงเจตจำนงกระบี่อันไร้ขอบเขตกำลังก่อเกิดอยู่ภายในร่างสือซงเทาแล้ว

ราวกับว่าในชั่วขณะนี้ ทั้งกายสือซงเทาล้วนประกอบขึ้นด้วยปราณกระบี่และเจตจำนงกระบี่

เจตจำนงกระบี่ไร้ที่สิ้นสุดพุ่งออกมาด้านนอกจากภายในร่างสือซงเทา ทอดยาวไม่ขาดสาย

ทุกๆ รูขุมขนทั่วกายเขาล้วนกำลังมีเลือดไหลซึมออกมา ราวกับจะพ่นออกมาพร้อมกัน ทั้งร่างแตกสลาย กลายสภาพเป็นกระบี่โลหิตไร้ที่สิ้นสุด ระเบิดออกมา

เจตจำนงอันทรงพลังมหาศาลนั้น สูงและไกลโพ้นไร้ขอบเขตประหนึ่งท้องนภา และยังเปี่ยมอานุภาพหนาหนักประหนึ่งพื้นดินกว้าง

ด้วยกระบี่เดียว ดุจดั่งฟ้าดินชั้นหนึ่ง

เพียงแต่ขณะนี้ กลับจะเอาร่างของสือซงเทา แปรเปลี่ยนเป็นฟ้าดินเลือดเนื้อผืนหนึ่ง

ซึ่งเจตจำนงกระบี่นี้ มีเป้าหมายมุ่งไปยังสือเถี่ย!

พลังอันแก่กล้ามหาศาล ทำให้เยี่ยนจ้าวเกอและสวีเฟยล้วนไม่อาจเข้าใกล้

ถึงกระนั้นเจตจำนงกระบี่นี้ พวกเขาไม่ได้รู้สึกว่าแปลกตาโดยสิ้นเชิง

หนึ่งในสามสุยอดวิชากว่างเฉิง กระบี่นภาไร้ขอบเขต!

วิชาลับที่จ่านซีโหลว ผู้สะเทือนสวรรค์เป็นคนสรรสร้างในอดีต คู่กับฝ่ามือสวรรค์กว่างเฉิงและดาบนภาไร้จำกัด!

เพียงแต่ขณะนี้ เป้าหมายของเขากลับเป็นจอมยุทธ์กว่างเฉิง!

นัยน์ตาทั้งสองของสือเถี่ยทอแสงวับวาบ ก่อนจะสูดหายใจเข้าลึกคำหนึ่ง ทั้งร่างปรากฏเป็นสภาพเพชร โปร่งแสงเงาระยับประดุจสีเคลือบ

เจตจำนงหมัดวรยุทธ์อันแข็งแกร่งยิ่งใหญ่ถูกเขาโคจรจนถึงขีดสุด ยับยั้งพลังที่พลันปะทุออกมาจากภายในร่างสือซงเทา

น่าเสียดาย พลังนี้ปลดปล่อยออกมาจากภายในร่างกายสือเถี่ย ที่ทำลายเป็นอันดับแรกคือร่างของสือซงเทา

สือเถี่ยกัดฟันกรอด แยกสองฝ่ามือออกจากกัน กลายเป็นแรงดูดอันบิดเบี้ยวกลุ่มหนึ่ง ไม่ใช่ยับยั้งโดยสิ้นเชิงอีกต่อไป หากแต่เป็นยับยั้งไปพลาง นำพาไปพลาง

เจตจำนงกระบี่อันน่าหวาดประหวั่น หลอมผนึกเป็นประกายกระบี่มีรูปร่างสายหนึ่ง ประดุจผ้าไหมแผ่ออกไปไร้จุดสิ้นสุด โถมออกจากร่างสือซงเทา มุ่งเป้าตรงไปยังสือเถี่ย!

ดวงหน้าสือเถี่ยหนักแน่นดุจดั่งก้อนหินใหญ่ กลับปลดเกราะเทวะแสงลึกล้ำ อาวุธวิญญาณระดับสูงบนร่างเขาออกในช่วงหน้าสิ่วหน้าขวานเช่นนี้

เกราะเทวะแสงลึกล้ำแปรเปลี่ยนเป็นแสงสีดำสายหนึ่ง ครอบคลุมร่างกายของสือซงเทา ต้องการระงับร่างเขาที่กำลังจะใกล้จะแตกสลายไว้ชั่วคราว

ทว่าทันใดนั้น ท่ามกลางประกายกระบี่อันสว่างไสวกว้างไกล มีแสงสีทองแปลกประหลาดปรากฏวาบ เป็นเส้นๆ ซับซ้อน

ขณะแสงทองแต่ละสายลอยล่อง ก็พันเกราะเทวะแสงลึกล้ำ ขัดขวางมันเอาไว้ชั่วเสี้ยวขณะอย่างไม่คาดคิด

ซึ่งประกายกระบี่อันกว้างใหญ่นั่น มุ่งโจมตีช่วงอกและเอวของสือเถี่ยหวังทำร้าย!

