บทที่ 251 Dark Matter VS Meltdowner!
ขณะที่ทางวู่หยานกำลังพูดจาหว่านล้อมคินุฮาตะอยู่ ในเวลาเดียวกัน ณ ที่ย่าน
การค้าแห่งนึง……..
“ได้เรื่องมั้ยทาคิสึโบะ? หาที่อยู่เจ้านั่นเจอรึยัง?” มุกิโนะกอดอกเอ่ยปากถามด้วย
ความใจร้อน
เป็นเพราะย่านการค้ามีผู้คนพลุ่งพล่านมากเกินไป ทำให้สนามพลังAIMผสมกันมั่ว
ไปหมด ดังนั้นทาคิสึโบะจึงต้องใช้เวลาและพลังมากกว่าเดิม ใบหน้าขาวซีดของ
เธอเต็มไปด้วยเหงื่อ ไม่แปลกใจเลยถ้าเกิดเธอจะหมดสติล้มลงไปตอนนี้
จังหวะนี้เอง ทาคิสึโบก็กลืน body crystal เข้าไป!
เห็นแบบนี้เฟรนด้าก็กำหมัดแน่น ถึงเธอจะขี้ขลาดและกลัวตายแต่เธอก็ยังคงเป็น
คนที่ห่วงเพื่อนพ้องมาก ในเนื้อเรื่องเดิม คาคิเนะได้ขู่จะฆ่าเธอ แต่เฟรนด้าก็ยังยืน
กรานว่าจะไม่ทิ้งเพื่อนไปไหน………
ดังนั้นตอนนี้เห็นสีหน้าเจบปวดของทาคิสึโบะเธอจึงคิดจะเดินไปหยุด แต่เมื่อเห็น
สัญญาณมือจากมุกิโนะ เธอก็ได้ทำได้แค่ยืนดูเงียบๆต่อไปอย่างช่วยไม่ได้
มุกิโนะเองก็เห็นแล้วเหมือนกันว่าตอนนี้ทาคิสึโบะกำลังฝืนใช้พลังเพื่อตามหาคาคิ
เนะ แต่เห็นก็ส่วนเห็นไม่เพียงแต่เธอไม่ห้ามแต่ยังเร่งให้หาไวๆอีก
เวลาผ่านไป ชั่วขณะนึงนัยน์ตาทาคิสึโบะก็สั่นเทิ้ม ก่อนที่จะหันมามองมุกิโนะแล้ว
พูดเสียงสั่นๆ “เจอตัวแล้ว! เขาอยู่ห่างไปไม่ไหลจากที่นี่! แล้วดูเหมือนเขาจะหยุด
ยืนอยู่เฉยๆด้วย!”
เธอหยุดใช้พลังทันทีที่หาเจอ ทาคิสึโบะมีสีหน้าเหน็ดเหนื่อยอย่างมาก ถ้าใครลอง
สังเกตุดูดีๆจะพบว่าตอนนี้เธอแทบจะยืนไม่ไหวอยู่แล้ว
“ดีมาก! ทาคิสึโบะเรารีบไปกันตอนนี้เลย! อย่าให้หมอนั่นหนีไปได้!!” มุกิโนะผุด
รอยยิ้มออกมา เธอได้เมินความคิดที่ว่าตัวเองจะพ่ายแพ้ไปอย่างสนิท ในหัวเธอคิด
แค่ว่าถ้ายัยเด็กมัธยมต้นนั่นทำได้ เธอเองก็ต้องทำได้เช่นกัน!
เมื่อได้ยินคำสั่ง ทาคิสึโบะก็ยิ้มออกมา ทว่าไม่กี่วินาทีต่อมารอยยิ้มเธอก็ได้หายไป
ตอนนี้เธอไม่เหลือแรงที่จะแกล้งยิ้มอีกแล้ว
มุกิโนะเริ่มออกเดินโดยที่ไม่แม้แต่จะหันไปถามอาการของทาคิสึโบะ เห็นแบบนี้
สองสาวก็ออกเดินตาม ทว่าเดินไปได้ไม่กี่ก้าวทาคิสึโบะก็ทรุดลงไปคุกเข่ากับพื้น!
“ทาคิสึโบะ!” เฟรนด้าร้องออกมาทันที เธอรีบวิ่งไปหาทาคิสึโบะ ช่วยพยุงตัวอีก
ฝ่าย “ไม่เป็นไรนะ! ทาคิสึโบะ!”
ได้ยินเสียงด้านหลังดังมา มุกิโนะก็หยุดเดินแล้วหันกลับไปมอง เห็นท่าทางอ่อน
แรงสุดๆของทาคิสึโบะเธอก็ขมวดคิ้ว แล้วพูดด้วยน้ำเสียงอารมณ์เสียเล็กน้อย
“เกิดอะไรขึ้น?”
“..ฉันไม่เป็นไร……” ทาคิสึโบะตอบไปด้วยสีหน้าซีดๆ นี่ยิ่งทำให้เฟรนด้ากังวล
มากขึ้น
“ทาคิสึโบะ หรือเธอจะพักก่อนมั้ย?” เฟรนด้าพูดขึ้นด้วยท่าทางลังเล ก่อนจะ
แอบชำเลืองมองมุกิโนะ ราวกับข้อคำแนะนำจากเธอ
มุกิโนะขมวดคิ้วแน่น ถึงตอนต่อสู้ทาคิสึโบะจะช่วยอะไรไม่ได้เลยก็ตาม แต่ตอน
สะกดรอยยังต้องพึ่งเธอ ถ้าเกิดคาคิเนะมันหนีไปแล้วจะตามมันยังไง?
เห็นมุกิโนะเงียบไป เฟรนด้าก็เงียบเช่นกัน ทว่าอยู่ๆทาคิสึโบะที่กำลังหอบอยู่ก็ฝืน
ตัวลุกขึ้น “ฉันไม่เป็นไร ไปกันต่อเถอะ……”
มุกิโนะเผยรอยยิ้มออกมาทันที “โอ้? งั้นเหรอ ดีแล้ว งั้นเราไปไล่ตามมันกันต่อ
เถอะ!”
ได้ยินแบบนี้ ทาคิสึโบะ กกับ เฟรนด้า ก็ทำได้แค่พยักหน้ารับ……
เดินฝ่าฝูงชนขนาดใหญ่ไป ภายใต้การชี้นำทางของทาคิสึโบะ เดินผ่านถนนและ
สะพานอันแล้วอันเล่า ในที่สุดไอเท็มทั้งสามคนก็ได้มาถึงซอยนึงที่มีโกดังเก็บของ
ขนาดใหญ่มากตั้งอยู่
หลังจากเดินมาถึง ทั้งสามก็พร้อมใจกันหยุดแล้วมองตรงไปด้านหน้า…….
ผู้ชายวัยรุ่นที่แผ่ออร่าชั่วร้ายออกมา เขากำลังยืนพิงกำแพงด้วยรอยยิ้มเล็กๆที่มุม
ปาก ทว่าก็ยังสามารถเห็นได้ว่าอีกฝ่ายกำลังอารมณ์ไม่ดีอยู่………
นัยน์ตาสีน้ำตาลส่องประกายจ้องมองพวกมุกิโนะ เขาไม่ได้แสดงสีหน้าแปลกใจ
อะไรเลยยามเมื่อเห็นพวกเธอมา ราวกับว่า…..เขากำลังรออยู่พวกเธออยู่แล้ว!
คาคิเนะ เทอิโทคุ!
“ในที่สุดก็หาฉันเจอจนได้สินะ? มากันถึงที่นี่ไอเท็มทุกคนมีอะไรกับฉันกันแน่?”
คาคิเนะฉีกยิ้มชั่วร้ายพูดกับสามสาว ด้วยคำพูดที่ทำให้พวกมุกิโนะงุนงง
“นายรู้ตั้งแต่ตอนไหนว่ากำลังโดนสะกดรอย?” มุกิโนะขมวดคิ้ว ด้วยท่าทางที่สม
กับเป็นผู้ดี แต่มันก็ไม่อาจปกปิดความโกรธของเธอในตอนนี้ได้เลย โกรธที่อีกฝ่าย
พูดเยาะเย้ยเธอ
ได้ยินคำถาม คาคิเนะก็คลี่ยิ้ม แล้วมองทาคิสึโบะ “ตั้งแต่ตอนที่สาวน้อยตรงนั้นใช้
พลัง ฉันก็รู้แล้ว!”