บนร่างสือเถี่ยระเบิดแสงจ้าออกมา เปล่งประกายวามวาวไม่หยุด

ทว่าประกายกระบี่นั่น กลับโจมตีร่างกายของสือเถี่ยดังสนั่นตลอดเวลา ราวกับไร้ขอบเขต ไร้ที่สิ้นสุดเช่นกัน

สือเถี่ยร้องตะโกนเสียงดัง ทุบหมัดหนึ่งลงอย่างแรง อัดประกายกระบี่เล่มนั้นแตกกระจุย

เยี่ยนจ้าวเกอและสวีเฟยมองไป เห็นช่วงอกเอวสือเถี่ยไม่มีโลหิตไหล หากแต่กลับแตกสลายยุบลงไปเป็นโพรงใหญ่ รอยร้าวหลากสายถี่ยิบ

บัดนี้ท่วงทำนองที่ไม่เสียหายไม่ดับสูญประหนึ่งเพชรนั่น ก็สลัวมืดลงไม่น้อยเช่นกัน

สีหน้าของสือเถี่ยไม่เปลี่ยนแปลงแม้สักนิด คล้ายกับไม่รู้สึกเจ็บปวดใดๆ ทั้งสิ้น

เขามองทางสือซงเทา เผยให้เห็นประกายโศกเศร้าออกมาจากแววตาอยู่หลายส่วน

แม้ว่าจะนำพาเจตจำนงกระบี่โจมตีตนเองได้ทันเวลา และยังพยายามใช้เกราะเทวะแสงลึกล้ำปกป้องร่างกายของสือซงเทาไว้ ทว่าเจตจำนงกระบี่ที่แต่เดิมปลดปล่อยออกมาจากภายในร่างสือซงเทา ไม่ว่าจะทำอันตรายสือเถี่ยได้หรือไม่ สือซงเทาล้วนต้องการถ่วงกระบี่นี้ไว้ก่อน

ซึ่งกระบี่นี้ ไม่ใช่สิ่งสือซงเทาจะสามารถทนรับได้

ขณะที่อีกฝ่ายซ่อนเจตจำนงกระบี่สายหนึ่งไว้ในร่างกายสือซงเทา ก็ลอบวางเล่ห์กลอื่นๆ กับเขาอีกเช่นกัน

แก่นสกัดจากมังกรจำศีลพิศวง โลกหล้ามีเพียงหยิบมือ มุ่งควบคุมโลหะเทวะแสงลึกล้ำ วัตถุดิบสำคัญในการสรรสร้างเกราะเทวะแสงลึกล้ำโดยเฉพาะ

ถึงแม้ว่าสือเถี่ยจะชิงจังหวะตัดสินใจฉับพลัน เดินหน้าเต็มกำลัง กระนั้นสือซงเทาก็ยังคงได้รับบาดเจ็บอย่างหนัก

สือซงเทาอ้าปาก กระอักฟองโลหิตออกมาจากปากไม่หยุด เขากลับไม่แยแส หัวร่อพลางกล่าว “คิดไม่ถึง คิดไม่ถึง อาจารย์อาฟางจะฝังเจตจำนงไว้ในร่างข้า และไม่รู้ได้ว่าเมื่อใด…”

เขามองสือเถี่ย “เหอะๆ ดูเหมือนว่าเตรียมไว้เพื่อเจ้าโดยเฉพาะ มีเพียงเจตจำนงหมัดของเจ้าเท่านั้นถึงจะกระตุ้นเจตจำนงกระบี่สายนี้ได้ ถึงอย่างไรเจ้าก็ฝึกวิชากายเพชร เจตจำนงหมัดต่างจากผู้อื่น มีหนึ่งเดียวในใต้หล้า…”

“แสงทองนั่น คือมังกรจำศีลกระมัง? เป็นของที่เอาไว้รับมือกับเกราะเทวะแสงลึกล้ำบนตัวเจ้าโดยเฉพาะ…”

สือเถี่ยกุมมือข้างหนึ่งไว้ที่ปากแผลช่วงอกของตนไว้ อีกมือหนึ่ง ใช้เจตจำนงหมัดยับยั้งร่างของสือซงเทาไว้ลำพัง ทำให้บุตรชายไม่ถึงกับแหลกสลาย