มุกิโนะมีสีหน้าเคร่งขรึมทันที หรี่ตาลง แต่คาคิเนะก็ราวกับไม่เห็นมุกิโนะใน
สายตา เขายังคงมองทาคิสึโบะต่อ “ฉันสามารถสร้างคลื่นสนามพลังAIMที่
เหมือนกับฉันทุกอย่างได้แล้วล่อให้พวกเธอไปอื่นก็ยังไงได้ แต่ที่ฉันไม่ทำก็เพราะ
ฉันสงสัย สงสัยว่าทำไมพวกเธอถึงได้ไล่ตามฉัน ดังนั้นฉันถึงได้ยืนมารออยู่แบบนี้
ไงล่ะ”
“สงสัยสินะ?” มุกิโนะหัวเราะ ทันใดนั้นก็มีลูกบอลสีเขียวหลายลูกโผล่ออกมา
รอบตัวเธอ!
“เห็นนี้แล้วยังอยากให้ฉันอธิบายมั้ยล่ะ?” ยกลูกบอลสีเขียวอันนึงขึ้น มุกิโนะยิ้ม
เล็กๆมองคาคิเนะ ราวกับว่ากำลังเอาคืนที่โดนเยาะเย้ยเมื่อกี้……..
คาคิเนะหัวเราะ หัวเราะอย่างมีความสุขและยังโกรธมากด้วย! “แค่ตัวเธอเนี่ยนะ?
เหอะ แม้แต่ ‘ฮันเตอร์’ ก่อนหน้านี้เธอก็ยังไม่มีปัญญาทำอะไรได้เลยแท้ ไม่อาย
บ้างหรือไงหือ? คุณหมายเลข4 ฮ่าๆๆ”
ราวกับว่าค้นพบเรื่องที่น่าตลกที่สุดในโลก คาคิเนะหัวเราะออกมาเสียงดังลั่น
“ไอ้เวรนี่…….”
เดิมทีเพราะเรื่องวู่หยานที่ล้มเหลวก็ทำเธอมีปมในใจอยู่แล้ว พอโดนคาคิเนะพูด
ขยี้จุดเข้า ความโกรธในอดีตก็พุ่งพล่านขึ้นมากลบตัวเธอทั้งหมด! (โกรธสุดๆนั่น
แหละ)
บอลแสงข้างตัวเธอปล่อยเลเซอร์ออกไปทันที แน่นอนว่าเป้าหมายคือตัวคาคิน
เนะ!
วินาทีต่อมามุกิโนะก็ขมวดคิ้ว ถึงจะเห็นว่าโจมตีโดน แต่คาคิเนะมันก็คงไม่แพ้
ง่ายๆแบบนี้หรอกใช่มั้ย?
“หือ นี่น่ะเหรอ Meltdowner ของเธอ?”
ขณะที่มุกิโนะครุ่นคิดเธอก็ได้ยินเสียงที่เต็มไปด้วยความดูถูกดังออกมา ทำเธอ
เปลี่ยนสีหน้าเงยหัวขึ้นมองทันที!
คาคิเนะที่ไร้รอยแผลโดยที่ตรงหน้าอกเขามีกลุ่มควันสีดำปกคลุมอยู่
“นี่มัน……”มุกิโนะมองคาคิเนะที่สภาพสมบูรณ์ด้วยความไม่อยากเชื่อ ใกล้กันเฟ
รนด้ากับทาคิสึโบะเองก็ช็อค เป็นเพราะพวกเธอไม่เคยเห็นใครเลยที่โดน
Meltdowner เข้าไปแต่กลับไร้บาดแผล!
คาคิเนะตบหน้าอกตัวเอง ทำให้กลุ่มควันสีดำสั่นไหว เขาคลี่ยิ้มแล้วพูดอย่างดูถูก
“ยังต้องแปลกใจอะไรอีก จะบอกไรให้นะ ตราบใดที่มีอะไรโจมตีเข้าใส่ Dark
Matter ของฉัน สิ่งนั้นก็จะโดนแยกส่วนกลายเป็นอนุภาคพื้นฐานที่สุดอย่าง
อะตอมทันที ทำให้มันสูญเสียพลังและความเร็วเกือบทั้งหมดไปยังไงล่ะ……”
คาคิเนะปล่อยออร่าชั่วร้ายออกมา จ้องมองมุกิโนะก่อนจะหัวเราะ “ถ้าฉันจำไม่
ผิด Meltdownerของเธอก็เป็นอิเล็กตรอนสินะ!”
มุกิโนะตะลึง ราวกับไม่คิดมาก่อนว่า Meltdownerของตัวเองจะโดนอีกฝ่าย
อธิบายแบบนี้……
ลางสังหรณ์ไม่ดีอย่างร้ายแรงผุดขึ้นมาในใจเธอทันที ทำให้มุกิโนะคิดได้อย่างนึงว่า
…..
ตัวเธอประมาทเกินไป……