เขาสูดหายใจเข้าลึกคำหนึ่ง ก่อนจะหันศีรษะกลับมองเยี่ยนจ้าวเกอและสวีเฟย เอื้อนเอ่ยเสียงทุ้มต่ำ “ส่งข่าวกลับสำนักให้เร็วที่สุดทันที รายงานว่าไส้ศึกมีฐานะเป็นถึงประมุขภาคีบึงน้ำไร้ขอบเขต”

หลังกจานั้นเขาย้ำชัดทีละคำ “ประมุขภาคีบึงน้ำไร้ขอบเขต ไม่ใช่ศิษย์น้องฟาง แต่เป็นอาจารย์อาซิน ซินตงผิง!”

เยี่ยนจ้าวเกอและสวีเฟยต่างเลิกคิ้วขึ้น ในแววตาสือซงเทากลับเผยประกายงงงันออกมา

“ได้ฟังคำพูดของซงเทา แล้วยังประสบกระบี่นี้เอง ข้าถึงจะแน่ใจเรื่องนี้ได้” สือเถี่ยส่ายศีรษะเชื่องช้า มองยังสือซงเทา “เจ้าถูกคนหลอกให้เข้าใจผิดแล้ว”

สือซงเทาช้อนสายตาขึ้นสบกับสือเถี่ย หลังจากนั้นเนิ่นนานค่อยเอ่ยเย็นชา “เจ้านี่เห็นแก่ส่วนร่วมก่อนส่วนตัวตลอดกาล”

“ไฉนเจ้าไม่คิดว่า เป็นที่ข้ารู้ความจริง แต่จงใจไม่พูด เป็นข้าที่กำลังตบตาให้พวกเจ้าเข้าใจผิด?”

“เจ้าตัดสินโทษทัณฑ์ในสำนัก โทษสถานหนักทั่วทั้งเขากว่างเฉิง เจ้าล้วนเชี่ยวชาญ การทรมานไต่สวนเป็นความถนัดของเจ้า แต่เจ้ายังไม่ได้ลงมือเลยนะ จะอาศัยอะไรตัดสินว่าข้าไม่ได้หลอกพวกเจ้า แต่คนที่ถูกคนหลอกให้เข้าใจผิดกลับเป็นข้า?”

สือเถี่ยกล่าวด้วยความสงบนิ่ง “ข้าดูออก”

สือซงเทานิ่งเงียบไม่พูดจา หลังจากนั้นครู่ใหญ่จึงกล่าว “สำหรับข้า อาจารย์อาฟางใช่หรือไม่ใช่ประมุขภาคี แท้จริงแล้วไม่สำคัญ”

เขาหันศีรษะมองโลงแก้วสองโลงที่บรรจุร่างของภรรยาและบุตรของตนไว้ “สำหรับข้าแล้ว สิ่งที่สำคัญคือพวกนาง”

หลังจากมองโลงแก้วโลงที่สาม เขาก็ทอดถอนใจคราหนึ่ง “หลังจากตายกลายเป็นมาร ข้าจะกลายเป็นความว่างเปล่า หลังข้าตายก็อยู่เคียงข้าพวกนางไม่ได้เช่นกัน”

แม้จะมีเจตจำนงหมัดของสือเถี่ยยับยั้งไว้ ทว่าร่างของซือซงเทาที่แต่ไหนแต่ไรก็แตกสลายไปแล้ว ในที่สุดเริ่มแตกกระจายในชั่วขณะนี้

สีหน้าอารมณ์เขาเรียบเฉย ราวกับไม่รู้สึกรู้สากับเรื่องนี้ เพียงแต่ในแววตาที่มองบุตรและภรรยา ก็คงเหลือความอาลัยรักไร้ที่สุดสิ้นไว้

เยี่ยนจ้าวเกอพลันกล่าวถาม “ศิษย์พี่สือ สิ่งที่ท่านคับแค้นที่สุดในใจ แท้จริงแล้วคือการที่ท่านอาจารย์ลุงใหญ่เลือกภาระหน้าที่สำนัก แต่กลับละทิ้งครอบครัวในตอนนั้น หรือการที่ไร้กำลังหมดทางปกป้องลูกเมียของตัวเองกันแน่?”

สือซงเทากล่าวด้วยความเฉยชา “ล้วนไม่สำคัญแล้ว…”

เสียงดังลั่นสะเทือนไกล เลือนรางเงียบหายไปในอากาศ

สือเถี่ยมองร่างของสือซงเทาแหลกสลายไม่วางตา

ทั้งกายเสมือนรูปปั้นตั้งตระหง่านก็ไม่ปาน

—————————-